Inside Dara
‘เอส–กันตพงศ์’ หนุ่มหล่อจิตใจดี

ขณะนี้คงต้องยกให้หนุ่ม “เอส–กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” ที่มาวินเป็นที่หนึ่ง เพราะนาทีนี้เรียกว่าฮอตแบบฉุดไม่อยู่จริง ๆ กับบท “สุดเขตต์” หนุ่มปาปารัซซีสุดหล่อ

หนุ่มหล่อมาดเข้ม สุขุม อารมณ์ดี และกำลังได้รับเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ทั่วเมืองอยู่ในขณะนี้คงต้องยกให้หนุ่ม “เอส–กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” ที่มาวินเป็นที่หนึ่ง เพราะนาทีนี้เรียกว่าฮอตแบบฉุดไม่อยู่จริง ๆ กับบท “สุดเขตต์” หนุ่มปาปารัซซีสุดหล่อ ในละครเรื่อง “พราว” ที่ทำเอาสาว ๆ ทั้งเมืองหลงรักแบบหัวปักหัวปำ แต่นอกจอถ้ายิ่งได้รู้จักจะรู้ว่าหนุ่มคนนี้ไม่ได้หล่อแค่ในจอเท่านั้น ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักตัวตนที่แบบเจาะลึกของหนุ่ม “เอส” ให้มากขึ้นกันดีกว่า

“โชคชะตา”
เอส ชอบวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่า?

“สมัยก่อนตั้งแต่เด็กไม่เคยคิดว่าจะเข้าวงการบันเทิงมาก่อนเลยครับ ด้วยครอบครัวก็ประกอบอาชีพปกติ คุณพ่อทำงานด้านการเมือง ซึ่งจริง ๆ ชีวิตผมก็ดูน่าจะไปทำงานด้านการเมืองมากกว่า ไม่เคยคิดว่าจะเข้าวงการบันเทิงเลยครับ เป็นเรื่องของโชคชะตาจริง ๆ

แล้วเข้ามาได้ยังไง?

“จริง ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงของผมคือที่ วัด ครับ มีอยู่วันหนึ่งผมไปไหว้พระทำบุญกับครอบครัว เราก็สวดมนต์ทำบุญตามปกติครับ จังหวะที่เงยหน้าขึ้นมาจากการไหว้พระผมก็เจอกับเพื่อนพี่เอ–ศุภชัย เขามาขอถ่ายรูปและส่งไปให้พี่เอจากนั้นสักพักก็มีการติดต่อเข้ามาถามว่าสนใจทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งผมเองก็ยังงง ๆ อยู่ว่า “อ้าวเหรอ จริงเหรอเนี่ย” (หัวเราะ)

“ธรรมะ”
ทำไมถึงชอบเข้าวัด?

“คือคำว่าธรรมะสำหรับผมคือความสงบ ผมรู้สึกว่าทุกวันนี้ชีวิตคนเราเปลี่ยนไปเยอะ แต่ละคนต่างมีความรับผิดชอบมากมายทำให้การใช้ชีวิตของทุกคนต้องเร่งรีบ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันจึงทำให้ทุกครั้งที่ว่างจากการทำงาน หรือการออกกำลังกาย ผมจะเลือกไปนั่งสมาธิ ที่ ๆ ผมชอบไปก็คงจะเป็นที่ “หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญญา” (สวนโมกข์ กรุงเทพฯ) เพื่อไปฝึกนั่งสมาธิเพราะผมรู้สึกว่านอกจากจะทำให้จิตใจสงบแล้ว ยังเป็นการฝึกให้ตัวเองมีสมาธิมากขึ้น เวลาทำงานเราก็จะได้มีสมาธิที่ยาวขึ้น และทำให้เราได้ปลดปล่อยตัวเองจากความวุ่นวายได้ดี เพราะถ้าใจสงบเราก็จะพบความสุข

ถ้าจะให้นิยามตัวเอง เอสคิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง?

“หลายคนมักจะบอกว่าถ้าเห็นผมครั้งแรกจะคิดว่าผมเป็นคนดุ คุยไม่เก่ง อาจเพราะโครงหน้ากับสีผิวที่เข้ม เลยอาจทำให้คนมองว่าเป็นคนนิ่งและดุ แต่พอได้รู้จักหรือเริ่มคุยกันก็จะรู้ว่าผมเป็นคนสบาย ๆ อารมณ์ดี และที่สำคัญผมเป็นคนที่ชอบพบปะพูดคุย รับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก, ผู้ใหญ่ ฯลฯ เพราะผมรู้สึกว่าการที่ได้พูดคุยทำให้เราได้เห็นโลกกว้างขึ้น เพราะทุกคนต่างมีประสบการณ์มุมมองที่ต่างกัน ซึ่งถ้าเราได้มีโอกาสสัมผัสก็จะทำให้เราได้ความรู้ข้อคิด ซึ่งก่อนที่จะให้เขารู้จักเรา เราต้องเปิดใจเปิดโอกาสให้เขารู้จักเราก่อนด้วยเช่นกัน”

“ผู้บริหาร”
เอสวางอนาคตของตัวเองไว้ยังไง?

“ผมว่าทุกวันนี้ผมโชคดีมากครับที่มีครอบครัวที่อบอุ่นได้ทำงานที่รักมีคนที่รักเรา และเราได้ตอบแทนความรักด้วยการมอบความสุขผ่านผลงานแสดง แต่นอกเหนือจากงานแสดงแล้วก็ยังฝันอยากที่จะมีธุรกิจของตัวเองสักอย่าง จริง ๆ ก่อนหน้าที่จะเข้าวงการผมก็มีทำธุรกิจร่วมกับเพื่อน แต่ช่วงที่มีงานแสดงเยอะขึ้นก็เลยต้องมีพักไป แต่คิดว่าอีกสักประมาณ 1 ปี ก็อาจจะกลับมาจับธุรกิจอีกครั้ง ช่วงนี้ขอฟอร์มทีมกับเพื่อน ๆ ให้พร้อมก่อนแล้วอาจจะแจ้งอีกครั้งนะครับ”

ถ้านั่งแท่นผู้บริหาร เอสคิดว่าตัวเองจะเป็นผู้บริหารแบบไหน?

“ถ้าวันนึงผมเป็นเจ้าของกิจการผมจะขอสัมภาษณ์คนทำงานเองครับ เพราะผมมีหลักบริหารแบบผมที่ว่า “คนเก่งหาง่าย คนมีคุณธรรมหายาก” ผมจะให้ความสำคัญกับเรื่องของจิตใจมากกว่าการทำงาน เพราะผมว่าคนทำงานไม่เก่งสามารถฝึกให้เก่งได้ แต่ถ้าคนที่ไม่มีคุณธรรมจะให้มีคุณธรรมทำได้ยากกว่า ซึ่ง ทัศนคติ ถือเป็นเรื่องสำคัญของการทำงานร่วมกัน ซึ่งผมเน้นและให้ความสำคัญในเรื่องของจิตใจมากกว่าเนื้องานครับ”

“สาวในฝัน”
ขอถามเรื่องสาว ๆ บ้าง ตอนนี้มีคนพิเศษหรือยัง?

“ตอนนี้ผมโสดสนิทจริง ๆ ไม่ได้โกหกนะครับ แถมเปิดรับแต่ยังไม่มีใครเลยจริง ๆ แต่ถ้าจะมีใครสักคนผมจะให้ความสำคัญกับเรื่องของจิตใจเป็นพิเศษ อายุ รูปร่าง หน้าตา ไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ ผมชอบคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี จิตใจดี คิดดี ทำดี ชอบทำบุญเหมือนกัน และที่สำคัญขอให้เป็นคนที่รักตัวเองให้เป็น เพราะผมเชื่อว่าคนที่รักตัวเอง ดูแลตัวเองได้ดี จะดูแลคนที่อยู่ข้าง ๆ ได้ดีเช่นกันครับ”

สุดท้ายให้ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย

“ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่โชคดีมากครับ มีครอบครัวที่เข้าใจสนับสนุนผมมาโดยตลอด และขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้โอกาสและไว้ใจมอบโอกาสดี ๆ ให้มาเสมอและขอขอบคุณแฟน ๆ ทุกท่านมากนะครับที่ติดตามผลงานมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากเรื่อง “พราว” ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ ส่วนช่วงนี้ผมกำลังถ่าย “เพลิงตะวัน” ซึ่งเรื่องนี้ยกกองกันไปถ่ายทำถึงญี่ปุ่น โลเกชั่นสวยมาก

ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งบทบาทใหม่ที่อยากฝากให้ทุกคนติดตามชมกันด้วยครับ ทุกผลงานผมตั้งใจจะพยายามพัฒนาผลงานและฝึกฝนตัวเองเพื่อผลงานที่ดียิ่งขึ้นครับ ผมเชื่อเสมอว่าที่ผ่านมาและในอนาคตจากนี้คงจะมีอุปสรรค หรือเรื่องราวเกิดขึ้นอีกมากมาย แต่ผมจะไม่ท้อครับเพราะสิ่งเหล่านั้นจะเป็นพลังผลักดันที่ดีที่ทำให้ผมก้าวต่อไป เพราะผมคิดเสมอว่า “อุปสรรคไม่ใช่เรื่องเครียด เราจะแก้ความเครียดด้วยหัวใจ”

แหม!! รู้สึกโชคดีจริง ๆ ที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับหนุ่ม “เอส” แบบใกล้ชิด ยิ่งทำให้เข้าใจว่าเพราะอะไรทุกคนที่ได้อยู่ใกล้เขาแล้ว ถึงรักหนุ่มเอสกันมากขนาดนี้ ขอปรบมือให้หนุ่มที่ใช้หัวใจในการดำเนินชีวิต และใช้ความรักกับทุกสิ่งที่ทำ ถ้ารักหนุ่ม “เอส” ก็ต้องติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้หนุ่มคนนี้กันต่อไปนะจ๊ะ.