Inside Dara
ไอซ์ อธิชนัน อัพเดตใต้ตาร้าว กายภาพหน้า-ไม่หายต้องกรีดออก เคราะห์ซ้ำมีดแทงเอว-ผู้รับเหมาโกง

ที่ อินฟินิตี้ คลินิก บาย ดร.ปาล์ม ไทยซินสแควร์ เอกมัย นักแสดงสาว ไอซ์ อธิชนัน ศรีเสวก ให้สัมภาษณ์ในงานแกรนด์โอเพนนิ่ง Infinity Clinic by Dr. Palm ถึงอุบัติเหตุม้วนฟิล์มแร็ปขนาดใหญ่หล่นทับใส่หน้า จนตาปูดแดงช้ำ ระหว่างถ่ายทำเดอะซีรีส์ รัก ลวง หลอน ตอน ห้องเฮี้ยน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 หนำซ้ำทั้งยังโดนมีดแทงเอว และถูกผู้รับเหมาก่อสร้างทำบ้านหอบเงินค่าจ้างชิ่งหนีไป

ถามถึงอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ?

“เอาจริงๆ ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธ.ค.ปีที่แล้ว ที่ไปเที่ยวพม่าก็โดนเหล็กแทงเท้าขวา เป็นแผลเนื้อเปิด ดีที่ว่าติดกระดูก เดินไม่ได้ไปพักนึง พอกลางปีถ่ายละคร มนตรามหาเสน่ห์ ก็มีอุบัติเหตุตบกับพี่เบนซ์(ปุณยาพร) ซึ่งเป็นคัตสุดท้ายจะปิดตัวอยู่แล้ว เราตบกันแล้วก็ลื่น ส้นเท้าหลังไปขูดกับบันไดไม้ เนื้อเปิดอีก หลังจากนั้นพอรีโนเวตบ้านก็โดนผู้รับเหมาโกงด้วย ซึ่งเราก็ได้ยินหลายท่านบอกว่าเวลารีโนเวตมักจะมีปัญหากับผู้รับเหมา”

เรื่องบ้านเราเลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้แล้วใช่ไหม?

“เราคิดว่าไว้ใจเขาได้ เพราะเขาเป็นคนรู้จักของคุณพ่อไอซ์ เป็นสถาปนิก เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีลูกน้อง คิดว่าคนทำงานด้วยกัน ไว้ใจได้ แต่คุณพ่อก็บอกว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่ได้เจอกันประมาณ 30-40 กว่าปี ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นยังไง ปรากฏว่าสุดท้ายเขาก็โกงเราจริงๆ คือเขาตีราคาค่อนข้างสูง แล้วเราเป็นผู้หญิงคงไม่รู้เรื่องก็ปล่อยๆ ไป ส่วนหนึ่งก็ไว้ใจ เพราะคิดว่าคุณพ่อรู้จัก จนเรารู้สึกว่าเขาเบิกเงินงวดแรกไป ไม่ถึงเดือนก็เบิกอีกงวดแล้ว อีกงวดนึงมาอีกแล้วก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง”

ก่อนโอนได้ปรึกษาคุณพ่อไหม?

“ครั้งแรกไอซ์ยังไม่พูด ครั้งที่สองรู้สึกตะหงิดๆ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรขนาดนั้น พอมาครั้งที่ 3 เริ่มคุยกับคุณพ่อแล้วว่าทำไมรู้สึกว่าเขาเบิกเงินเยอะจังเลย คุณพ่อก็บอกให้เราตัดสินใจ ไอซ์ก็คุยกับเขาว่าทำไมรู้สึกว่าเบิกเงินเร็วจังเลย ทั้งๆ ที่เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ ควรจะได้เกือบเสร็จแล้ว เขาก็แบบตะกุกตะกัก แล้วโยกไปให้ช่างอีก ช่างก็บอกว่าช่างก็เบิกมาทางนี้ ช่างเบิกมาอีกเท่านี้บวกราคาไปนู่นนี่นั่น เราก็รู้สึกว่ามันไม่โอเค เราก็เลยเรียกช่างมาคุยก็จับได้ว่าเขาเองนั่นแหละที่มาบวกเพิ่ม”

ได้ไปดูหน้างานบ้างไหม?

“ดูค่ะ เพราะเป็นบ้านที่เราอยู่รีโนเวตแบบที่เราอยู่อยู่แล้ว เราก็คอยดูแต่รู้สึกว่ามันเริ่มเยอะไปละ ไม่โอเคแล้ว พอเราเริ่มจับได้เขาก็เริ่มตีโพยตีพาย แล้วเขาก็หายไปเลย”

ยอดตัวเลขมันเท่าไหร่ ถึงล้านไหม?

“เกือบค่ะ ถามว่ามีสัญญามั้ย จริงๆ ก็มีค่ะ แต่อย่างที่บอกเราก็สะเพร่าด้วยแหละ มีเซ็นต์สัญญาเรียบร้อยแต่ว่าเหมือนในสัญญามันต้องระบุที่อยู่ เราก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอก เขาเป็นคนรู้จักก็ไว้ใจ เหมือนเราก็เด็กด้วยแหละ ไม่ได้คิดอะไรมากด้วยความไว้ใจเป็นคนรู้จักของคุณพ่อด้วย เราก็ปล่อย พอมาดูสัญญาจริงๆ ว่าต้องเอาละ ปรากฏว่าไม่ได้มีรายละเอียดอะไรของเขาเท่าที่ควร”

จะดำเนินการเอาเรื่องไหม?

“หนูไม่ฟ้องค่ะ หนูถือว่าถ้าเขาจะโกงหนู ทำหนูได้ก็ให้เขาทำไป คุณพ่อก็รู้สึกแย่ค่ะ เสียใจ มันก็ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว แล้วคุณพ่อเองก็ไม่ได้เจอเขา 30-40 ปี เราก็ไม่ทราบว่าเขาจะมาเป็นแบบนี้กับเรา ทุกวันนี้ก็ปล่อย เราก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีกส่วนหนึ่งเพื่อที่จะไปจ้างคนมาทำใหม่”

คนใหม่นี่ทำสัญญา?

“โอเค เรียบร้อย แฮปปี้แล้ว ถามว่าใกล้เสร็จหรือยัง ใกล้แล้วค่ะ ไปได้เยอะมากแล้วค่ะ พอจบเรื่องบ้านปุ๊บ มาต่อที่หน้าอย่างที่ทุกคนเห็น จริงๆ ต้องบอกว่าก่อนที่ไอซ์จะโดน วันอาทิตย์ไอซ์ไปกฐินที่ จ.นครศรีธรรมราช ไปทอดกฐินมาเลย แล้ววันจันทร์ก็ถ่ายละคร แล้วก็โดน หนักมากมันเป็นแร็ปแบบที่ใช้ในโรงงาน ท่อนใหญ่ แล้วคือจะเป็นซีนสุดท้ายของวันนั้นแล้ว เขาคงรีบๆ ด้วยค่ะ”

“เหตุการณ์ก็คือ ไอซ์นอนอยู่กับพื้น เหมือนเราเป็นศพแล้วโดนแร็ปตัวก็โดนแร็ปตั้งแต่เท้า ขยับตัวไม่ได้แล้ว เขาก็กำลังจะแร็ปที่หน้า อีกคนยืนถือปลาย อีกคนยืนถือม้วน แล้วเรานอนอยู่กับพื้น แล้วเขาก็ค่อมตัวเรา แล้วเขาก็ดึง แต่ไอซ์คิดว่าน่าจะเป็นความรีบร้อนแล้วก็อาจจะสะเพร่านิดหน่อย มันก็เลยรีบๆ ดึงม้วนหลุดมือ แล้วมันดังโพละลงมาตอนแรกทุกคนไม่ได้อะไรมากมาย เพราะคิดว่ามันตกพื้นเพราะเสียงมันดังมาก”

“แป๊บเดียวไม่ถึง 5 วินาทีก็เป็นเหมือนที่เห็น มันปูดออกข้างแบบใหม่มาก แล้วเราก็ตกใจ เรารู้สึกว่ามันตึงไปเลยจากปกติเรามองปุ๊บเราต้องเห็น 360 องศา แต่หนูมองข้างล่างหนูมองไม่เห็นแล้ว ใจหาย อย่างแรกที่คิดคือเรื่องงาน เพราะอย่างวีกนั้นวันจันทร์ไอซ์ถ่ายเรื่องรัก ลวง หลอน อังคารพุธไอซ์ต้องไปเป็นแบบแต่งหน้า คือเราดีลกับลูกค้าญี่ปุ่นไว้นานมาก แล้วมันคือวันรุ่งขึ้น แล้วเป็นรายการสด เราก็เครียด หนูก็ถึงกับน้ำตาไหลเพราะว่าเราเป็นคนค่อนข้างจะห่วงเรื่องงาน”

“วันนั้นคือซีนสุดท้าย แต่ยังไม่จบคัตดี หนูเลยแบบว่าเจ็บแล้ว น้ำตาไหลแล้วก็ให้เต็มที่ เอาน้ำแข็งประคบแล้วก็ถ่ายต่อให้เสร็จ เพราะเป็นซีนที่ยากมาก แล้วไอซ์ทนที่โดนแร็ป อย่างนั้นมาครึ่งวันแล้ว และทุกคนก็เหนื่อยด้วยกันมาหมดแล้ว ถ่ายให้จบก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาล แล้วค่อยมาเคลียร์งานต่อไปจะทำยังไง เพราะวีกนั้นงานเยอะมากก็ต้องแคนเซิลยาว”

ทำไมไม่ใช้สแตนด์อิน?

“เป็นซีนที่เห็นหน้าหนูเลย แล้วปกติไอซ์ไม่ค่อยใช้สแตนอิน จะเล่นเองตลอด”

ทีมงานรับผิดชอบยังไง?

“ช่อง 8 ก็ดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ค่ะ ทุกวันนี้ไอซ์ต้องไปกายภาพหน้าอยู่ คือเหมือนจะดีขึ้น แต่ถ้าเกิดลองจับดูจะเป็นก้อนแข็งๆ”

ทำกายภาพอย่างไรบ้าง?

“อันดับแรกก็คือทานยา ทานมาประมาณ 2-3 อาทิตย์ แล้วเวลาว่างก็ต้องประคบร้อนตลอด แล้วพอหลังจาก 2-3 อาทิตย์ คือไปกายภาพโดนใช้เครื่องอัลตราซาวด์ แล้วก็เลเซอร์ ทำเกือบทุกวัน เพราะว่าก้อนที่มันแข็งอยู่ ถ้าดูภายนอกมันจะไม่รู้ แต่ถ้าจับมันจะเป็นก้อน แล้วคุณหมอบอกว่าก้อนอันนี้ ถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่หาย หนูก็ต้องกรีดออก เพราะว่าไม่งั้นมันจะกลายเป็นหินปูนเกาะแข็งๆ ต้องทำไปจนกว่ามันจะดีขึ้นเลยค่ะ ตอนนี้ถ้าเผลอตัวยิ้มแบบสุด มันจะปวด เพราะยังมีตึงๆ อยู่ คือใต้ตาร้าวค่ะ”

มีผลต่อการใช้ชีวิต ในการมองเห็นไหม?

“ตอนแรกหนักอยู่ค่ะ เพราะว่าวีกแรกๆ คือหนูเส้นเลือดในตาแตกด้วย เลือดมันไหลออกทุกวัน จนถึงตาดำเลย คอนแท็กเลนส์ก็ใส่ไม่ได้ แล้วคือเราเป็นคนสายตาสั้นค่อนข้างเยอะ ทั้งเอียงด้วย สั้นด้วย มันใส่คอนแท็กเลนส์ไม่ได้ ทำงานก็ไม่ได้ คือลำบากมาก เพราะหลังจากประสบอุบัติเหตุประมาณ 4-5 วัน ก็ต้องไปถ่ายละคร

“แต่คือทางกองพี่เอ๊ะก็น่ารักค่ะ เห็นว่าเราแต่งหน้าไม่ได้ เขาก็ปรับบทให้เราใส่แว่นตาดำถ่ายเอา แต่ว่ามันก็จะลำบาก ตรงที่ว่าหนูมองอะไรไม่เห็นเลย เราก็จะเป็นภาระของเพื่อนในซีน ว่าต้องช่วยจูงเรานิดหนึ่ง เพราะว่าเรามองไม่เห็น จะลำบากค่อนข้างมาก มีพร่ามัวบ้างช่วงแรกๆ”

การไปทำกายภาพ หมอบอกว่ามันจะดีขึ้นไหม?

“ต้องลุ้นค่ะ คุณหมอบอกว่าจริงๆ ก็ไม่ค่อยเจอเคสแบบนี้ ส่วนใหญ่เขาจะกายภาพที่แขนขา ที่ตัวกันมากกว่า อย่างของหนูก้อนที่มันเกิดขึ้นมันค่อนข้างจะใหญ่ สุดท้ายแล้วถ้าไม่หายจริงๆ ก็ต้องกรีด หน้าก็ต้องเป็นแผล”

เราเผื่อใจไว้ไหม?

“หนูเครียดมากจริงๆ ตอนช่วงแรกๆ ที่เป็น เราตื่นมาแล้วเห็นหน้าเราตาเขียว ตาช้ำทุกวัน เราก็เครียด แล้วไหนจะงานอีก ที่เรารับไว้ล่วงหน้านานแล้ว แล้วเราก็ทำงานให้เขาไม่ได้ สภาพจิตใจตอนนั้นก็แย่มาก แต่ตอนนี้แต่งหน้าได้แล้วก็ถือว่าโอเคขึ้นค่ะ”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราตั้งแต่ปลายปี จนถึงวันนี้ คิดว่ามันเกิดจากอะไร?

“ยังไม่หมดนะคะ หลังจากที่โดนอันนี้ปุ๊บก็มีถ่ายละครในซีน แล้วมันก็คงอย่างที่บอกว่ามันเป็นความซวยของหนูจริงๆ(หัวเราะ) คือเป็นซีนที่เหมือนกับเราฆ่าตัวตาย แล้วเราก็ทิ้งกริช คือกริชหลุดมือ แล้วปกติทิ้งหลุดมือไปมันต้องนอนกับพื้น แต่อันนี้มันตั้งอยู่ จนหนูลงไปแล้วก็แทง คือแทงเข้าเอว แล้วเขาก็ยังไม่สั่งคัต เราก็ดึงกริชออกแล้วเล่นต่อ(หัวเราะ) คือถ้าไม่ได้ยินเสียงคัต เราก็ไม่หยุด คือมันเป็นซีนดราม่ามากๆ เขาก็คงไม่กล้าขัดเรา เราก็โอเคได้”

มีการไปเช็กดวงบ้างไหม?

“จริงๆ หนูไปทำกฐินมานะ ก่อนที่จะโดน แต่หนูก็คิดว่าถ้าไม่ได้ไปทำกฐิน คุณหมอบอกว่าถ้ามันเข้าตาก็คือตาแตก ตาบอดเลย เพราะว่ามันหนัก 6-7 โลได้ จริงๆ เขาบอกว่าราศีหนูปีนี้ดวงดีมากเลยนะ ราศีพิจิก เพิ่งจะอ่านดวงว่าดวงดี ล่าสุดก็อ่านมาว่าจะเป็นมหาเศรษฐี สงสัยมันจะต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะรวย”

คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา?

“จริงๆ หนูว่ามันเป็นความสะเพร่าด้วย แล้วก็อาจจะเป็นความไม่ระวังของเรา มันไม่เชิงของเราคนเดียว ของคนอื่นด้วย อะไรด้วย หลายๆ อย่างรวมกัน อุบัติเหตุยังไงมันก็เกิดขึ้นได้ ถามว่าโกรธมั้ย ไม่โกรธนะ”

หลังจากนี้จะดูแลตัวเองอย่างไร?

“หลังจากนี้เหรอค่ะ(หัวเราะ) จริงๆ เคยมีอุบัติเหตุกับการเล่นละครมาครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็มีทำประกันอุบัติเหตุไว้ก็คือพร้อม(หัวเราะ) แต่ว่าคือเราทำงานตรงนี้ ยังไงเหตุการณ์มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว หนูไม่ค่อยได้ไปซีเรียสอะไรกับมัน”

ต้องระวังมากขึ้นไหม เหลืออีกเดือนกว่าๆ ก็จะหมดปีแล้ว?

“(หัวเราะ) ยังระวังอะไรไม่ได้มากค่ะ จริงๆ ก็ใช้ชีวิตให้ช้าลง ทำอะไรให้ระวังมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วหนูก็คิดมาตลอด ว่าอะไรมันจะเกิดก็คือเกิด หนูก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับมัน”

แล้ว พี่นิน(ชนินทร์) ดูแลยังไงบ้าง?

“เขาก็ช็อกค่ะ ตอนเกิดอุบัติเหตุ เราถ่ายที่รามคำแหง มันไกลบ้านเรามาก แล้วเดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยให้คุณแม่ไปกองด้วย แต่วันนั้นขอคุณแม่แต่เช้าเลย ว่าไปกองเป็นเพื่อนหน่อย พอเกิดอุบัติเหตุตอนค่ำๆ แล้วตาคุณแม่ไม่ดี ขับรถไม่ได้ก็โทร.ไปหาพี่นิน ว่าเกิดอุบัติเหตุค่ะ นางก็ตกใจรีบมาเลย เพราะเขาเห็นเราตั้งแต่โดนตอนแรก เขาก็ตกใจมาก แล้วคุณหมอมาบอกว่าร้าวอีกก็ไปกันใหญ่เลย”

ตอนนี้เรารับงานได้ทุกช่องใช่ไหม?

“รับได้ทุกช่องค่ะ”