Inside Dara
เพื่อลูก ยอมทิ้งทุกอย่าง “แหม่ม” สั่งผัวซื้อบ้าน อนาคตอาจบินตามลูกไปเมืองนอก

“แหม่ม คัทลียา” ยันคืนดี “หนูแหม่ม” นานแล้ว แค่ไม่ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ ทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกยังเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก ถ้ามีโอกาสอยากร่วมงานกัน ลั่นมีของฝากให้ลูกสาวเสมอ เป็นคนรักเด็ก เผย “น้องแมค” เรียนเมืองนอกเข้าปีที่ 3 อนาคตถ้าลูกต้องไปทั้งสามคน จะย้ายตัวเองไปเฝ้าลูก

แม้ก่อนหน้านี้จะออกมายอมรับว่าคืนดีกันแล้ว จบเรื่องบาดหมางในอดีต มีภาพกอดกัน แต่ก็ยังไม่วายถูกจับตามองไม่เลิก ล่าสุด “แหม่ม คัทลียา กระจ่างเนตร” เผยความสัมพันธ์ระหว่างตนกับ “หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา” ดีกันนานแล้ว แต่ไม่ได้ประกาศให้ชาวโลกก็รู้แค่นั้นเอง

“เราไม่ได้โกรธกัน เจอกันที่รายการ เราก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าวันนี้โทร.หา วันนี้คุยกัน จริงๆ ไม่ได้มีอะไรต้องเคลียร์ เราไม่ได้มีอะไร เรื่องที่พี่หนูแหม่มบอกว่าแม่ของเราเป็นตัวกลางทำให้กลับมาดีกัน จริงๆ คุณแม่ทำเล็บที่ร้านพี่หนูแหม่มอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มแรกเลย แหม่มก็เหมือนกันค่ะ ทุกอย่างราบรื่นดีไม่มีคลื่นลมอะไรค่ะ(หัวเราะ)”

“เราไม่ได้คิดไว้ว่าจะมีใครจับตา เราก็ใช้ชีวิตแบบของเรา เราก็พูดคุยกันปกติ ไม่มีอะไร ทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไป ความรู้สึกยังเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้”

ถ้ามีโอกาสร่วมงานกันก็ยินดี

“ตอนนั้นที่ไปออกรายการคู่กันก็คุยกันไปทีนึงแล้วว่าหลายๆ คนอยากให้เป็นพิธีกรด้วยกัน มันก็จะมีละครติดต่อเข้ามาเหมือนกันนะคะ แต่เราไม่ได้เป็นผู้จัด เรายินดีร่วมงานอยู่แล้ว ส่วนพี่หนูแหม่มคิวจะยากนิดนึงเพราะติดออกกำลังกายเยอะ นางจะออกกำลังกายเป็นหลัก เขาก็มีฝากของมาให้ลูกสาว ปกติพี่หนูแหม่มเป็นคนรักเด็กแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ดีที่นางไม่มีลูก ถ้ามีลูกต้องได้ทุกอย่าง”

“น้องแมค” เรียนอังกฤษ เข้าปีที่ 3 แล้ว บินไปหาบ่อยๆ เหนื่อยแต่แฮปปี้

“สบายดี ปีนี้เข้าไปอยู่เข้าปีที่ 3 แล้ว แม่ก็บินเป็นนกเลย เทียวไปเทียวมา เพราะมันจะมีวันหยุดที่เขาต้องออกจากโรงเรียน มีวันหยุด 5 วัน เราก็ต้องไปรับเพื่อที่จะไปอยู่กับเขา ก็ยอมบิน ยอมไปหา ยอมเหนื่อยแต่มันไม่ได้เป็นความเหนื่อยใจ แค่อาจจะผิดเวลานิดหน่อย ข้ามทวีป แต่เราก็อยากจะใกล้ชิดเขาเท่าที่เราจะทำได้ให้ได้มากที่สุด”

รับละครเยอะ ไม่กระทบเวลาของลูก ทุกอย่างอยู่ที่จัดสรรเวลา

“ไม่นะคะ มันจัดสรรเวลาได้ ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากันอยู่ที่ว่าเราจะจัดสรรเวลายังไง จังหวะมันอาจจะโอเคด้วย ช่วงที่ถ่ายเลือดข้นคนจาง เป็นช่วงที่แมคปิดเทอมมาอยู่เมืองไทยพอดี บางทีเราก็สลับกับคุณพ่อเขา”

“น้องก็เรียนไปเรื่อยๆ จนจบปริญญาตรี พอจบประถมแล้วก็แล้วแต่เขาว่าจะไปต่อมัธยมที่ไหน จะเข้าประเทศไหนแล้วแต่เขาเลือกเลยก็แล้วแต่เขาเลย ไม่กลัวว่าจะลืมความเป็นไทย เพราะเราใกล้ชิดลูกเราอยู่แล้ว”

สองจิตสองใจส่งลูกสาวไปเรียนเมืองนอก บอกถ้าสุดท้ายต้องไปทั้งสามคน คงต้องย้ายตามลูก อยากใกล้ชิดลูกที่สุด

“ผู้ชายส่งอยู่แล้ว แต่ตัวผู้หญิงยังสองจิตสองใจ เหมือนสมัยเราคุณแม่ก็เลี้ยงให้อยู่ใกล้ตัว เขาก็บอกว่าเขาอยากจะไป ชีเพิ่งจะ 6 ขวบชีก็ไม่รู้เรื่องหรอกว่าไปแล้วจะไปเจออะไร รู้มั้ยว่าไปแล้วไม่ได้นอนกับแม่นะ(หัวเราะ) เขาก็อยากจะตามพี่ไป ส่งไปที่ไหนก็ไม่ได้หรอก พี่เขาไปเรียนที่ไหนเขาก็ต้องไปที่นั่น ไม่ได้หรอก เดี๋ยวไม่เท่าเทียมกัน ต้องเลี้ยงลูกให้เท่ากัน”

“ถ้าสุดท้ายแล้วคนที่ 3 จะขอไปเราก็คงจะต้องย้ายตัวเองไปอยู่กับลูกด้วย(หัวเราะ) บอกสามีไปซื้อบ้านที่นั่นเลย เดี๋ยวจะไปเฝ้า เทียวรับเทียวส่งเช้าเย็น ทุกวันนี้โดยเฉลี่ยก็เดือนละครั้งแล้ว”

“เรื่องแพลนใช้ชีวิตที่เมืองนอก ถ้ามันถึงจุดนั้นจริงๆ เราก็ต้องเลือกที่จะใกล้ชิดลูก แต่เขาอาจจะไม่ให้เราไปก็ได้นะ อันนี้เราคิดของเราคนเดียว ก็คงอีกนานเพราะเขาเพิ่งจะ 6 ขวบเอง”