Inside Dara
จั๊กจั่น-เค ซาบซึ้งใจคนยินดีแต่งงาน ขอบคุณที่ไม่ปล่อยมือแม้เจออุปสรรค

หลังจากจูงมือจดทะเบียนสมรสไปเมื่อ 28 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ล่าสุดคู่รักดังอย่างนักแสดงสาวหน้าใส จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข และ เค วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา แฟนหนุ่มนักธุรกิจ ก็ได้จัดพิธีมงคลสมรสไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โดยมีทั้งคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ตลอดจนคนในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีมากมาย ล่าสุด จั๊กจั่น-เค ได้เปิดใจต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าว ถึงความรู้สึกวันนี้ในการเข้าพิธีสำคัญในชีวิต

ความรู้สึกวันนี้?

จั๊กจั่น : วันนี้ตื่นเต้นค่ะ ลุ้นหลังจากเคยเลื่อนมาแล้วค่ะ ยังตื่นเต้นอยู่เลยค่ะ เพราะตั้งแต่เช้ามาก็รันงานยาวมาเลย ก็ขอบคุณทุกคนนะคะที่วันนี้มาเป็นเกียรติในงานของเราสองคนนะคะ ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดด้วย ขอบคุณค่ะ (ยกมือไหว้พร้อมกับเค)

เจ้าสาวสวยไหม?

เค : สวยมากครับ สวยที่สุดเลยครับ

จั๊กจั่น : จ่ายเงินใต้โต๊ะไว้ค่ะ (หัวเราะ)

ถามถึงพิธีการช่วงเช้า?

จั๊กจั่น : เริ่มจากตักบาตรตอนเช้าค่ะ เป็นพิธีสงฆ์ และก็ตั้งขบวนขันหมาก สวมแหวน รดน้ำสังข์ค่ะ มีพิธีรับไหว้

เห็นว่าเมื่อเช้าเคร้องไห้ด้วย?

เค : น้ำตาซึมๆ คลอๆ ครับ เนื่องจากประตูนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังเล่นกั้นประตูกันครับ และเป็นประตูสุดท้าย แล้วคนที่กั้นประตูเป็นคนที่สนิทกับจั๊กจั่นที่สุด 2 คน ไม่ได้คาดว่าเป็นประตูที่มีคำถามหรือคำพูดที่แสดงความจริงใจ พี่จ๋าที่เป็นผู้จัดการของจั่นกับพีที่เป็นผู้ช่วยจั่นพูดประโยคที่กินใจเรา เราก็รู้สึกว่าโห ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคำถามนี้มาหาเรา พี่จ๋ากับพีพูดว่าอยากให้คำมั่นสัญญาข้อนึงว่าจะดูแลจั่น รักจั่น เหมือนที่เขาสองคนทำมาตลอด ก็เลยรู้สึกดีใจที่เขาสองคนไว้ใจ เชื่อใจเรา วันนี้ก็จับมือมาจนถึงจุดนี้แล้วครับ ก็รู้สึกมีความสุข น้ำตาแห่งความปีติครับว่าเราผ่านกันมาได้จริงๆ ก็ต้องขอบคุณพี่จ๋า พี ขอบคุณจั๊กจั่นครับ

จั๊กจั่น : (น้ำตาซึมก่อนจะเช็ดน้ำตา) ก็ขอบคุณมากค่ะ เพราะว่าจริงๆ คู่เราสองคนเจอเรื่องราวไม่น่าเชื่อมาเยอะ ขอบคุณที่เรายังจับมือกันตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ไม่ปล่อย ที่ผ่านมาก็เป็นอุปสรรคนะเพราะสำหรับจั่นเรื่องความรักคือเรื่องที่เคยผิดหวังมาแล้วเป็นปัญหาใหญ่ที่จั่นค่อนข้างกังวล แต่กับข่าวที่ออกมาก็ไม่ใช่เรื่องจริง จั่นมั่นใจในตัวเค ก็เลยคิดว่าเราจะต้องก้าวข้ามผ่านมาให้ได้ ความจริงก็คือความจริง ยังไงพี่ๆ ทุกคนก็ต้องรู้ในวันนึง ก็ดีใจที่ผ่านมาได้

รู้สึกยังไงบ้างที่เขาเคียงข้างเรามาตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

จั๊กจั่น : จริงๆ ก็สงสารเขาเพราะเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในสื่อ ต้องคอยตอบคำถามเรื่องส่วนตัวในอดีตเป็นสิบๆ ปี ถูกออกมาอยู่ต่อหน้าสื่อ เป็นที่พูดถึงของคนอื่น อาจไม่ชินแบบเรา จริงๆ เกรงใจเขาและครอบครัวเขามาก ก็ขอบคุณค่ะที่ยังจับมือกันและกันแน่นไม่ปล่อยจนถึงตอนนี้ จริงๆ มันเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่เราเนอะ เราโตมาคนละครอบครัว ต่างคนต่างถูกเลี้ยงดูมาคนละแบบ ตอนนี้อยู่ที่เราต้องจับมือเดินด้วยกันไปข้างหน้าแล้ว อาศัยความรักความเข้าใจ

คำมั่นสัญญา?

เค : ผมจะคอยบอกเขาตลอดตั้งแต่เล่นละครแล้วครับ กลับบ้านมาเจอเรา จะมีความเครียดจากงาน แรกๆ ไม่เข้าใจอาชีพนี้คืออะไรยังไง อยู่ด้วยสักพักเรียนรู้ สัมผัส ก็รู้จริงๆ เขาต้องการพื้นที่เงียบๆ เราก็แค่บอกเขาว่ามีอะไรก็คุยกับเรานะ เรารับฟัง แล้วสิ่งที่อยู่ข้างในระบายออกมา แล้วเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง ปรับตัวเอง เรียนรู้กัน ผมก็บอกว่าไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เราก็ใช้ความเข้าใจคุยกัน ปรับทัศนคติเข้าหากันครับ

จั๊กจั่น : ก็สัญญาค่ะว่าจะดูแลกันและกันอย่างนี้ตลอดไป เราโตมาคนละแบบเนอะ อาชีพก็คนละแบบ มีอะไรก็พูดจาพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน

วันนี้อยู่ในสถานะสามีภรรยา ชินบ้างรึยัง?

จั๊กจั่น : ก็เริ่มคุ้นแล้วเหมือนกันค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ที่เราจดทะเบียนเดือน พ.ค. ไปแล้วเพื่อเอาฤกษ์ หลายคนก็แซวตั้งแต่ตอนนั้นว่าเหมือนแต่งแล้วแหละ แต่จั่นก็รู้สึกว่าแหม ผู้หญิงก็อยากจัดงานแต่งก่อน ยังไม่ได้แต่ง แต่ก็เริ่มชินแล้วค่ะ เพราะไปไหนหลายคนก็จะมีแซว

เปลี่ยนนามสกุลหรือยัง?

จั๊กจั่น : ไม่ค่ะ ใช้เหมือนเดิมค่ะ

วางแพลนชีวิตคู่ยังไง จะมีน้องไหม แล้วจะมีกี่คน?

จั๊กจั่น : ก็คิดว่าจะปล่อยเลยค่ะ เพราะว่าอายุอานามก็สมควรจะมีบุตรธิดาแล้ว (หัวเราะ) แต่ก็จะลองเป็นไปตามธรรมชาติก่อนค่ะ ถ้าไม่งั้นก็ว่ากันอีกทีในปี 2 ปี

เค : จริงๆ ถ้าถามผม ผมอยากมี 2 คน เพราะผมมีพี่น้อง จั่นก็มีพี่น้อง เวลาเรามีปัญหา มีความสุข เราก็แชร์กัน เลยบอกเขาว่าอยากมี 2 คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็เป็นเพศแม่ ต้องอุ้มท้อง ผมไม่ได้อุ้มเอง ก็ต้องแล้วแต่เขาครับผม

จั๊กจั่น : เดี๋ยวจั่นขอลองคนนึงก่อนแล้วกันค่ะว่าโอเครึเปล่า รอดมั้ย เพราะว่าไม่เคยมีหลาน ไม่เคยมีน้องเลย ไม่เคยเลี้ยงลูก เคยแต่เลี้ยงในละคร เดี๋ยวรอดูของจริงก่อนว่าจะไหวมั้ย (หัวเราะ) เอาคนนึงก่อนแล้วกัน

ตอนนี้มีความสุขมากแค่ไหน?

จั๊กจั่น : มีความสุขเพราะว่ามันไม่ใช่แค่วันของเราสองคน แต่ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเรา ทุกคนมากันเยอะมาก เราก็ดีใจมากที่วันสำคัญของเรามีพวกเขาอยู่

เค : วันนี้มีความสุขมากครับ เพราะอย่างที่จั่นได้เรียนไปเมื่อกี้คือญาติ เพื่อน คนในวงการที่ทำงานกับเขา ของผมก็มีเพื่อนสนิท ครอบครัวมาแสดงความยินดี และดูแววตา ดูท่าทาง ดูทุกอย่างแล้ว คำอวยพรทุกอย่างวันนี้มีความสุขมากจริงๆ น้ำตาไหลตลอด เอาจริงๆ ก็กลั้นอยู่เหมือนกัน ธรรมดาผู้ชายน้ำตามันไม่ควรออกบ่อยๆ ก็พยายามกลั้นอยู่ แต่จริงๆ ผมเป็นคนเซ้นซิทีฟเรื่องพวกนี้มาก ก็คือความรักน่ะ รักระหว่างคนสองคน รักระหว่างครอบครัว รักระหว่างเพื่อนฝูง มันคือความรักทั้งหมด

ที่เลือกผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิตเราคือจุดไหน?

เค : เมื่อกี้ในพิธีพี่พีเคถามเหมือนกัน ผมเรียนอย่างนี้ว่า ปกติผมเป็นคนรักแม่ เวลาเราดูเขา สิ่งที่เขาทำให้เรา โดยที่เราไม่ได้พูดหรือไม่ได้เอ่ยคือการดูแลเอาใจใส่ทุกๆ เรื่องในชีวิต ตั้งแต่ตื่นมาจนถึงนอน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร จนถึงวันนึงเขาทำนั่นให้ เตรียมอันนี้ให้ กลับบ้านมาถามว่าเธอจะเอาอันนี้มั้ย พอรู้ว่าเราชอบอันนี้ก็จะไปหามาให้เรารอเลย พอมาถึงมันกลายเป็นความเซอร์ไพรส์ทุกๆ วันครับ ก็เลยรู้สึกว่าจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ และที่สำคัญที่สุดคือเขามีหมา มีแมว มีบริวารอยู่แล้ว มันบ่งชี้ได้เลยว่าเขาดูแลได้ดีมากๆ คือหมาแมวนี่ไม่ต้องมีคำถามเลยว่าถ้ามีลูก คุณจะเลี้ยงลูกได้ดีขนาดไหน

จั๊กจั่น : ก็ประทับใจที่เขาเข้าใจในงาน เข้าใจในอาชีพเรา ก็มีเหมือนกันบางทีบทละครที่จั่นรับหรืองานที่ทำมันค่อนข้างที่จะเครียด บางทีอย่างรายการเดอะเฟซก็ค่อนข้างที่จะเครียด มีบ้างที่ไปลงกับเขา เราก็อยู่ในช่วงปรับตัว จูนเข้าหากัน และอย่างที่บอกเขารักครอบครัวของเขา และเขาก็รักครอบครัวจั่น รักแม่จั่น รักพี่ชายจั่น และรักลูกๆ จั่นด้วย ที่สำคัญคือถามเขาแล้วว่าถ้ามีลูกต้องเลิกเลี้ยงหมาแมวมั้ย เขาบอกไม่ต้อง ตามสบาย อันนี้แฮปปี้ บ้านใหม่ก็จะสร้างห้องใหม่ให้หมาแมว อันนี้ก็แฮปปี้ (ยิ้ม)

เคประทับใจอะไรในตัวจั๊กจั่น?

เค : ผมพื้นฐานมากเลยครับ อย่างที่เมื่อกี้ได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้คือความที่เป็นคนมีความรักเอาใจใส่แล้วก็มีรายละเอียดในทุกๆ เรื่องตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำมันทำให้เรารู้สึกว่าเวลามีเขาอยู่ด้วยแล้วเรามีความสุขและเขาก็ดูแลเราได้ดีจริง นี่แหละเป็นสิ่งที่พื้นฐานมากๆ สำหรับความรักครับ

สำหรับงานวันนี้ประทับใจในโมเมนต์ไหนบ้าง?

จั๊กจั่น : ประทับใจทุกโมเมนต์เลย แต่ว่าช่วงรดน้ำนี่ก็คือเป็นนักร้องนำตลอด ร้องไห้ตลอด (หัวเราะ) ซาบซึ้งค่ะเพราะว่าเหมือนกับว่าคนที่รักเราเขาก็มาอวยพรเราอะไรแบบนี้แต่ละคนก็ให้คำอวยพรต่างๆ ก็ประทับใจช่วงนั้น (ยิ้ม)

เค : ประทับใจตั้งแต่เช้าเลยครับ คือมาทางทีมเขาก็ให้มาถ่ายรูปก่อน ซึ่งเราสองคนก็พักผ่อนไม่ได้ดูฉากไม่ได้ดูอะไรเลย กังวลกันสองคนว่า เอ๊ะ จะออกมาดีไหม จะดียังไง จะทำให้ทุกคนประทับใจหรือว่าผิดหวังหรือเปล่า แขกที่มาพอเปิดเข้าห้องไปปุ๊บประทับใจมาก คือมองหน้าจั่นแล้วรู้เลยว่าคนเนี่ยมีความสุขแล้วแน่นอน เราก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย ระหว่างพิธีงานก็คือจั่นก็บอกว่ามีคนมาอวยพรมีคนมาร่วมแสดงความยินดี อันนี้แหละครับคือความประทับใจที่มันน่าจะอยู่กับเราไปตลอด นึกเมื่อไหร่ก็คงจะอมยิ้ม มีความสุข หรือเผลอๆ อาจจะน้ำตาคลอเพราะมีความสุขมากเกินไป (ยิ้ม)

จั๊กจั่น : ทำไมเธอพูดเก่งจัง (หัวเราะ)

อยากขอบคุณอะไรเคบ้าง?

จั๊กจั่น : ขอบคุณที่รักจั่น ไม่ใช่แค่จั่น รักครอบครัวจั่นด้วย แล้วก็ยอมรับในความเป็นเราเป็นตัวเราได้ ก็ขอบคุณจริงๆ ที่พยายามเข้าใจ แล้วก็ 3 ปีที่ผ่านมาเราปรับเข้าหากันตลอด เราก็ยังคงต้องเรียนรู้กันต่อไปเรื่อยๆ อะไรแบบนี้ค่ะ (ยิ้ม) ขอบคุณที่จับมือกันไว้ไม่ปล่อย รักน้า (หัวเราะ)

เคอยากบอกอะไรจั๊กจั่นบ้าง?

เค : ขอบคุณที่รับรักในความเป็นผม เรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตผมทั้งทุกๆ เรื่อง แล้วก็เรื่องที่เจออยู่ในปัจจุบันก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเรื่องงานเรื่องส่วนตัว แล้วก็เรื่องของเราสองคนทุกอย่างมันคือเขารับและไปคิดแล้วก็มาคุยกันทุกครั้ง คือเมื่อก่อนอาจจะใช้เวลานานมากกว่าจะคิดแล้วก็มาคุยจนเกิด... เป็นธรรมดาครับ งอน น้อยใจ แต่เราก็คุยกันแล้วก็บอกว่า มองกัน มันก็มีกันแค่สองคนเนอะ แล้วก็ขอบคุณที่เข้าใจครับ ขอบคุณที่รักผมนะครับ

จั๊กจั่น : พูดแบบนี้ต่อไปไม่กล้างอนเลย (หัวเราะ)

ก็จะจับมือกันเดินด้วยกันตลอดไป?

จั๊กจั่น : ค่ะ (ยิ้ม)

เค : ครับ (ยิ้ม)