Inside Dara
'กบ'ชีวตแสนสุข ขอบคุณ'น้องณดา'

กระเตง 'น้องณดา'ปุณณดา ปุณณกันต์ ลูกสาววัย 10 เดือน ออกงานครั้งแรกกับเวทีเสวนาร่วมต้านภัยร้ายจากไวรัสโรต้า ในงาน 'Early Protection' หยุด...น้ำตาแห่งความเจ็บปวด ซึ่งจัดโดย ร.พ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ

นางเอกสาว 'กบ'สุวนันท์ ปุณณกันต์ บอกเหตุผลที่พา 'น้องณดา' ออกงานว่า เพราะเป็นงานเกี่ยวกับแม่ลูก เหมาะสมสำหรับเธอและลูก

ส่วนหลักในการรับงานให้ลูก คุณแม่คนสวยเผยว่า มี 2 หลัก คือ หนึ่งต้องเหมาะสมกับณดาสองต้องไม่ให้ณดาเป็นอุปสรรคกับการทำงาน

ถามว่าลูกสาวอายุ 10 เดือนแล้ว ต้องดูแลอะไรมากไหม นางเอกสาวกล่าวว่า 'จริงๆ เกี่ยวกับพัฒนาการก็อยากให้เขาเป็นไปตามวัย พัฒนาการด้านร่างกาย เช่น เกาะ ยืน คลาน เริ่มพูด พาพูด ตั้งไข่ แข่งกันคลานกับลูก ก็ฝึกเขาคลานไปเรื่อยๆ พัฒนาการในเรื่องน้ำหนักส่วนสูง ซึ่งตอนนี้สิบเดือนคุณพ่อบอกเรื่องของส่วนสูงน้ำหนักเป็นของเด็ก 1 ขวบ เราก็เออดีๆ'

'อย่างตอนนี้ ณดาก็เรียกแม่ได้ บางทีก็มา มา มา หม่ำ หม่ำได้ ธุจ้าได้ บ๊ายบายได้แล้ว ส่วนเรียกพ่อนี่ยังไม่ออกเต็มเสียง'

พ่อบรู๊คไม่งอนเหรอ กบหัวเราะ 'ไม่งอนค่ะ เพราะเขาก็เข้าใจได้ว่ากบอยู่กับลูกตลอด ยังไงก็ต้องเรียกแม่คำแรกสิ ถ้าเรียกพ่อคำแรกนี่ ฉันเลี้ยงเธอมาทุกวันอยู่กับเธอมาทุกวันไปเรียกพ่อก่อน ได้ยังไง (หัวเราะ) ก็ไม่ใช่จริงจังหรอกค่ะ แต่อารมณ์เล่นๆ หยอกเล่นๆ เขาเหมือนพ่อทุกอย่ไางอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นช่วยได้โปรดมาทางแม่บ้าง รูปร่างหน้าตามือไม้เท้าเหมือนพ่อทุกอย่าง'

เรียกว่าตอนนี้มีความสุขมาก กบรับ 'ค่ะ มีความสุขมาก'

สุขมากจนเอา แต่ลูก สามีไม่เอาไหม กบแย้ง 'ไม่ค่ะ เอาทั้งสามีและลูก (หัวเราะ) เราต้องอยู่ด้วยกัน จะไม่ทิ้งคนใดคนหนึ่ง เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ขาดใครไม่ได้ เราต้องไปด้วยกัน พ่อแม่ลูก'

แล้วงานในวงการล่ะ สามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน นางเอกสาวกล่าวว่า 'ยังไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ ยังบอกไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังติดณดาอยู่เลย'

'ส่วนงานในวงการของลูกก็ยังไม่ใช่ตอนนี้แน่นอนเหมือนกัน ต้องให้เขาเป็นคนเลือก แต่ทุกวันนี้ที่ทำก็คือเหมือนตามแม่ไปทำงาน บางทีออกไปทำงานอะไรที่เขาทำได้และไม่หนักเกินไป ก็ให้เขาทำ ส่วนใหญ่ตอนเล็กๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม่เป็นคนเลือกให้ ก็ให้เขามีโอกาสได้ทำ อย่างน้อยให้ทำในสิ่งที่แม่เคยทำ ได้ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่มีโอกาส'

'กบถือว่าโอกาสเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตคน ตอนนี้เรามีโอกาสคิดจะทำอะไรเราไม่ควรจะเสียโอกาสนั้นไป นี่เป็นโอกาสของเขาเหมือนกัน ทุกคนติดต่อมา อยากถ่ายรูปณดา อยากให้ณดาขึ้นปก ถ่ายแบบ อยากให้ณดามางาน เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสของเขา โตขึ้นหลังจากนี้เขาก็เลือกเองแล้ว'

สำหรับการเลี้ยง 'น้องณดา' ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงตอนนี้ 10 เดือนแล้ว กบบอกว่า 'ณดาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ไม่เกเร ไม่งอแง ถือว่ากบโชคดี สิ่งอื่นที่ผ่านมาต้องขอบคุณณดาจริงๆ กบขอบคุณลูกตลอด ที่ไม่ทำให้กบลำบากไปมากกว่านี้ ทุกวันนี้กบสบายมากแล้ว'

สุดท้ายอยากพูดอะไรกับลูก กบยิ้มน้ำตาเอ่อด้วยความปลื้ม ก่อนกล่าวว่า 'อยากจะบอกณดาว่าแม่รักณดา พูดทุกวัน คุณแม่รักณดานะคะ คุณพ่อก็รักณดา แล้วก็อวยพรทุกวัน พูดกับลูกดีทุกวัน พูดทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีกับเขา กบไม่รู้ว่าเขารู้แค่ไหน กบเชื่อว่าสิ่งที่แม่กับพ่อพูดให้เขา เป็นคำอวยพรที่ดีที่สุดค่ะ'

ลูกคนต่อไปคาดว่าเมื่อไหร่ นางเอกสาวกล่าวว่า 'ก็ไม่นานเกินไปนัก เดี๋ยวรอให้ณดาขวบหนึ่งก่อนค่อยคิดอีกที จริงๆ ไม่อยากให้ห่างกัน มากเกิน เดี๋ยวกบจะขี้เกียจ'

อย่างนี้พี่บรู๊คก็ต้องทำการบ้านแล้วล่ะ


เลี้ยงลูกให้โต-ทำหน้าที่'ดุ-ปลอบ'

'กบว่าภูมิคุ้มกันความเป็นแม่มันเยอะขึ้นค่ะ' นางเอกสาว 'กบ-สุวนันท์' เผย เมื่อถูกถามถึงการเลี้ยงดูลูกสาว 'น้องณดา' ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวันนี้ 10 เดือนแล้ว เบาขึ้น กว่าเดิมเยอะไหม

จากนั้นก็กล่าวต่อว่า 'แรกๆ ไม่เคยรู้ว่าความเป็นแม่เป็นยังไง ไม่รู้ว่าเด็กเลี้ยงยังไง ทุกวันนี้เหมือนมีประสบการณ์ 10 เดือนสอนเราว่า เราควรจะดูแลเขาประมาณไหน ภูมิคุ้มกันสำหรับความเป็นแม่มันเยอะขึ้น'

'ตอนแรกๆ ถ้าลูกไม่กินนมหรือนอนน้อยจะ กลุ้มใจ พอมาตอนนี้ถ้าไม่นอนก็ไม่นอน เลี้ยงตามสบายไม่เครียดมาก บางทีถ้าหกล้มก็บอกไม่เป็นไรลูก ลูกรู้มั้ยว่าเจ็บ ก็ต้องระวังตัวเองนะ เพราะไม่มีใคร ในโลกจะพยุงหนูจนแก่เฒ่า'

แสดงว่าพยายามสอนลูกเพื่อให้เตรียมตัวออกสู่สังคมภายนอก ดาราสาวกล่าวว่า 'กบเลี้ยงลูกให้โตขึ้นในทุกๆ วัน ไม่ใช่ 10 เดือนจะไปเลี้ยงเหมือนเขา 2 เดือน จะไปโอ๋ทุกวันก็ไม่โตสักที เขาจะต้องโตขึ้นไปสู่โลกใบนี้ ต้องเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะกบเชื่อว่าวันนึงกบก็ไม่ได้อยู่กับเขา เขาต้องเติบโตด้วยตัวเขาเอง เจอผิดเจอถูก ต้องดูแลตัวเองแบบให้อยู่ให้ได้'

มีตีไหม คุณแม่คนงามหัวเราะก่อนพยักหน้า 'มีค่ะ ดื้อมากก็ตี แบมือมา ก็เพียะๆ แต่ไม่ร้องนะ ตีเบาๆ ให้รู้ว่าทำผิด แล้วหน้ากบเวลาดุจะทำหน้าดุใส่ จะบอกว่าเดี๋ยวแม่เพียะจริงๆ เขาก็ไม่กล้าแล้ว เขาจะรู้ เพราะกบเวลาดุก็ดุอ่ะ'

'ก่อนหน้านี้กบคุยกับพี่บรู๊คว่าพี่บรู๊คจะดุลูกมั้ย เพราะต้องมีคนนึงที่ดุ เขาก็บอกพี่ไม่ดุหรอก กบก็คิดว่างั้นต้องเป็นฉันน่ะสิ คือพ่อเขาตามใจมาก ส่วนกบนี่ดุตลอด'

อย่างนี้เกิดอะไรขึ้น ลูกไม่วิ่งไปหาพ่อเหรอ กบอธิบาย 'คือเวลากบดุ จะบอกทุกคนเลยว่าห้ามโอ๋ แล้วทุกครั้งที่ลูกจะร้องไห้จะเสียใจอะไร กบจะเป็นคนโอ๋ ไม่ใช่กบเอาแต่ดุแล้วคนอื่นเอาแต่โอ๋ก็ตายนะอย่างนี้ เดี๋ยวลูกจะไม่เอากบเลย'

'กบจะเป็นทั้งคนดุและคนปลอบ เขาจะได้รู้ว่าถ้าแม่ดุก็คือดุ แต่ถ้ามีอะไรแม่ก็โอ๋ปกป้องเขาได้ค่ะ'

แค่นี้ ลูกก็อยู่หมัดแล้ว

'ซินดี้' สุขใจทั้งงาน และครอบครัว

คร่ำหวอดอยู่ในวงการนางแบบมานาน ก่อนจะพักแวบไปเป็นคุณแม่แบบเต็มตัวนานเป็นปี แต่พอกลับมาทำงานได้ไม่นาน ซินดี้-สิรินยา บิชอพ ก็มีข่าวดีมาให้ชื่นใจอีกครั้ง กับการตั้งท้องลูกคนที่สองเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้ถึงแม้งานนางแบบจะลดน้อยลงตามวัฏจักรการทำงาน แต่ก็มีอีกหนึ่งงานที่เธอได้มีโอกาสลองทำกับงานดีไซเนอร์ชุดว่ายน้ำแบรนด์ “ซินดี้ ฟอร์ เจนเซ่น” ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ และเป็นการวางรากฐานให้กับชีวิตด้วย ก่อนที่งานนางแบบจะหมดอายุลง

ตอนนี้ได้เป็นคุณแม่อีกครั้งแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ยังตั้งตัวไม่ทันค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้ปล่อยเต็มที่ ตอนช่วงปีใหม่รู้สึกมันมีอะไรแปลก ๆ ก็เลยไปเช็กกับคุณหมอ ปรากฏว่าเซอร์ไพร้ส์รับปีใหม่เลย แต่จริง ๆ แล้วเราทั้งคู่วางแผนไว้แล้วล่ะว่าจะเริ่มปีนี้ แต่เขามาเร็ว คงอยากเกิดในปีมังกรเลยมั้งคะ

แล้วมีความเชื่อด้วยหรือเปล่าว่ามีลูกเกิดปีมังกรถึงจะดี?

ไม่ได้อะไรมากหรอกค่ะ แต่เห็นบางคนเขาอยากให้เกิดปีนี้กัน เราดูช่วงจังหวะความพร้อมว่าน่าจะปล่อยปีนี้ แล้วคลอดปีหน้า ให้น้องเลล่าสัก 3 ขวบก่อน แต่เกิดปีนี้ก็ดีเหมือนกัน กำหนดคลอดเดือนกันยายน เลล่าจะอายุ 2 ขวบ 9 เดือน ก็โอเคนะคะ


เขารู้ไหมว่ากำลังจะมีน้อง?

รู้ค่ะ ซินดี้บอกเขาว่ามีเบบี๋อยู่ในนี้นะ ให้เขาจูบเบบี๋ทุกวัน บอกว่าหนูจะเป็นพี่สาวแล้วนะ ช่วยหม่ามี้ดูแลน้องนะ เขาก็อืออาตามประสาเด็ก เดี๋ยวพอท้องโตขึ้น ซินดี้ก็จะคอยบอกเขาเรื่อย ๆ มีคนมาบอกเคล็ดลับว่าเวลาน้องกลับบ้าน ให้เลล่าอุ้มก่อนเลย ให้เขารู้สึกพิเศษที่ได้อุ้มน้องก่อน

แล้วกังวลไหมว่าเลล่าจะอิจฉาน้อง?

ก็มีนิดนึงนะ คงห่วงความรู้สึกของเขา เพราะเขาติดซินดี้มาก ซินดี้กับไบรอนเลี้ยงเขาเองด้วย อาจจะมีแม่บ้านกับคุณยายมาช่วยบ้าง แต่ซินดี้คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติและน่าจะคุยกับเขารู้เรื่อง คงอยู่ที่เราค่ะว่าจะทำให้เขายังคงเป็นคนที่พิเศษ มีส่วนร่วม และไม่ได้ถูกทอดทิ้ง

แล้วท้องนี้ตื่นเต้นกว่าท้องแรกไหม?

ตื่นเต้นน้อยกว่านะ เพราะเรามีตัวเล็กมาแล้วเลยรู้ว่าจะเป็นอย่างไร เราผ่านตรงนั้นมาแล้ว แล้วตอนนี้ก็ค่อนข้างยุ่งมาก เลยไม่ค่อยมีเวลามาคิดอะไร บางครั้งก็ยิ้มกับตัวเองนะ รู้สึกดีใจมากกว่า ซินดี้กับไบรอนคุยกันว่ามีลูกสัก 2 คนกำลังดี และไม่ห่างกันจนเกินไป ท้องนี้ลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ ซินดี้คิดว่าเขาถูกกำหนดไว้แล้ว ถ้าเป็นลูกสาว เลล่าก็จะมีน้องสาว คงเป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักมาก ๆ ถ้าเป็นลูกชายก็ดี ครบเลย


ซินดี้เป็นคุณแม่แบบไหน?

เป็นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกแบบธรรมชาติแต่มีวินัย เราต้องการให้ลูกเก่ง ดูแลตัวเองได้ คุยกับลูกอย่างมีเหตุผลแบบผู้ใหญ่เลย จะไม่ตีลูก จะพยายามไม่ใช้อารมณ์ ในเวลาเดียวกันก็อยากให้ลูกเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เขาชอบอะไร อยากทำอะไร เราจะไม่คอยบอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คิดว่าจะเลี้ยงแบบผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับความเป็นฝรั่งเหมือนกับที่คุณแม่เลี้ยงซินดี้มาแบบฝรั่งก็จะให้ตัดสินใจเอง ตัดสินใจแล้วรับผิดชอบเอง ความเป็นไทยก็ต้องไหว้ ร้องเพลงชาติ มารยาท เคารพผู้ใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตน และรู้จักกาลเทศะค่ะ

ซินดี้กับไบรอนช่วยกันเลี้ยงลูกอย่างไร?

มันเป็นช่วง ๆ ค่ะ เพราะการงานของเราทั้งคู่มันไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตายตัว ช่วงนี้ไบรอนยุ่งทุกวันเลย แทบจะไม่ได้เจอหน้าลูก เพราะต้องถ่ายหนังฮอลลีวูด ซินดี้ก็รับไปเต็ม ๆ ช่วยกันกับคุณแม่และพี่เลี้ยง ช่วงไหนไบรอนไม่ได้ถ่ายหนังก็มาช่วย แล้วแต่ใครว่าง แต่อีกหน่อยเลล่าก็เข้าโรงเรียนแล้ว คงสบายขึ้น

ได้วางแผนให้ลูกหรือเปล่าว่าโตขึ้นอยากให้เขาเป็นอะไร?

ยังค่ะ แล้วแต่เขาเลย เดี๋ยวพอเขาเริ่มเข้าโรงเรียน ได้ทำกิจกรรมนั่นนี่ก็จะรู้เองว่าเขามีแววทางด้านไหน แต่ตอนนี้แววร้องเพลงมาแรงมาก (หัวเราะ) เขาชอบร้องเพลงมากและร้องเก่งเหมือนกับไม่ใช่เด็ก 2 ขวบ จำคำแม่นหลาย ๆ เพลงเลย ร้องตั้งแต่ต้นจนจบ ที่บ้านจะทำกิจกรรมร้องเพลงกัน เขาดูมีความสุขมาก ก็ดูว่าเขาชอบหรือสนใจตรงไหนก็จะผลักดันเขาไป


แล้วเป็นคุณแม่ที่ดุหรือเปล่า?

ดุนะ แต่ดุด้วยเหตุผล อย่างเล่นของเล่นเสร็จต้องเก็บ ต้องทานข้าวเอง ถ้าอยากได้อะไรบางครั้งเขาจะร้องไห้งอแง ซินดี้จะบอกเขาว่าเสียงนี้หม่ามี้ไม่เข้าใจ ให้พูดดี ๆ เขาจะบอกว่าขอหน่อยค่ะ ก็เลยโอเค หม่ามี้เข้าใจ ซินดี้คิดว่าเด็กถ้าปล่อยเลยมันก็ไม่ดี แต่ถ้าเคร่งเกินไปก็ไม่ไหว มันต้องมีจุดที่ผ่อนได้บ้าง แต่ถ้าเป็นไบรอนจะออกแนวตามใจลูก ก็เลยบอกไบรอนว่าเวลาโน ยูก็ต้องโนสิ ไม่ใช่โนแบบเสียงอ่อน ซินดี้ว่าคงมีแบบนี้เยอะที่คุณแม่จะดุกว่าคุณพ่อ เลล่ารู้เลยว่าถ้าถามพ่อจะให้ แม่จะไม่ให้ นี่ขนาดเขาแค่ 2 ขวบ แล้วถ้าตอน 16 ล่ะจะรอดไหมเนี่ย (หัวเราะ) ไบรอนก็ขำบอกว่าตามใจเล็ก ๆ น้อย ๆ น่า แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ มันก็อีกเรื่อง

ตอนนี้งานของซินดี้ในวงการนางแบบเป็นอย่างไรบ้าง?

จากที่หายไปช่วงมีเลล่า ก็กลับมาทำงาน 1 ปีเต็มที่ได้เดินแบบถ่ายแบบอีกครั้ง แล้วซินดี้ก็ยังมีงานอื่น ๆ อีก อย่างพิธีกรก็ไปได้สวย มีรายการประจำ มีงานดีไซน์ มีโปรเจคท์ส่วนตัวอีกที่ทำกับไบรอน ทุกวันนี้ยุ่งมากค่ะ

แสดงว่าเข้าใจวัฏจักรของวงการนี้?

แน่นอนค่ะ คงไม่มีใครอยู่ยงได้นาน ยิ่งถ้าเป็นนางแบบ มันมีอายุของการทำงานอยู่แล้ว ทุกคนก็ต้องยอมรับตรงนี้ว่าทำอย่างไรเราถึงจะมีงานอื่น ๆ รองรับ ซินดี้มีความรู้สึกว่าซินดี้สร้างตัวเองมาในระดับหนึ่ง คนก็ยอมรับที่จะให้โอกาสทำอย่างอื่นด้วย ไม่ได้จะหยุดอยู่ที่นางแบบอย่างเดียว บวกกับเรามีความรับผิดชอบในการทำงานด้วย

อย่างงานดีไซเนอร์ถือว่าใหม่สำหรับซินดี้ไหม?

ถือว่าใหม่นะคะ แต่ก็ทำมาได้ 5 ปีแล้ว เป็นงานที่ตอนแรกไม่นึกว่าจะได้มาทำ ทางเจนเซ่นติดต่อมา คงเห็นว่าซินดี้มีความสามารถในการวาดรูป มีเซ้นต์ในเรื่องแฟชั่น และคลุกคลีกับชุดว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่เขาเชิญมา เราก็งง เพราะไม่ได้เรียนทางด้านดีไซน์มา ไม่ค่อยมั่นใจ แต่เขาบอกเราทำได้อยู่แล้ว ก็คิดอยู่นานเหมือนกันกว่าจะได้มาทำ ทีมงานเขาก็ช่วยเต็มที่ แต่เราทำเองหมดนะทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกผ้า สเกตช์แบบ ผลิตตัวอย่างขึ้นมาว่าโอเคไหม แล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนของการผลิตชุดขึ้นมาลองกับหุ่นจริง ลองกับตัวซินดี้เองและนางแบบ ใส่แล้วมันโอเคไหม ลองผิดลองถูกจนถึงขั้นตอนการผลิตจริง เสร็จแล้วก็ถ่ายโบรชัวร์ โปรโมตต่อไป ซินดี้อยากทำมันเองจริง ๆ ในทุกขั้นตอน ไม่ใช่เอาแค่ชื่อเราไปเฉย ๆ


งานดีไซน์ของซินดี้มีเอก ลักษณ์พิเศษตรงไหน?

เน้นที่ดีไซน์และลายผ้า ลายผ้าจะโดดเด่นมาก นำเข้ามาจากเมืองนอก จะเน้นเป็นแฟชั่น ดูมีราคา และจะมีลูกเล่นต่าง ๆ อย่างปีนี้มีลูกเล่นตรงที่สามารถใส่เป็นเสื้อตัวนอกได้ ใส่ออกงานได้ ปาร์ตี้ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ไลฟ์สไตล์ของคนเวลาใส่ชุดว่ายน้ำจะไม่ได้ลงน้ำเพียงอย่างเดียว สามารถใส่ไปปาร์ตี้บนเรือหรือริมสระว่ายน้ำหรือชายหาดได้

แล้วยากไหมที่ต้องมาเรียนรู้เรื่องดีไซน์?

ยากเหมือนกัน แต่เราใช้ประสบการณ์ที่เราเป็นคนชอบใส่ชุดว่ายน้ำ แล้วตัวเองก็สะสมชุดว่ายน้ำด้วย เราก็เอามาปรับให้เป็นสไตล์ของเรา พอวาดเป็นภาพคร่าว ๆ สื่อให้เข้าใจว่าเป็นทรงแบบนี้นะ มีลูกเล่นตรงนี้ 5 ปีผ่านไป ตอนนี้เก่งขึ้นแล้ว ซินดี้ว่าชุดว่ายน้ำมันเป็นงานที่ละเอียดกว่าเสื้อผ้าทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นอะไรที่แนบตัวเรามาก ฟิตติ้งต้องเป๊ะ

ได้เรียนรู้อะไรจากงานดีไซเนอร์บ้าง?

ได้เยอะค่ะ ทั้งขั้นตอนทุกอย่างของการทำงาน การสั่งผลิตภัณฑ์ การทำงานร่วมกับคนอื่น อย่างเมื่อก่อน เขาทำให้เราสวยแล้วก็ไปเดิน แต่นี่เราต้องคุยกับหลากหลายทีม คุยกับคนที่โรงงาน ต้องสื่อสารอย่างไรให้เข้าใจ ส่วนในอนาคต แบรนด์ซินดี้ ฟอร์ เจนเซ่น ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางเจนเซ่นว่าจะวางอนาคตอย่างไร ก็คุยกันอยู่ว่าจะไปตลาดต่างประเทศด้วย งานนี้มันเป็นอะไรที่จุดประกายให้เราชอบในงานดีไซน์แล้วก็ค่อย ๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ

แล้วคิดถึงงานแสดงบ้างไหม?

คิดถึงมาก แต่ยังไม่มีจังหวะให้เข้าไปเล่น แถมตอนนี้ก็ท้องอีกแล้ว ซินดี้เป็นคนที่รักงานแสดงมาก ชอบเล่นในบทบาทต่าง ๆ ได้จินตนาการกลายเป็นคนอื่นในช่วงเวลานั้น ได้ลองทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ให้คนดูเชื่อได้ว่าเราเป็นคนคนนั้น คิดว่ามันน่าสนใจดี แต่ก็เข้าใจผู้จัดนะว่าเด็กใหม่ ๆ มีมาก และหน้าตาของเราบางทีก็ไม่ได้เข้ากับบทบาททั่วไปได้

มองงานในวงการบันเทิงต่อไปไว้อย่างไร?

ก็เรื่อย ๆ นะคะ ซินดี้อยู่ในวงการนี้มานานพอสมควร ไม่ได้มีการวางแผนอะไรชัดเจน ไม่ได้มีคนมาคอยดูอะไรให้ เรารับงานเอง ใครหยิบยกอะไรให้เราทำก็คงทำให้ดีที่สุด แล้วเราก็ทำได้หลากหลาย ไม่ได้หยุดอยู่ที่อาชีพนางแบบอย่างเดียว วงการนี้ได้สร้างเรามาจนถึงจุดหนึ่งที่เราอยากจะทำอะไรมันก็ง่ายขึ้น ก็คงอยู่ไปเรื่อย ๆ ค่ะ เรียกว่าได้ทำในสิ่งที่รัก...ต่อให้ยากแค่ไหน ถ้าใส่ใจเรียนรู้และฝึกฝน รับรองไปได้สวย แต่เชื่อได้ชื่อของ “ซินดี้” ยังคงอยู่ในทำเนียบ “นางแบบแถวหน้า” ได้อีกนาน ต่อให้เป็นคุณแม่ลูกสองก็เถอะ.

'นัท มีเรีย'สวยเซ็กซี่ ดีตลอดตัว!

นัท มีเรีย เสน่ห์สาวพราวแพรว ชีวิตตอนนี้ของเธอมีแต่เพิ่ม หนุ่มอั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์พระเอกปากแดง มาเติมเต็ม “ความหวัง กำลังใจ ความรัก” ให้ใครๆอิจฉาเพราะ อั้ม ไม่สนสาวอื่น กลับยืนสงบนิ่ง ยืดอกล่ำแอ่นอกรับเรียก นัท แฟนเต็มปาก

หัวใจ นัท หลังจากเงียบเหงามานานตั้งแต่หย่า (อดีต) สามี เต๋า–สมชาย เข็มกลัด จบชีวิตคู่ หลายคนคิดว่า นัท สาวสวย เพอร์เฟกต์จะเข็ดรักกับชีวิตคู่ที่พังไม่เป็นดั่งฝันหรือเปล่าหนอ?!! นัท ซวนเซในช่วงแรกที่หัวใจไร้คู่ จนมี อั้ม ทำเนียน ขี่ม้าขาวเข้ามาอาสา “ดามหัวใจ” จากเพื่อน (รุ่นพี่) ในวงการและเพื่อนงานบุญ อั้ม ก็เขยิบเข้าใกล้หัวใจ นัท ขึ้นมาทุกที มาแนว “มดแดงแฝงพวงมะม่วง” เป็นจังหวะที่ “ม่ายสาวพราวเสน่ห์” ระวังตัวเรื่องรัก นัท เลยค่อนข้างจะเลือกรักและรักคนยาก แต่ อั้ม ใช้วิธีจีบแบบตีเนียน นัท ชวนไปไหน ว่างปั๊บไปปุ๊บเพราะลึกๆแล้ว “รักเธอ” อยู่แล้วไง นัท ไปไหน อั้ม จะไปด้วยเสมอ แรกๆ นัท ยังดูไม่ออกว่า อั้ม มาจีบเพราะเธอไม่อยากคิดไกล เพราะ อั้ม ก็เป็นเพื่อนรุ่นน้องกับ เต๋า–สมชาย ซึ่งเป็นอดีตสามี อั้ม รุกคืบ เข้ากับญาติ เพื่อนร่วมงาน รวมถึงเทกแคร์ ห่วงใย ใส่ใจ แม่นัทที่ป่วย ณ จุดนี้ นัท มารู้ตัวอีกทีก็ ชอบอั้ม โดยไม่รู้ตัวแบบ รักซึมลึก!


หนุ่มละอ่อน รูปร่างล่ำ วัยน้อยกว่า 6 ปี มาขายขนมจีบ นัท บอกไม่กดดัน เพราะ อั้ม มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ พอคุยด้วยสบายใจ ไม่ต้องประดิดประดอยใส่กัน อีกอย่าง นัท มีประสบการณ์รักร้าว ชีวิตคู่ล่ม แต่ อั้ม มองข้ามอดีต เพราะปัจจุบันฉันรักเธอ แรกๆเรียกพี่ แต่พอสนิทกันมาก อั้ม ตัดคำว่า “พี่” ตอนนี้เรียกแฟนเต็มปาก และเต็มหัวใจ อั้ม เรียก นัท ว่า “น้องเป็ด” และ “บี้” ที่ย่อมาจาก “เบบี้” คำนี้ เหล่าคนดังชอบใช้เรียกแฟน นัท เคลิ้มทุกทีที่เวลาเหนื่อยและท้อ อั้ม จะเข้ามาลูบหัว ทำให้ นัท รู้สึกไม่ว้าเหว่ มีคนเคียงข้างให้คลอเคลีย


นัท เป็นนางเอก นักร้อง นางแบบ ที่ทรงคุณค่า เธอทำทุกหน้าที่ได้ดี วัย 37 ปี ยังสวยไม่สร่าง ไม่แปลกที่ อั้ม จะหลงรัก นัท และมองข้ามตำหนิในชีวิตรักที่ล่มของเธอที่ผ่านมา หากคิดบวกมองในแง่ดี หาก นัท ไม่ผ่านเหตุการณ์เตียงหัก อั้ม ก็คงไม่มีวันได้รักเธอ เรื่องของ “ความรัก” มันเป็นพรหมลิขิต คนที่อยู่ใกล้ เห็นหน้ากันมานานอย่าง นัท กับ อั้ม วันนึงยังตกหลุมรักกันได้ โชคดีที่อดีตสามี เต๋า กับ อั้ม เป็นเพื่อนผู้ชายโคตรแมน เจอกันในงานฉลอง 42 ปี ช่อง 3 นัท ไปนั่งเชียร์ อั้ม ส่วน เต๋า หอบลูกเมียไปเชียร์ เจอกันในสนามฟุตบอล อั้ม–เต๋า จับมือให้กัน มีน้ำใจเป็นนักกีฬา

2 ครอบครัว นัท และ อั้ม ไฟเขียวให้ทั้งคู่รักกัน ยายและน้องสาว อั้ม เข้ากับ นัท ได้ดี ส่วน อั้ม ออกตัวเลยว่า เค้าเป็นแฟนเพลง นัท มีเรีย มาตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันนี้ นัท ก็เลยรับงานร้องเพลงในหัวใจ อั้ม มาหลายปี


2 คน 2 หัวใจ ร่วมสร้างรัก นัท ชมเปาะ อั้ม แสนดีเสมอต้นเสมอปลาย ที่สำคัญ นัท มั่นใจว่า อั้ม กล้ามล่ำเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แมนสุดๆ และดูแลตัวเธอได้ อั้ม มีเสน่ห์ที่เหนือชายไหนๆในหัวใจ นัท ตรงที่ อั้ม มีความสามารถพิเศษรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี ตรงนี้เลยเป็นเสน่ห์ที่เป็นเสน่หาให้ นัท อยากอยู่ใกล้และฝันจะให้ อั้ม เป็นคนสุดท้ายของชีวิต อบอุ่นทุกวินาทีที่อยู่ใกล้กัน!


คู่นี้กำลังเป็น “คู่รักหวาน” ที่ใครๆต่างจับตามองว่า สุดท้ายปลายทางของ “ความรัก” นัท–อั้ม จะจบด้วยการแต่งงานหรือไม่ เพราะหาก อั้ม ขอ นัท แต่งงาน การแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นการแต่งงานครั้งที่ 2 ของ นัท ใครไม่อิจฉาก็บ้าแล้ว ผู้หญิงยุคนี้โชคไม่ค่อยดี เจอแต่ “รักจริง ทิ้งจัง” จะแต่งงานสักครั้งก็แสนยากเย็น แต่ อั้ม กลับจริงใจจน นัท เปิดหัวใจ แต่ทั้งคู่ขอรักและทำวันนี้ให้ดีที่สุด หากวันนึงถึงเวลารักสุกงอม ค่อยจับมือคุยเรื่องแต่งงานกันอีกที นัท ไม่รีบร้อนที่จะแต่ง เพราะชีวิตนี้เธอเคยผ่าน การใส่ชุดเจ้าสาว ยืนรับแขกมาแล้ว เธอผ่านมันมาและรู้แล้วว่า “งานวิวาห์” ไม่ได้สำคัญเท่า “รักและเข้าใจ”

แค่วันนี้ นัท ควง อั้ม ออกงานอย่างหวานฉ่ำ มองตากันก็รู้ใจ แค่นี้ก็รับรู้ได้แล้วว่า นัท มีความสุขกับชีวิตเพียงใด เสน่ห์ของผู้หญิงก็มีอยู่แค่นี้ “มีงานทำ สวย มีความรัก” นัท มีพร้อม ตอนนี้เธอก็เหลือแต่โชว์ความสวยให้หนุ่มอั้มกระชุ่มกระชวย ผลงานชิ้นล่าสุด แฟชั่นชุดว่ายน้ำ อวดหุ่น ฟิต แอนด์ เฟิร์ม นิตยสาร : VOLUME โดยช่างภาพ ใหญ่–อมาตย์ นิมิตภาคย์ กดชัตเตอร์ในคอนเซปต์ “PIN UP” นัท ดู สวย เซ็กซี่ ขี้เล่น คงทำเอา อั้ม แสนภูมิใจว่า มีแฟนสาว สวย เซ็กซี่ไม่มีวันสร่าง!! รักมากๆวันไหน อั้ม ก็ยกขันหมากไปขอ นัท นั่งรอสวยๆอยู่บนคาน เอ้ย!บ้าน สบายใจไม่กดดัน!