Inside Dara
เปิดตัวตน'ม.ล.พิศุทธิ์'ความดังฉุดไม่อยู่ของ'โป๊ป-ธนวรรธน์'

กำลังเป็นละครที่หลายคนติดตามชมอยู่ในขณะนี้ สำหรับละครรสแซบเรื่อง “สามีตีตรา” ของผู้จัด แอน ทองประสม โดยเฉพาะตัวละครที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากนั่นก็คือ กะรัต ที่นำแสดงโดย “พลอย” เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ สายน้ำผึ้ง กับการสวมบทบาทโดย “จุ๋ย” วรัทยา นิลคูหา และบทของ “ม.ล.พิศุทธิ์” ซึ่งนำแสดงโดย “โป๊ป” ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ที่สาวๆ กำลังฟินอยู่ในเวลานี้วันนี้ นสพ.คม ชัด ลึก เลยขอคว้าตัวหนุ่มสุดฮอตมานั่งพูดคุยกันอย่างหมดเปลือก ว่าแล้วไปสัมผัสตัวตนของหนุ่มคนนี้กันเลย...

"สามีตีตรา" ฟีเวอร์
กระแสตอบรับจากละคร "สามีตีตรา" เป็นอย่างไรบ้าง

กระแสตอบรับถือว่าดีนะ เพราะเพื่อนผู้ชายบางคนก็ดูละคร มีคนโทรมาแซวบ้าง ทำไมตัวจริงไม่เป็นแบบนี้ซะครึ่งหนึ่งของพิศุทธิ์ เหมือนเป็นการแซวๆ กัน ส่วนใหญ่คนจะเรียก "พิศุทธิ์" กันเยอะ บางคนเอาขนมมาให้แล้วก็บอกว่า รสพิศุทธิ์ อะไรประมาณนี้ ถึงขนาดที่เขาอินกับละคร เลยเอาบางฉากที่เราเล่นมาแซว

กับการมารับบท ม.ล.พิศุทธิ์ ยากไหม

ตอนถ่ายผมว่ายากนะ คือยากคนละแบบกับคุณชายปวรรุจ อย่างเรื่องนี้ยากด้วยนักแสดงด้วย เพราะนักแสดงทุกคนจัดเต็ม แล้วบทค่อนข้างทะเลาะกัน ต้องใช้พลังเยอะ คือเหนื่อยด้วย ยากด้วย แล้วบทที่พูดค่อนข้างยาวและต้องอารมณ์เยอะ ซึ่งผมเป็นคนนิ่งๆ แล้วการเล่นนิ่งๆ แต่ต้องมีความรู้สึกข้างในตัวออกมา มันต้องใช้พลังเยอะมาก เราจะมาเล่นหลายเทคไม่ได้ ต้องเล่นสดๆ

กดดันไหมเพราะละครเรื่องนี้เป็นละครรีเมกที่หลายคนคาดหวัง

ผมไม่กดดันหรอก ผมสนุกกับการแสดงของผม แต่ว่าสิ่งที่กดดันคือ จะมีคนพูดบ้างว่าตายแน่ บทผู้ชายโดนกลบ เพราะบทอ่อนสุด นี่คือตอนที่เขายังไม่ดูละครนะ เราอ่านคอมเม้นต์มา แต่ผมไม่สนใจหรอก แต่อยากให้ดูตอนละครออกอากาศ เพราะเราทำเต็มที่แล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ซึ่งผมได้คุยกับพี่แอน (แอน ทองประสม) เหมือนกัน ว่าผมรอดมั้ยเนี่ย(หัวเราะ) ผมจะตายมั้ย เจอนักแสดงผู้หญิงมืออาชีพทั้งสองคนเลยนะ พี่แอนก็บอกว่าไม่ตายหรอก เพราะบทมันกลมกล่อมทุกคน บทเท่าเทียมกัน กระจายบทได้ดีมาก พอละครออกมาผมก็ใจชื้น เพราะทุกคนเล่นเต็มที่ ตัวละครแต่ละตัวเท่าเทียมกัน

แล้วบท ม.ล.พิศุทธิ์ เป็นบทใกล้ตัวเราไหม

คือทุกคนชอบคิดว่าผมเล่นแต่บทเป็นคนดี สุภาพบุรุษ แต่จริงๆ เราจะไม่เหมือนพิศุทธิ์ หรือคุณชายปวรรุจเลย ผมก็เป็นคนธรรมดา เป็นคนบ้านๆ อยู่แล้ว โดยพื้นฐานครอบครัว ซึ่งจะต่างกับบทบาทการแสดง ฉะนั้นเวลาแสดงผมต้องปรับค่อนข้างเยอะ และค่อนข้างเหนื่อยด้วย(ยิ้ม)

การร่วมงานกับ "จุ๋ย-วรัทยา" กับ "พลอย-เฌอมาลย์" เป็นอย่างไรบ้าง

การทำงานกับจุ๋ยโอเคนะ แต่ไม่ใช่อย่างที่เราคิด เพราะเราคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงสวย นิ่งๆ แต่จริงๆ เขาแมนมาก มาคนละแนวกับที่เราคิดไว้ เขาเป็นคนง่ายๆ ลุยๆ ห้าวๆ หน่อย แต่พอเจอในฉากละคร รู้เลยว่าจุ๋ยเป็นคนตั้งใจทำงาน ทำการบ้านมา เล่นกับเขาสนุกนะ ทำให้เราทำงานได้ง่ายกับตัวสายน้ำผึ้ง เขาสื่อออกมาได้ดี แล้วเราเชื่อด้วยเวลาแสดง ลื่นไหล ไม่เหนื่อยมาก กับพลอยเขาก็ทำงานมานานแล้ว เรียกว่านักแสดงทั้งสองคนส่งบทได้ดีด้วย

รู้สึกอย่างไรที่คำว่า "สามีตีตรา" ติดแท็กในทวิตเตอร์ติดอันดับ 5 ของโลก

โห...ยิ้มนะ คนดูละครเราเยอะขนาดนี้เลยเหรอ เออ...เขาเม้าท์เขาดูละครกันเนอะ(หัวเราะ) พอเห็นข่าวในทีวี เลยรู้ว่าจริงด้วยที่คนเขาติดแท็กเยอะจริงๆ

ไม่ว่าจะเล่นบทไหนก็ประสบความสำเร็จ

อย่างบท "นัท" ในละคร "ดอกส้มสีทอง" จะทำให้คนชื่นชอบ มีคนรู้จักเรามากขึ้น จนมาละครเรื่อง คุณชายปวรรุจ และมาถึงบท พิศุทธิ์ ซึ่งเราคิดว่าคุณชายปวรรุจ เป็นที่สุดของเราแล้วล่ะ ทำให้คนรู้จักเราได้มากที่สุดแล้วล่ะ คิดว่าอยู่ตัวแล้ว แต่พอมารับบท พิศุทธิ์ กลายเป็นว่าคนชอบมากกว่าเดิมอีก เลยรู้สึกว่าเหลือเชื่อ ไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าจะวันที่คนมาดูละครเรา อินกับบทบาทเรา

คิดว่าเป็นเพราะอะไรคนดูถึงชื่นชอบเรา

น่าจะเป็นเพราะผมซื่อสัตย์กับงาน การเป็นนักแสดง ทำการบ้านตีความ ตั้งใจทำงาน ไม่มาเล่นๆ หรือทำไปวันๆ แต่ละซีนที่ผมเข้าต้องตีความ มีที่มายังไง แม้แต่ว่าฉากเล็กแค่ไหน ผมไม่เคยเข้าไปโดยไม่รู้อะไรเลย ผมว่าสิ่งเหล่านี้ น่าจะเป็นผลตอบรับที่ผมได้มาทุกวันนี้

ตอนนี้กลายเป็นขวัญใจสาวๆ

เขินนะ (ยิ้มแบบเขินอาย) มันก็เป็นในบทบาท มันเป็นตัวละคร เราก็คิดว่าไม่ใช่เพราะเราหรอก มันโดยรวม คือบทด้วย เรื่องของผู้หญิงสองคน เรื่องมันสนุกด้วย พี่แอ้ว (อำไพพร จิตต์ไม่งง) พี่แอน ผู้กำกับ (แอน ทองประสม) ผู้จัด เขาทำละครดี เป็นสีสัน บทนี้เลยขึ้นมาด้วย คนชื่นชอบเพราะผลงานเราก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

ชีวิตในวงการบันเทิง
ณ วันนี้พอใจในการแสดงของตัวเองแล้วหรือยัง

ผมรู้สึกว่าผมคิดว่าทำไมตัวเองเล่นแบบนี้ล่ะ เรารู้เลยว่ามันไม่ดี แต่ผมบอกได้เลยว่าผมเล่นร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกฉาก แต่บางทีผมก็ไม่รู้ว่าทำไมดูยังไม่ดีเลย พิศุทธิ์ยังไม่ใช่แบบนี้ ผมรู้ตัวว่าผมต้องก้าวไปมากกว่านี้ ให้เนียนจนไม่มีที่ติ รู้ว่าไม่มีใครทำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก มันจะมีวันที่ดีและไม่ดีบ้าง แต่จะพยายามต่อไป

มีไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมไหม

มีนะ อย่างเรื่องล่าสุดที่เล่น “รักออกฤทธิ์” ผมได้เวิร์กช็อปมาก่อน เพราะคาแรกเตอร์ค่อนข้างจะฉีกจากที่เล่นมา 3 ปี คือเรื่องนี้จะออกคอมเมดี้หน่อย ถามว่าผลดีผลเสียยังไงบ้าง ผลเสียคือคนอาจจะอินกับตัวพิศุทธิ์ที่เป็นแบบนี้ แต่ถ้าเรื่อง รักออกฤทธิ์ ออกอากาศ คนอาจจะช็อก เพราะผมเคยดูละครหรือหนังที่เราชื่นชอบพระเอกนางเอกคนหนึ่งทำไมเขามาเล่นแบบนี้ คืองงที่มาพลิกคาแรกเตอร์กะทันหัน อันนี้เป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างหวั่นเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ตอนเล่นไม่หวั่นนะ ผมก็ใส่เต็มที่ แต่ว่ากลัวคนดูรับไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ในแง่ดี ถ้าดูในแง่การแสดง คือ เราสามารถเข้าถึงบทบาทได้มั้ย ต้องพิสูจน์กันต่อไป ทำให้ผมต้องไปเรียนการแสดงเพิ่ม ทิ้งคาแรกเตอร์เดิมให้หมด เรื่องนี้ก็ค่อนข้างท้าท้าย

ณ วันนี้เข้าวงการมานานขนาดไหนแล้ว

ตั้งแต่ประกวด “จะเด็ด” จาก “ผู้ชนะสิบทิศ” ตอนนี้ก็ 7 ปีแล้ว แต่คนมาเริ่มรู้จักผมตอนที่เล่นหนังเรื่อง “ออคโทเบอร์ โซนาต้า” ซึ่งก็ 4-5 ปีแล้ว ถือว่ามาถึงทุกวันนี้ก็ฝ่าฟันมาเยอะนะ ผมคิดว่าทุกอาชีพมีนะ มีทั้งสรรเสริญ นินทา ว่าร้ายติชม มันก็เป็นเรื่องที่คู่กับโลกใบนี้ ผมไม่ต้องเป็นนักแสดงก็ได้ อยู่เป็นพนักงานออฟฟิศก็ต้องมีเหมือนกัน แต่อาชีพนี้อาจจะกว้างหน่อยที่มีคนพูดถึงเยอะกว่า ผมคิดว่าเราคงหนีไม่พ้น ผมเลยปล่อยวางช่างมัน จะเกิดขึ้นอะไรขึ้น จะว่าอะไรก็แล้วแต่

รู้สึกท้อถึงขนาดจะไม่อยู่วงการนี้เลยไหม

น้อยนะ เรารู้อยู่แล้วว่าข่าวบางข่าวไม่จริง เมื่อรู้ว่าบางอย่างจริง เราก็แก้ไข ถ้าในเมื่อสิ่งที่เขาพูดมาไม่จริง ก็ไม่ต้องสนใจ คือถ้าเราออกจากวงการไปก็หนีไม่พ้นอยู่ดี แต่ทำตรงนี้อย่างน้อยเราก็ได้ประโยชน์ ทำให้คนรู้จักเรา เราเอาชื่อเสียงหรือคนที่รักเรา มาช่วยบริจาคทำบุญที่นั่นที่นี่ โอ้โห...บางทีได้เยอะกว่าที่เราคิดไว้ เราก็ดีใจ เหมือนได้แลกกลับมา ผมว่าถ้าเป็นอาชีพอื่น ยากที่จะมีคนช่วยเหลือเราแบบนี้ การอยู่ตรงนี้เราจะทำประโยชน์หรือช่วยเหลือสังคมมันง่าย

เคยคิดไหมว่าจะมีชื่อเสียงขนาดนี้

ไม่เคยคิดเลยในชีวิต ตอนเด็กๆ ดูละคร ยังคิดเลยว่า เป็นสิ่งที่ห่างไกล ตอนนั้นยังคิดเลยว่า พระเอกดูขี้เก๊ก วันหนึ่งผมได้มาอยู่ตรงนี้ก็ขำดี คือเคยคิดเล่นๆ ว่าคงเป็นได้เหมือนกันมั้ง (หัวเราะ) แต่ไม่คิดว่าจะเข้าไปหรอก เรื่องดังนี่ไม่อยู่ในหัวเลย ผมยังเคยพูดกับรุ่นน้องเลยว่า ดาราเขามีแฟนคลับมารุมล้อมเนอะ แต่วันหนึ่งผมเป็นแบบนั้น ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ หนึ่งในล้านคนนะที่จะมีแบบนี้ ฟลุกมาก (หัวเราะ) ตอนเด็กๆ 14-15 ยังเคยคิดเลยนะ เวลามีฟุตบอลช่อง 3 เราอยากไปเตะบ้าง เพราะผมชอบเตะบอล เหมือนตอนนั้นเพ้อฝัน มโนไปเอง เหมือนสายน้ำผึ้ง(หัวเราะ) แต่วันหนึ่งผมได้มาเตะในสนามงานช่อง 3 ได้ยังไง มันหนึ่งในล้านนะ ที่คิดแล้วได้มาเตะบอลจริงๆ ทุกวันที่มันเกิดขึ้นผมว่ามันเกินคาดแล้วล่ะ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ พยายามย้อนดูตัวเองตลอด ว่าเป็นยังไงมา เคยอยู่ตรงไหนมา เราจะมีสติให้มากในการอยู่วงการ จะไม่หลงไปกับมัน ไม่ลืมตัว

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะไปแก้ไขอะไร

คงเป็นเรื่องนิสัยความอารมณ์ร้อน เมื่อก่อนตอนผมเด็กๆ ผมเป็นแบบนั้นนะ ตอนนี้เลยทำให้ผมเป็นคนเงียบๆ เพราะว่าเราเคยเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก่อน ไม่ยอมใคร ถ้าเราได้ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมกับแม่เรื่อยๆ มันสอนให้เราดูจิตดูใจตัวเอง ซึ่งเราก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเราอาจจะลืมตัวทำตัวเหมือนเดิม ทุกวันนี้ผมเลยอยู่ได้ด้วยธรรมะจริงๆ ช่วยเราได้

วางแผนชีวิตในวงการบันเทิงไว้อย่างไรบ้าง

ตอนนี้ภาพอนาคตคือเป็นนักแสดงไปเรื่อยๆ แล้วก็สร้างสรรค์ผลงานดีๆ แล้วคนชอบ คนดูได้แง่คิดจากตัวละคร ว่าตัวละครบ้าง ชมตัวละครบ้าง แสดงว่าเขาเชื่อในตัวละครระดับหนึ่งแล้วล่ะ นี่ก็เป็นความสุขของนักแสดง ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน คิดว่าจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้อยากทำละคร อยากเป็นผู้จัดเหมือนกัน อาจจะไม่เต็มตัวที่คิดไว้อาจจะไปทำร่วม ไปช่วย อาจจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน เริ่มเรียนรู้ไว้บ้าง คงอยู่ในวงการบันเทิงนี่ล่ะ

ข่าวกับนักแสดงที่ร่วมงานด้วย

เล่นละครกับใครก็เป็นข่าว พอมาเล่นกับ “พลอย“ เฌอมาลย์ ก็มีข่าวอินเลิฟกันอยู่พักหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกตินะ กับการเล่นละครแล้วต้องมีข่าว ซึ่งจริงๆ ไม่มีอะไรเลย ตอนผมเล่นกับน้องมิว (นิษฐา จิรยั่งยืน) เรื่องคุณชายปวรรุจก็มีข่าวเจอข่าวต่างๆ นานา ทั้งข่าวเรื่องมาก ติสต์ มีโลกส่วนตัวสูงบ้าง เบี้ยวงาน ผมค่อนข้างตรงต่อเวลา เพราะฉะนั้นเรื่องผิดคำพูดหรือเรื่องเบี้ยวงานให้ตายยังไงผมก็ทำไม่ได้ โดยนิสัยส่วนตัว สันดานส่วนตัวไม่มีแน่นอน(ยิ้ม) แต่เรื่องโลกส่วนตัวสูงเนี่ย ผมก็ตอบมาเยอะแล้ว เราก็ไม่เข้าใจคำว่าโลกส่วนตัวสูงอยู่ดี บางทีเราไม่ได้เป็นคนเจ๊าะแจ๊ะ เราเป็นคนทำไม่เป็น นอกจากคนที่เราอยู่มานาน อย่างกองพี่คิง (สมจริง ศรีสุภาพ) หรือทีมงาน เพื่อนๆ ในช่องที่เราสนิทกันแล้ว เราอาจจะสนุกสนานเฮฮาได้ กล้าพูดกล้าคุยได้ แต่บางที เราอาจจะไม่ได้เป็นคนแบบนั้น การที่เราอยู่เฉยๆ ไม่ยิ้มแย้มตลอดเวลา อาจจะทำให้คนคิดแบบนั้นก็ได้ ซึ่งเราไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ ผมเลยไม่ได้ว่าคนที่เขาว่าเราติสต์หรืออะไรก็ตาม ไม่เป็นไร คนที่เข้าใจเราก็มี ปล่อยไป

เรื่องราวความรัก
สเปกสาวเป็นแบบไหน

ผู้ชายก็ชอบผู้หญิงสวยๆ ทั้งนั้นแหละ แต่ทุกวันนี้อยากจะเจอผู้หญิงที่ดีมากกว่า ซื่อสัตย์ จิตใจหนักแน่นหน่อย สังคมสมัยนี้มันเร็วแล้วเจอคนง่าย เลยอยากได้คนที่รักเราจริงๆ มากกว่า หน้าตาก็ประมาณหนึ่งก็พอ น่ารักปกติก็พอ

จำเป็นต้องเป็นคนในวงการบันเทิงไหม

ไม่นะ จริงๆ อยากได้คนนอกวงการ แต่เราเจอแต่คนในวงการ ทุกวันนี้ไปไหนไม่ค่อยได้ ไม่ได้ไปไหนเลย ถ้าถามว่าความเป็นส่วนตัวผมหายไปไหม จริงๆ มันอยู่ที่ใจเรามากกว่า คือถ้าใจเราสนุกกับการที่มีคนเข้ามา เราไปไหนก็ได้ มีความสุข คือเราเป็นคนนิ่งๆ ออกไปไหน ผมกลัวว่าคนจะมาว่าผมอีก เดี๋ยวหาว่าหยิ่งอีก(หัวเราะ) มันเลยมีวิธีเลือกอีกอย่างหนึ่งคือ เราก็ไม่ต้องไปไหน ว่างก็พักผ่อนอยู่กับครอบครัวดีกว่า คือโลกส่วนตัวเลยหายไปเยอะเหมือนกัน เพราะบางทีเราไปไหนมาไหนคนจำได้ เราเลยต้องระวังตัว ไม่ควรทำอะไรไม่ดี จะมาทำตามอำเภอใจเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้

แล้วหัวใจมีสาวๆ เข้ามาให้เลือกบ้างไหม

ผมเปิดนะ(ยิ้ม)เข้ามาบ้างเถอะ ผู้หญิงเขาจะเข้ามาหาผู้ชายเหรอ คือผมเป็นผู้ใหญ่แล้วโตแล้ว ผมไม่ใช่ผู้ชายอายุ 20 หรือ 25 ที่จะมีผู้หญิงเข้ามานะ นอกจากผมจะเข้าไป คือก็อยากเข้าไป คือเจอแต่คนในช่อง เจอแต่น้องมิว(นิษฐา จิรยั่งยืน)แล้วเราจะไปเจอใคร การที่เราจะเข้าไปก็ต้องเลือกให้ดี ทุกอย่างมีข้อตกลง ข้อจำกัดหมด เราต้องดูคนให้ดี แล้วถึงจะเข้าไป

มุมมองความรักเปลี่ยนไปบ้างไหม

เมื่อก่อนก็คิดเยอะ อยากได้ผู้หญิงแบบนั้นแบบนี้ เรียบร้อย ทำอาหารเป็น สวย ขาวหมวย แต่ตอนนี้พอมาอยู่ตรงนี้ รวมความสวยไว้หมดแล้ว เราเห็นมาหมดแล้ว เลยดูที่นิสัยดีกว่า คนซื่อสัตย์จริงใจ ไม่โลเล คือผมเคยเจอกับเรื่องแบบนี้มาบ้าง เราเลยรู้สึกว่าเราหาคนที่ดีๆ แล้วกัน

เอ้า...สาวๆ รีบกรอกใบสมัครด่วนจ้า