Inside Dara
ล้วงหัวใจของ ‘ขวัญ’ อุษามณี กว่าจะมีวันนี้กับคำว่า ‘นางเอก’

นับว่ายิ่งโต ยิ่งสวย ยิ่งเก่ง ยิ่งมีของ สำหรับ นางเอกชื่อดังแห่งวิกหมอชิต "ขวัญ"อุษามณี ไวทายานันท์ นางเอกคนสวย จากละครเรื่อง "ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท" เรียกว่ากับการแสดงเรื่องนี้ ถือว่าพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของนางเอกสาว งานนี้คงต้องคว้าตัวมาพูดคุยกันเสียหน่อย ถึงการทำงานในครั้งนี้่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

พูดถึงละครเรื่องล่าสุด "ไม่สิ้่นไร้ไฟสวาท"
การเข้าฉากกับ "ตุ้ย"ธีรภัทร์ สัจจกุล ในบทของ "ปฐวี" เป็นอย่างไรบ้าง

บอกเลยว่าเหนื่อย (ทำหน้าเหนื่อย) เพราะว่าชิดชบาเป็นอะไรที่ไกลตัวขวัญ คืออายุของชิดชบากับขวัญก็ไล่ๆ กัน แต่สิ่งแวดล้อมที่เขาอยู่มันแตกต่างกันมาก ชีวิตขวัญไม่ได้ตกต่ำขนาดนั้น แถมเขายังเป็นคนที่เกร่งตลอดเวลา เราพยายามเข้าใจถึงตัวเขา ว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้ ในแต่ละประโยค แต่ละคำพูด และกิริยาที่พี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) ผู้กำกับต้องการ กับพี่ตุ้ยเอง เรื่องนี้มันต้องมีถึงเนื้อถึงตัว ต้องขอขอบคุณมาก ที่พระเอกของขวัญเป็นพี่ตุ้ย เพราะว่าถ้าเป็นคนอื่น ขวัญไม่สนิทใจ และคงระวังตัว แต่ด้วยความที่เราผูกพันกันมานาน บวกกับพี่ตุ้ย เป็นสุภาพบุรุษด้วย ทำให้การทำงานออกมาดี ส่วนที่พี่ตุ้ยได้รับฉายา มิสเตอร์เกรย์เมืองไทย คือขวัญเห็นด้วย สุดยอดให้เลย

นอกจากนี้ ยังมีกระแสที่หลายคนชอบที่ชิดชบาเข้าฉากกับ ม.ร.ว.อรุณณรงค์ หรือ "ชายเอี่ยว"

จริงๆ ขวัญก็ชอบชายเอี่ยวนะ เพราะว่าเขาเป็นคนที่นุ่มนวล ละไม เป็นคนที่สุภาพบุรุษมากเลยนะ ชีวิตจริงอยากมีแบบนี้นะ กับพี่แอม (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ ) เป็นนักแสดงอีกคนที่มีพัฒนาการตัวละครที่่เยอะมาก ขวัญเล่นละครกับพี่แอมตั้งแต่เรื่องสาวน้อยในตะเกียงแก้ว ยังเป็นเด็กมหาวิทยาลัย เป็นวัยรุ่น ที่ยังไม่มีลิมิตแต่ตอนนี้เก่งมาก (เน้นเสียง)

กับทาง "ป็อก" นันทนา วีระชน เจ้าของนวนิยาย แถมยังมาเขียนบทให้อีก ได้แนะนำความเป็น "ชิดชบา" อย่างไรบ้าง

ตอนแรกที่เราคุยกัน นัดเจอกัน ก่อนเปิดกล้อง ได้บทมา 2 ตอน พี่หลุยส์เอามาให้ต่างคนต่างอ่าน แล้วก็มาถามว่า แต่ละคนตีความเป็นอย่างไรบ้าง ก็จะมีป็อกมาด้วยนะ ก็พยายามปรับให้เราอยู่ในเรือลำเดียวกัน ไม่ให้ไปคนละทิศละทาง พยายามทำให้กลมกลืนมากที่สุด และตีความ พี่ป็อกไม่ได้สอนนะ แต่ให้คำอธิบาย อย่างเช่น ขวัญอยากรู้อะไรก็จะถาม แล้วพี่ป็อกก็จะตอบ จนเราเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

เวลาที่ออกไปไหนมาไหน แล้วถูกเรียกว่า "ชิดชบา" รู้สึกอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ยังไม่ออกไปไหนเลย เพราะว่าถ่ายละครตลอด ส่วนใหญ่ขวัญก็จะได้รู้จากเพื่อนบ้างนะ เพื่อนก็จะบอกว่านั่งดูอยู่ที่บ้าน เพื่อนๆ ก็จะมาเล่าให้ฟังว่าที่บ้านที่ทำงานมีฟีดแบ็กอย่างไรบ้าง ญาติเราด้วย ขวัญเป็นนักแสดงที่มีแอ็กติ้งโค้ชเยอะนะ ไหนจะแม่ของขวัญ ที่จะคอยชอบติ เวลาถ่ายละคร ฉากนอน ทำไมไม่ถอดขนตา แม่อยากให้เรียล ไม่สวยก็ไม่เป็นไร เราเป็นนักแสดง เราก็ต้องทำให้เขาเชื่อ ไม่งั้นเราจะเป็นนักแสดงทำไม แบบนี้ไปถ่ายแบบจะดีกว่า (ยิ้่ม) สำหรับขวัญตอนนี้ขวัญต้องทำตัวให้เป็นชิดชบาให้มากที่สุด ไม่ใช่เป็นขวัญ อุษามณี

ตั้งแต่แสดงมาในเรื่องนี้ ฉากไหนยากที่สุด

โอ้ย ...ย ยากทุกฉาก (เน้นเสียง) ชีวิตชิดชบา เหนื่อยหมดเลยนะ

ครั้งนี้ "หลุยส์" สยาม ลงมือเป็นผู้กำกับเอง เช่นเดียวกับเรื่อง ฟ้าจรดทราย นับว่าเรื่องนี้เข้มกว่าเรื่องที่แล้วไหม

ไม่เลยนะ (หัวเราะ) บอกเลยเรื่อง "ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท" พี่หลุยส์กำกับสบายกว่าเรื่อง ฟ้าจรดทราย มาก อย่างฟ้าจรดทราย เป็นการทำงานที่ต้องแข่งขันกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว อย่างแรกไม่ใช่บ้านเมืองเรา แล้วที่เราไปถ่ายทำ มันก็อันตรายด้วย อย่างพอถ่ายๆ กัน ก็มีทหารเข้ามา แต่อย่างกับการทำงานในเรื่องนี้สบายนะ เพราะว่าเป็นทีมงานที่เราคุ้นเคยกันมา ทั้งทีมงาน นักแสดง

กับบทบาทของ "ชิดชบา" ถือว่าเป็นบทพิสูจน์การพัฒนาฝีมือไปอีกขั้น

บอกเลยว่าเหนื่อยนะ (ยิ้ม)ขวัญขอขอบคุณผู้ใหญ่อย่างมาก ที่ให้ความศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวของขวัญ ว่าขวัญสามารถทำชิ้นงานออกมาไม่เสียของ เพราะว่าบทประพันธ์ทุกเรื่องมีคุณค่าต่อตัวนักประพันธ์เอง ไม่ว่าจะเป็นบทของใคร มีคนรักของบทประพันธ์เหล่านั้น

มุมมองการทำงานในวันนี้
เป้าหมายที่ตั้งไว้

เป้าหมายชีวิตการทำงานของขวัญ อย่างที่ขวัญเคยบอกนะว่า ขวัญอยากสร้างผลงาน ขวัญเข้าใจนะว่า ดาราเป็นคนสาธารณะ ใครๆ ก็อยากรู้เรื่องส่วนตัวของเราหมด ถ้าให้ไปงาน แล้วให้สัมภาษณ์เรื่องเหล่านี้ขวัญไปได้นะ แต่ดารา นักแสดงแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ขวัญอยากนำเสนอออกไป คือเรื่องของผลงาน ขวัญดูพี่ๆ นักแสดงรุ่นก่อนๆ นะ ชีวิตเขาก็ไม่ได้หวือหวาอะไรเลยนะ ซึ่งชีวิตของขวัญเอง ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ อย่างชิ้นมาสเตอร์พีซของขวัญก็คือ ฟ้าจรดทราย มันได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่กลายเป็นปรากฏการณ์ของเราเลย เช่นเวปพันทิป ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่เคยล่มนะ กระทู้ถึงจะแนะนำอย่างไร ก็ไม่ถึง 5 พันกว่านะ ขวัญมีความสุขกับการที่เราถ่ายทำละครลงไป แล้วมีคนจดจำเรา ไม่ใช่ว่าเราถ่ายทำไปแล้ว เขาก็ดูผ่านๆ ไม่ได้ตั้งตารอคอยเรา ความสุขของการเป็นนักแสดง คือการที่มีคนติดตามผลงานของเรา

ผลงานที่เป็นชิ้นมาสเตอร์พีซในมุมมองของขวัญเป็นแบบไหน

คือ ขวัญต้องบอกว่า ขวัญเพิ่งรู้จักคำนี้นะ (ยิ้ม) และเมื่อขวัญรู้จัก ขวัญก็จพยายามทำทุกชิ้นงาน เป็นมาสเตอร์พีซให้หมดนะ สำหรับมาสเตอร์พีซของขวัญก็คือ คนเห็นแล้วคนจดจำนะ เขาตั้งตารอคอย รักในงานของเรา

จากนี้ไปการรับละครแต่ละเรื่องต้องยากขึ้นกว่าเดิมไหม

ไม่หรอกนะ เราเป็นนักแสดง เราก็ต้องเปลี่ยนไปหลายๆ คาแรกเตอร์ หลายๆ บท หลายมิติ พยายามทำให้ดูฉีกจากที่เราเคยเล่นมา ส่วนบทใสๆ ขวัญว่ามันก็ต้องมีบ้างนะ มันก็เป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เราไปข้างหน้า เราก็ต้องย้อนกลับมาข้างหลังบ้าง

ถูกยกตำแหน่งนางเอกเจ้าแม่ดราม่าไปแล้ว

ขวัญขอยกความดีทั้งหมด ให้กับทีมงานและบท เพราะขวัญได้รับบทที่ดี สำหรับขวัญ ขวัญไม่สามารถร้องไห้ได้ ถ้าบทไม่เศร้า และไม่สามารถเล่นได้ ถ้านักแสดงอื่นๆ ไม่ส่งอารมณ์มาให้

ถามถึงชีวิตส่วนตั๊ว ส่วนตัว
เคยอยากลองใช้ชีวิตอิสระบ้างไหม

พี่สาวขวัญก็เคยพูดกับขวัญว่า ลองมาใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียบ้างไหม เพราะว่าเขาไปเรียนต่อที่นั่น เป็นนายตัวเอง ได้ทำอะไรที่อยากทำ เขาก็แนะนำว่าเอาแค่มาลองเรียนภาษาดูก่อน อย่างขวัญ ก็ชอบเรื่องของทำผม ลองมาเรียนดู ลองมาใช้ชีวิตที่ต้องดูแลคนอื่น ไม่ต้องอยู่ในสปอร์ตไลท์ เพราะเราอยู่ที่นี่ มีคนคอยดูแลเรา สำหรับขวัญไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยนะ คือสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันคือตัวขวัญไปแล้ว มันชินกับการที่ขวัญมากอง วันไหนไม่มากอง ขวัญรู้สึกเหงานะ ถึงจะไปที่ร้อนๆ ก็โอเคนะ แต่ขอแค่บ่นเท่านั้นเอง แต่ให้อยู่ก็อยู่นะ

เวลาท้อเวลาเหนื่อยนอกจากแม่ที่คอยให้กำลังใจแล้ว ขวัญให้กำลังใจตัวเองอย่างไร

นอนนะ บอกเลยว่า นอน (เน้นเสียง) ขวัญรู้สึกว่าการที่เรานอน เป็นการที่เราได้อยู่กับตัวเองนะ กลับบ้านนอนกับพ่อ ทุกวันนี้ขวัญนอนกับรูปของพ่อนะ ผู้ชายที่อยู่กับขวัญทุกวัน ก็รูปของพ่อเนี่ยแหละ

ทั้งทำงานและเรียนปริญญาโทไปพร้อมๆ กัน

ต้องบอกว่างงเหมือนกันนะ ว่าเราเรียนจบได้ด้วยหรือเนี่ย (ทำเสียงตื่นเต้น) เพราะชีวิตเราเรียนตลอด ตั้งแต่เตรียมอนุบาล จนถึงมหาวิทยาลัย และชีวิตขวัญ ก็ทำทั้งงานและเรียนไปพร้อมๆกัน พอวันหนึ่ง ขวัญเรียนจบปริญญาตรี แล้วรู้สึกอีกส่วนหนึ่งหายไป แต่ขวัญก็ไม่ได้คิดว่าตัวเอง ต้องจบดอกเตอร์นะ ขวัญคิดว่าถ้ามีโอกาสได้เรียน ขวัญเรียน ขวัญเป็นคนที่มีความสุขนิยมนะ อะไรก็ตามที่คิดว่าเป็นประโยชน์ และเป็นความสุข ขวัญก็ทำ ถามว่าจะเอาอีกสักใบไหม ก็คิดนะ เพราะว่าอีกนิดเดียวเอง จริงๆ เรียนโทไม่ยากนะ ขวัญว่าตอนเรียนปริญญาตรียากกว่า เพราะเป็นช่วงที่เราเปลี่ยนผ่าน จากเด็กมัธยมปลาย มาเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ที่ต้องเริ่มจัดการชีวิตการเรียนของตัวเอง เป็นอะไรที่ยากมาก

เลือกเรียนปริญญาโท เป็นบริหารธุรกิจเพราะกำลังวางแผนทำธุรกิจด้วยไหม

ไม่หรอกนะ ขวัญอยากเรียนคณะนี้ ตั้งแต่ปริญญาตรีแล้ว ซึ่งตอนปริญญาตรี ขวัญสมัครเรียนเป็นภาคพิเศษ แล้วสุดท้ายก็ต้องออกเพราะมีปัญหาเรื่องเวลาเรียน เนื่องจากใช้เวลาเรียน 2 วัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ห้ามขาด ปรึกษาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก็แนะนำว่า ไม่ควรเรียนต่อ เนื่องจากเรามีปัญหาเรื่องของเวลา เราผิดหวัง แต่มันก็คาใจไง อยากเรียนอันนี้ พอจบปริญญาตรีก็เลยต่อปริญญาโทแล้วเรียนอันนี้เลย มันเป็นความใฝ่ฝันของเรา พอได้เรียนก็หายอยากเลย

กับความรักที่อยากให้เป็นความลับ
หลายคนมองว่า ขวัญเก็บเนื้อเก็บตัว โดยเฉพาะเรื่องความรัก

ใช่นะ อย่างเรื่องความรักของขวัญ ที่ไม่ค่อยมีข่าวมากนัก เพราะว่าทุกอย่างมันไม่มีอะไรแน่นอน ขวัญศึกษาคนไปเรื่อยๆ ถ้าใช่เราก็จะรู้ในวันแต่งงาน ถามขวัญว่าวันนี้ขวัญรู้ไหม ขวัญไม่รู้เลยนะ อืม นะ แต่ก็ไม่รู้ไหง (หัวเราะ) ถามว่าคุยกันไหม ยังคุยเหมือนเดิม คุยกันวันสองวัน บางวันก็ไม่ได้คุยกัน คือต่างคนต่างมีความคิดนะ ไม่มีอะไรที่เมกชัวร์ ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างที่บอกว่า ขวัญเป็นคนที่มาตรฐานสูง เพราะฉะนั้้นขวัญรอได้ สำหรับคนที่ชัวร์จริงๆ กับคนนี้ เรายังรู้จักกันไม่ถึง 10 ปีเลย เราต้องศึกษากันไปยาวๆ บางครั้งตัวเราเอง ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเลย

...เติบโตทั้งวัยและความคิด นี่แหละ..."ขวัญ" อุษามณี

เธอชื่อว่า : อุษามณี ไวทยานนท์
ชื่อเล่น : ขวัญ
เกิดเมื่อ : 3 มีนาคม พ.ศ. 2531
การศึกษา : จบปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผลงานที่ผ่านมา : ฟ้าจรดทราย เกิดเป็นหงษ์ หอบรักมาห่มป่า โบ๊เบ๊ หัวใจเถื่อน ฯลฯ
ผลงานล่าสุด : ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท