Inside Dara
‘วาววา’ขอเป็นที่หนึ่งในแบบตัวเอง

สาวหน้าหวาน วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด เป็นนางเอกน้องใหม่อนาคตไกลอีกคนที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากละคร“ซิกเซ้นส์ สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2”

ประเดิมผลงานด้วยการเป็นนางแบบโฆษณา แต่วันนี้สาวหน้าหวาน วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด เป็นนางเอกน้องใหม่อนาคตไกลอีกคนที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากละคร“ซิกเซ้นส์ สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2” ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ ก็ยังมีละครจ่อคิวรออีกเพียบวันนี้เลยขอนัดพูดคุยกับสาววาววา เพื่อให้แฟน ๆ ได้รู้จักกับเธอมากขึ้นแบบทุกซอกทุกมุม ทั้งเรื่องผลงาน การเรียน และเรื่องหัวใจที่หนุ่ม ๆ หลายคนคงอยากรู้

อัพเดทผลงานหน่อย?

“ตอนนี้มีละคร “ซิกเซ้นส์ สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2” ที่กำลังออนแอร์อยู่ ก็สนุกขึ้นเรื่อย ๆ เด็ก ๆ จะชอบกัน เพราะเป็นละครแนวอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ แล้วก็มีละครเรื่อง “รักสุดฤทธิ์” ที่จะออนแอร์คิวเดียวกัน สองเรื่องนี้จะคนละแนวกันเลยค่ะ อย่างซิกเซ้นส์ฯ บทของ “กรรณา” จะห้าว ๆ ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ตัวละครจะปากกับใจไม่ตรงกัน ส่วนรักสุดฤทธิ์ วารับบทเป็นดารา เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ปากกับใจตรงกันมาก มั่นใจในตัวเอง เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก แล้วก็มี “บางระจัน” ที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำ บทน่ารักเหมือนกัน พี่ หน่อง-อรุโณชา น่าจะเลือกจากการได้ดูซิกเซ้นส์ฯ เพราะบทอีแฟงจะห้าว เหมือนเด็กผู้ชายเลย ปีน ป่าย ทะโมน ไม่มีความเป็นกุลสตรีไทยเลยแม้แต่น้อย ตอนหลังก็จะเก่งมาก ตอนนี้ก็เลยต้องไปเรียนเวิร์กช็อปมวยไชยา เรียนดาบอาทมาฏ เรียนขี่ม้า เพื่อไปสู้กับพม่า ตอนนี้แฮปปี้มาก วารักทุกบทเลย แต่ละบทมีเสน่ห์มาก มีคาแรกเตอร์ แล้วก็ไม่เหมือนกันดี”

เห็นถ่ายงานโฆษณามาตั้งแต่เด็ก ๆ?

“ตอนนั้นอายุ 17 ค่ะ ก็ไม่เด็กเท่าไหร่แล้ว เป็นช่วงค้นหาตัวเอง ช่วง ม.6 ก็ลองดูว่าเราชอบอะไรกันแน่ ทำไมไม่มีอะไรที่เกิดมาเพื่อฉัน ลองเล่นกีตาร์มันก็ไม่ใช่ ลองโน่นนี่ก็ไม่ใช่เรา เลยลองไปแคสโฆษณาโน่นนี่นั่น พอทำได้เราก็โอเค บางงานเราก็คิดว่าเราได้ได้ยังไง เพราะคนที่ไปแคสก็มีแต่คนสวย ๆ ทั้งนั้นเลย อย่างที่มาเซ็นกับช่อง 3 ก็มีโมเดลลิ่งบอกให้มาแคสละครเดอะซิกเซ้นส์ฯ นี่แหละค่ะ วามีวันนี้ได้ก็เพราะชลลัมพี ตอนนี้วาไม่มีผู้จัดการ ให้ช่องดูแลค่ะ อย่างโฆษณายาสระผมชิ้นล่าสุดที่ดูสวยมาก วาโชคดีอีกเหมือนกัน วาเคยไปเป็นแฮร์ทาเลนต์ให้กับซูเปอร์สตาร์ของฮ่องกงกับไต้หวัน ไปเป็นแบบผมให้เขา ไปสะบัดผมให้เขา จัดไฟแทนเขา ไปนั่งวัดไฟ แล้วผู้กำกับเขาบอกว่าวาสวยมากวันหนึ่งวาควรจะได้เป็นนางแบบผมจริง ๆ จนวันนี้วาได้มีแฮร์ทาเลนต์ของตัวเอง จากเด็กผู้หญิงที่วันนั้นจัดไฟแล้วได้เงินแค่ 6 พัน แล้วอีกอย่างหนึ่ง มิแรนด้า เคอร์ นางแบบสาวชาวออสเตรเลียที่เป็นไอดอลของวา เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวนี้ แล้วเรฟเฟอเรนซ์เขาเอามาให้วาถ่ายภาพนิ่งก็คือมิแรนด้า วาคิดว่ามันคือที่สุดแล้ว”

คิดไหมว่าวันหนึ่งเราอยากเป็นนางเอกเต็มตัวบ้าง?

“วาอยากได้บทดี ๆ มากกว่า นักแสดงส่วนมากอยากได้บทดี ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นนางเอกเต็มตัว อย่าง พี่ พลอย-เฌอมาลย์ บางบทเขาดีมากแต่ไม่ใช่นางเอก และคนเชื่อในตัวละคร วาไม่ได้วางแผนอะไรกับวงการนี้มาก แค่ทำทุกวันให้ดีที่สุด”

คิดยังไงกับดาราสมัยนี้ที่คิดว่าต้องมีงานอีเวนต์ โชว์ตัว เพื่อไม่ให้กระแสตก?

“วาว่ามุมมองความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน วามีความสุขกับการได้ถ่ายละคร ได้ไปกองทุกวัน คือเรื่องเงินมันก็สำคัญนะ ถ้าเราไม่มีใช้ก็เครียด แต่มันไม่ใช่ความสุขของวาอย่างเดียว อย่างค่าตอนละครมันก็โอเค การเป็นนักแสดงใหม่ค่าตัวก็ไม่ได้เยอะ แต่วาใช้พอ ครอบครัววาใช้พอ แล้ววามีความสุขก็โอเค”

เห็นว่าตอนนี้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครอบครัวด้วย?

“พอมาอยู่ในวงการนี้ก็โชคดี รายได้เราก็โอเค ดูแลแม่ ดูแลน้องได้ แต่จริง ๆ วาทำงานมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนอยู่ ม.5 ก็เป็นครูสอนว่ายนํ้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย แล้วตอน ม.3 วาเคยเป็นเยาวชนทีมชาติกีฬากระโดดนํ้า ตอนนี้วาก็รับผิดชอบค่าเทอมน้อง ค่าใช้จ่ายที่บ้าน ค่าเช่าบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ”

การเรียนเป็นยังไงบ้าง?

“เรียนอยู่ที่รามค่ะ คณะรัฐศาสตร์ ที่เลือกเรียนคณะนี้ เพราะตอนแรกเราไม่รู้ว่าจะเรียนอะไร วาไม่มีความฝัน ตอนเด็ก ๆ คุณครูจะถามว่าอยากเป็นอะไร วาจะตอบตามแพทเทิร์นเด็กผู้หญิงว่า อยากเป็นแอร์โฮสเตส พยาบาล หมอฟัน แต่พอจบ ม.6 วาก็มานั่งคิดว่าทำไมเราไม่มีอะไรที่อยากจะทำเลย แต่โชคดีที่คุณแม่เขาจะส่งเรียนทุกอย่าง เรียนบัลเลต์ ยิมนาสติก ว่ายนํ้า เทนนิส ศิลปะ ฯลฯ คือก็ค่อนข้างทำได้โอเค แต่เราไม่ได้อยากจะทำอะไรสักอย่าง เลยเลือกที่จะไม่เอ็นทรานซ์ เราเครียดมากว่าทำไมเราไม่มีความฝันเหมือนคน อื่น ๆ จนได้มาอ่านหนังสือเดอะซีเคร็ต เขาบอกให้เราคิดบวก มีความสุขกับปัจจุบัน แล้วก็มีความฝัน พออ่านจบสิ่งที่วาขอก็คืออยากเจออะไรที่เราทำแล้วมีความสุข จนวาได้มาแคสติ้งละคร ได้มาถ่ายละคร ก็คิดว่าในที่สุดฉันก็เจอแล้ว จากที่ตอนแรกเราคิดว่าอายุ 40 จะเจอไหมเนี่ย วาเป็นคนที่จะไม่เลือกอะไรไปส่ง ๆ ขอรอเจอสิ่งที่ตัวเองรัก แต่ที่เลือกเรียนคณะนี้เพราะคิดว่ารัฐศาสตร์ เรียนกฎหมาย ประวัติศาสตร์นิด ๆ หน่อย ๆ น่าจะสนุก ที่สำคัญเราอยากเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ เกรดที่ออกมาก็ค่อนข้างโอเค เทอมแรกได้ A ทุกตัว แต่หลัง ๆ เราถ่ายละคร เวลาเรียนก็น้อยลง”

แล้วเรื่องความรักล่ะ?

“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ การมีความรักมันเป็นสิ่งที่ดีมากเลยนะ วาเคยมีมาก็รู้ อย่างถ่าย “บางระจัน” เราไม่ได้อยู่ในยุคนั้นจริง เราสามารถรีเสิร์ชได้ว่า คนยุคนั้นเป็นยังไง พูดจายังไง แต่อินเนอร์เรื่องความรักจริง ๆ ถ้าคนไม่เคยมีมันเอามาใช้ไม่ได้นะ อย่างวาชอบหนังเรื่อง “สิ่ง เล็กเล็ก...ที่เรียกว่ารัก” มันเป็นความรักที่รุ่นน้องไปแอบชอบรุ่นพี่ แล้วมันเข้าถึงทุกคน เพราะทุกคนเคยมีโมเมนท์นั้น ถ้าคุณไม่เคยมีความรักคุณจะไม่เข้าใจว่าแค่การเดินผ่านรุ่นพี่คนหนึ่งแล้วหัวใจเต้นตึกตักมันเป็นยังไง วาเลยคิดว่าความรักมันเป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิตเราด้วย แล้วก็สามารถเอามาใช้ในการทำงานของวาได้ด้วย วาว่ามันเวิร์กมาก กับการที่เราเอาประสบการณ์ที่เคยมีมาใช้”

ตอนนี้มีหนุ่ม ๆ มาจีบไหม?

“ไม่ค่อยมีน่ะซิ ก็งงเหมือนกันว่าควรจะมีบ้างนะ ทำไมก็ไม่รู้ ด้วยความที่วามีความคิดหรือคำพูดไม่ค่อยเหมือนคนทั่ว ๆ ไป เขามาคุยแล้วเลยจะไม่ค่อยกล้าจีบเท่าไหร่ แล้วอีกอย่างพอเข้าวงการก็ถ่ายแต่ละครด้วยแหละค่ะ ไม่ค่อยเจอใคร ตื่นขึ้นมาก็สวัสดี ผู้กำกับ ผู้ช่วย ช่างภาพเหมือนเดิม”

อย่างเล่นละครกับท็อป-จรณ มีกุ๊กกิ๊กกันบ้างไหม?

“ไม่มีเลย แต่ไม่มีนี่ดีแล้วนะคะ อย่างวากับพี่ท็อปเนี่ย มันดีที่ตอนแรกพี่เขาไม่เคยจีบ ไม่เคยคุกคาม ไม่มีอินเนอร์แบบนั้นส่งมาให้เรา เลยทำให้เรากล้าเล่นขึ้น อย่างซีนที่ต้องกอด เราก็สบายใจว่ามันคือละคร พอออกมาข้างนอกเราก็เป็นพี่น้องกัน วาโชคดีมากเลยที่ได้พี่ท็อปเป็นพระเอกเรื่องแรกของวา เพราะพี่เขาสุภาพมาก ถามว่าแฟน ๆ จิ้นไหม วายังจิ้นตัวเองเลย ดูแล้วก็เขิน (หัวเราะ) ส่วนกับพี่เพ็ชร-ฐกฤต ที่มีข่าวก็ไม่มีอะไร วาจะเป็นคนเมาท์มอยไม่เก่ง กับพวกพี่เพ็ชรเขาจะแมน ๆ เขาจะไม่ค่อยเมาท์อะไรเท่าไหร่ เราก็สนิทกัน แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่นะ”

คุณพ่อคุณแม่หวงไหม?

“ตอนแรก ๆ เขาก็หวงนะ แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นธรรมชาติแหละ เราโตเป็นสาวแล้วก็ต้องมีคุยบ้างเป็นปกติ เขาก็เคยผ่านวัยนี้มา”

คติที่ใช้ในการดำเนินชีวิต?

“เราต้องมีความสุขกับปัจจุบัน มันสำคัญที่สุด วารู้สึกว่าตอนนี้เราประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเจอสิ่งที่ทำเงินและทำความสุขให้วาได้ไปพร้อม ๆ กัน เราไม่ต้องประสบความสำเร็จด้วยการเดินขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีแล้วระหว่างทางมันเหนื่อยมาก มันมีความสุขแค่วินาทีนั้นนะ แต่ถ้าเรามีความสุขทุกวินาทีมันฟินกว่า แล้ววาเชื่อว่าโลกนี้มีทรัพยากรพอสำหรับทุกคน เราไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีกับใครเพื่อไปอยู่ในจุดเขา เราสามารถเป็นที่หนึ่งในแบบของเรา แต่คนเนี่ยไปกำหนดก่อนว่าถ้าฉันจะขึ้นเป็นที่หนึ่งได้ฉันจะต้องล้มคนนี้ก่อน ซึ่งมันไม่จริงเลย เราแค่มีความฝัน แล้วสุดท้ายจักรวาลจะจัดให้เราเอง”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?

“วารักในสิ่งที่วาทำ แล้ววาก็จะทำให้ดีที่สุด สำหรับคนที่ทุกคนติดตามผลงานวาก็ขอบคุณมาก ๆ เพราะมันเป็นกำลังใจ และสัมผัสได้ แล้วสุดท้ายวาอยากให้ทุกคนมีความฝัน คิดบวก และมีความสุขมาก ๆค่ะ”

สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ในตัวของวาววา คือพลังแห่งความสุขที่มีอยู่เต็มเปี่ยมและส่งไปถึงคนรอบ ๆ ข้าง ยังไงก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เธอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปนาน ๆ นะจ๊ะ.