Inside Dara
“แพท-เบนซ์” แฮปปี้แล้วจ้า อยู่กันไปเรื่อยๆ แบบไม่ชัดเจนนี่แหละดี ถ้าว่างก็ค่อยมาช่วยเลี้ยงลูก

“แพท” เผย สัมพันธ์กับ “เบนซ์” ดีขึ้น หลังจากที่ไม่ตนไม่ต้องการคำตอบ ไม่เอาอะไร ถ้าว่างก็ค่อยมาช่วยเลี้ยงลูก ทำเบนซ์เลิกเครียดไม่กดดันเข้ามาหาแพทมากขึ้น ลั่นตอนนี้แฮปปี้ถ้าแบบนี้มันดีก็อยู่กันไปแบบนี้แหละ อนาคตจะเป็นยังไงไม่รู้ แพลนพาลูกไปเกาหลีชวนเบนซ์ไปด้วยแต่ฝ่ายชายยังเฉยไม่มีคำตอบ

หลังจากตกเป็นข่าวใหญ่โต “เบนซ์ เรซซิ่ง” อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญ ประกาศหาปืนจะมายิงหัวตัวเอง เพราะกดดันเรื่องข่าวต่างๆ และให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกกดดันที่ “แพท ณปภา ตันตระกูล” ภรรยาให้สัมภาษณ์ ทำให้แพทเองออกมาประกาศเลิก คงสถานะแม่เท่านั้น แต่ล่าสุดเจอแพทก็อุ้มลูกมาร่วมงาน Ten Ten in Town มหกรรมเทน เทน และก๊วนเหมียวนุส บุกเมือง ณ ลานอีเดน ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็พูดถึงความสัมพันธ์ว่าดีขึ้น มีความสุข เบนซ์กล้าที่มาหามากขึ้นเพราะไม่รู้สึกกดดัน เนื่องจากตนเองเลิกหาคำตอบ ในเมื่อมีความสุขแบบนี้ก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ

“ตอนนี้เรซซิ่งพูดเยอะค่ะ แต่อาจจะยังไม่เป็นประโยคพูดเป็นคำๆ ค่ะ อย่างเช่น ไม่เอา No ไม่กิน ไม่ชอบ คือเขาพูดได้หมด เขาสื่อสารได้ แต่เขาอาจจะพูดเป็นประโยคไม่ได้ อย่างเช่น ไม่เอาไม่อยากกินอันนี้ คือเขาพูดไม่ได้ พูดได้แค่ ไม่เอา ไม่กิน ประมาณนี้ค่ะ”

“คุณหมอบอกว่าถ้าสองขวบแล้วยังพูดไม่ได้เลยถือว่าช้าค่ะ ตอนนี้ถือว่าโอเคค่ะ เราก็ต้องบอกให้เขาพูดเยอะๆ คือเราต้องอย่ารู้ก่อนที่เขาจะสื่อสารออกมา เพราะถ้าเรารู้ก่อนแล้วประเคนให้เขาหมด เขาก็จะไม่พูดแล้ว เขาก็จะรู้ว่าแค่แอะเดียวเราก็เอาให้เขาหมด คุณหมอบอกว่า ถ้าอยากให้น้องพูดเยอะๆ ก็ลองให้เขาพูดออกมาก่อนแล้วค่อยหยิบให้เขา”

“คำแรกที่เขาพูดก็คือม่าม๊า ป่าป๊า แต่ทุกวันนี้ก็จำชื่อได้ รู้ว่าคนนี้ชื่ออะไร หรืออย่างไปไหนมาไหนแล้วเขานึกถึงเขาก็จะมานั่งพูดชื่อให้เราฟังว่าคนนั้นทำอะไร คนนี้ทำอะไรอยู่ค่ะ”

ปีหน้า “เรซซิ่ง” เข้าโรงเรียน “แพท” เลือกให้เข้าโรงเรียนอินเตอร์

“ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้องเข้าโรงเรียนน่ะที่น่าหนักใจไม่ใช่น้องนะ เพราะน้องไม่ติดใครเลย ไม่ติดแม่ ไม่ได้ติดใคร คืออยู่กับใครก็ได้ แต่คนที่น่าจะมีปัญหาหนักคือแม่เพราะแม่ติดน้อง ถ้าน้องไปโรงเรียนก็คงจะกังวล เป็นห่วงต่างๆ นานา ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมตัวแล้วค่ะมีให้เรียนยิมเรียนเสริมความรู้ประมาณอาทิตย์ละสองวันค่ะ”

“ตอนนี้ก็ดูไว้ 2-3 ที่ค่ะ เหลืออย่างเดียวคือช่วงเวลาปีหน้าไปดูอีกทีค่ะ ค่าเทอมก็ค่อนข้างสูงก็ด้วยความที่เราเลือกเองว่า อยากให้น้องเรียนอินเตอร์ พอเราจะเรียนอินเตอร์เราก็ต้องยอมรับกับค่าเทอม ซึ่งนั่นก็มาคู่กับคุณภาพก็ต้องแลกกันไปค่ะ”

“จริงๆ ที่เราดูๆ เขาก็เรียนกันใกล้บ้านเขาไม่ใกล้บ้านเรา ส่วนที่ใกล้บ้านเราก็ไม่ไหว ประเด็นมีอยู่แค่นี้ค่ะ ใครๆ ก็บอกว่าลูกต้องเรียนใกล้บ้าน หนึ่งคือลูกไม่เหนื่อยเดินทาง สองแพทเองก็จะได้จัดการเวลาตัวเองได้ ซึ่งก็มีนะไม่ถึงสิบนาทีเลย แต่ไปกับค่าเทอมเขาไม่ไหว (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าเอาไกลออกไปหน่อยก็ได้จะลองเดินทางดู”

ได้ปรึกษากับ “เบนซ์” เรื่องโรงเรียนแล้ว

“คุยค่ะ เราต้องคุยกันอยู่แล้ว คุยกันตลอดอยู่แล้ว เรื่องตอนที่ไปดูโรงเรียนก็ต้องไปดูด้วยกันค่ะ แต่จริงๆ เราเป็นคนเลือกก่อน พอเราเลือกเสร็จก็แค่บอกว่า วันที่ไปก็ไปดูด้วยกัน แล้วคุณค่อยเลือกว่าอยากให้เรียนที่ไหน”

หลังจากที่ตกลงว่าถ้ามีเวลาว่างก็มาช่วยดูลูกบ้าง ทำให้ “เบนซ์” ไม่เครียดไม่กดดันมาหา “แพท” บ่อยขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น เลยคิดว่าถ้ามันดีแบบนี้ก็อยู่แบบนี้แหละ

“เราก็คุยกันตลอดนะคะ ก็คุยเหมือนเพื่อนกันไปแล้ว เขาก็ยังไม่แน่ใจ แพทก็เลยบอกว่าถ้ายังไม่แน่ใจก็อยู่อย่างนี้ไปก่อน ก็ไม่ต้องมาถามหาคำตอบหรืออะไร ก็ไม่ต้องเอาอะไรเลยอยู่อย่างนี้ไป พอเราบอกไปอย่างนี้เขาก็สบายใจมากขึ้นที่จะคุยกับเราเยอะขึ้นและหาเราบ่อยขึ้น มันเป็นในทางบวกหมดเลย เราแฮปปี้หมด ตอนนี้ก็เลยคิดว่า ถ้ามันมาในทางนี้แล้วมันดีก็อยู่อย่างนี้แหละ ส่วนต่อไปจะแบบไหนยังไงเราก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าเอาที่เราสองคนแฮปปี้ตอนนี้คือช่วยกันเลี้ยงลูก มีเวลาก็ช่วยกันเลี้ยง นัดเจอกันหรือไม่ก็พี่เบนซ์เลี้ยงน้องวันที่แพททำงานอะไรแบบนี้”

ชวน “เบนซ์” มาจอยด์กัน มาเลี้ยงลูกพร้อมกัน

“ช่วงหลังนี้เขาไม่ค่อยได้เจอ เพราะก่อนหน้านี้พอน้องว่างพี่เบนซ์ก็ไปปฏิบัติธรรม พอพี่เบนซ์กลับมาเผอิญวันพุธหน้าเราบินเกาหลีกับลูกมันก็จะสวนกัน เราก็เลยตัดปัญหาว่างั้นไม่ต้องรอให้เราเอาลูกไปให้สิ ก็มาจอยด์กับเราก็ได้ เพราะกว่าจะได้เจอมันอีกนานนะ เพราะแพทก็อยากเลี้ยงลูก วันที่แพทว่างแพทก็อยากอยู่กับลูกเหมือนกัน แล้วถ้าอย่างนั้นวันที่คุณว่างคุณก็อยากเลี้ยงลูกเหมือนกัน แต่วันที่คุณว่างเยอะกว่าวันที่แพทว่างไง ฉะนั้นก็แชร์กันตรงที่ว่ามาจอยด์กับเราไหม มาจอยด์กับลูกไหม”

“ถามว่าเขาติดลูกไหม มันพูดยากค่ะ คือเรื่องติดเนื่องจากว่าเราอยู่กันมานานกว่าค่ะ และใช้ชีวิตด้วยกันเยอะกว่า จริงๆ พี่เบนซ์เขาก็คงอยากใช้ชีวิตกับน้องเยอะกว่า แต่เผอิญว่าคนที่แพลนเป็นเรา เพราะเราก็บอกแล้วว่าคนที่แพลนเป็นเราก็น่าจะเวิร์คกว่า”

ชวน “เบนซ์” ไปร่วมทริปเกาหลีตั้งแต่ตอนยังอยู่ในเรือนจำ แต่เบนซ์เฉยๆ

“พี่เบนซ์ไปไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ชวนไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ ชวนตั้งแต่เขายังไม่ได้ออกมาด้วยซ้ำ เพราะแพลนนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นตอนพี่เบนซ์ออก แพลนมันเกิดขึ้นตั้งแต่เขาอยู่ข้างใน ยังไม่รู้ด้วยว่าเขาจะได้ออกหรือเปล่า เป็นแพลนที่เราตั้งใจไว้อยู่แล้ว เพราะเราไปทุกปี เขาก็เฉยๆ นะคะ”

“เบนซ์” หายเครียดแล้ว เพราะ “แพท” ไม่ได้คาดหวังคำตอบ สังคมก็เลยไม่ได้คาดหวังคำตอบให้กดดัน ทำให้ตอนนี้อยู่กันอย่างมีความสุข

“แพทว่าพี่เบนซ์ไม่ได้เครียดแล้วแหละ เรื่องความเครียดคงไม่ได้มีมากไปกว่าเดิม เพราะทุกอย่างมันชัดเจนมากขึ้น มันเหมือนทุกคนก็ไม่ต้องมานั่งรอคำตอบ ทุกคนไม่ต้องมาคาดหวังคำตอบ พอมันไม่จำเป็นต้องมีคำตอบแล้วมันก็เลยน่าจะเป็นหนทางที่เขาเองก็ไม่ต้องคิดมาก ตัวแพทเองก็ไม่ต้องคิดมาก สังคมก็ไม่ต้องมานั่งรอคำตอบ สังคมก็ไม่ต้องมานั่งกดดันว่าทำไมถึงยังไม่มีอะไรให้เราได้ฟังกันให้มันชัดเจนกว่านี้ ณ ตอนนี้พอมันชัดเจน ทุกคนไม่ต้องมานั่งรอฟังคำตอบ เราก็อยู่กันอย่างมีความสุข”

เผย คุณแม่ของเบนซ์ เป็นคนพาไปปฏิบัติธรรม

“คุณแม่พี่เบนซ์เขาพาไป ซึ่งแพทก็ว่าดีมากๆ ตอนนี้ก็แฮปปี้มากค่ะ เราก็จอยด์กันมากขึ้น เราคุยกันมากขึ้น พี่เบนซ์ก็ไม่ต้องกลัวในการที่ทุกคนต้องมาคาดหวัง ไม่ต้องกลัวตัวเราเองที่จะคาดหวัง พอมันตัดตรงนั้นไปได้ทุกอย่างก็ดีขึ้นมันก็ดีขึ้นมากๆ ค่ะ อย่างที่บอกตอนนี้ในส่วนของแพทก็สบายใจมากขึ้นที่ไม่ต้องมานั่งเจอคอมเม้นท์อะไรประหลาดๆ หรือมานั่งตอบคำถามอะไรที่มันไม่มีคำตอบน่ะค่ะ ณ วันนี้พอเราชัดเจนมากขึ้นทุกอย่างก็จบลงด้วยดี”

แฟนคลับแฮปปี้ที่เห็นเบนซ์มากดไลค์ภาพ

“ก็ดีค่ะ มันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่น่ารัก คือคนมีลูกด้วยกันและลูกยังเล็ก เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่คุยกัน ไม่มีทาง ”