Inside Dara
'กระแต' เซ็กซี่ รักล่มแล้ว ใครเข้าวิน?

กระแต-ศุภักษร ไชยมงคล กระโตง กระเตง หอบ “หัวใจ” ลอยลม ตาม หารัก หลังจากเธอแขวนเต้าพักเซ็กซี่ หันไปมีความรัก กับ หนุ่มเกิ้น เธอก็เมินการโชว์เต้าไปชั่วขณะ ปากเธอบอกว่า “ไม่มีใครขอให้งดโชว์” แต่คนลือหึ่ง!! ว่าที่ไม่ถ่ายเพราะเกรงใจแฟน ซัมเมอร์ที่แล้ว...กระแต เลยขอหลีกทางให้ “เต้ารุ่นน้อง” แซงหน้า เพราะเธอรู้ว่าถนนสายเซ็กซี่ “กระแตเก๋า” จะกลับมาเขย่าบัลลังก์เมื่อไหร่ก็ได้

ซัมเมอร์นี้ กระแต กลับมาทวงเวที “เขย่าเต้า” อย่างสมศักดิ์ศรี แถมด้วยหัวใจ “โสด” เหมือนเป็นความบังเอิญ เลิกกับ เกิ้น ปุ๊บ ลุกถ่ายชุดว่ายน้ำปั๊บ หนังสือ “RUSH” เป็นคนแชะภาพประทับใจ เลยหนีไม่พ้นข้อหา “ถ่ายประชดแฟนเก่า” ให้รู้สึกเสียดาย “ความสวย-ความสาว” ที่เขา (คนนั้น) ไม่ได้ครอบครอง แต่หนุ่มอื่นๆได้มองเพลิน!

แต่เชื่อว่า “แฟนเต้า” เอ้ย! “แฟนคลับ” ไม่ติดใจเอาความอะไร กระแต จะถ่ายเพราะ “อกหัก” หรือ “รักเลิก” ไม่เคยสนใจ รู้เพียงแค่ว่า แฟชั่นเซตนี้ กระแต พร้อมโชว์ “อกโตงเตง ต้องตา ตรึงใจ” ซะเหลือเกิน!

งง...กันล่ะสิ สาวสวย หุ่นเซ็กซี่ แถมมี อกภูเขาไฟ แต่ทำไม “เลิกแฟน” เพราะรักเป็นความรู้สึกยาก... ที่จะบังคับกัน “หัวใจ” เป็นดินแดนเร้นลับ ที่ซับซ้อน แต่ กระแต ก็คิดมาแล้วว่า “หากรักแล้วไม่สุข” เธอก็พร้อมที่จะทำใจ กระแต เป็นสาวทรงโตบุคลิกแสนเปรี้ยว แต่เธอนิยม รักแล้ว รักเลย และ รักนาน ไม่ใช่รักฉาบฉวย ซ้วบ... ซ้วบแบบวัยรุ่นแล้วก็ชิ่งกันไป ประวัติเลิฟที่จำได้ ทำเนียบแฟน กระแต มี เอ็กซ์–ธิตินันท์ ที่คบกันนานสองนาน แต่สุดท้ายก็เลิกรากันไปแบบไม่เหลือเยื่อใย ตามมาด้วย กอล์ฟ–ฐิติพันธ์ ไฮโซหนุ่มที่ตอนนี้ไปเป็นแฟน สาวหมวย ได๋–ไดอานา และ หนุ่มเกิ้น–อิทธิ เจ้าของรีสอร์ตภูเรือ จ.เลย

ตอนที่เป็นแฟน หนุ่มเกิ้น ก็รักหวาน เกิ้น ดูแลเอาใจ ตอนกระแต ไปเที่ยวที่รีสอร์ต เกิ้น ก็พาซ้อนมอเตอร์ไซค์ชมนกชมไม้แสนโรแมนติก รัก 3 ปี กระแต–เกิ้น เกินห้ามใจ ถือเป็น “คู่รักหวาน” ที่มดบอกว่าหวานม้าก...ก ถามกี่ทีเธอก็บอกว่า ความรักเรื่อยๆ ก็ดีค่ะ ใครๆก็พากันอิจฉาว่า กระแต นี่รักสงบ ไม่มีข่าวเสียหาย รักหวานอยู่ดีๆ แต่จู่ๆกลับมีข่าวว่า กระแตรักร้าง ทั้งๆที่ในปีนี้ ปีมังกร กระแต–เกิ้น ถูกวางไว้เป็น “คู่รัก” ที่มีแวว วิวาห์ แต่กลายเป็นว่ารักจบอย่างสงบ กระแต เลิกเกิ้น คนแทบไม่รู้ แต่พอไปถามถึงความรัก กระแต ถึงยอมเปิดปากว่า “เลิกกันแล้ว” โดย เธอสรุปว่า รักครั้งนี้ลดสถานะ และใส่เกียร์ถอยมาเป็นเพื่อนพี่น้องกันสัก 4–5 เดือน ก่อนระบุคำว่าเลิกกันมาแล้ว เธอยืนยันว่าไม่มี “มือที่สาม” กั้นกลางระหว่างรักเธอ

คนเลยตั้งข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์รักร้าวของเธอ รักแท้น่าจะแพ้ระยะทาง กรุงเทพฯ–เลย รักเลยผ่านพ้นไป แต่ กระแต ก็บอกว่าระยะทางไม่ใช่สาเหตุ เพราะ เกิ้น ไม่ได้ อยู่ จ.เลย ตลอดเวลา ชีวิตอยู่กรุงเทพฯก็ยาวนาน เพียงแต่ว่า “รักห่าง” ไปตามกาลเวลา งั้นน่าจะเป็นปัญหา “หมด โปร หมดใจ” ที่ใครๆก็มักเป็นกัน!

จากเคยรักหวาน มองตากันหยาดเยิ้ม แต่พอ “รักหมดโปร” มันไม่เหมือน “รักหมดใจ” กลายเป็นพอมองหน้าแล้วไม่ซึ้ง กระแต รู้สึกว่ารักเรามันไม่เหมือนเก่า เธอเลยขอหยุด...รัก ก่อนที่จะพบว่า เธอไม่ใช่คนที่ฉันฝันถึงอีกต่อไป เลือกที่จะเลิกกัน ก่อนจะ “รั้งรักไว้” แต่ตื่นมาพบกับความจริงว่า เราเข้ากันไม่ได้ พาลเกลียดขี้หน้ากันเปล่าๆ

กระแต เป็นสาวใจเด็ด เธอเปิดทางให้ เกิ้น พบรักใหม่ คนที่ใช่มากกว่าเธอ “เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เหมือนกับการให้ โอกาสซึ่งกันและกัน เราคิดว่าเค้าเป็นคนดี น่าจะไปเจอคนที่เค้ารักจริง ชอบจริงๆ” ทุกวันนี้ กระแต กับ เกิ้น ยังรู้สึกดีๆต่อกันอยู่

เลิก เกิ้น พร้อมกับมีข่าว หนึ่ง นักร้องวง อีทีซี กระแต เลยหนีไม่พ้น ตกเป็นข่าวหาว่าเป็นสาวหลายใจ แต่ กระแต ยืนยัน นอนยันว่า กับ หนึ่ง ไม่ใช่ “มือ ที่สาม” ทำให้เธอตัดสินใจเลิก เกิ้น เพราะ กระแต กับ หนึ่ง เป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ใจ เธอไม่กลัวใครมองแย่ๆ สัมพันธ์ หนึ่ง เป็นแค่ “คนบ้านเดียวกัน” ชาวเชียงใหม่เหมือนกันสนิทกันมา 5-6 ปีแล้ว

ช่วงนี้ กระแต อยู่ในความสัมพันธ์แบบเปิด ขอโสดสักพัก มีแฟนมานานอึดอัด “แฟนคลับ” ก็อึดอัด ช่วงนี้พอเธอโสด ความสดก็กลับมา ทำให้เหล่า “แฟนคลับ” มอง กระแต ได้นาน และมองเพลินเกินห้ามใจ!

“พอลล่า”เป็นแม่เหนื่อย แต่สุขใจที่สุด

หลังจากหายหน้าไปเลี้ยงน้อง “ไลลา” อยู่พักใหญ่ ล่าสุดนางเอกสาว พอลล่า เทเลอร์ ก็กำลังเปิดเว็บไซต์ “พอลล่าแอนด์เบบี้” (www.paulaandbaby.com) เพื่อแชร์ประสบการณ์เลี้ยงน้องให้แก่คนอื่น ๆ ได้รับรู้ นอกจากนี้เจ้าตัวยังแย้มว่ากำลังจะมีผลงานในวงการบันเทิงอีกครั้งด้วย มีทั้งหน้าที่คุณแม่ที่ต้องรับผิดชอบ บวกกับต้องทำงานที่ตัวเองรัก งานนี้เลยต้องฉกตัวสาวพอลล่ามานั่งคุยสักหน่อยว่าชีวิตตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง


ทำไมถึงมาทำเว็บไซต์นี้ได้?

“ตอนนั้นที่อุ้มท้อง “ไลลา” อยู่ ก็กลัวว่าจะไม่มีอะไรทำและเราเองก็ใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตเยอะมาก เลยรู้สึกเสียดายเวลา อยากทำอะไรที่มีประโยชน์ เลยทำให้อยากทำเว็บไซต์นี้ขึ้นมา ซึ่งพอทำแล้วก็รู้สึกสนุกนะ มันก็ยากกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่าแค่เขียน ๆ ไปแต่ความจริงแล้วมันต้องหาข้อมูล คอยอัพเดทเรื่อย ๆ ก็เยอะเหมือนกัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายดี แล้วเราก็ทำเป็น 4 ภาษาด้วย ทั้งไทย จีน ฟิลิปปินส์ และอังกฤษ มันเลยยิ่งยาก ต้องให้คนช่วยแปล แต่ก็สนุก จริง ๆ ค่ะ ข้อมูลบางทีก็มาจากเพื่อน หลายอย่างก็มาจากประสบการณ์ ตัวเอง อย่างเราจะแนะนำอะไร เราก็ใช้เองแล้วบอกว่าดีตรงนี้นะ ซึ่งเว็บไซต์นี้เนื้อหาหลัก ๆ ก็ตามชื่อเลยค่ะ “พอลล่าแอนด์เบบี้” ดังนั้นก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับน้องเยอะ แต่ว่าคนที่ยังไม่มีลูกก็ดูได้เหมือนกัน เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นด้วย เราก็ชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ ส่วนฟีดแบ็กก็ดีนะ เพราะเริ่มเดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็มีคนมาดู 5 หมื่นกว่าคนแล้ว ก็แฮปปี้ค่ะ”


แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างกับบทบาทของคุณแม่?

“ก็สนุกดี มันเป็นเรื่องที่ท้าทายอีกแบบนึง เพราะเป็นอะไรที่เหนื่อยจริง ๆ ยอมรับเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะบอกมีลูกแล้วชีวิตจะเปลี่ยนนู่นนี่ แต่ก็ไม่มีใครบอกเลยว่ามันเหนื่อยมาก (หัวเราะ) แต่ก็สนุก ถามว่าเอ็ดเวิร์ดมีช่วยเลี้ยงน้องมั้ย ก็มีนะแต่ส่วนมากเขาจะเล่น อย่างน้องกำลังจะนอน แต่พอเห็นหน้าพ่อปุ๊บน้องก็จะเล่นเลย”


พัฒนาการน้องไลลาเป็นอย่างไรบ้าง?

“เร็วมากเลยค่ะ ตอนนี้กำลังยืนตลอด ไม่ยอมนอน ไม่ยอมนั่ง เหมือนขาเขายืนได้แล้วก็อยากจะยืน ซึ่งตอนนี้เราก็พยายามสอนให้เรียก “มามี้” “แด๊ดดี้” อยู่ คือแข่งกันค่ะ พอแม่ไม่อยู่ พ่อเขาก็พยายามให้เรียกแด๊ดดี้ ๆ ก็อยากให้เราเป็นคนแรกที่เขาเรียกชื่อได้กันค่ะ (หัวเราะ)”


เคยคิดมั้ยว่าวันนึงต้องมาทำหน้าที่คุณแม่?

“ก็รู้ว่าต้องทำล่ะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน เหมือนว่าตอนเราเด็ก ๆ เราก็ใฝ่ฝันว่าอายุเท่านี้เราจะทำแบบนี้ คือนั่งคุยกับเพื่อนว่าอายุเท่านี้เราจะซื้อรถ อายุเท่านี้เรา จะซื้อบ้าน แล้วก็แต่งงาน ตามที่หวังไว้ ก็คือจะแต่งงานตอนอายุ 27 ปี จากนั้นก็มีลูก แต่พอเราโตขึ้น พอได้มาทำงาน เราก็ไม่ได้คิดแล้วว่ามันจะเป็นเหมือนที่คิดไว้ตอนเด็ก เราก็ทำงานอย่างเดียวเลยไม่ได้คิดเรื่องพักไปมีครอบครัว แต่พอทุกอย่างมันมา มันก็มาแบบปุ๊บปั๊บเลยค่ะ ก็เลยให้มันเป็นไปตามนั้น แต่พอเรามานั่งคิดย้อนไป ก็รู้สึกว่ามันก็เหมือนอย่างที่เราวาดไว้ตอนเด็กเหมือนกันนะ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราเคยฝันไว้เลย”


พอมี “ไลลา” ก็เหมือนเป็นการเติมเต็มให้เรากับเอ็ดเวิร์ด?

“ใช่ค่ะ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก เราจะมองกันแล้วก็บอกว่าของเรานะ เราทำกันนะ (หัวเราะ) คือน้องเป็นแรงบันดาลใจในการทำทุกอย่างของพอลล่าเลย พอเราทำงานเหนื่อย ๆ เห็นหน้าเขา เราก็หายเหนื่อยเลยค่ะ” ได้วางอนาคตของ “ไลลา” ไว้ยังไงบ้าง?

“อยากให้เขาเป็นคนดีและแฮปปี้ แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น ไม่ว่าเขาอยากจะเป็นอะไร อยากครองโลกหรือจะขายก๋วยเตี๋ยว อะไรก็ได้ แต่ขอแค่เขามีความสุขและเป็นคนดีค่ะ ส่วนเรื่องการหาที่เรียนให้น้องตอนนี้ก็ยังนะ เหมือนเราก็ให้น้องเรียนว่ายน้ำ เรียนเป็นคลาสเล็ก ๆ ก่อน เพราะเขาก็เพิ่ง 9 เดือนเอง แต่ก็ต้องเริ่มแล้วล่ะ จริง ๆ เราเองก็ยังอยู่ ไม่นิ่งเลย อาจจะไปสมัครเรียนไว้ 2 ที่แล้ว แต่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนค่ะ ยังไม่รู้เหมือนกัน”


เห็นว่า “ไลลา” กำลังซนเลย ต้องระวังอะไรเขาเป็นพิเศษมั้ย?

“ตอนนี้น้องเจออะไรก็เอาเข้าปากหมดเลย ต้องระวังว่าเราวางอะไร แต่ก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรแรง ๆ นะ จะมีแค่เรื่องล้ม อะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็โอ๋เขานะ แต่สำหรับพอลล่าแล้วการที่น้องล้มก็โอเค เพราะว่ามันจะเป็นบทเรียนรู้นิด ๆ หน่อย ๆ ให้เขา แล้วมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย เราไม่ได้แบบล้มแล้วสมน้ำหน้า อันนี้ไม่ใช่ เราจะบอกเขาว่าถ้าล้ม ก็ไม่มีอะไรนะ เราทำแบบนี้แล้วมันเจ็บนะ คราวหลังไม่ทำแล้วนะ เราไม่ได้ถึงขนาดห้ามเขาเดินล้ม มีสำลีคอยรับตลอด อันนี้พอลล่าว่า มันเว่อร์ไปค่ะ คือพอลล่าจะเลี้ยงลูกค่อนข้างก็ลุย ๆ ปล่อยให้ลองดูเองว่าเป็นยังไงบ้าง น้องเขาเหมือนติดเราและเราก็รู้จักน้องเขามากที่สุด เลยอยากให้อยู่กับเรา เพราะว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็เอาน้องอยู่ ลูกเราก็ต้องอยู่กับเรา แต่ว่าเวลาที่เขาอยู่กับพ่อก็สนิทกับพ่อนะ แต่ว่าถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้น เช่น น้องร้องไห้ เขาก็จะหันมาหาเรา”


มีแพลนจะมีทายาทคนที่ 2 หรือยัง?

“มีค่ะ แต่ว่าคงทำงานไปอีกสัก 2 ปีก่อน ก็รอเพื่อน ๆ อยู่ค่ะ พวกเขากำลังแต่งงานกันเลย ให้เขามีลูกก่อน เดี๋ยวเราแซงไปหมด”


ทั้งงานทั้งเลี้ยงลูกแบ่งเวลายังไง?

“ยังฝึกอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าต้องแบ่งยังไง (หัวเราะ) ก็พยายามอยู่ เราก็แบบว่าพอเอ็ดเวิร์ดบ่นคิดถึงลูก เราก็โอเคบินกลับสิงคโปร์ พออยู่ที่นู่นแล้วงานเข้าเราก็กลับมา ตอนนี้ก็บินเป็นว่าเล่นอยู่แถวนี้ ที่จริงหลัก ๆ พอลล่าอยู่ที่สิงคโปร์นะแต่ตอนนี้อยู่ที่ไทยมากกว่า เพราะว่ามีงานอยู่ที่นี่ แล้วบางทีเอ็ดเวิร์ดก็มาเยี่ยมที่ไทยบ้างค่ะ”


ตอนนี้จะกลับมามีผลงานในวงการหรือยัง?

“มีค่ะ มีถ่ายโฆษณากับน้องด้วยนะ น่ารักมาก คุณพ่อเขามองดูแล้วภูมิใจมาก แต่จะเป็นโฆษณาอะไร เดี๋ยวรอดูกันค่ะ ไม่นานนี้ คือพอลล่า ว่ามันเป็นยี่ห้อที่ดี ที่เราก็ชอบอยู่แล้ว เขาบอกมาเราก็โอเคเลย ซึ่งจริง ๆ เรื่องติดต่อน้องถ่ายโฆษณานี่มีมาเรื่อย ๆ เลยนะคะ ตั้งแต่ก่อนคลอด แต่เราก็คิดว่ารอให้คลอดก่อนมั้ย อยากเห็นหน้าน้องก่อนมั้ย (หัวเราะ) ส่วนเรื่องงานละคร เร็ว ๆ นี้อาจจะมีข่าวดี กำลังรอสรุปก่อน เดี๋ยวรีบมาบอก”


ก่อนแต่งงานพอลล่าฮอตมากเลย กลัวมั้ยว่าหลังจากมีครอบครัวแล้วจะไม่ดังเท่าเดิม?

“พอลล่าคิดว่าคงไม่ต้องเหมือนตอนนั้น ถ้ากลับมาแล้วเหมือนตอนนั้นคงยากแหละ เพราะทุกอย่างทั้งวัย ทั้งเทรนด์ ก็เปลี่ยน มันเป็นเรื่องธรรมดานะ เราอยู่มานานแล้วจะให้เป็นเหมือนเดิมก็ไม่ได้หรอก มันต้องมีการพัฒนา เราก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่เราไปมีครอบครัว คือ กลับมาเขาจะสนใจเราหรือเปล่า แต่แค่ทุกวันนี้ที่ทุกคนยังให้ความสนใจบ้าง เราก็รู้สึกโอเคแล้ว จริง ๆ กลับมาวงการบันเทิงครั้งนี้ พอลล่าไม่คาดหวังเลยนะ แต่ทุกอย่างที่ได้มาตอนนี้ เราก็ถือว่าเราโชคดีและก็รู้สึกแฮปปี้แล้วค่ะ”


ถ้าเรากลับมาทำงานในวงการเวลาเราก็จะน้อยลงไปอีกนะ เอ็ดเวิร์ดว่ายังไงบ้าง?

“เราก็มีคุยกัน เขาก็โอเคนะเราก็บอกเขาว่าก็ไม่ได้ทำแบบนี้ตลอด เหมือนเราได้โอกาสก็ถือว่าดี แต่จริง ๆ เขาก็ชอบที่จะเห็นเราทำงาน วันที่เราไปถ่ายโฆษณาเขาก็บอกว่าภูมิใจมาก เหมือนเขาก็ชอบดูค่ะ”


ในอนาคตอยากให้ “ไลลา” เป็นนักแสดงเหมือนเราหรือเปล่า?

“ถ้าเขาอยากเป็นเดี๋ยวเราจะช่วยค่ะ เช่น ช่วยดูงานให้ แต่ว่าจะบังคับให้เขามาเป็นคงไม่ เพราะงานอยู่ในวงการบันเทิง พอลล่า ว่ามันเป็นอะไรที่เฉพาะคน ไม่ใช่ทุกคนทำได้ มันเป็นอะไรที่เหนื่อย แล้วเราต้องเฟรนด์ลี่ ยิ้มแย้ม ต้องดูก่อน โตขึ้นเขาอาจจะอยากเป็นนักธุรกิจก็ได้ เราก็ไม่รู้ค่ะ แต่ถามว่าเขามีแววนักแสดงมั้ย เขามีค่ะ มองกล้องตลอด ต้องดูตอนถ่ายงาน อายุ 9 เดือนนี้เว่อร์มาก (หัวเราะ)”


รู้สึกยังไงบ้างที่ต้องทำงานด้วยและเป็นคุณแม่ด้วย?

“พอลล่ายังถือว่าโชคดีที่เรามีคนช่วยเราได้ เช่น มีพี่เลี้ยงแต่พอเรามาทำตรงนี้ก็เลยรู้ว่า บางคนที่เป็นแม่แบบไม่มีพี่เลี้ยงช่วยเขาทำงานเองด้วย เลี้ยงลูกเองด้วย พอลล่าคิดว่าพวกนั้นเป็นซูเปอร์ มัม จริง ๆ ค่ะ”


มองอนาคตข้างหน้าไว้ยังไงบ้างมั้ย

“ก็ไปเรื่อย ๆ ค่ะ คิดว่ายังเต็มที่กับชีวิตได้เหมือนทุกวันนี้ค่ะทำนู่นทำนี่แบบนี้แหละค่ะ”


เมื่อพูดคุยเสร็จ บอกได้คำเดียวเลยว่า แม้พอลล่าจะมีครอบครัวแล้ว ก็ไม่ทำให้ความน่ารักของเธอลดลงเลย.


"โบ"ชีวิตรักหวาน-ชม "เพชร" เป็นสุภาพบุรุษเข้ากับ"อชิ"ได้

เมื่อ 24 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่นักแสดงหนุ่ม ‘เพชร’กรุณพล เทียนสุวรรณ ออกมาเปิดใจว่าคบหากับพิธีกรสาว ‘โบ’ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ล่าสุดก็ถึงคิวของสาว ‘โบ’ ออกมาเผยความสัมพันธ์ โดยกล่าวระหว่างมาร่วมงานเปิดโครงการ "The Walk ราชพฤกษ์" ที่เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ว่า “ก็ดีค่ะ แฮปปี้ดี เรียบๆ เรื่อยๆ”

ต่อข้อถามว่าจะมีโอกาสเห็นใส่ชุดเจ้าสาวอีกครั้งไหม พิธีกรสาวร้องเสียงหลง “โอ้โห...เพิ่งจะบอกว่าคบกันเองค่ะ”

เริ่มดูใจกันนานหรือยัง “เรารู้จักกันนานแล้ว แต่ช่วงที่มาเปลี่ยนสถานะเป็นช่วงน้ำท่วม พี่เขามากับน้ำค่ะ ถามว่าอะไรที่ชนะใจเรา คงเป็นตรงที่เขาเป็นคนสุภาพ เป็นสุภาพบุรุษ เวลาอยู่ด้วยแล้วทำให้เราสบายใจ เป็นคนเรียบง่าย ลุยก็ได้ หรูก็ได้ และจิตใจดีมาก”

‘เพชร’ บอกว่าชอบตรงที่โบมีความเป็นแม่สูง ตรงนี้รู้สึกอย่างไร โบยิ้มก่อนเผยว่า รู้สึกมีกำลังใจ ที่มีใครหรือว่าพี่เพชรบอกว่าเราเลี้ยงลูกได้ดี ก็เป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรงนี้ อยากทำให้ดีๆ ขึ้นไป พี่เพชรเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ให้กำลังใจตน หน้าที่ของคนเป็นแม่ค่อนข้างหนัก พอมีกำลังใจที่ดี เราก็มีกำลังใจที่จะทำหน้าที่ที่ดีต่อไป

ตกใจไหมตอนเพชรออกมายอมรับว่าคบกัน “ไม่ตกใจค่ะ เพราะทราบอยู่แล้ว ถามว่ามีการคุยกันก่อนมั้ยว่าจะตอบอย่างไร ก็คุยกัน มีอะไรพูดไปตามความจริง ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะโตกันแล้ว ทุกอย่างไม่ได้คิดจะปิด อยากเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ”

ดูชีวิตสดใสขึ้น “ดีค่ะ ก็มีความสุขขึ้น”

น้องอชิ ลูกชายว่าอย่างไรบ้าง โบกล่าวว่า “กับน้องก็เข้ากันได้ดี เพราะพี่เพชรเป็นสุภาพบุรุษ เวลาอยู่ด้วยเขาก็เล่นได้และสอนน้องไปได้ด้วย”

มองการณ์ไกลถึงการใช่ชีวิตคู่ไหม พิธีกรสาวตอบ “อยากทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด มองแต่ละวันมากกว่าว่าแต่ละวันต้องทำอะไร ทำหน้าที่อะไร เพื่อให้คนรอบข้างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตัวเรา คู่ของเรา หรือครอบครัว ทุกคนต้องมีความสุขด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องของอนาคต ความฝันหรือความหวังของแต่ละคนต้องมี

แต่ถ้าเราคาดหวังมากเกินไปมันก็ไม่ได้มีประโยชน์ บางทีกลับเป็นการทำร้ายด้วยซ้ำ ทำทุกวันให้มีความสุข เรียนรู้กันไป ถ้าใช่ก็ไปในทางที่ดี แต่ถ้าไม่ใช่อย่างน้อยก็เปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”

ได้คุยกันถึงเรื่องแต่งงานกันบ้างไหม “ตัวเราทัศนะมองในเรื่องการแต่งงานคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ การที่เราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตที่ดี เข้าใจกัน ทำดีต่อกันเสมอต้นเสมอปลายนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า ชีวิตคู่ต้องมีอะไรหลายๆ อย่างประกอบกัน เรื่องการแต่งงานจะจัดวันไหนก็ได้ เราต้องทำตรงนี้ให้พร้อมก่อน”

ข่าวว่าตอนนี้หวานมาก เพชรเรียกโบว่าที่รัก เจ้าตัวหัวเราะก่อนกล่าวว่า “เวลาคนรักกันก็มีคำเรียกเนอะ”

ถ้าอนาคตมีโอกาสเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ กลัวจะกลับมาเป็นเหมือนครั้งก่อนไหม “จริงๆ การที่ตัดสินใจจะคบกับเขา เราก็ไม่ได้กลัวอะไรแล้ว เพราะเลือกแล้ว ถ้าเราเลือกที่จะเดินไปกับใครสักคน หรือเรียนรู้จะศึกษากัน อะไรจะเกิดขึ้นค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ทำทุกวันให้ดีและจริงใจต่อกันค่ะ”