Inside Dara
ไก่ วรายุฑ รักกับพระเอกดังนับ10ปี และจะอยู่แบบนี้ไปจนวันตาย

ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา ถ้าพูดชื่อขึ้นมา เครื่องหมายการค้าของคนนี้คือ หรูเริ่ด อลังการ ดาวล้านดวง นั่นคือสิ่งที่คนรู้จักกันในเรื่องของงานละคร ที่วันนี้พร้อมจะมาเปิดเผยเรื่องราวความรักในหัวใจ ที่อาจจะไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อน กับ 3 พิธีกร พี่ฉอด, พี่อ้อย, พี่อั๋น ในรายการ คลับฟรายเดย์โชว์ ทางช่อง GMM25 โดยพี่ไก่ได้เล่าว่า

เรื่องความรักปกติ เป็นคนที่รักใครก็ได้ อยากรักก็รัก ไม่อยากรักก็ไม่รัก เราเคยมีความรักแบบหญิงชายมาก่อนสมัยอยู่ช่างศิลป์ มีแฟนเป็นผู้หญิง แฟนพี่สวยนะ ถ้าบอกตอนนี้ทุกคนคงรู้จักนะคะ เป็นอาจารย์สอนบัลเล่ต์ ครูอ้อ วริยา รัตนาภิรมย์ ตอนนั้นพี่หล่อมากค่ะ คือตอนที่พี่อยู่ช่างศิลป์ พี่ทโมนมาก ไปเที่ยวผู้หญิงจนเป็นโรค รู้กันทั้งโรงเรียน เพราะว่าวันนั้นพี่ก็ใส่ฉี่จะไปตรวจ เพื่อนพี่มันก็เอาฉี่พี่มาชูให้ดูกันทั้งโรงอาหาร บอกพี่เป็นโรค จะเอาไปให้หมอดู รู้กันหมดทั้งโรงเรียนเลย

กับอาจารย์อ้อก็คบกันยาวนานมาก คบแบบหญิงชาย แล้วเค้าก็มีแพลนไปเรียนต่อ คือเราไม่ได้ถึงขั้นแพลนแต่งงานนะ เพราะเป็นคนไม่มีอนาคต แค่ทำวันนี้ให้สนุกก็พอใจแล้ว ก็จีบกันหลายปี โรแมนติกมาก ไปรับไปส่งไปโรงเรียน แฮปปี้มากในสมัยนั้น

จนวันหนึ่งได้เข้าวงการบันเทิง ได้มาเล่นละครของครูเล็ก ภัทราวดี ซึ่งตอนนั้นเราแมนๆ ปกติมาก แล้วครูเล็กก็ให้เล่นเป็นบทช่างทำผม เพราะว่าคนรับบทนี้ไม่มา เราก็ได้เล่นบทนี้ ตอนแรกไม่ยอม แต่ครูเล็กบอกว่า อยู่กับฉันต้องทำได้ทุกอย่าง เราก็โอเค ตอนนั้นก็รับบทกะเทยค่ะ และแจ้งเกิดกับเรื่องนี้เลย

และหลายคนก็เริ่มติดภาพตุ้งติ้งเรา ในใจเราก็เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร พอมาเรื่องที่สอง ก็เล่นบทนี้อีก แต่ไม่ได้แต่งเป็นผู้หญิง แต่งเป็นเกย์ ก็ดังจากบทนี้อีก ซึ่งได้เล่นละครทีไรก็เป็นบทกะเทยทุกเรื่อง และเราก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับแฟนเรา ตอนนั้นได้เงินเยอะมาก

พอมาเรื่องสงครามพิศวาส อันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเลยค่ะ เริ่มมีของขวัญจากผู้ชาย มีจดหมายมาจีบ เป็นผู้ชายส่งมาหา และมีผู้ชายมาถึงออฟฟิศเอาของมาให้กิน ก็เริ่มรู้สึกว่ามันดี เพราะตอนเป็นผู้ชายเราต้องเอาใจผู้หญิง แต่พอมาตอนนี้เริ่มสนุกสนานกับการมีคนมาจีบเป็นผู้ชาย โดยที่ไม่รู้ตัวว่าชอบไปแล้ว หรือเป็นไปแล้วโดยไม่รู้เลย เราก็ยังไม่ได้เลิกกับแฟนนะ กับอ้อนี่เราหายไปเอง เพราะเริ่มละอายใจ และเริ่มเป็นกะเทยมากขึ้น

แต่ตอนนั้นเราชอบที่จะเป็นอย่างนี้ เพราะได้วัตถุสิ่งของ ได้เงิน แต่เราไม่รู้ตัว รู้แค่ว่าเรามีเงิน ตอนเด็กๆ เราจนไงคะ ต่อจากนั้นเริ่มไปเที่ยวบาร์เกย์แล้ว ซึ่งตอนนั้นดังมากจนถูกช่องทีวีแบน 5-6 ปี ไม่สามารถออกหน้าจอทีวีได้ เพราะว่าจะทำให้ทุกคนเลียนแบบการเป็นกะเทย จนสุดท้ายมารู้ตัวอีกทีก็เป็นไปแล้ว ไม่เคยรู้ตัว

ความรักจริงๆ ที่เกิดจากความรู้สึก เริ่มจากไปถ่ายละครเรื่อง รักริมทาง หลังละครปิดกล้อง ก็นั่งกินเหล้าเพลินๆ ก็มีผู้ชายคนนึงแว้บมา เราเห็นแต่ไม่ได้อะไร จากนั้นก็เริ่มมองกัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ มีความรู้สึกว่าฉันชอบผู้ชายเหรอ แบบปั๊บปี้เลิฟ เค้าก็จีบพี่ แลกเบอร์กัน หลังจากนั้นก็เป็นแฟนนะ ส่วนความรักกับพี่อ้อก็ค่อยๆ หายไป เพราะเราละอายตัวเอง กลัวว่าเราจะไปหลอกเค้ารึเปล่า มันก็เลยหายไปเอง จนทุกวันนี้เค้าก็ไม่ถามเรานะ เหมือนเราเข้าใจกัน ซึ่งตอนนั้นเพื่อนยังถามอยู่เลยว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน

ความรักกับผู้ชายคนนี้ก็เดินหน้าต่อ คือไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนแล้วรู้สึกขนลุก อยากคุยด้วย ใจเต้น เหมือนชายหญิงจีบกัน เป็นอย่างนี้มา 3-4 ปี แล้วมาจบลง เพราะว่าวันหนึ่งเป็นวันเกิดของแหม่ม ธิติมา ก็ไปกินเลี้ยงกัน เพื่อนสนิทผู้ชายของพี่ก็เดินเข้ามาขอตรงๆ เลย บอกว่า ฉันขอผู้ชายคนนี้ได้มั้ย แล้วพี่ก็เอาแก้วเหล้ามาสาดเพื่อนเลย แล้วบอกว่า เอาไปฉันให้แก คือเราไม่ได้ถามเหตุผลอะไรเลยนะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าเค้ากล้าขอขนาดนี้ ก็ต้องเคยคุยเคยคบกันมา ก็ยกให้เค้า แล้วเดินออกมาจากความสัมพันธ์ตรงนั้น จนทุกวันนี้เค้าก็ยังรักกันอยู่ ก็ยังคบกันอยู่นะ เค้าไม่ใช่คู่เราไง

พี่ผิดหวังนะ แต่ไม่ถึงขั้นฟูมฟาย ถามว่ารักมั้ย รักนะคะ แต่เราตัดใจได้ ในใจก็คิดว่าสักวันจะมีดีกว่านี้ จากนั้นมาเราก็ทำแต่งานอย่างเดียว เพราะว่าตอนที่เราถูกขอแฟนไปตอนนั้น เราไม่มีศักยภาพที่จะดูแลเค้าได้ แต่เพื่อนเราที่มาขอแฟนเราไป เค้ามีศักยภาพดีกว่าเราทุกอย่าง เลยมีความรู้สึกว่าต้องทำงาน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าเรามีเงินขึ้นมาบ้าง ก็ไม่ได้มองใครมาหลายปี

จนมาถึงคนที่ทำให้เราช็อกอีกรอบ เจอเค้าที่งานช่อง 3 ก็มีผู้หญิงคนนึงพาผู้ชายคนนี้เข้ามา เดินผ่านมา แล้วก็มาแนะนำกับเราว่าอยากแนะนำให้เรารู้จัก เราก็มองว่าหล่อ เราก็ยิ้มให้กันเท่านั้นเอง แต่มีความรู้สึกอยากรู้จัก อยากอยู่ใกล้ๆ เราคบกันในฐานะพี่น้อง มีละครให้เค้า มีธุรกิจให้เค้า เป็นพี่ที่ดูแลน้องคนนึง เค้าก็รับรู้ได้แต่เค้าไม่รู้ว่าเราชอบแบบนี้

ความรักครั้งนี้เป็นรักที่บริสุทธิ์ จนทุกวันนี้เค้าแต่งงานมีครอบครัว บอกเลยพี่ยังรักเค้าอยู่ บอกเลยยังไงก็รัก เค้าเป็นคนดี ถึงแม้ว่าหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ลง เค้าก็ไม่สนใจที่มีข่าวกับเรา เค้าให้เกียรติเราทุกอย่างค่ะ เราดูแลกันอย่างนี้มาหลายปี ก็เริ่มรักเค้าขึ้นมาเรื่อยๆ รู้สึกว่ามีความสุขมาก

บอกขอรักคนนี้ไปจนตาย เราบอกเค้าค่ะ คุณภูมิใจมั้ยที่มีคนรักขนาดนี้ และเค้าก็ดีกับเรา ถึงเค้าจะมีลูกเต้า เราก็ยังติดต่อสมาคมตลอดเวลา พี่ไม่ค่อยได้ยินคำว่ารักจากเค้านะ หรือมีบ้างแต่พี่อาจลืมไป แต่อาจจะมีหรือไม่มีก็ไม่มั่นใจ แต่เราก็บอกเค้าตลอด ภูมิใจที่ได้รักผู้ชายคนนี้

ในชีวิตพี่จะไม่มีการข่มขืนผู้ชาย จะไม่มีการล่วงเกิน แม้กระทั่งเค้าเมา หรือหลับข้างหน้า เราจะไม่ทำอะไรเค้า เค้าอาจเห็นความดีในตรงนี้ เค้าเลยไว้ใจเรา และเราก็ได้รับสิ่งดีๆ จากเค้ามาโดยตลอดในการช่วยเหลือกันและกัน มันก็เลยกลายเป็นความรักที่บอกว่าเราจะรักเธอไปจนวันตาย เป็นรักที่สวยงาม บริสุทธิ์ และเค้าเป็นผู้ชาย

ความรักตอนนั้น ทุกอย่างหวานเป็นสีชมพู เราอยากอยู่ใกล้เค้า เค้าชอบเล่นกีฬา เราก็พยายามฝึกเล่น เพื่อไปเล่นกับเค้า มีอยู่วันหนึ่งไปบ้านเค้า ไปกินข้าวเย็น แล้วเค้าก็หยิบกีตาร์มาร้องเพลงให้ฟัง เพลง ครวญ เหมือนในละครแต่มันคือชีวิตจริง เค้ามีหวง ปกป้องเรา ห่วงเรา ยิ่งทำให้เรารักเค้าเข้าไปอีก

วันที่เค้าแต่งงานพี่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ก็มีข่าวแล้วว่าแต่งงานจากหนังสือพิมพ์ที่เห็นในวันรุ่งขึ้น เพราะเค้าเชิญคนแค่ 15-20 คน เราช็อกมากน้ำตาแตกเลย เสียใจที่เค้าไม่บอกเรา บอกฉันสิจะได้ช่วยจัดงานแต่งงานให้ เหตุผลที่ปิดเพราะกลัวว่าพี่จะวีน

มาตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้คำว่าแฟนได้มั้ย รู้แต่ว่าพี่รัก พี่ไม่ใช้คำว่าแฟน พี่ใช้คำว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่พี่รัก ตอนที่เค้ามีแฟนก็เป็นเรื่องปกติ พี่ก็รู้ค่ะ เค้าเป็นผู้ชายอ่ะ ก็ปกติ จะมีแฟนเป็นผู้หญิงก็เรื่องปกติ แต่ถ้ามีแฟนเป็นผู้ชายก็ตายแน่

เราไม่เคยถามกันนะว่าอยู่ในสถานะอะไร มันเป็นอะไรที่รู้กันเองอัตโนมัติ เรื่องแต่งงานเราก็ไม่ได้คุยกัน ความรักของพี่มันไม่มีการแย่งชิง หรือเอากลับมาเป็นของเรา อยู่กับเราก็เป็นของเรา กับคนอื่นก็เป็นของคนอื่น

แล้วกับครอบครัวเค้าล่ะ? “ต้องไม่ออกอากาศ เอาออกไม่ได้เลย(หัวเราะ)”

เค้าเคยหาแฟนให้เรา คนที่เค้าไม่ชอบ เค้าจะไปฉีกเสื้อหรือกีดกัน จะรู้โดยปริยาย แต่ถ้าเค้าแนะนำคนนี้ดี ดูแลพี่ไก่ได้ เค้าจะพูดต่อหน้าผู้ชายคนนั้นเลย แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าเค้าผลักไสนะ เพราะเค้าอาจเห็นเราแก่แล้วก็ได้ เลยอยากให้มีคนมาดูแลเรา และรู้ลิมิตตัวเองว่าเค้าจะให้เราได้แค่ไหน แต่ลิมิตที่เราจะให้เค้าไปมันไม่มีขีดจำกัด คนที่จะเข้ามาหาพี่ พี่จะบอกว่าพี่รักคนนี้อยู่ อย่างผู้ชายคนไหนมาบ้านพี่ แล้วมาขอให้พี่เอารูปนี้ลง พี่ก็จะไล่กลับบ้านไปเลย คือพี่เป็นคนชัดเจนมาก ทุกวันนี้ถ้าเค้าโทรมา พี่ก็รีบไปแบบจรวดอ่ะ ไปในทันใด

หลังจากรักครั้งนี้ก็ยังไม่มีใครเข้ามาจริงจังอีกเลย มีแต่แบบตามประสาเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีใครชนะใจเราได้อีกเลย เราชอบใครจะบอกเลย ไม่เสียเวลา แต่ถ้าพวกมาจะขอละคร มาชวนไปกินข้าว จะบอกว่าไม่หิว พี่ขอเป็นคนที่เลือก ไม่ได้ขอเป็นคนที่ถูกเลือกนะคะ

ตอนนี้มีคนที่คุยกันอยู่ 3 ปีแล้ว เป็นผู้ชาย พี่บอกแล้วว่า พี่ชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบเกย์ ก่อนที่จะมาออกรายการ ถามเค้าจะพูดถึงเค้าในรายการได้มั้ย เค้าก็บอกพูดได้ แต่ที่บ้านเค้ายังไม่รู้นะ เพราะเค้าเป็นลูกชายคนเดียว กับคนนี้ไม่คาดหวังอะไรเลย มีความสุขไปวันๆ มีความรักจากเค้า อะไรที่เกื้อกูลกันได้ก็จะช่วยกัน.