Inside Dara
'แอน สิเรียม' คัมแบ็ก นั่งแท่นผู้จัด-เล่นเอง ในละคร 'เสน่หามายา'

แอน สิเรียม หวนคืนวงการบันเทิง หลังหายหน้าไปนาน 5 ปี นั่งแท่นผู้จัดละคร พร้อมเล่นเอง ในละครเรื่อง เสน่หามายา ทางช่อง 7 ฟุ้งได้พลิกบทบาททางการแสดง โอดงานผู้จัดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่โชคดีมีหุ้นส่วนช่วย

หายหน้าหายตาจากวงการละครไปนาน เพราะผันตัวเองไปทำธุรกิจเสริมความงามนานถึง 5 ปี สำหรับนักแสดงคนเก่ง แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ นักแสดงในดวงใจของใครหลายคน แต่ล่าสุด แอน สิเรียม คัมแบ็กคืนวงการบันเทิงอีกครั้ง ด้วยหน้าที่ใหม่กับการนั่งแท่นเป็นผู้จัดละคร จากค่าย 914 เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด แต่งานนี้ แอน ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดอย่างเดียวเท่านั้น เธอยังเคาะสนิมเล่นละครเรื่องนี้ด้วยตนเองอีกด้วย

ซึ่งการทำหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดและเป็นนักแสดงนำของเรื่องในครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกบทบาทงานในวงการและการแสดงของแอน สิเรียม อีกด้วย แต่ถึงแม้จะเป็นผู้จัดละครหน้าใหม่ แต่การได้มาทำละครหลังข่าว และได้นักแสดงเบอร์ต้นๆ ไม่ว่าจะเป็น เคลลี่ ธนะพัฒน์ และ แซมมี่ ดลลชา มาร่วมงาน ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่อาจจะต้องถูกจับตาไม่น้อย และในวันนี้จ้อหน้าจอก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้จัดป้ายแดง เพื่อพูดคุยกับการทำหน้าที่เป็นผู้จัดละครหน้าใหม่ของช่อง 7 ว่าแตกต่างจากการเป็นนักแสดงและนักธุรกิจอย่างไรบ้าง ไปฟังจากปากของสาวแอนกันเลย

ทำไมถึงมีความคิดอยากจะเป็นผู้จัดละคร?

เริ่มมีความคิดอยากจะเป็นผู้จัดละครเมื่อปีที่แล้วค่ะ คิดว่ามันน่าสนุก รู้สึกคิดถึงทีมงาน ผู้กำกับ เวลาได้เจอเพื่อนในวงการ ทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ก็เลยมีความคิดว่ามันน่าสนุกนะ

ก่อนจะทำผู้จัด ก็ทิ้งวงการหายไปเลย?

แอนหายไปจากวงการ 5 ปีค่ะ เรื่องสุดท้ายที่เล่นคือเรื่อง แม่หญิง ค่ะ ตอนนั้นแอนไปบริหารธุรกิจส่วนตัวค่ะ ซึ่งมันต้องทุ่มเท เพราะตอนนั้นมันเป็นงานใหม่ของแอน และแอนก็ไม่เคยทำงานบริหารจัดการมาก่อนใช่มั้ยคะ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาตอนนั้นเป็นแต่นักแสดงอยู่ตามกองถ่าย แอนเข้าวงการตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยทำงานอย่างอื่นเลย และตอนนั้นก็เรียนปริญญาโทด้วย ก็เลยต้องโฟกัสงานตรงนี้มากๆ ก็เลยต้องหันหลังให้วงการบันเทิงไป

ถือว่าเป็นการทำงานผู้จัดที่ช่องไว้ใจ เพราะเรื่องแรกก็ได้ทำละครหลังข่าวเลย?

จริงเหรอคะ รู้สึกกดดันเลย (หัวเราะ) ตอนแรกไม่คิดอะไร ตายแล้ว แต่แอนคิดว่าเนื้อเรื่องของละครที่แอนจะทำมันไม่เหมาะกับละครเย็นนะคะแอนว่า เพราะมันเป็นละครชีวิต บทมันก็จะแซ่บๆ

จากคนเบื้องหน้ามาเป็นคนเบื้องหลัง ปัญหาที่เจอคืออะไร?

แอนได้ยินมาเยอะ หลายๆ คนว่างานผู้จัดมันเหนื่อยนะ อุปสรรคเยอะ แต่พอได้มาลงมือทำ ก็ได้เห็นถึงความอดทนของแต่ละคน ช่วงนี้อากาศร้อนมาก และเราต้องถ่ายกันข้างนอก นักแสดง ทีมงานทุกคนต้องอดทนกันเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนเป็นแค่นักแสดงก็มองเห็นแค่จุดของเรา พอวันนี้ได้มาเป็นผู้จัดก็ได้เห็นภาพกว้างขึ้น ทำให้แอนรู้ว่าการที่มาเป็นผู้จัดทำให้ต้องดูแลคนมากมาย ก็เอาโจทย์ตรงนี้กลับมาคิดอีกทีนึง การที่ได้เป็นนักแสดงมาก่อน พอมาทำหน้าที่ตรงนี้มันทำให้เข้าใจและก็มองเห็นอะไรหลายๆ อย่างได้ทะลุปรุโปร่ง เหมือนเราเป็นผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน แอนก็จะเอาประสบการณ์ที่เคยมีมาปรับปรุงกองถ่ายให้มันดีขึ้นตามกำลังที่แอนทำได้

เป็นผู้จัดไม่พอ แต่เล่นเองด้วย?

ก็เป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถมากๆ งานก็หนักขึ้นเป็นทวีคูณ (หัวเราะ) แอนพยายามจะทำให้มันดีที่สุด เพราะการที่แอนกลับมาเล่นละครอีกครั้ง แอนก็อยากจะทำให้มันออกมาดี เพราะการกลับมาครั้งนี้ เป็นการพลิกคาแรกเตอร์ และบทก็หนักหน่วงมาก แอน (ยิ้ม) คือตั้งแต่เล่นละครมา ไม่เคยต้องเล่นบทที่มันร้ายลึกเลยค่ะ และรู้สึกตื่นเต้นดีค่ะ คือการที่แอนมาเล่นเอง ได้มีการคุยกับทางช่องแล้ว ซึ่งเค้าเห็นว่าแอนน่าจะกลับมาแสดง แอนก็เลยตกลงที่จะเล่น ก็เลยเล่นเรื่องนี้เอง จะได้ไม่ตื่นเต้นมาก น่าจะคุมได้ (หัวเราะ) ที่เล่นบทนี้เพราะบทมันใกล้เคียงกับแอน แอนไม่ได้เล่นเป็นนางเอก ในเรื่องมีลูกแล้ว 3 คน แต่ทางช่องก็แอบเป็นห่วงว่าแอนจะทำไหวมั้ย เพราะต้องทำหน้าที่ 2 บทบาท แต่โชคดีที่แอนมีทีมงานช่วย ทางช่องก็เลยไว้ใจ

แบ่งการทำงานอย่างไร ทั้งหน้าที่ผู้จัดและหน้าที่นักแสดง?

แอนมีหุ้นส่วนค่ะ เค้าก็มาช่วย แอนไม่ได้ทำคนเดียว ถ้าทำคนเดียวคงไม่ไหว เวลาจะทำงานแอนก็จะประชุมทีมงานกันก่อนถ่ายทุกวีค แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ จัดแจงหน้าที่ของแต่ละคน เพราะการทำงานละครในสมัยนี้มันละเอียดขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก หลายขั้นตอน

ปัญหาที่เจอในกองคืออะไร?

เรื่องเวลาการถ่ายทำ อย่างสมมติว่าวันนี้กำหนดว่าจะต้องได้ 10 ซีนนะ แต่มันไม่เป็นไปตามแผนที่เรากำหนดไว้ อย่างเรื่องของฉาก พรอพ ก็เป็นปัญหาทั่วๆ ไป เดิมๆ เหมือนตอนที่แอนเป็นนักแสดงค่ะ ส่วนวิธีการแก้ปัญหาของแอนไม่มีอะไรมาก ก็จะทำให้ตัวเองใจเย็นๆ พยายามคิดบวก และก็คิดว่าจะทำยังไงดีที่พอจะทำได้ ค่อยๆ แก้ปัญหาไปค่ะ

วันที่เข้ามาเสนอโปรเจกต์กับทางช่อง รู้สึกอย่างไร?

ตื่นเต้นนะคะ แอนก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร มันเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ก็กังวลใจเหมือนกัน แต่พอเข้าไปคุย บรรยากาศมันไม่ได้เป็นอย่างที่แอนคิด มันดี ราบรื่นค่ะ (ยิ้ม)

ทำไมถึงทำละครเรื่องนี้?

ละครเรื่องเสน่หามายาเป็นบทประพันธ์ใหม่ เป็นละครแนวชีวิต ซึ่งเป็นแนวที่แอนชอบ และพวกเราก็ได้สร้างสรรค์จากทีมงานบริษัท 914 เอง ก็ช่วยกันแต่ง ประพันธ์เรื่องกันขึ้นมา (ยิ้ม) ซึ่งเป็นทีมใหม่ที่เราฟอร์มขึ้นมา แอนก็มีโอกาสแชร์ประสบการณ์ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ประมาณว่า ถ้าเป็นมนุษย์จริงๆ คนจริงๆ เค้าน่าจะทำอย่างนี้มั้ย หรือน่าจะพูดอย่างนี้

ตัวนักแสดงเป็นคนเลือกเองหรือเปล่า?

ก็ผสมผสานกันไปค่ะ บางท่านเราก็ขอช่องว่าอยากได้คนนี้ ช่วยๆ กันกับทางช่องเลือกว่าใครเหมาะกับละครของเรา เพราะว่าแอนห่างจากวงการไปนาน ก็ต้องฟังทางช่องที่จะช่วยแนะนำ หรือการกำหนดเวลาการเปิดกล้อง อย่างพี่เคลลี่ เค้าเป็นมืออาชีพอยู่แล้วค่ะ แอนไม่ห่วง แต่ตอนนี้เค้ามีละคร 3 เรื่อง ก็อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษนิดนึง น้องแซมมี่ก็น่ารัก เวลาแสดงก็มีความมั่นใจ ท่องบทมาก่อน น้องเจสซี่นักแสดงใหม่ก็เตรียมตัวมาดีมาก

รู้สึกกดดันมั้ย เพราะทุกคนจะต้องคาดหวังกับผลงานทั้งการเป็นผู้จัดและนักแสดง?

ก็ตื่นเต้นค่ะ ก็กังวลนิดๆ แต่ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด แอนรู้สึกดีที่มีคนจับตามอง ถ้าแอนกลับมาแล้วไม่มีใครสนใจ ก็คงจะต้องพิจารณาตัวเองนะ (หัวเราะ) แอนเชื่อว่าถ้าเราทำทุกอย่างเต็มที่ คนก็ต้องเข้าใจ ส่วนจะชอบหรือไม่ชอบนั้น มันเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ถ้าคนที่ชอบดูละครบู๊ก็จะชอบ แต่ถ้าคนที่ชอบละครชีวิต แอนมั่นใจว่าเสน่หามายาก็น่าจะโดนใจใครหลายคนนะคะ (หัวเราะ)

มีเรื่องที่ 1 แล้วมีเรื่องที่ 2 แพลนไว้ยัง?

ยังค่ะ รอก่อน เอาให้เรื่องนี้เสร็จก่อนนะคะ (หัวเราะ) ค่อยๆ ค่ะ ไม่รีบ แต่ก็มีคิดไว้แล้วนะคะ จะเป็นแนวไหน รีเมคหรือพลอตใหม่ก็ยังไม่แน่ใจ ถ้าถ่ายได้เกินครึ่งก็อาจจะเริ่มคิด เพราะเรื่องนี้ต้องทำให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคมค่ะ แต่แอนไม่อยากถ่ายไปออนไป เพราะแอนอยากทำให้ทุกอย่างมันเสร็จสมบูรณ์ก่อน เพราะเชื่อว่าถ้าทุกอย่างพร้อมแล้วออนแอร์ มันน่าจะดีกว่า.