Inside Dara
"อันดา"จิ๋วขั้นเทพ สวมเงา"น้องเมย์"ดัง

ไปไหนมาไหนตอนนี้มีแต่คนเรียก "น้องเมย์" แทน "น้องอันดา" ซึ่งเป็นชื่อจริง

ด้วยผลตอบรับจากละคร "พรพรหมอลเวง" ช่อง 3 ที่หนูน้อยวัย 7 ขวบ "อันดา" กุลฑีรา ยอดช่าง ตีบท "น้องเมย์" แตกกระจุย

วันนี้ปิดเทอมแล้ว ประจวบเหมาะที่ละครปิดกล้อง เลยนัดแนะ "น้องอันดา" พร้อม "คุณแม่เปิ้ล"นลรรพรรฎ อัศวสันติชัย วัย 31 ปี และ "คุณพ่อเต้ย"ทุนรัฐ ยอดช่าง วัย 33 ปี มาเที่ยวสวนสนุก "ดรีมเวิลด์"

ทันทีที่ถึงสวนสนุกที่ตั้งอยู่รังสิตคลอง 3 น้องอันดาก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับผู้คน

แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่กลับมีเด็กเล็กเด็กโตมาเที่ยว "ดรีมเวิลด์" กันเป็นคันรถ คราวนี้แหละ น้องอันดาจะได้ไม่เหงา

ซื้อบัตรผ่านประตูเข้า ไป น้องหนูก็จูงมือคุณพ่อคุณแม่วิ่งจู๊ดไปถ่ายรูปที่ "เลิฟ การ์เด้น" หวานซะ

จากนั้นก็ขอเป็นศิลปินเดี่ยว ถ่ายกับทุ่งทาน ตะวัน แล้วก็เข้าไปใน "บ้านยักษ์" ตื่นตากับไข่ทองฟองยักษ์และช้อนคันโต

มาถึงไฮไลต์ "เมืองหิมะ" ที่ที่น้องอันดาอยากสัมผัส ภายใน นี้น้องหนูพร้อมคุณพ่อคุณแม่ต้องใส่เสื้อแจ๊กเกตและรองเท้าบู๊ต เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่ติดลบถึง -7 ํC

หลังเล่นหิมะ (ปลอม) จนชุ่มปอด คุณพ่อคุณแม่ก็พาน้องอันดาออกมาเดินเที่ยวต่อ โดยสองข้างทางมีเกมให้เล่นละลานตาไปหมด

"หนูอยากได้ตุ๊กตาอ่ะ" อันดา กล่าว ก่อนมุ่งหน้าไปที่เกมบอลลูนดาร์ต ปาลูกโป่ง และอื่นๆ เพื่อหวังตุ๊กตาตัวเขื่อง

เสียเงินไปพอสมควร น้องหนูก็ยังไม่ได้ตุ๊กตามาครองซะที จนเจ้าของร้านมาขอถ่ายรูปด้วย เจ้าหนูตัวจิ๋วูเลยยื่นข้อเสนอ "งั้นหนูขอตุ๊กตาตัวนั้นด้วยได้เปล่าคะ แลกกัน"

หลังได้ตุ๊กตา อันดาดูจะอารมณ์ดี คุยจ้อไปตลอดทาง

ถามว่าเข้าวงการได้ยังไง เจ้าตัวบอก "หนูถ่ายโฆษณาตั้งแต่อายุ 4 ขวบค่ะ แล้วไปเจอพี่คนนึงแนะนำคุณแม่ให้ไปแคสต์ละคร พรพรหมอลเวง ช่อง 3"

"จำได้ว่าใช้เวลาแคสต์ 1 ช.ม. วันนั้นเอาบทมา คุณแม่อ่านให้ฟังแล้วหนู ก็พูดตามบท เขาให้หนูต่อบทกับพี่กิ๊ก (มยุริญ) พี่กิ๊กจะบอกว่าเรื่องของผู้ใหญ่เด็กอย่ามาสอด หนูก็พูดว่า เมย์ต้องยุ่งเพราะเป็นเรื่องของเมย์ แล้วพี่กิ๊กก็จะด่าเราแบบเกลียดน้องเมย์ แล้วหนูก็จะตอบไปว่า จริงๆ เมย์ไม่ได้อยากจะยุ่งหรอกนะคะ แต่ที่ป้าปรางทำมันเป็นกิริยาที่ไม่ดี"

โอ้โห...นี่ขนาดละครปิดกล้องแล้ว ยังจำบทได้ทุกเม็ด จำได้ไงเนี่ย อันดากล่าวว่า "คุณแม่อ่านให้ฟังค่ะ เพราะตอนนั้นหนู 5 ขวบ อยู่อนุบาล 3 ยังอ่านหนังสือไม่ออก ลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้หนูอ่านออกแล้ว แต่ก็ยังมีบางคำที่ยังอ่านไม่ออกเช่นคำว่า เลื้อย เพราะมันสะกดยาว"

มีอยู่ฉากหนึ่งที่ต้องพูดภาษาฝรั่งเศสด้วย "ฉากนั้นหนูท่องทั้งคืนเลยค่ะ คุณแม่ก็จะช่วยสอน พอตื่นเช้ามาก็ถ่ายเลย"

เก่งอย่างนี้ พี่ๆ ในกองชมว่ายังไงบ้าง น้องหนูจ้อ "พี่บอย (ปกรณ์) บอกว่า "ขั้นเทพจริงๆ เลยนะเธอเนี่ย" หนูก็เลยตอบไปว่าก็หนูเป็นมืออาชีพนี่คะ แล้วพี่บอยก็บอกว่าเหรอ"

ยังไม่ทันจะเม้าธ์อะไรต่อ ก็ได้ยินเสียง "น้องเมย์ๆ ขอถ่ายรูปหน่อย" บ้างก็ว่า "นั่นน้องเมย์นี่ น่ารักจัง"

งานนี้น้องหนูเลยต้องจัดคิวให้แฟนๆ ตัวเล็กตัวใหญ่เข้าคิวถ่ายรูป

หนึ่ง...ส่อง...สั้ม...นักแสดงตัวจิ๋วจิกตา ปากยิ้ม เท้าเอว พอยต์เท้า...แชะ ทำอย่างนี้อยู่หลายรอบ แต่น้องหนูก็ไม่มีอาการงอแงหรือหงุดหงิด สมเป็นมืออาชีพจริงๆ

หลังผู้คนบางตา เลยเข้าคำถามต่อ พอได้เล่นเรื่องนี้ รู้สึกอย่างไร "ดีใจมากค่ะ เพราะได้มาเล่นกับพี่บอย หนูดู 4+1 ซูเปอร์สตาร์ของพี่บอยเลยชอบตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่รู้ว่าได้เล่นละครกับพี่บอยหนูดีใจลั่นบ้านเลย"

ตอนนั้นรู้จักไหมว่าดาราเป็นยังไง อันดาพยักหน้า "พอรู้จักค่ะ ตอนแรกหนูยังไม่รู้จักพี่น้ำผึ้ง (ณัฐริกา) ที่เล่นเป็นแม่หนู ก่อนเข้าวงการหนูรู้จักแต่พี่บอย (ปกรณ์) และพี่เบลล่า (ราณี) นักแสดงคนอื่นไม่รู้จัก"

พอมาร่วมงานกับ "พี่บอย" ตื่นเต้นไหม อันดายิ้มเขิน "ตื่นเต้นมาก วันแรกที่เจอพี่บอยเขาก็เข้ามาหยิกแก้มหนูแบบเนี้ย" น้องหนูพูดพร้อมหยิกแก้มคนสัมภาษณ์ให้ดู ก่อนกล่าวต่อว่า "หนูก็เขินเลย พี่บอยเรียกหนูไปถ่ายรูป หนูก็ไปแบบเขินๆ ดุ๊กดิ๊กๆ ไป อยู่ในกองพี่บอยก็ช่วยต่อบท คอยบอกว่าอันดาต้องพูดแบบนี้นะ ต้องเดินแบบนี้ อะไรประมาณนี้"

ฉากร้องไห้มีวิธีบีบน้ำตายังไง น้องหนูบอกเคล็ดลับ "หนูก็บิลด์ว่าปาป๊าหม่าม้าดุ แล้วคิดว่าพี่บอยไม่รักแล้ว หนูก็น้ำตาไหลเลย"

คิดว่าตัวเองเป็นเด็กขี้แงไหม "เมื่อก่อนไม่ขี้แง แต่เดี๋ยวนี้มีบทร้องไห้เลยร้องไห้ง่ายขึ้น แต่หนูไม่ได้แอ๊บนะ"

ดูท่าอันดาจะติดใจงานแสดง เจ้าตัวว่า "ติดใจค่ะ เวลาไปทำงานหนูไม่มีงอแง หนูชอบไปกองถ่ายเพราะสนุกมากๆ ได้เจอพี่บอย วันไหนไม่ได้ไปกองเซ็งเลย ไม่ได้เจอพี่บอย เพราะหนูเป็นคู่กัดกับ พี่บอย"

"ร่วมงานกับพี่บอย-พี่เบลล่าสนุกมาก (เสียงสูง) ไปถึงกองก็ไปเล่นอย่างเดียวเลย หนูจะมีแก๊งของหนู พี่บอยก็จะมีแก๊งของเขา ต่างคนต่างกัดกัน หนูกับพี่บอยกัดกันทุกวันเลย เพราะเราเข้าฉากกันบ่อย อย่างพี่เบลล่าก็น่ารักค่ะ ใจดีมาก พี่บอยชอบแกล้งเด็ก หนูก็จะทำเป็นงอน เขาก็จะมาง้อแล้วหนูก็รู้ว่าพี่บอยแกล้งหนูเพราะรักหนู (ยิ้ม)"

พอมาเล่นละครเพื่อนในโรงเรียนแซวไหม อันดาพยักหน้า "เพื่อนๆ ก็บอกว่าอันดาน่ารักเชียวนะ หนูก็เขินๆ รู้จักกันทั้งโรงเรียนเลยค่ะ เดินไปไหนไม่ได้เลย พี่ๆ ประถมฯ จะฉกตัวหนูไปทันที (หัวเราะ) เขามาขอลายเซ็นกันค่ะ"

อายุแค่ 4-5 ขวบ ด.ญ.อันดาก็ฉายแววนักแสดง ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ตัวจิ๋วกับเขาด้วย ถามว่าถ้าวันหนึ่งไม่ได้เป็นนักแสดง อยากทำอาชีพอะไร อันดาตอบ "อยากเป็นแอร์โฮสเตสค่ะ เพราะเป็นนักเสิร์ฟ (ยิ้ม) เขาสวยและใจดีด้วย"

ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยหนักไหม น้องหนูเอามือกุมหน้าผาก "ปวดหัวเลย หนูอยู่ชั้นป.2 แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่หนูจะเอาหนังสือเรียนไปอ่านที่กองด้วย หนูชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพราะชอบเรื่องดินเรื่องสัตว์ แต่ที่ไม่ชอบคือวิชาสังคม เพราะต้องจำเยอะ มันยาก ต้องจำหลายประเทศ"

เรื่องเกรดล่ะ "เกรดเทอมนี้ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่คราวก่อนสอบได้ที่ 18 ในห้องมี 31 คน (ยิ้ม)"

สวยอย่างนี้ ถามจริงๆ มีหนุ่มมาจีบบ้างป่ะ น้องหนูหัวเราะลอบมองไปทางปาป๊าและหม่าม้า "ไม่มีค่ะ เพราะหนูไม่อยากแต่งงาน หนูอยากอยู่กับปาป๊าหม่าม้า"

บอกรักคุณพ่อคุณแม่หน่อย "หนูขอบคุณปาป๊าหม่าม้ามากนะคะ ที่เลี้ยงดูหนูมาตลอด หนูรักปาป๊าและหม่าม้ามาก อยากให้ปาป๊าและหม่าม้าอยู่กับหนูตลอดไปค่ะ"

แล้วแฟนๆ ล่ะ อยากบอกอะไรเขาไหม ข่าวว่ามีแฟนคลับเยอะมาก อันดากล่าวว่า "เยอะมากค่ะ มี ทุกแนวเลย ชั้นม. (มัธยมฯ) กับป. (ประถม) ก็มี บางคนถึงขั้นโทร.มาหาหม่าม้าเลย ถามโน่นนี่ ตอนงานวันเกิดหนูก็มีแต่คนมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ของขวัญเต็มบ้านเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ซื้อของขวัญมาให้ หนูรักพวกพี่ๆ ค่ะ"

"หนูขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ติดตามผลงานหนูมาตลอด เดี๋ยวหนูก็มีถ่าย "จุดนัดภพ" อีก ก็คอยติดตามผลงานหนูต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ"

เก่ง น่ารัก มากฝีมือ แถมยังขี้อ้อนอย่างนี้ ใครไม่รักไม่ได้แล้ว

"แก้วตาดวงใจ"ของ"พ่อเต้ย-แม่เปิ้ล"

หลังน้อง "อันดา" เจื้อยแจ้วแล้ว ก็ถึงคิวคุณพ่อเต้ยคุณแม่เปิ้ลพูดถึงลูกสาว

คุณพ่อเต้ยเผยว่า "ภูมิใจมากครับ เราคิดว่าน้องเล่นได้แต่ไม่นึกว่าจะเล่นได้ขนาดนี้ อย่างตอนที่เขาเล่นเป็นตันหยงหรือน้องเมย์ เขาสร้างบุคลิกได้ชัดเจน เราเองยังงง บางทีนั่งมองจอทีวียังไม่เชื่อเลยว่าเขาทำได้"

น้องอันดาที่ฟังอยู่รีบแทรก "เอ๊า...ก็หนูบอกแล้วว่าหนูมืออาชีพ (ยิ้มเขิน)"

เคยส่งน้องไปเรียนการแสดงไหม คุณแม่เปิ้ลปฏิเสธ "ต้องยกความดีให้พี่ ชุดาภา (จันทเขตต์) ผู้กำกับฯ ตอนได้บทมาเขาบอกให้ท่องบทให้น้องจำอย่างเดียว เดี๋ยวแอ๊กติ้งเขาใส่เอง เหมือนเป็นความสามารถคู่กัน พอสื่อสารเข้าใจเลยออกมาดี"

หลายคนสงสัยกับฉากบีบน้ำตา ว่าเด็กตัวแค่นี้ทำได้อย่างไร คุณแม่เปิ้ลกล่าว "เรายังทึ่งเลย ตัวเขาไปเล่นสดหน้ากอง เพียงแต่พี่ชุบอกว่า เขากำลังจะทิ้งเราไปแล้วนะ ตัวเขาก็ค่ะๆ ซีนนั้นเทกเดียวผ่าน เราอึ้งไปเลย"

ตอนเด็ก ลูกสาวฉายแววบ้างไหม คุณแม่เล่าว่า "เขากล้าแสดงออก เพราะที่บ้าน พ่อเขาจะกล้าแสดงออก มีกิจกรรมในครอบครัว สองพ่อลูกจะชูโรง"

ตอนนี้ในครอบครัวชีวิตเปลี่ยนไปยังไง คุณพ่อเต้ยกล่าวว่า "มันมาไวจนใจหาย เมื่อวานน้องยังเป็นเด็กที่ไม่มีใครสนใจ แต่วันนี้เปลี่ยนไป อันดาต้องระวังตัว คำพูด และมารยาทมากขึ้น ใช้ชีวิตลำบากขึ้น เวลาไปข้างนอกแล้วเขาเหนื่อย มีงอแง หงุดหงิด เรากลัวคนอื่นมองว่าจริงๆ แล้วน้องเมย์ไม่เห็นน่ารักเลย กลัวจุดนั้น"

ส่วนการสอนลูกเรื่องการวางตัว คุณแม่เปิ้ลเผยว่า "ก็สอนให้อดทน เวลามีคนมาชอบมารุมขอถ่ายรูป"

คุณพ่อเต้ยเสริม "เราก็ยกตัวอย่างพี่บอย (ปกรณ์) ว่าเห็นไหม เวลาพี่บอยถ่ายละครเสร็จสามสี่ทุ่มลงมาเจอแฟนคลับ พี่บอยก็ยิ้มถ่ายรูปกับทุกคน เพราะพี่บอยคิดว่าแฟนคลับรอเราตั้งนาน โดยอยู่ในที่ร้อนที่มืด เขายังทนได้ เราแค่ลงมาถ่ายรูปแป๊บเดียวทำไมถึงทำไม่ได้ ซึ่งน้องก็จะจำคำที่เราสอน"

รู้สึกภูมิใจในตัวลูกยังไงบ้าง คุณแม่กล่าวว่า "ภูมิใจที่เขามีความสามารถ เป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กที่ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง"

คุณพ่อเผยต่อว่า "ภูมิใจในความสามารถและพัฒนาการที่เขามี หลังได้แสดงละครทุกอย่างก้าวกระโดด แต่ที่ภูมิใจที่สุดคือเขามีชื่อเสียงตั้งแต่ตัวเท่านี้ ไม่คิดว่าลูกจะได้แสดงละคร รู้สึกเป็นโชคของเขาและครอบครัวเราที่ลูกเราได้แสดงละครเรื่องนี้"

สุดท้ายอยากบอกอะไรลูกสาว คุณพ่อเต้ยหันไปมองอันดาแล้วพูดว่า "ถ้าวันนี้หนูไม่ใช่น้องเมย์ ปาป๊าก็รักหนูเหมือนเดิม หรือต่อให้พรุ่งนี้หนูไม่มีงาน หนูก็ยังเป็นลูกปาป๊าอยู่"

"อยากสอนหนูว่า ทุกวันนี้ต่อให้หนูมีชื่อเสียงหรือวันหน้าหนูมี ชื่อเสียงมากกว่านี้ก็แล้วแต่ หนูก็ยังต้องกิน ต้องเดิน ต้องเรียนหนังสือ หนูไม่ได้พิเศษกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่หนูมีความสามารถ หนูยังเป็น อันดาของปาป๊าต่อไปนะลูก ขอแค่นี้"

อันดายิ้มรับฟังพร้อมกล่าว "ค่ะ"