Inside Dara
'โตโน่' อึ้งกระแสจีบ 'แตงโม' แรง! ขอโทษที่พูดตรงเกินไป

ตั้งแต่มีข่าวว่านักร้องดังจากเดอะสตาร์ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ กำลังเดินหน้าจีบนางเอกชื่อดังวิกหมอชิต แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เรื่องนี้ก็กลายเป็นประเด็นร้อนเลยทันที ทั้งกระแสจากแฟนคลับ และกระแสจากสาวๆ เกือบทั้งประเทศ ที่มีทั้งต่อต้านและสนับสนุน จนเกิดเป็นสงครามขนาดย่อมกันเลยทีเดียว

เมื่อมีโอกาสได้เจอหนุ่มโตโน่ในงานฉลองครบรอบ 4 ปี Act Channel ณ ลานน้ำพุชั้น 1 ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เครียดมาก ไม่คิดเลยว่าการพูดอะไรที่มันตรงเกินไป ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ดีใจที่แฟนคลับคอยให้กำลังมาตลอด เลยทำให้ยิ้มออกมาได้ ส่วนเรื่องกับสาวแตงโมนั้น โตโน่ก็บอกว่า ก็ยังเดินหน้าคุยกันต่อไป แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เมื่อมีโอกาสได้เจอโตโน่ เจ้าตัวเลยได้ชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างชัดเจน พร้อมกับขอโทษที่เป็นคนพูดตรงเกินไป

เป็นยังไงบ้าง หลังจากที่เราออกมายอมรับว่าจีบแตงโม-ภัทรธิดา? “สำหรับตัวผมนะ ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าผมก็ตอบไปตามความจริง เวลาที่พวกพี่ถาม แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมีกระแสเยอะแยะเลย ลงข่าวเยอะมาก” แต่ในส่วนของแฟนคลับ ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันนะ? “คงเป็นเรื่องใหญ่นะ ผมว่ามันคงไม่ค่อยมีคนเขาทำกัน แต่เพียงแค่ว่าผมก็รักพวกเขา พี่ลองคิดดูว่าพวกเขามายืนอย่างนี้ มาตลอด 3 ปี ให้ผมหลอก หรือให้ผมพูดความจริง ผมทำไม่ลงนะครับ แต่ผมตกใจว่ามันเหมือนกับประกาศแต่งงานน่ะ ผมไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนั้น เพราะว่าอย่างวันนั้นผมไปงานต่อต้านยาเสพติด แต่ว่าข่าวต่อต้านยาเสพติด ลงน้อยกว่าข่าวนี้มากเลย ผมเลยคิดว่าต่อไปนี้เราควรจะต้องพูดยังไง อย่างคำที่ผมบอกว่าผมจีบ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดตีความหมายไปแบบไหน ตั้งแต่เราโตมา เราจีบใครมาบ้าง เรามีแฟนมาแล้วกี่คน จีบติดบ้างไม่ติดบ้าง มันก็เยอะแยะ คือพ่อผมสอนว่าอย่าโกหกใคร ผมอายคุณพ่อผม ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งผมจะต้องมาตอบเพื่อรักษาภาพผม เพื่อให้คนที่ผมโคตรรัก รักผมต่อ ผมทำไม่ลง ผมรักนักข่าวนะ ผมรักงานนี้มาก ผมรักวงการนี้มาก แล้วผมก็เชื่อมากๆว่า วงการนี้ยังไงก็ต้องมีความจริงใจ ผมก็ยืดถือสิ่งนี้มาตลอด เพราะว่าการที่ผมมีวันนี้ได้ คือการที่ผมรู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น ด้วยความปรารถนา แต่ถ้าเกิดสิ่งที่ผมพูดไปมันทำให้กลายเป็นผลกระทบกระเทือนใจใคร ผมขอโทษ แล้วต่อไปนี้คงจะระมัดระวังคำพูดมากขึ้น แต่ยังไงก็จะไม่โกหกครับ”

รู้สึกยังไงบ้าง ที่เราอุตส่าห์พูดความจริง แต่มันก็มีกระแสที่ไม่ดีออกมา? “จริงๆแล้วที่ผมเห็นนะครับ แฟนคลับเขารักผมมาก จากในทวิตเตอร์หรือที่ไหนก็ตาม เขาให้กำลังใจผมเยอะมาก แต่แน่นอนมันก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ผมเชื่อครับว่ายังไงๆ ผมก็รักพวกเขา” น้อยใจไหมที่แฟนคลับแอนตี้? “ผมไม่น้อยใจนะครับ ดูวันนี้สิครับ เขารักผมจริงๆ เขาไม่ได้โกรธที่ผมพูดความจริง แต่บางคนเขาอาจจะคิดว่ามันเร็วไป ผมอยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งจริงจัง อย่าเพิ่งตกใจ เพราะว่ายังไม่รู้เลย ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เลย จะไปถึงไหนก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าจะให้ผมบอกว่า ผมไม่รู้จัก ผมไม่ได้ทำ มันไม่ใช่นิสัยผู้ชายอย่างผม” ดูเหมือนโตโน่ค่อนข้างจะเครียดกับกระแสนี้? “ผมสงสารงาน ปปส. นั้น ข่าวก็ไม่ค่อยลงเท่าไหร่ แต่กลับกลายเป็นเรื่องนี้เข้ามาแทน ผมก็คิดว่าต่อไปมันจะยังไงดี แต่หลังจากที่ได้คุยกับผู้ใหญ่หลายๆฝ่ายว่า พี่ครับผมรักคนดูของผม ผมรักพวกเขา และวิธีการรักของผมมันคือการรักแบบนี้แหละ มันคือการพูดความจริง มันคือความจริงใจ มันคือความรักที่มีต่องาน ผมเข้ามาตรงนี้ไม่ได้เข้ามาหาแฟน ไม่ได้เข้ามาหาเมีย ผมเข้ามาทำงานตามความฝันของผม เพื่อให้คนที่ผมรักเขามีความสุข ซึ่งอันนี้อยู่ในหัวผมและก็ฝังอยู่ในใจตลอดมา ตั้งแต่วันแรกที่พวกพี่นักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมรู้สึกสำนึกบุญคุณพวกพี่มาตลอด เพราะว่าเมื่อก่อนผมเดินต๊อกต๋อยข้างถนน ไม่มีใครสนใจ วันนี้ผมมีโอกาสได้เป็นแบบอย่างของใครหลายๆ คน ผมขอไม่เลือกใช้วิธีโกหกเพื่อให้ภาพของผมมันดูดี แต่ผมขอใช้วิธีสร้างความจริงใจ ความรักที่มีต่องาน ความรักที่มีต่อคนดู ความรักที่มีต่อแฟนเพลง ทำมันมาจากใจของผม และให้มันรู้ไปเลยว่าผมอยู่ได้หรือไม่ได้”

โตโน่กำลังจะบอกว่า การมีความรักเป็นเรื่องธรรมดาของคนทั่วไป? “โหพี่ ผมมีแฟนมาแล้วกี่คน ตั้งแต่เกิดผมมีแฟนมาแล้ว 7-8 คน แต่ผมแค่ตกใจว่า วันหนึ่งผมบอกกำลังคุยกับคนนี้อยู่ ผมไปดูหนังกับคนนี้ แล้วมันจะเป็นเรื่องขนาดนี้” มีข่าวว่าผู้ใหญ่เรียกเข้าไปคุยเลย? “ไม่ได้เรียกเข้าไปคุยครับผม แต่โทรมาหาเลย(ยิ้ม) เขาโทรมาแล้วก็บอกว่า มึงแมนมากไปรึเปล่า(หัวเราะ) ผมก็ตอบว่าก็ไม่อยากโกหก เขาก็บอกว่า เออต่อไปเนี่ย จะตอบอะไรก็อย่าตอบเหมือนกับว่ามึงมาจากป่านะ(หัวเราะ) เราอยู่มาตั้งหลายปีแล้ว(ยิ้ม)” เขามีเบรกเราไหม? “ไม่ครับ คือผู้ใหญ่ที่โทรมาหาผม เขาไม่สนับสนุนให้ผมโกหกอยู่แล้ว เขารู้ว่าผมเป็นคนยังไง เพียงแค่ว่าเขาก็อยากให้ผมรู้ว่า กว่าจะมีวันนี้ได้ มันสำคัญนะ เวลาที่เขาอ่านข่าว บางครั้งมันแรงเกินไปสำหรับเขานะ เพราะว่าเราพูดตรง ซึ่งผมก็ขอโทษนะ เวลาอยู่บ้านผมก็พูดอีสาน พออยู่กรุงเทพผมก็พูดภาษากลาง ผมรู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ถ้าต่อไปผมก็จะพูดให้มันดูสวยงามขึ้น เวลาที่พวกพี่ๆถามว่า จีบหรือไม่จีบ ผมก็จะตอบว่าอ๋อ คุยครับผม แต่ผมก็รู้สึกว่าผมอายกกลิ้นผม(หัวเราะ)”

จากที่มีกระแสข่าวออกมา โตโน่จะพยายามลดความสัมพันธ์หรือเดินหน้าต่อ? “พี่ครับ ตั้งแต่แรกเลย คือที่ผมอ่านข่าวมาประมาณว่า โตโน่ออกตัวแรงประกาศจีบ... ใครไปจะไปประกาศจีบคนพี่ จะจีบติดหรือไม่ติดผมยังไม่รู้เลย แต่ว่าพอพี่นักข่าวมาถาม ผมก็ตอบไปตามความรู้สึกของเรา ดังนั้นอนาคตมันก็เป็นเรื่องของอนาคต อย่างตัวของโมเอง เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากเราอ่ะ ก็คือเพิ่งเริ่มคุยกันได้ 2 อาทิตย์ จะเป็นยังไงต่อไปผมก็ยังไม่รู้เลย แต่ผมก็ไม่ได้สนด้วยว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นยังไง ผมก็ไม่ได้สนใจว่าจะได้คบหรือไม่ได้คบ เป็นแฟนหรือไม่เป็นแฟน ผมแค่บอกว่ากำลังคุยอยู่กับผู้หญิงคนนี้ ผมไม่ได้มองว่าอนาคตต่อไปมันจะเป็นยังไง แต่ถ้าจะให้ผมก็โกหก ผมอายตัวเอง ผมทำไม่ลง” ได้คุยกับแตงโมรึยัง หลังจากที่พูดออกไป? “คุยครับ เขาก็บอกว่าเขาก็ตกใจที่เรากล้าพูด จริงๆแล้วก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้ทั้งหมดครับ เราคุยเรื่องอื่นด้วย” เห็นว่าแตงโมเข้าโรงพยาบาล? “ใช่ครับ” เราได้ไปเยี่ยมไหม? “ไปเยี่ยมครับ ตอนนี้หายแล้ว”

ก็คือคุยกันต่อไป? “ก็เป็นเพื่อนกันต่อไป ดูกันต่อไปพี่ ผมไม่ได้จำกัดหรอกว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องทำ คือทำงานของผมให้มันดีที่สุด อยากให้พี่ๆสนใจในตัวงานของผมด้วย อย่างล่าสุด พ่อแม่พี่น้องครับ ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ของการต่อต้านยาเสพติด(ยิ้ม) แล้วผมก็อยากให้พี่ๆลงเยอะๆ เพราะว่าเรื่องส่วนรวมมันใหญ่กว่าส่วนตัวครับนะ เวลาที่เด็กๆอ่านหัวข้อของยาเสพติดเนี่ย ให้รู้ว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ จะดีกว่าที่จะมาอ่านว่านี่วันนี้โตโน่จีบใคร หรือว่าอะไรยังไง เพราะว่าตัวผมเองเนี่ย มันยังไงเร็วเกินไป เอาไว้วันที่ผมรักหรือแต่งงานเลยดีกว่า แต่ว่าไอ้เรื่องตอนนี้มันไม่สำคัญเท่ากับยาเสพติดหรอกพี่(ยิ้ม)”

มีคนแซวว่า หลังจากที่โตโน่ประกาศจีบแตงโมปุ๊บ แตงโมก็ช็อคเข้าโรงพยาบาลเลย? “(หัวเราะ)มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ผมว่าก็ใช้วิจารณาญาณครับผม อย่าไปตลกกับสิ่งนั้นเลย” แม่เราเป็นห่วงมากกับเรื่องนี้? “แม่ก็เป็นห่วง เพราะว่ามันยังไงมีตัวงานอีกหลายงานเลย ที่เราต้องลุยและเต็มที่กับมัน คุณแม่ก็เลยเป็นห่วงในจุดนี้ ผมเชื่อมั่นในความจริงใจนะ ในเรื่องของความดี การคิดดี การพูดดีนะ การที่ผมจะคุยกับใครหรือทำอะไรในครั้งนี้ ผมไม่ได้หวังอะไรจากใครเลย ผมไม่ได้คิดว่าต่อไปมันจะเป็นยังไง จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ คือผมพูดในสิ่งที่ผมทำ ผมรับผิดชอบในสิ่งที่ผมพูด ในสิ่งที่เป็นผม ผมโตมาแบบนี้ ผมก็อยากให้หลายๆคนเข้าใจ แฟนๆทุกคน หรือใครก็แล้วแต่ อย่าซีเรียสกับเรื่องนี้เลย” คุณแม่ชอบแตงโมไหม? “โอ๊ย พี่ครับ แค่ 2 อาทิตย์ ยังไมได้เจอยังไม่ได้อะไรเลยครับผม” มีข่าวว่าเราขับเบนซ์ไปรับส่งแตงโม? “ผมขับรถเก่าครับผม ผมไม่มีรถเบนซ์”