Inside Dara
'ฐิสา' เชื่อในความรัก 'กัน' ยังอยู่เสมอในชีวิต

คืนจอในบท “อบเชย” นางเอกละครภาคต่อจากลูกผู้ชายไม้ตะพดในชื่อ “ตะพดโลกันตร์” ทางช่อง 7 หนึ่งในบทที่ทำให้แฟนๆจำสาว “ฐิสา—วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร” ได้แม่น!! ถึงชีวิตนอกจอ ฐิสา จะเรียบร้อยแต่เพราะ “ความรัก” ในอาชีพเลยพาให้สาวคนนี้สวมตัวเองได้ทุกบทบาท เต็มที่กับทุกเรื่องทั้งงาน หน้าที่ รวมถึงเรื่องความรักที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในสถานะคนรู้ใจของหนุ่ม “กัน—นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” แต่ ฐิสา ก็ยังเต็มใจไปยินดีในวันสำคัญ!

เลยขอเปิดใจทุกเรื่องเริ่มจาก... สาวเรียบร้อยทำไมรักที่จะอยู่ในโลกมายา? “ถามว่าเรียบร้อยมั้ยก็เป็นส่วนนึง เป็นคนนิ่งๆเรียบๆ จุดเริ่มต้นเราก็ไม่ได้คิดว่าจะทำงานตรงนี้ เป็นคนไม่กล้าแสดงออก ไม่มั่นใจเลย ไม่ชอบให้คนมองเรา แต่ตอนนั้นเหมือนเด็กวัยรุ่นได้มีรายได้เพิ่ม ทุกวันนี้ก็ยังมีความตื่นเต้น แต่คงเพราะเรามีประสบการณ์มากขึ้น เวลาเห็นคนอยากมาดูเรา เราก็ อยากให้ใจเค้า อยากให้ความสุข ถึงตอนนี้มันกลายเป็นรักอาชีพนี้ไปแล้ว พอเข้ามาจริงๆกว่าเราจะได้เงินมันไม่ง่ายเลย ใช้ความอดทน ความกล้า หนูกลัวแมลง กลัวทุกอย่าง เข้าป่าทุกเรื่อง (ยิ้ม) บางทีไปห้างไปเดินเล่น เราไม่ได้เป็นดาราเลย ธรรมดามาก เราสบายใจกว่า คนเจอเราไม่ต้องมากรี๊ดกร๊าดเรา จำไม่ได้ไม่เป็นไร แค่เห็นผลงานทางทีวีแล้วยอมรับเราก็พอ” ช่วงหลังเปิดตัวเองหลายด้าน เพราะโสดด้วยรึเปล่า? “ไม่เกี่ยวค่ะ เราโตขึ้นมากกว่า เรียนจบแล้วด้วย อยากทำงานที่โตขึ้นบ้าง อย่างงานเซ็กซี่เราก็ได้ลองทำ แต่จริงๆตัวเราก็ไม่ใช่ทางนั้นเลย ไม่ชอบ เลย ตอนแรกๆคนมีนะคนที่มองว่าไม่มีงานแล้วรึเปล่าเลยต้องมาเซ็กซี่ มันไม่ใช่ เราแค่โตขึ้นแต่ก็ทำให้รู้ลิมิตตัวเองมากขึ้น เรามองมันว่าเป็นงาน ทำงานเสร็จเราก็กลับมาเป็นตัวเรา ถามว่าจะมีอีกมั้ยช่วงนี้ก็ยัง ส่วนจะเซ็กซี่ขึ้นถึงกับถ่ายชุดว่ายน้ำ เลยมั้ย ก็คงไม่รับ เกรงใจครอบครัว”

เรื่องตะพดโลกันตร์ ที่คนรอคอย? “จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้คนจำเราได้มากที่สุด ไปไหนเจอแฟนละครจะเรียกว่าอบเชย ภาคแรกประสบความสำเร็จมาก พอมีภาคสองก็แอบลุ้นว่าจะออก มายังไง เพราะตัวละครบางตัวก็ตายไปแล้ว คนดูฟินภาคแรกไปแล้ว ภาคแรกเป็นแนวคอมเมอดี้ ภาคนี้แนวดราม่ากว่า บู๊เยอะกว่า ถ้าถามว่าทำไมต้องดูต่อ อยากให้ดูเรื่องราวของละครว่าแต่จะคนจะเป็นยังไง มันเข้มข้นขึ้นจริงๆ”

แล้วเรื่องรูปคู่ที่รอคอยวันรับปริญญาของกัน—นภัทร ล่ะ? “เรามองว่าวันรับปริญญาของใครรอบตัวเราคือวันที่เจ้าตัวมีความสุขที่สุด เราเห็นพัฒนาการของเค้าด้วย เรารู้จักกันตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย พอมาเรียนก็เรียนที่เดียวกัน คณะติดกัน” คนมองว่ามาแบบนี้เดี๋ยวมีรีเทิร์นแน่? “ไม่หรอก วันแบบนี้ เราเคยคุยกันว่าจะไป เรื่องรีเทิร์นหนูยังไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น” หลัง จากวันนั้นคุยกันมั้ย? “คุยกันบ้างอย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องกดดันเค้าและตัวเรา” ดูเราหัวใจแข็งแรงขึ้น? “ใช่ค่ะ โตขึ้น ช่วงที่ผ่านมาเจออะไรหลายอย่างด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องสตรอง!! (หัวเราะ)” ความรู้สึกดีๆยังอยู่? “มันก็ยังอยู่ค่ะ ที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ดี แต่ ณ จุดนั้นมันอาจจะมีอะไร ที่ทำให้เราขอใช้เวลาของตัวเองกันก่อน แต่เค้าก็ยังอยู่ ข้างๆตลอด ยังอยู่เป็นวงกลมของเรา” หลายคนมองว่าที่เรายังไม่มีใครเพราะกันยังอยู่ในใจเรา? “ก็มีคนเข้ามานะ แต่ยังไม่ใช่จริงๆ หนูไม่เคยเปรียบเทียบ ใครกับใคร” ความสัมพันธ์นั้นสอนอะไรเรา? “มันทำให้เราได้หันกลับมามองตัวเองว่า ณ เวลานั้นเราไม่น่าทำแบบนั้น แล้วจะไม่ทำอีก ทำให้เราระวังมากขึ้น เป็นประสบการณ์สอนให้เราดีขึ้น ถ้าอนาคตเราจะเป็นแนวนั้น เราก็ต้องคุยกันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาเราไม่ค่อยมีเวลาคุยกันเจอกัน เวลามีอะไรเลยไม่เข้าใจกัน” มีคนเข้ามาจีบเยอะมั้ย? “ก็มีคนเข้ามาแต่ยังไม่ใช่ เพราะเราไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นด้วย” พระเอกล่ะมีมาจีบมั้ย? “เราก็รู้แนวเค้าหมดแล้วมั้ยคะ(ยิ้ม)”.