Inside Dara
สเต็ปความเป็นดาวของสาว'ซาร่า เล็กจ์'

กำลังมีผลงานละครในตอนนี้ สำหรับสาวตาคม ซาร่า เล็กจ์ ที่เรียกได้ว่าผ่านบทบทบาทการแสดงมาอย่างหลากหลาย แต่ล่าสุดเธอได้สั่งสมประสบการณ์ จนวันนี้เธอสามารถไต่ระดับขึ้นมาเป็นนางเอกอย่างเต็มตัว กับละครเรื่อง "มณีแดนสรวง" วันนี้จึงต้องคว้าตัวนักแสดงสาวคนนี้มาพูดคุยกันถึงชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงของเธอ รวมไปถึงเรื่องราวส่วนตั๊ว...ส่วนตัว

กระตอบรับกับผลงานละคร

หลังจากรับบทนางรองมานานวันนี้มีโอกาสดีขึ้นมารับบทนางเอกเต็มตัวในละครเรื่อง "มณีแดนสรวง" รู้สึกอย่างไรบ้าง

ละครเรื่องนี้ซาร่ารับบทเป็นนางฟ้าชื่อ รัศมิชโลธร หรือ ชิโล เป็นชื่อแบบเทพ คาแรกเตอร์เป็นเด็กที่ซนและแก่นมาก ชอบฝ่าฝืนกฎของท่านพ่อ ประมาณว่าชิโลไปเรียนวิชา พรหมลิขิต แล้วบังเอิญไปเจอคู่คู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกัน ซึ่งชิโลรู้ว่า ถ้าแต่งงานกันไปไม่รอดแน่ ด้วยความหวังดี เราเลยวางแผนทำลายงานแต่งงาน ซึ่งเป็นอะไรที่ผิดมากเหมือนว่าเราไปฝืนกฎของธรรมชาติ จึงโดนลงโทษ โดยการส่งมาให้มาอยู่โลกกับเพื่อนที่เป็นเทพชื่อว่า "อุ้มสม" ให้เรากับเพื่อนมาช่วยกันให้เขาทั้งสองคนกลับมารักกันให้ได้ แถมเราทั้งสองคนเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีเวทมนตร์

กับการเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกส่วนตัวมีความกดดันมากน้อยขนาดไหน

ถามว่ากดดันไหม ก็กดดันนะ ว่าเราจะเล่นได้ไหม อย่างตอนที่เข้าวงการมาตอนแรกๆ ซาร่าได้เป็นนางเอกภาพยนตร์เลยเรื่อง "ปักษาวายุ" แล้วก็เซ็นสัญญากับอาร์เอส จากนั้นมาอยู่ค่ายบรอดคาซท์เราเล่นเป็นคู่สอง ซาร่าแฮปปี้นะ เพราะว่าเราได้เห็นพี่ๆ ที่เป็นมืออาชีพที่เขาเล่นเป็นพระเอก นางเอก เราได้ฝึกสังเกตการแสดงของพวกเขา พอมาเรื่อง มณีแดนสรวง เหมือนกับที่ผ่านมาเราได้สั่งสมประสบการณ์ เรื่อยๆ เมื่อได้เป็นนางเอกเองแล้ว ตื่นเต้นว่าจะเราจะสามารถทำให้เรื่องสนุกทั้งเรื่องหรือเปล่า

น้อยใจไหมว่าทำงานมานานเล่นละครหลายเรื่อง แต่ยังไม่ได้เป็นนางเอกเสียที

ซาร่าไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย แค่รู้สึกว่าอยากเล่นละครมากกว่า เพราะแต่ละบทที่ได้เล่นในพักหลังๆ เป็นบทที่แตกต่างกันออกไป แล้วทำให้ได้ฝึกและยังได้เรื่องของประสบการณ์ เอาจริงๆ ไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนั้นเลย (ยิ้ม)

คาดหวังกับฟีดแบ็กมากน้อยขนาดไหน

จริงๆ เปิดใจมากกว่า แต่ก็มีความลุ้นมากกว่า เพราะเหมือนกับว่า เมื่อเราได้รับบทนางเอก บทเราจะเยอะขึ้น แล้วเหมือนกับว่าเราต้องทำบทออกมาให้ดี

หลายคนจับตามองว่าซาร่าจะเดินตามรอย "แอฟ-ทักษอร เตชะณรงค์" จากบทนางรอง พอมาเล่น "จำเลยรัก" โด่งดัง ส่วนตัวคาดหวังขนาดนั้นไหม

ไม่ได้คิดขนาดนั้น (หัวเราะ) ขอแค่คนดูชอบแล้ว สนุก และแฮปปี้ก็พอใจแล้ว ถ้าถามว่าจะไม่คิดเลยก็ไม่ได้นะ มีลุ้นนะ เพราะว่าเรื่องนี้ถ่ายทำนานมากกว่า 6 เดือนแล้วถ่ายทำยากมาก มันต้องเซตฉากสวรรค์

อัพเดทผลงานของสาวตาคม
นอกเหนือจากงานละครแล้วยังมีงานอะไรที่ทำอยู่บ้าง

ตอนนี้ซาร่ามีงานพิธีกรรายการ อินเทรนด์ ที่ถ่ายทำประจำ แล้วกำลังจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ กุหลาบไฟ

พูดถึงบทบาทในละครเรื่อง กุหลาบไฟ หน่อยว่าเป็นอย่างไร

เป็นละครบู๊ ดราม่า บู๊สุดๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้กำลังเรียนคิวบู๊อยู่ ในเรื่องนี้ผู้หญิงบู๊นำเลย เพราะฉะนั้นก็ต้องซ้อมคิวบู๊ต่างๆ แล้วก็ต้องจำแต่ละท่าต้องสวยเสมอ

ไอดอลของสาวซาร่าเป็นใคร

ซาร่าประทับใจการทำงานของ พี่เจนี่ (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ) เคยร่วมงานด้วยกัน 3 เรื่อง เพราะว่าเล่นเรื่องแรกด้วยกันคือ หยกลายเฆม และต่อด้วย สวย เริ่ด เชิด โสด และ กลรักลวงใจ พี่เจนี่เป็นคนที่มีสมาธิมาก อยากเป็นให้ได้อย่างพี่เขาเป็น เพราะว่าพี่เขาเก่งมาก

จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง
เริ่มต้นเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงได้อย่างไร

ซาร่าเข้าวงการมาตอนอายุประมาณ 15-16 ปี เริ่มจากการถ่ายโฆษณา แคสติ้งโฆษณาเหมือนคนอื่นๆ แล้วก็เป็นสเต็ปมาเรื่อยๆ ถ่ายมิวสิกวิดีโอของอาร์เอส จากนั้นก็ไปแคสติ้งหนังเรื่อง ปักษาวายุ ของอาร์เอสแล้วก็ได้ จากนั้นก็เซ็นสัญญากับที่อาร์เอสเลย

ผ่านอุปสรรคต่างๆ ในวงการบันเทิงมากน้อยขนาดไหน

ซาร่ามองว่าอุปสรรคคือการฝึกฝน เพราะว่าซาร่าเป็นเด็กพัทยา แล้วซาร่าก็ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าโมเดลิ่งคืออะไร พอดีว่าเพื่อนคุณแม่บอกให้ลองไปแคสติ้งงานที่โมเดลิ่ง เริ่มจากการแคสโฆษณาก่อน เราต้องยืนอยู่หน้ากล้อง ทำในสิ่งที่เขาบอกให้เราทำ แล้วซาร่าเป็นคนที่ขี้อายมาก (ยิ้ม) เขาให้โพสท่าต่างแต่เราทำไม่ค่อยได้ แต่คุณแม่พยายามผลักดันเรา ให้เรากล้าแสดงออกมากขึ้น ค่อยๆ ฝึกไป

ความรู้สึกแรกกับการได้ทำงานโฆษณาชิ้นแรก

ดีใจมาก แต่ที่ได้เป็นตัวเมนเอ็กซ์ตร้า เรื่องค่าตัวเท่าที่รู้ค่าตัวน้อยมาก ไม่ถึงหมื่น แต่เป็นอะไรที่พิเศษมาก เพราะเมื่อเราได้มาครั้งหนึ่ง เราจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการแคสงาน

ภาพยนตร์เรื่องแรก "ปักษาวายุ" การเข้าฉากครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง

ตอนที่ถ่ายตื่นเต้นมาก เพราะว่าได้เล่นกับพี่หนุ่ม (ศรราม เทพพิทักษ์) แค่ตอนนั้นเขาบอกว่าให้เล่นกับพี่หนุ่มก็ตอบตกลงเลย ยังไม่ได้อ่านบทด้วยนะ (ยิ้ม) กับการเจอพี่หนุ่มครั้งแรก ตื่นเต้น เพราะพี่หนุ่มดังมาก ขั้นตอนการทำงานของเขาคือจะสอนเราคอยแนะนำด้วย

ของขวัญชิ้นแรกและชิ้นใหญ่ที่ซื้อให้แก่ตัวเอง

น่าจะเป็นรถนะ (ยิ้ม) แต่คุณพ่อไม่ค่อยอยากให้ซื้อ เพราะอยากให้อายุถึง 20 ปี แล้วมีใบขับขี่ก่อน คุณพ่อก็ยื้อๆ แต่เราเก็บเงินจนซื้อได้ก็เลยซื้อ ซาร่าอยากได้ เพราะจะได้อำนวยความสะดวกให้กับเรา

มุมมองที่มีต่อวงการบันเทิงก่อนและหลังเข้ามาทำงานมีความแตกต่างมากน้อยขนาดไหน

ตอนเด็กๆ มองว่ามันไกลตัวนะ ส่วนตัวรู้สึกว่าเราเติบโตมากับวงการนี้ ก่อนหน้านี้ซาร่าคิดว่าดาราต้องอลังการ เป็นเทพอยู่ในห้องส่วนตัว พอวันนี้รู้ว่าดาราก็เป็นคนธรรมดาที่ทำงานนั่นแหละ

รู้สึกอย่างไรกับคำพูดที่ว่าเข้ามาอยู่ในวงการไม่ใช่เรื่องยากแต่จะทำอย่างไรให้อยู่ได้นานเป็นเรื่องที่ยากกว่า

อันนี้จริงมาก ซาร่าว่าตอนนี้คนไทยหน้าตาดีเยอะ แต่ในมุมมองของซาร่า ถ้าจะอยู่ให้นานต้องอยู่ด้วยฝีมือ และคุณภาพ

อยากให้คนภายนอกมองเราว่าเป็นดาราหรือนักแสดง เพราะอะไร

ต้องเป็นนักแสดงอยู่แล้ว คำว่านักแสดงเป็นคำที่เราได้ทำอาชีพนักแสดงอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

การถ่ายเซ็กซี่ มีเทคนิคอย่างไรให้ออกมาดูน่ารักๆ ไม่หวือหวาจนมากเกินไปนัก

จริงๆ ซาร่าเป็นคนเลือกเยอะเหมือนกัน และขึ้นอยู่กับหัวหนังสือที่เราเลือก ร่วมไปถึงความสบายใจด้วย แต่ละหนังสือมีคอนเซ็ปต์เป็นของตัวเอง ซาร่าจะเลือกว่าช่วงนี้อยากถ่ายแบบสไตล์ไหน

ชีวิตของสาวลูกครึ่งในวัยเด็ก
สมัยเด็กๆ ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร

หลายเวอร์ชั่นมาก เวอร์ชั่นที่เล่นกับเด็กผู้ชายในหมู่บ้านปีนต้นไม้ ขี่จักรยาน เวอร์ชั่นผู้หญิงก็มีนะ ชวนเพื่อนๆ มาเล่นตุ๊กตาในบ้านเรา แต่ตอนเด็กๆ เป็นอะไรที่ชอบครีเอทีฟมีจินตนาการสูงแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ปิดกั้น อยากทำอะไรก็ทำ

คุณพ่อเป็นชาวต่างชาติแล้วเลี้ยงซาร่ามาเป็นแบบไหน

ต้องบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงซาร่ามาคนละฟิลเลย คุณพ่อเป็นชาวอังกฤษเป็นคนที่มีระเบียบ และให้ความสำคัญในเรื่องของเวลา ไปไหนต้องกลับตรงต่อเวลา ตอนเด็กๆ ถ้าอยากได้อะไรจะไม่ได้เลยนะ ต้องได้ในวันเกิด วันคริสต์มาส ส่วนคุณแม่จะเป็นสไตล์ไทย คุณแม่สอนเรื่องมารยาทค่อนข้างเยอะ คุณแม่ใจดี

การเลี้ยงดูของคุณพ่อที่ทำให้ซาร่าซึมซับมาตลอดมีอะไรบ้าง

คุณพ่อเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต เป็นคนที่มีเหตุมีผล ซาร่าเป็นคนเจ้าระเบียบนะ ทำอะไรเป็นสเต็ปเป็นขั้นตอน แต่ก็มีมุมสบายๆ นะ

ระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ใครหวงซาร่ามากกว่ากัน

น่าจะทั้งคู่นะ (ยิ้ม) แต่คุณพ่อจะเยอะกว่านิดหนึ่ง ทั้งๆ ที่คุณพ่อเป็นฝรั่ง แต่พอซาร่าถ่ายเซ็กซี่ ไม่ค่อยอยากดู (แล้วถ้าเลิฟ ซีนในละคร) อันนั้นคุณพ่อดู คุณพ่อเข้าใจ

เมื่อเกิดข่าวต่างๆ ขึ้นอยากทราบว่ามีเทคนิครับมืออย่างไรบ้าง

อย่าเอาความรู้สึกไปผูกกับมันมากเกินไป จะทำให้เราเครียด แล้วจะส่งผลกระทบต่องานชิ้นอื่น อีกอย่างเรามีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ ส่วนใหญ่เมื่อมีข่าวออกมา ซาร่าก็จะได้รับกำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนๆ

สำรวจหัวใจสีชมพู
ชีวิตรักกับหนุ่ม "เอ็ม" สืบสกุล ทวีผล หรือ เอ็ม โอไอซี เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ทั้งสองครอบครัวก็รู้จักกันมากขึ้น คบกันมานานอยู่ 8 ปีแล้ว ความประทับกับพี่เอ็ม เขาเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายแล้วเป็นคนที่เราคุยด้วยแล้วคลิก จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ คุณพ่อของซาร่าเจอกับพี่เอ็มแล้ว เขาก็เกร็งๆนะ เพราะว่าคุณพ่อเป็นฝรั่งแล้วต้องพูดภาษาอังกฤษกัน

ผ่านพ้นอาถรรพณ์ 7 ปีมาได้แล้ว รู้สึกอย่างไร

อย่างแรกซาร่าเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดเรื่องของ 3 ปี 5 ปี 7 ปี แต่ถามว่ามีทะเลาะกันไหม มีทุกปี แต่ไม่รู้นะว่าตอน 7 ปีทะเลาะอะไรกัน (หัวเราะ)

เทคนิคในการประคับประคองความรักให้ยาวนาน

มันต้องใช้เวลา ค่อยๆ ปรับกัน มันไม่มีใครที่สามารถจูนกันได้ตั้งแต่แรกหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างว่าปีแรกๆ มันก็สวยงามนะ (ยิ้ม) แต่หลังจากนั้นต้องเรียนรู้กันไป ว่ารับกันได้ไหม มันต้องใช้เวลา

คบกันมายาวนานได้พูดคุยเรื่องแต่งงานหรือยัง

ยังไม่ได้วางแพลนนะ แต่ถ้าจะแต่งซาร่าว่าจะเป็นเลข 3 กว่าๆ เพราะซาร่ายังรักอิสระ (เรื่องทายาทสืบสกุล) ซาร่าว่าคนสมัยนี้มีลูกช้า อีกอย่างวิวัฒนการแพทย์สมัยนี้ก็ทันสมัย บางคนอายุเยอะก็ยังมีลูกได้

สุดท้ายนี้ฝากผลงาน

ฝากให้ชมละครเรื่อง "มณีแดนสรวง" อยากให้ลองชมกัน เพราะเป็นละครแนวแฟนตาซี มีหลากหลายอารมณ์มาก อยากให้ลองติดตาม ถ้าซาร่าเล่นตรงไหนผิดพลาด ฝากติดชมด้วยนะ(ยิ้ม)

อ้าว...อย่าลืมติดตามชมผลงานของเธอกันนะจ๊ะ


ชื่อของสาวคนนี้ : ซาร่า เล็กจ์
ชื่อเล่น : ซาร่า
จบการศึกษาจาก : มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ผลงานละครที่ผ่านมา : หยกลายเฆม กลรักลวงใจ สวย เริ่ด เชิด โสด
ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา : ปักษาวายุ
ผลงานละครปัจจุบัน : มณีแดนสรวง