Inside Dara
มิค แจงเคลียร์ออแกไนเซอร์กรณีเบี้ยวค่าตัว เบนซ์ แล้ว

มิค บรมวุฒิ แจงกรณีเบนซ์ พรชิตา โพสต์ข้อความทวงเงินค่าตัวกับบริษัทออแกไนเซอร์เป็นเรื่องเข้าใจผิด เผยมีคนในบริษัทออแกไนเซอร์ขโมยเงินค่าตัวไปหมุนแล้วโกหกทุกคน แต่ตอนนี้ได้รับเงินแล้วและทางบริษัทไล่พนักงานคนนั้นออก-ดำเนินคดีแล้ว

เป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาทันทีเมื่อนางเอกสาว เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา โพสต์ทวงเงินค่าตัวกับบริษัทออแกไนเซอร์รายหนึ่งทางไอจีแต่ก็ลบภาพออกไป และเหตุการณ์บานปลายเมื่อมีคนโพสต์โต้ว่า ทางสาวเบนซ์ได้ให้คนอื่นมารับเงินแทนเพื่อเลี่ยงภาษี และไม่รู้ว่าเงินได้เข้าบัญชีแล้ว พอได้เจอนักแสดงหนุ่ม มิค บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ สามีสุดเลิฟของสาวเบนซ์ มาร่วมงานเปิดตัวรถ Ducati Scrambler Special Edition Mike Hailwood ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เลยถามถึงประเด็นดังกล่าว

ซึ่ง มิค ชี้แจงว่า “สรุปแล้วเป็นการเข้าใจผิดกันหมดเลย มันเป็นความผิดพลาดของบุคลากรเพียงแค่คนเดียวที่อยู่ในบริษัทออแกไนเซอร์ ซึ่งเขาขโมยเงินเราไปโดยที่เราไม่รู้ ซึ่งทางออแกไนซ์ได้จ่ายเงินมาแล้ว แล้วเขาเอาใครมารับเราก็ไม่รู้ เพราะมิคกับเบนซ์ไม่เคยให้ใครมารับแทนอยู่แล้ว เราก็จ่ายภาษีถูกต้อง เรารับเอง เพียงแค่คนคนนี้เขาขโมยเงินบริษัทเขาเอง แล้วอ้างว่าคนโน้นไม่จ่าย คนนั้นจ่ายมาแล้ว จ่ายเสร็จรอเคลียร์ริ่ง แล้วบอกว่าคนโน้นรับแทน ก็ในเมื่อใช้ชื่อเราจะให้คนอื่นรับทำไม แล้วคนนี้ไปโกหกทุกคนว่าเราไม่รู้ว่าเงินเข้าบัญชีเขาแล้ว มันเลยเกิดเรื่องต่อจากนั้นมา ซึ่งตอนนี้เคลียร์กันแล้วเรียบร้อย ก็เลยไม่อยากพูดถึงต่อ เพียงแต่อยากให้ทราบว่ามันเป็นแค่เพียงบุคคลคนเดียวที่ขโมยเงินเราไปหมุนก่อน ตำรวจก็ถามว่าทำไมทำกับเบนซ์ แล้วคนอื่นล่ะ เขาก็บอกว่าเปล่า เห็นว่าเบนซ์น่าจะคุยง่ายสุด แต่จริงๆ ถ้ามาคุยก็จะยอมนะ ไม่ได้ว่าอะไร แต่กลายเป็นเขาโกหกจนเรื่องใหญ่โตมาก เราก็ไม่รู้เรื่อง” ได้เงินเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? “เงินเพิ่งได้หลังจากทุกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตไปแล้ว จนเรากลับจากฮ่องกงถึงเพิ่งได้เงิน แต่ก่อนหน้านี้ก็รอเป็นเดือนแล้วครับ”

คือให้ตำรวจมาช่วยเคลียร์? “ใช่ครับ ออแกไนเซอร์เขาน่ารักมาก พอเขาฟังจากทางเราก็รู้สึกว่ามันผิดปกติ เขาก็ไปเช็กให้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอเช็กไปเช็กมา ตำรวจก็เลยสืบมาเจอว่าเงินมันออกไปแล้ว แต่ไปเข้าบัญชีคนอื่น ซึ่งเราไม่เคยให้ใครมารับเงินแทนอยู่แล้ว” เราอยากเอาเรื่องไหม? “ไม่เอาเรื่องเลย จริงๆ มิคว่าพี่ๆ สื่อน่าจะเข้าใจว่าเงินเท่านี้จะทำให้เป็นเรื่องทำไม ถ้าเราได้เงินมาแล้วถูกไหม ถ้าพูดดีๆ กับเราตั้งแต่แรก ยังไงเราสองคนก็ยอมอยู่แล้ว แต่เขาเล่นเอาไปแล้วอ้างคนนั้นคนนี้จนมันไม่จบ แล้วที่งงที่สุดคือกลายเป็นเขามาว่าเรา บอกว่าถ้าพี่ไม่ทำเรื่องก็ไม่เกิดขึ้น เราก็บอกว่าเหรอน้อง แต่ถ้าโอนมาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว เรื่องทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ” ตอนที่เบนซ์โพสต์เขามีอารมณ์โกรธใช่ไหม? “ไม่มีอารมณ์เลยครับ เพียงแต่มันเลยกำหนดที่เขาสัญญามารอบที่ 4-5 แล้ว แล้วเขาก็พูดกลับไปกลับมา เราก็บอกว่าน้อง มันฟังดูตลกนะครับที่พูดกลับไปกลับมา พี่ไม่ได้โง่ แต่น้องมีอะไรก็พูดตรงๆ ไหม เขาก็บอกว่าไม่มี แล้วเราเริ่มดิ้นตั้งแต่เขาบอกว่ามีคนอื่นมารับแทนเรา แล้วเขาบอกว่าเงินมีปัญหา เราก็เลยงง” มีโอกาสได้คุยกับน้องคนนั้นไหม? “ไม่ได้คุยครับ น้องเขาไม่ได้มาคุย เราคุยกับออแกไนเซอร์ พอออกาไนเซอร์มาชี้แจงทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็โอเค คือเขาเข้าใจว่าเขาให้เงินเราแล้ว แต่ไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงอะไรนะครับ เป็นปัญหาระหว่างเรากับออแกไนเซอร์ครับ”

แต่ข่าวที่ออกมาเหมือนเรามีปัญหากับกระทรวงด้วย? “ไม่มีครับ เพราะหลังมีเรื่องปุ๊บ เราก็ต้องคุยกับกระทรวงไม่มีปัญหา แต่มีคนของกระทรวงที่อาจได้รับข้อมูลไม่ถูกต้อง และน้องคนที่เขียนเฟซบุ๊กด่าเบนซ์ จะกรุณามากถ้าขอโทษว่าข้อมูลที่ได้มามันผิด ซึ่งเราไม่ได้โทษเขานะ เพราะตอนนั้นเขาฟังมาเขาไม่ผิดนะครับ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ถ้าน้องขอโทษเราก็จบ เราไม่อยากมีปัญหาอยู่แล้ว เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวกับกระทรวงเลย แล้วน้องคนที่โกหกเขาเอาข้อมูลตรงนี้ไปเล่าให้กระทรวงฟังครับ แต่ถ้าเขาไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไรครับ ผมจะไปนั่งร้องไห้คนเดียว (ยิ้ม) เศร้าลึกๆ แต่จริงๆ ไม่หรอก” แล้วกับน้องคนนั้นติดต่อได้ไหม? “ไม่ได้เลยครับ เขาไม่คุยกับเราแล้ว พอเขาหน้าแตกเขาก็ไม่คุยกับเราด้วย”

ทางออแกไนเซอร์ได้ลงโทษน้องคนนั้นยังไงบ้าง? “เขาไล่ออกทันที เขาดำเนินคดีของเขา แล้วเขามาขอโทษเรา เอากระเช้ามาให้ เพราะเขาไม่รู้ว่าคนของเขาทำแบบนี้ ตอนนี้เราไม่โกรธออกาไนเซอร์เลย เพราะว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน คือเขาไม่รู้ว่าคนของเขานั่นแหละทำ แล้วคนนี้เขาประสานกับนักแสดงตลอดครับ” แต่ตอนนั้นเขาก็มีใบรับรองชัดเจนว่าใครรับเงิน? “ก็เขาเอาคนอื่นมารับเงินไง ซึ่งคนที่รับไม่ใช่ญาติผม แต่ที่ตำรวจตามเจอเพราะคนคนนี้รับเงินไปจากบริษัทออแกไนเซอร์จริง แล้วเงินตรงนี้ไปเข้าบัญชีน้องคนนั้นแหละ แต่ตอนแรกเขาไม่ยอมรับครับ”

หลังจากนี้รับงานต้องระวังมากขึ้นไหม? “จริงๆ มิคเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้มันไม่เกิดขึ้นทุกวันหรอก ไม่งั้นเราอยู่มาไม่ได้ขนาดนี้ เราก็น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่ากันทุกคน ถามว่าจะระวังยังไงในอนาคต ไม่รู้จะระวังยังไง เพราะมันไม่ควรจะเกิดขึ้นครับ” ต่อไปรับงานจะมีการเรียกเงินครึ่งนึงก่อนไหม? “ไม่หรอก มิคไม่ชอบที่จะเรื่องเยอะเรื่องเงิน มิครู้สึกว่าการให้ใจคนมันสำคัญกว่าตัวเงิน มิคไม่ได้อยากให้เขาถูกลงโทษ แต่ถ้าเขาขอโทษคำเดียวก็จบเลยนะ ไม่โกรธด้วย อโหสิให้แล้ว แค่ทางสรรพากรเข้าใจว่าเราไม่ได้เอาชื่อคนอื่นมารับ แค่นี้มิคก็แฮปปี้แล้ว ทำดีเสมอตัวดีกว่า ไม่ใช่อยู่ดีๆ มีคนมาทำเราติดลบ เราขอแค่นั้นครับ”.