“พิม พิมพ์พรรณ” เล่าเส้นทางรักคบ “คุณหมอเนท” รับคุยเรื่อง “แต่ง” แต่ไม่รีบ
รักหวานฉ่ำจัดอยู่ในโหมดคน “คลั่งรัก” สำหรับ พิม–พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ นักแสดงสาวมากฝีมือ ล่าสุดร่วมงานกาลาเปิดตัวภาพยนตร์สุดหลอน “มูลู หน้าครู” ที่สยามพารากอน มีแฟนหนุ่มนอกวงการ ดีกรีเป็นถึงคุณหมอฟัน ได้หอบดอกไม้มาให้กำลังใจ เลยต้องอัปเดตสถานการณ์เลิฟครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง “ก็เหมือนเดิม เราเลือกความรักที่มั่นคงแล้วจากเมื่อก่อนวัยรุ่น ความรักไม่ค่อยลงตัว แต่ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ด้วยความเข้าใจ ดูแลกัน เป็นทั้งเพื่อน คนรัก เป็นทุกอย่างให้กัน มีความสุขมาก”
เจอกันได้ยังไงก่อน?
“น้ำผึ้ง-ณัฐริกา แนะนำ แฟนของน้ำผึ้งชื่อพี่เป้ เขาเป็นญาติกับเนท แฟนพิมพ์เขาอยู่ที่อเมริกา เขาโตมาด้วยกันเพราะเป็นญาติกัน มาเมืองไทยน้ำผึ้งเลยนัดเจอเพราะอยากให้เจอ เขาเป็นคนดีพิมเกรงใจเพื่อนก็เลยไปแค่นั้นเอง เจอกันครั้งเดียวเหมือนไปเป็นมารยาทโทร.คุยกันเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกดี พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง”
เขารู้มั้ยว่าพิมเป็นดารา?
“รู้ค่ะแต่เขาอยู่เมืองนอกไม่ได้ตื่นเต้นอะไรก็เป็นแค่อาชีพนึง ไม่ได้อะไรมาก ไม่ใช่ดาราบ้านเขาก็จะไม่รู้จักอยู่แล้ว”
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจลองคุยกัน?
“ก่อนหน้านี้พิมผิดหวังความรักมาเยอะเลยรู้สึกว่าไม่อยากมีแฟน แต่พอคุยกับเขาแล้ว เราสามารถคุยกับเขาได้ทุกเรื่องก็เลยรู้สึกว่าใช่ คุยกันมาปีนึง พิมขอเขาเป็นแฟนเลย เพราะเราอยู่ไกลกันก็เลยอยากให้เขามั่นใจ ไม่อยากเสียเวลา”
หวั่นใจรักแท้แพ้ระยะทางมั้ย?
“พิมไม่คิดว่า สมมติว่าวันนึงเขาจะมีใคร เราคบไม่เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วมันเป็นเรื่องของศีลไม่เสมอกัน ก็ต้องปล่อย โชคดีพิมเจอคนที่ซื่อสัตย์ พิมเองเป็นซื่อสัตย์ก็เลยมั่นคงไม่ได้มานั่งจับผิดหรือหึงหวงอะไรกันเลย”
วัยต่างกันเยอะมั้ย?
“ห่างกัน 3 ปีเองค่ะ เขาโตกว่าพิม ความมั่นคงทางอารมณ์เขามีมากกว่าเรา เขาเป็นคนใจเย็น เป็นคุณหมอ แต่เราเป็นคนวู่วาม คุณพ่อเป็นหมอ พี่สาว พี่เขยเป็นหมอกันหมดเลย เขาอยู่กับครอบครัวที่มีวินัย คือเราโตมาแบบนี้”
สังคมที่ต่างกันมากเราต้องปรับตัวยังไงบ้าง?
“เขาจะเป็นครอบครัวที่มีระเบียบแบบแผน แต่เขาจะสติ๊กเรื่องกินมากกว่า เรื่องสุขภาพ ซึ่งเรามันไม่ใช่ สายเรามันต้องหมูกระทะ อะไรที่ทำลายสุขภาพเราชอบ (หัวเราะ) เขาเป็นสายเฮลตี้ จะกินอะไรทีลำบาก ด้วยความรักก็ปรับได้ ไม่เป็นไรแค่อาหารบางอย่างที่ชอบกินก็เลี่ยงไป กินอย่างอื่นได้”
มีสั่งเมนูอะไรที่แฟนถึงขั้นเหล่ตามอง ไม่อยาก ให้เรากิน?
“เขาไม่ดุนะ แต่เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เวลากินช็อก โกแลต หรือตั๊กแตน เขาจะทำหน้าเหมือนร้องไห้ตลอดเวลา สงสารเขาไม่อยากให้เขาทุกข์ใจ”
เห็นในไอจีจะแอบหวานเหมือนกันนะ?
“ใช่ค่ะ รักเขาเราก็หอมกันปกติแต่เขาจะไม่ค่อยชอบออกกล้อง จะถ่ายลงไอจีไม่ได้ เขาเห็นจะให้พิมลบภาพเลย แต่ไม่เป็นไรเขาก็คงเขินแหละ ต้องแอบถ่ายไม่ให้รู้ตัวหรือให้เขาสกรีนก่อนจะเอาภาพไหน ต้องขอก่อน”
ต่างวงการกันแบบนี้ เขามีขออันนี้ทำได้หรือไม่ได้มั้ย?
“เมื่อก่อนรับบทมีเลิฟซีน สมัยก่อนจะมีกอดบ้าง หอมบ้างเขาจะกังวลก็อธิบายให้เขาฟังว่ามันเป็นการแสดงเราไม่ได้ต้องเล่นถึงพริกถึงขิงกันขนาดนั้น เราบอกเขาเลยว่าการทำงานเราไม่อยากให้อะไรมารบกวน ไม่อยากมีอารมณ์กังวล เชื่อใจเราว่าเรารับงานอะไรโตแล้วเรารู้ว่าควรเล่นระดับไหน ก็พอ เราคุยกับเขาสบายใจขึ้นเขาก็ไม่เคยถามอีกเลย”
คบกันขนาดนี้มีวางแผนอนาคตแต่งงานกันบ้างหรือยัง?
“พิมคุยกันตลอดค่ะ แต่เขาอาจจะยังไม่พร้อมก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร มันเร่งไปในเมื่อคนสองคนยังไม่พร้อมตรงกันก็ไม่เป็นอะไร ถึงวันนึงถ้าเรารู้สึกนานไปแล้วนะเราอาจจะต้องหาตรงกลางคุยกันจริงจัง”
มองไกลๆ ถึงเรื่องอนาคตมีลูก?
“พิมตัดมดลูกไปแล้วค่ะ เพราะพิมเป็นซีสต์ในมดลูกก็จะมีลูกไม่ได้แล้ว”
พอมีลูกไม่ได้เป็นการดับความฝันของผู้หญิงก็อยากจะเป็นคุณแม่ด้วยหรือเปล่า?
“มากๆค่ะ เกิดมาเราอยากเป็นแม่ ในเมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราก็โอเค โชคดีตัวเขาเองไม่ได้อยากมีลูก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ความรักก็แฮปปี้ เดี๋ยวนี้การมีลูกคนนึงภาระมันเยอะ ค่าใช้จ่ายลูกคนนึงใช้เงินเป็น 10 ล้านในการส่งกว่าเขาจะเรียนจบ ค่าเทอมมันแพง เราเก็บเงินไว้เที่ยวดีกว่า”
