Inside Dara
‘แพนเค้ก’ กับรักครั้งใหม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้

“แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” สาวสวยที่เราต้องยอมรับว่า เธอเป็นนักแสดงที่ถูกจับตามองไปเสียทุกเรื่องไม่ว่าจะทำอะไร โดยเฉพาะความรักกับ “พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์” ที่เรียกว่าครั้งนี้ดูจะสดใส

นักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย “แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” สาวสวยที่เราต้องยอมรับว่า เธอเป็นนักแสดงที่ถูกจับตามองไปเสียทุกเรื่องไม่ว่าจะทำอะไร โดยเฉพาะความรักกับ “พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์” ที่เรียกว่าครั้งนี้ดูจะสดใส และมีอนาคตถึงขั้นแต่งงาน และวันนี้เราเปิดพื้นที่สำหรับเธอ นางเอกขวัญใจประชาชน หรือฉายาที่เธอได้มาว่า เป็นนางฟ้าใจบุญ “แพนเค้ก- เขมนิจ จามิกรณ์” กับทุกเรื่องราวที่หลาย ๆ คนอยากรู้ เราไปคุยกับเธอกันเลยดีกว่า

ดูความรักครั้งนี้ของแพน จะไปได้สวย?

“ความรัก ณ ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะว่าเราเข้ากันได้ แต่ก็มีอีกหลาย ๆ อย่างที่เราต้องเรียนรู้กันและกัน ซึ่งมันมีหลาย ๆ อย่าง ด้วยความต่างหลาย ๆ รูปแบบ ด้วยหน้าที่การงาน เวลา แบ๊กกราวด์ แต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำอะไรมาไม่เหมือนกัน ซึ่งมันทำให้มันมีหลายอย่างที่เราต้องจูนกันพอสมควร และมันต้องใช้เวลาเรียนรู้กันอยู่คบกันมา 2 ปี เราก็มีการปรับตัวเยอะพอสมควร เพราะเราเองก็ไม่เคยอยู่ในสังคมของเขา เขาเองก็ไม่เคยมาเจอครอบครัวแบบเรา เจอนักข่าว แล้วพอเจอข่าวเขาก็จะแบบว่าแล้วเมื่อไรมันจะจบ แล้วเมื่อไรข่าวมันจะหายไป เราก็ต้องบอกเขาว่ามันเป็นอาชีพของเราแบบนี้ที่ต้องเจอข่าว ซึ่งเขาก็ต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจ ทำความคุ้นเคยก็ใช้เวลาเหมือนกัน

ส่วนทางเขาเวลาที่แพนไปในสังคมของเขา ส่วนใหญ่จะได้รับการต้อนรับที่น่ารัก จากทั้งคนใกล้ตัวของพี่หมีเอง หรือครอบครัวของพี่หมี คือเราเองก็ไม่รู้จักสังคมเขา มันก็เหมือนอีกโลกหนึ่งของเราเหมือนกัน ซึ่งมันรู้สึกว่าเราต้องใช้เวลาในการเรียนรู้นะ เราต้องปรับตัว ไม่รู้มารยาทสังคมหลาย ๆ อย่างต้องคอยถามเหมือนกัน”

ความรักที่ผ่าน สอนอะไรเราบ้าง จึงทำให้ความรักครั้งนี้ดูนิ่งและดีกว่าทุก ๆ ครั้ง?

“จริง ๆ แล้วเราต้องตัดสินใจเองมากขึ้น ตามวัยของเรา และตามหน้าที่การงานด้วย และหลัก ๆ เลยต้องช่วยคุณแม่ก่อน เมื่อก่อนเราเหมือนลูกที่อยู่กับแม่ ทำอะไรแม่จะช่วยเราก่อน แต่ตอนนี้เราโตขึ้น กำลังแม่เราก็ถดถอยลง เหมือนกับต้องช่วยกันใหม่มากขึ้นเช่นเดียวกันเวลาที่อยู่กับพี่หมีเองก็ตาม เขาก็จะบอกว่าเขาต้องการเพื่อนคู่คิดนะ เขาเล่าเขาพูดอะไรให้ฟัง เขาก็เหมือนอยากจะหาคนช่วยชี้แนะ ออกความเห็นบ้าง แรก ๆ เราก็จะแบบฟังอย่างเดียวแล้วเงียบ แต่พอเขาบอกเราก็ต้องมาแชร์กันอะไรบ้าง หรือว่าถ้าเขาอยากได้ไอเดียจากเรา เราก็จะพูดออกไป แต่เมื่อก่อนจะแบบเอ๊ะ มีคิดว่าเขาอยากจะฟังความคิดเราหรือเปล่า แต่พอมาคุยกันมันก็ดีขึ้น เราจะรู้ว่าอะไรที่เขาอยากจะรู้บ้าง อย่างงานเราทำงานทุกวัน ทำซํ้า ๆ กันแบบนี้ มันเหมือนเดิมไม่มีอะไรมันโอเค แต่อย่างคนที่เขาไม่ได้ทำงานแบบเรา เขาก็อยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละวันของเรา สิ่งที่เราไปเจอมามีอะไรบ้าง เขาก็อยากจะรู้ทุก ๆ เรื่องในวันหนึ่งของเรา ซึ่งมันเป็นมุมที่ต่างออกไป เราก็ต้องปรับตัวเองในส่วนนี้ ตอนนี้แพนก็พยายามที่จะเรียนรู้อะไรมากขึ้นค่ะ”

คนมักจะมองว่า แพนมีแฟนแล้วก็ยังติดแม่?

“ก็เราอยู่กับครอบครัวของเราที่เป็นแบบนี้ โตมาแบบนี้ เราจะคุ้นเคยกับการอยู่กับคุณแม่ อยู่กับน้อง ทำอะไรกันเป็นแพ็กด้วยกันตลอด และโชคดีที่พี่หมีเองเขาก็รักครอบครัวและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เขาเลยค่อนข้างที่จะเข้าใจในครอบครัวแบบเรา แต่ช่วงแรก ๆ เขาก็อาจจะงง ๆ บ้าง เหมือนกันเพราะว่าเขาเป็นลูกคนเดียว พอมาเจอคนมีพี่น้องแบบเรา เขาจะงงไปหมด เพราะเวลาอยู่บ้านเสียงดังกันมาก คนหนึ่งก็ร้องเพลง คนหนึ่งโวยวาย คือมีเสียงตลอดในบ้าน แรก ๆ เขาก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน แรก ๆ เขาก็ตกใจนะ อยู่ ๆ น้องก็กรี๊ดขึ้นมา เขาก็ค่อย ๆ ชินกับสิ่งรอบตัวเรา ตอนนี้เขาเริ่มสนุกที่จะอยู่กับน้อง ๆ แล้วค่ะ”

มีมั้ยที่ไปไหนมาไหนกันสองคนกับพี่หมี?

“มีค่ะ เป็นปกติที่เราไปกันสองคน แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แม่บอกว่าจะได้ใช้เวลาศึกษากัน แม่ก็ตามสบาย เพราะว่าเวลาที่เราไปทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ด้วยกันบ่อย แต่เวลาจะไปไหนกันสองคนแม่ก็ไม่ว่าค่ะ ก็มีไปด้วยกันบ้าง ซึ่งคนมักจะไม่ค่อยเห็น ส่วนมากคนจะเห็นเวลาไปไหนจะไปกันเป็นทีม”

สบายใจกับความรักที่เปิดเผยมั้ย?

“สบายใจค่ะ อยู่กับมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ”

มาคุยเรื่องงานบ้าง ช่วงนี้ดูแพนจะทำหลายอย่างมาก?

“มันเป็นการเรียนรู้ค่ะ ธุรกิจมันเป็นเรื่องที่ยากนะคะ เราต้องเรียนรู้ อย่างเริ่มแรกเราขายหมีก่อน เท็ดดี้เฮ้าส์ อันนั้นโชคดีเขามีทีมเวิร์กที่แข็งแรง คอยแนะนำเราอยู่แล้ว พอมาตัวที่สองก็มาทำเสื้อผ้า ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกันนะคะกว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะว่าเราต้องรู้ด้วยว่าลูกค้าชอบแบบไหนต้องการอะไรจากตัวเราด้วย ไม่ใช่แค่ว่าจะขายอย่างเดียว เราต้องพัฒนาด้วยให้เร็วทันลูกค้าด้วย และมีอีกหลายโปรดักค่ะ แต่ตัวล่าสุดคือยาสตรีโหรทศพรโอสถ บำรุงเลือด บำรุงระบบภายใน ตัวนี้เราทำกันจริงจังมาก เพราะว่าอยากจะบอกให้รู้ว่าเราเป็นผู้หญิงยุคใหม่ ที่ใส่ใจสุขภาพและสมุนไพรไทย แพนก็เป็นหนึ่งในหุ้นส่วน ก็เป็นผู้บริหารด้วย มีหน้าที่เพิ่มขึ้นมา แพนก็จะรับผิดชอบในส่วนของการประชาสัมพันธ์การตลาดต่าง ๆ ซึ่งมันเป็นงานที่สนุกและท้าทายค่ะ”

ทำธุรกิจแบบนี้เหมือนวางรากฐานให้ตัวเองนะ แล้วละครล่ะ จะรับน้อยลงหรือเปล่า?

“ละครยังเล่นอยู่ค่ะไม่ได้จะรับน้อยลง แต่แพนว่ามันเป็นช่วงจังหวะมากกว่าค่ะ ที่ทำให้เราได้เจออะไรใหม่ ๆ แล้วก็ละครมีที่ออกอากาศในปีนี้คือ พรมแดนหัวใจ คือไม่ได้กลัวว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาเยอะ แล้วแพลนไปทำอย่างอื่น จริงอย่างที่บอกว่ามันเป็นจังหวะ จริง ๆ ที่เราได้เจออะไรใหม่ ๆ แล้วควบคู่กันไปด้วยดี แล้วทำอะไรแบบนี้ ทำให้เราได้เจอสังคมใหม่ กลุ่มคนใหม่ ๆ มันกว้างมากขึ้น”

เป็นเพราะวงการบันเทิงไม่มีอะไรแน่นอนหรือเปล่า เลยต้องวางอนาคตทางธุรกิจ?

“จริง ๆ จะมองอย่างนั้นก็ได้นะคะ แต่เราต้องมองอะไรให้กับตัวเราด้วยว่าเราจะไปทางไหน เราพอจะทำอะไรให้ตัวเราได้ด้วย ในช่วงเวลาที่เรามีแรง มีกำลังที่จะทำอยู่ก็น่าจะได้เริ่มเลยดีกว่า แพนว่าถ้าเราได้เริ่มเร็ว ได้เดินเร็วเราก็จะมีรากฐานที่เร็วและแข็งแรง ส่วนวงการบันเทิงสบายใจได้ค่ะ ไม่ทิ้งแน่นอน เพราะว่าเราเริ่มต้นมาจากตรงนี้ มันเป็นความสุขเสมอที่เราได้ทำ ส่วนในวันข้างหน้าเรายังไม่รู้ว่าเราจะเป็นยังไง แต่ ณ วันนี้เรายังไม่ได้ทิ้งวงการบันเทิงไปไหน ยังมีความสุขที่จะทำงานในวงการบันเทิงอยู่”

วันนี้ในวงการบันเทิงกับ 9 ปีที่แล้ว ที่แพนเข้าสู่วงการ แพนว่ามันต่างกันมากมั้ย?

“อาจจะต่างในเรื่องของพวกโซเชียลมั้งคะ ที่มันมาเยอะมาก จนบางครั้งเราเองก็ตามไม่ทันเหมือนกัน สื่อทุกค่ายก็เหมือนกับต้องปรับเปลี่ยนวิ่งตามให้ทัน และตัวเราเองก็เหมือนกันที่จะต้องตามให้ทัน และอาชีพเราเป็นคนอยู่เบื้องหน้า เราก็ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น เรื่องของสื่อมันเร็วมาก ตอนนี้เดินไปไหนทุกคนมีกล้องหมดเลย ไม่ใช่ว่าจะต้องระวังตัวจนไม่เป็นตัวเองนะคะ หรือว่ากลัวจะทำอะไรไม่ดี แต่ในเรื่องของการสื่อสารมากกว่าค่ะ ที่บางทีก็อาจจะสื่อสารผิดพลาดกันไป แล้วสมัยนี้ทุกอย่างมันกระจาย เร็วมาก ๆ”

แพน เคยท้อแท้หรือว่าเหนื่อยกับวงการบันเทิงบ้างมั้ย?

“เหนื่อยมั้ยหรือคะ จริง ๆ มันมีทุกอารมณ์อยู่แล้วอ่ะค่ะ แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ณ ขณะนั้นอาจจะมีท้อ เหนื่อยบ้าง แต่โชคดีที่ว่าอยู่กับคุณแม่เสมอ และเราต้องมีสติ ตั้งรับ คือต้องเข้าใจธรรมชาติของมัน ไม่มีอะไรที่จะอยู่ยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับลง แต่ถ้าเราตื่นเต้นและวิ่งตามทุก ๆ อย่างที่อยู่รอบตัวเรา เราจะเหนื่อยมาก เราต้องมีจุดยืนของเรา แล้วเราจะยืนอยู่ได้ค่ะ เราอยู่ในแบบของเรา เราก็มีความสุขดี”

เป็นแพนเค้ก ที่มีชื่อเสียงยากมั้ย?

“มันก็มีอารมณ์แบบแวบ ๆ บ้างนะคะว่า ถ้าเราไม่มีชื่อเสียง จะขนาดนี้กับเรามั้ย แต่มันก็เป็นแค่อารมณ์แป๊บ ๆ ที่เข้ามา แต่วันนี้เราเลือกแล้วที่จะมาอยู่ตรงนี้ ก็ต้องมีความสุขกับมันให้ได้ และปรับตัวให้มีความสุขกับคนรอบข้างเรา ที่เขารักเราและคอยดูแลเราด้วย เราจะอยู่ได้แบบธรรมดา ธรรมชาติ และเข้าถึง ถามว่าเหนื่อยมั้ย มันก็มีค่ะ เป็นธรรมดาแต่เราคิดว่าเราไม่ได้เหนื่อยอยู่คนเดียว แม่ก็เหนื่อย ทีมงานของเราก็เหนื่อย ทุกคนก็มีเรื่องราวของเขาทั้งนั้น เมื่อมีโอกาสให้เราทำเราก็ต้องเต็มที่ให้ถึงที่สุด เพราะว่าทุกคนเต็มที่กับเรา”

แพนว่า วันนี้ที่ประสบความสำเร็จเพราะอะไร?

“หนึ่งเลยโอกาสค่ะ โอกาสที่ทางผู้ใหญ่ยื่นมาให้ และเราทำสุดความสามารถ และสะสมประสบการณ์ เอามาพัฒนางานของเรา ตอนนี้ก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ ทุก ๆ ท่านค่ะ ที่ให้โอกาสแพนได้ทำงานหลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ แบบ และไว้ใจให้เราทำงานชิ้นนั้น ๆ แพนจะทำงานทุกชิ้นสุดความสามารถค่ะ เพราะว่าทุกวันนี้เวลาที่แพนคิดอะไรได้ขึ้นมา หรือว่ามีโอกาสต่าง ๆ เข้ามา แพนจะทำทันที ททท คำนี้ท่าน ว สอนมา ท่านบอกเสมอว่าไม่รู้ว่า พรุ่งนี้หรือชาติหน้าจะมาก่อนกัน เมื่อคิดและตัดสินใจที่จะทำอะไรแล้วให้ลงมือทำซะ เป็น 3 ท ค่ะ คือ ทำทันที เราก็เออ ท่านมักจะให้ข้อคิดง่าย ๆ กับเราเสมอ หรือแม้กระทั่งปิดหู ปิดตา ปิดปาก เปิดใจ มันเป็นอะไรง่าย ๆ ที่มันเอาไปใช้ได้นะ ถ้าเราไม่ต้องเสพอะไรที่มันทำร้ายเรา ทำให้เราไม่มีความสุข เราแค่ปล่อยผ่านไป เราก็สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข”