Inside Dara
“แซมมี่” พึ่งยานอนหลับ เสี่ยงเป็นไทรอยด์ชนิดอ้วน!

“แซมมี่” เครียดอ้วนลดไม่ลงจนต้องปรึกษาแพทย์ พบภาวะฮอร์โมนในร่างกายผิกดปกติเสี่ยงเป็นไทรอยด์ชนิดอ้วน ลั่นมีผลกระทบกับการทำงานมากเพราะเข้ากล้องถ่ายละครแล้วบวมสุด โอดไม่อยากจะนึกสภาพตัวเองถ้าตนต้องเป็นโรคนี้ รู้สึกโชคดีที่ไหวตัวทันเข้ารับการดูแลรักษาจริงจัง

เดี๋ยวอ้วนเดี๋ยวผอมมาพักใหญ่เลยสอบถามสาว “แซมมี่ เคาวเวลล์” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าไม่เกี่ยวกับกรณีที่มีการพบก้อนเนื้อที่เต้านม แต่ที่ตนเดี๋ยวอ้วนเดี๋ยวผอมนั้นเกิดจากที่ฮอร์โมนผิดปกติ ซึ่งแพทย์บอกว่าตนมีความเสี่ยงเป็นไทรอยด์ชนิดอ้วน

“อาการแรกเริ่มที่เราสังเกตตัวเองคือเราบวมขึ้นมาก พออ้วนแล้วมันลดไม่ลงเลย ทำยังไงก็ไม่ลง ขนาดว่าออกกำลังกายหนักมาก กินคลีนก็ยังไม่ลงเลยสักนิดเดียว ปกติต้องลงแล้วนี่ไม่ลงเลยแถมน้ำหนักยังขึ้นเพิ่มมาอีกด้วย แล้วก็นอนไม่หลับ ตั้งใจนอนตั้งแต่ 4 ทุ่มแต่ไปหลับเอาตี 3 ตี 4 กลางวันก็ไม่ค่อยง่วง คิดว่าคงผิดปกติแล้วเลยไปปรึกษาคุณหมอ เจาะเลือดเช็ก ก็ปรากฏว่าฮอร์โมนมีความผิดปกติ จะมีเรื่องในส่วนของความเครียด และฮอร์โมนเกี่ยวกับการเผาผลาญที่ผิดปกติ ก็ทานยา แต่เราเลือกปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ก็จะได้ทานยาที่ทำมาจากสมุนไพร ธรรมชาติทั้งหมด แล้วเราจะมีฮอร์โมนตัวหนึ่งที่มีปัญหา ทำให้ที่กินเข้าไปยังไงก็ไม่ออกมา ไม่เผาผลาญ เลยทำให้ร่างกายบวม ต่อให้ออกกำลังกายยังไงก็ไม่ออก หมอก็บอกว่าห้ามเครียดเลยนะมันจะส่งผล เราก็พยายาม ตอนนี้ก็ทานยานอนหลับช่วยด้วย”

“ที่เราเครียดเพราะเราบวม น้ำหนักเราไม่ลง พอลงมาปุ๊บเราก็โอเค เบาใจไม่เครียดเท่าไหร่ ตอนแรกคือมีปัญหามากกับการถ่ายละครเสน่หามายา เพราะบวมมากพอเข้ากล้องยิ่งบวมเข้าไปอีก ก็ให้ทีมงานดูเรื่องชุดกับมุมกล้องให้ เข้ากล้องแล้วบวมมาก เครียดสุดๆ พอรู้สาเหตุแล้วทีมงานเขาก็ช่วยๆ กัน ก็เพิ่งจะมาลงตอนที่รักษาได้สักระยะหนึ่ง แต่ก็ใกล้จะปิดกล้องแล้ว ซึ่งจริงๆ มันก็ยังอ้วนอยู่ ก็บอกเขาว่าเราผิดปกติอยู่ตอนนี้ คือที่ผ่านมาเราพยายามเต็มที่แล้วในการดูแลตัวเอง แต่มันเป็นที่ระบบภายในร่างกายของเรา ซึ่งเราไม่สามารถไปกำหนดอะไรมันได้เลย มันต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู ต้องใช้เวลาในการรักษา เราก็เลยเริ่มหันมาทางคลีนจริงจังตั้งแต่ตอนนั้น เลือกทานอาหารที่ทำเองเท่านั้น เพราะเราต้องควบคุมเรื่องของการปรุงอาหาร”

ลั่นไม่อยากคิดถึงสภาพตนเองตอนอ้วนถ้าเป็นโรคไทรอยด์จริงๆ บอกที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าพีคมากแล้ว

“พอมันเริ่มลงเราก็เริ่มเบาใจ แต่คุณหมอก็บอกว่าอาการของเรามันเป็นภาวะเสี่ยงที่จะเป็นไทรอยด์แบบอ้วน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นนะ เหมือนมันกำลังจะเป็น แต่โชคดีที่เราไหวตัวทันมาเจอก่อน ก็คิดนะถ้าเราอ้วนเราจะรับตัวเองได้มั้ย เอาจริงๆ ก็กลัวอยู่นะ แต่ก็ถือว่าเราโชคดีที่เราเจอก่อน แล้วเราไม่นิ่งนอนใจ รักษาจริงจัง ก็โชคดีสำหรับตัวเองมาก ตอนที่อ้วนบวมคือมันพีคมาก แล้วคิดสิถ้าเป็นจริงๆ ต้องคูณน้ำหนักปีอีกเท่าไหร่ กลัวมาก”