Inside Dara
การเดินทางของดาวดวงใหม่'พริม-ไม้'

ละครน้ำดีที่กำลังกอบโกยเรตติ้งช่วงละครเย็นอยู่ในขนาดนี้ สำหรับละครเรื่อง "ผู้ดีอีสาน" ซึ่งได้พระเอกหนุ่มหน้าคม "ไม้" วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ มาประกบคู่กับนางเอกใหม่แกะกล่องนามว่า "พริม" พริมา พันธุ์เจริญ สอง พระ-นาง ดาวรุ่งจากละครเรื่องนี้มานั่งพูดคุยกันแบบเปิดอกในทุกประเด็นอย่างลึกซึ้ง จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ละครเรื่อง "ผู้ดีอีสาน"
พูดถึงบทบาทในละคร เป็นอย่างไรบ้าง มีความแตกต่างจากตัวจริงอย่างไร

ไม้ : สำหรับบทในเรื่องนี้ มันค่อนข้างห่างไกลจากตัวจริงของผมมาก เพราะในเรื่อง ผมต้องเล่นเป็นดอกเตอร์จบใหม่หมาดๆ อายุประมาณ 28 ปี ที่ต้องมารับตำแหน่งปลัดต่อจากพ่อตัวเอง ชื่อปลัดเจต ซึ่งเป็นคนที่ความมุ่งมั่น ที่จะมาพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญ ถ้าถามว่าในส่วนไหนของปลัดเจตที่เหมือนผม ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องความมุ่งมั่นนี่แหละ ส่วนเรื่องที่ไม่เหมือน นั่นก็คือเรื่องอายุของตัวละครเพราะผมอายุเพิ่งจะ 23 ปีเอง

กับผลงานการแสดงเรื่องนี้เป็นชิ้นที่ 2 ยังมีอาการตื่นเต้นอยู่บ้างหรือเปล่า

ไม้ : ต้องบอกว่าในทุกๆ ครั้ง ที่เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ สำหรับผมแล้ว มันก็ยังคงมีอาการประหม่าอยู่บ้าง แต่คงน้อยลงไปกว่าเรื่องแรกเยอะเลย กับละครเรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นแนวที่ต้องบุกป่าฝ่าดง เหมือนเรื่องแรกคือ แม่เปียดื้อ ตัวผมเองก็เริ่มเรียนรู้อะไรหลายๆ จากการทำงานเยอะเลย

พูดถึงนางเอกของเรื่องบ้างกับงานแสดงเรื่องแรก

พริม : กับงานละครเรื่องแรกของหนู บทที่ได้รับก็คือ "สลิลดา" เป็นเด็กสาวที่กำลังจะเรียนจบปริญญาตรี แต่มารู้ว่าพ่อตัวเองถูกยัดเยียดข้อหาแล้วต้องถูกจำคุก เราก็ต้องมาปลอมตัวเป็น "ไอ้หยัง" เพื่อที่จะไปสืบหาความจริง เพื่อไปช่วยเหลือพ่อ ซึ่งในเรื่องตอนที่หนูปลอมตัว ก็ต้องใส่วิก และแต่งเนื้อแต่งตัวเป็นผู้ชาย ในเรื่องพระเอกเขา ก็มองเราว่าเป็นเหมือนเด็กผู้ชายอ่อนหวานออกแนวตุ๊ดอะไรประมาณนี้ แต่ตัวเราที่เป็นไอ้หยังก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่เออออห่อหมกไปตามน้ำ

เบื้องหลังการทำงาน
เล่าถึงการทำงานในกองถ่ายวันแรกให้ฟังหน่อยเป็นอย่างไรบ้าง

พริม : จะบอกว่าวันแรกที่เขาฉาก ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ซีนแรกของเรื่อง แต่เป็นฉากกินข้าวธรรมดามากๆ ซึ่งก่อนหน้านั้น หนูเองก็ได้ลองซ้อมบทกับผู้กำกับก่อนเล่นจริงไปสักรอบสองรอบ แต่พอหนูเข้าไปอยู่ในฉากนั้นจริงๆ มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ เหมือนเราไม่ได้ซ้อมกันมาก่อนเลย หนูเองก็เบลอๆ เกือบลืมบทพูดไปเลย มันมีความกดดันอะไรหลายๆ อย่าง กลัว ด้วยความที่จะไปทำอะไรให้พี่ๆ นักแสดงคนอื่นๆ ช้าไปด้วย ซึ่งซีนแรกที่เข้าฉากไปนับเทกได้เป็นจำนวนไม่เยอะเท่าไหร่เลย

ในฐานะที่ไม้เข้ามาทำงานการแสดงมาก่อน ได่ช่วยอะไรบ้างหรือไม่

พริม : ความจริงพี่ไม้เขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ซึ่งส่วนมาก เขาจะไม่ค่อยพูดหรือแนะนำอะไรหนูมากหรอก แต่ส่วนใหญ่เวลาที่หนูสมาธิหลุด เขาก็จะช่วยบอกให้เราตั้งสมาธิ และตั้งใจเริ่มทำใหม่ ซึ่งเขาเอง เป็นคนที่ใจเย็นมากๆ และก็ค่อนข้างมีระเบียบในการทำงานค่อนข้างสูง ซึ่งหนูก็ต้องเอาพี่ไม้เป็นเยี่ยงอย่าง

เล่าถึงบรรยากาศในกองถ่ายละครเรื่องนี้หน่อย มีความสนุกสนานแค่ไหน

พริม : กับกองถ่ายนี้ จะมีความเป็นเหมือนครอบครัวมากๆ ซึ่งหลายๆ คน จะทราบดีว่า กองอายุ (ยุวดี ไทยหิรัญ) เป็นกองที่มีเสบียงอาหารเยอะมากๆ และเลี้ยงดูปูเสื่อนักแสดงทีมงานแบบ กิน อิ่มนอนหลับ กินอย่างเต็มที่จริงๆ เวลาพักเบรกกอง ก็จะมีของว่างเตรียมไว้ให้ตลอด หนูพูดเลยว่าตอนนี้น้ำหนักหนูเพิ่มขึ้นมาเยอะมากจากเดิม ยังไงก็ต้องขอบคุณอายุมากๆ เลย ที่เลี้ยงหนูมาเป็นอย่างดี

ไม้ : กับกองยูม่าครั้งนี้เป็นการร่วมงานกันครั้งที่สองแล้ว สำหรับผมก็จะชิน และคุ้นเคยกับทีมงานมากอยู่แล้ว และละครเรื่องนี้ต้องไปถ่ายทำที่ต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ ผมเลยไม่รู้สึกกดดันอะไรมากกับการทำงานในกองนี้

สำหรับการแสดงครั้งนี้ให้คะแนนการทำงานของตัวเองจากเต็ม 10 ให้เท่าไหร่

ไม้ : กับละครเรื่องที่สองของผม ผมคิดว่า 7 คะแนน เพราะผมคิดว่าตัวผม ยังคงมีอะไรที่ต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่อีกมาก กับการแสดงก็เหมือนกัน ผมยังต้องให้ผู้กำกับคอยบอกคอยสั่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจุดนี้ผมอยากจะแก้ไขให้ได้ เพราะการที่เราเรียนรู้ และจดจำวิธีการทำงานได้โดยที่ไม่ต้องมีคนมาช่วยเหลือมันจะเป็นอะไรที่ดีมากๆ ซึ่งตัวผมเอง ณ วันนี้ยังไม่มีคุณสมบัติตรงนั้นเลย

ผลงานเรื่องต่อไปที่แฟนละครจะได้ติดตามชม

ไม้ : ละครเรื่องต่อไปที่แฟนๆ จะได้ชม ได้ติดตามกันของผมก็จะมีเรื่อง "ลูกทาส" ผมรับบทเป็น "คอก" เป็นคนที่คอยช่วยเหลือพระเอกอยู่ตลอด ตอนนี้ถ่ายทำไปได้พอสมควรแล้ว กับละครเรื่องนี้ยากมากๆ เพราะเป็นพีเรียดเรื่องแรกของผม อีกอย่างก็คือผมต้องถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็กตลอดเวลา ต้องบอกว่าผมเองไม่ใช่คนมีซิกแพ็กเลย แต่ผมพยายามจะทำให้มันมี คอยปั๊มกล้ามตลอดเวลา เข้าฟิตเนส และที่ยากกว่านั้นคือเรื่องบทและภาษาโบราณ เราจะพูดเร็วมากไม่ได้ด้วย ส่วนอีกเรื่องคือ "ในม่านเมฆ" นวนิยายเทิดพระเกียรติ ในซีรีส์ "ลูกไม้ของแผ่นดิน"

เส้นทางดาวรุ่ง
เข้ามาทำงานในวงการได้อย่างไร

พริม : คือตอนแรกพี่แหม่มที่ทำงานอยู่ช่อง 3 เห็นพริมจากอินสตาแกรม แล้วเรียกเรามาลองเทสหน้ากล้อง ลองเก็บประวัติเราเอาไว้ สักพักหนึ่งเขาบอกว่า ผู้ใหญ่ที่ช่องอยากเซ็นสัญญาเข้าสังกัดช่อง สักพักหนึ่งเลยได้มาแคสติ้งกับทางบริษัท "ยูม่า" ทำให้ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ วินาทีแรกตอนที่รู้ว่าได้เล่น คือช็อกมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งเราจะได้เข้ามาทำงานตรงนี้ รู้สึกดีใจและขอบคุณความเมตตาที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรามา

เห็นว่าเป็นคนรักการร้องเพลงมาก

พริม : เพราะพริมเป็นเด็กเพ้อฝัน ชอบดูการ์ตูนวอลดิสนีย์มาตั้งแต่เด็ก แล้วในเรื่องจะมีเพลงเพราะๆ ให้ฟังตลอด เราก็เริ่มร้องตาม หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มสนับสนุน ให้ทำการประกวดร้องเพลงไปเรื่อยๆ ถามว่าระหว่างการร้องเพลงกับการแสดงพริมชอบอย่างไหนมากกว่ากัน พริมวางไว้เท่าๆ กัน เพราะพริมเชื่อว่าการเป็นนักแสดงบางครั้งเราก็ต้องใช้การเอ็นเตอร์เทนเนอร์เหมือนนักร้อง

เป็นเด็กแบบไหน

พริม : เป็นเด็กกิจกรรมชอบวาดรูป ฟังเพลง ร้องเพลง ทำกิจกรรมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดรัมเมเยอร์ เชียร์ลีดเดอร์ ถือพานไหว้ครู พริมเหมาหมด แต่ทุกอย่างยกเว้นเรื่องการเรียน ที่พอเรียนได้ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องกีฬา ก็พอได้อยู่ แต่ไม่เก่งมาก ออกแนวชอบศิลปะมากกว่า

ไม้ : ตอนเด็กๆ ผมจะเป็นเด็กที่ตัวดำๆ ผอมๆ จะเห็นได้จากตอนที่ผมเข้ามาประกวดในรายการเอ็มไทยแลนด์ ตอนนั้นผมดูแย่และก็โทรมมากกว่านี้อีก ซึ่งแต่ก่อนนี้ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจอะไรในตัวเองเลย แต่เมื่อพอโตขึ้น พอหลังจากได้ประกวดเสร็จได้เข้ามาเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างในวงการตัวผมเองก็เลยได้ปรับตัวมากขึ้นจากที่เป็นอยู่ กล้าแสดงออกมากขึ้น

เรื่องราวของหัวใจ
แต่ละคนมีเรื่องความรักบ้างหรือเปล่า สถานะหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง แล้วสเปกเป็นอย่างไร

ไม้ : ตอนนี้หัวใจของผมต้องบอกเลยว่า โสดสนิทมากๆ เพราะตอนนี้ด้วยเวลาของผมมันต้องแบ่งให้กับงาน ละครเป็นส่วนใหญ่และมันค่อนข้างใช้เวลานานเลยไม่มีเวลา ที่จะต้องไปดูแลใครด้วย อีกทั้งตอนนี้ยังไม่เจอใครที่ผมมองไว้เลย เพราะด้วยเหตุผลเดิม ผมไม่มีเวลา ถามว่าที่ผ่านมามีใครเข้ามาบ้างหรือเปล่าผมคิดว่ามันมีเข้ามาน้อยมากนะ ถ้าถามว่าสเปกส่วนตัวของผมเป็นยังไงบ้าง ผมกล้าพูดได้เลยว่าตอนนนี้ขอแค่อย่างเดียว คือเข้าใจ และสามารถดูแลกันและกันได้เท่านั้นก็พอ แต่ตอนนี้ให้ย้อนกลับไปที่เหตุผลเดิมด้วยเรื่องเวลาล้วนๆ

พริม : ตอนนี้สถานะหัวใจของหนูก็ทรงตัวดีนะ ก็หัวใจเป็นสีชมพูอยู่ ถามว่ามีแฟนหรือยัง ขอให้เรียกว่ามีคนคุยๆ อยู่จะดีกว่า ส่วนมากเวลามีอะไรหนูก็จะปรึกษากันบ้างเวลาที่มีปัญหา กับเรื่องใหญ่ของคนในวงการบันเทิงส่วนใหญ่ คือเรื่องของเวลาถามว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขากังวลใจอะไรหรือเปล่า คือหนูคิดอย่างนี้ว่า สำหรับคนที่เราคุยด้วย หนูเองจะปล่อยตัวให้โล่งที่สุดไม่เอาปัญหาอะไรมาพูดคุยกันทั้งสิ้น เพราะเราอยากจะให้อีกฝ่ายเขาเข้าใจ และสบายใจด้วย แต่ถ้าเกิดไม่สบายใจขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็คุยกันไปเลยดีกว่า ซึ่งเรื่องเวลาพริมคิดว่าถ้าคนเราจะเจอกันยังไง ก็ต้องหาเวลาเจอกันได้อยู่ดี ขึ้นอยู่กับการจัดสรรของแต่ละคน

บอกได้เลยว่าพระเอก-นางเอก คู่นี้น่ารักซะเหลือเกิน แววดี แบบนี้อนาคตไกลแน่นอน...คอนเฟิร์ม!!


ชื่อ : "ไม้" วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ
เกิด : 24 กันยายน พ.ศ. 2533
การศึกษา : ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผลงานละคร : แม่เปียดื้อ, ผู้ดีอีสาน (กำลังออนแอร์อยู่), ลูกทาส (กำลังถ่ายทำ)
ชื่อ : "พริม" พริมา พันธุ์เจริญ
เกิด : 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534
การศึกษา : ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยศิลปากร ภาคอินเตอร์
ผลงานที่ผ่านมา : เคยเป็นนักร้องฝึกหัดภายใต้สังกัดอาร์เอสฯ
ผลงานล่าสุด : ละครเรื่อง "ผู้ดีอีสาน"