Inside Dara
หมาแมวไม่หลอก แต่คนหลอก! “จั๊กจั่น” บอกเสียงสะอื้นถึงตราบาปในใจ 15 ปี

“จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” ร่ำไห้ช่วยเหลือหมาแมวมากกว่าช่วยเหลือคนเพราะรู้สึกผิดในหัวใจ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เข็ดช่วยคน แม้สุดท้ายจะโดนหลอก บอกจะระมัดระวังมากขึ้น ยันไม่ตั้งเป็นมูลนิธิ ไม่สนใครจะด่าสร้างภาพ ยันทำมา 15 ปี ควักเงินตัวเองตลอด

ถือเป็นนางฟ้าของเหล่าหมาแมวอีกคนหนึ่งของวงการ สำหรับสาว “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ที่ล่าสุดได้รับรางวัล สร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม ครั้งที่ 32 ณ ห้องฟอร์จูน บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ถ.รัชดาภิเษก เจ้าตัวก็เผยว่าที่คอยช่วยเหลือหมาแมวจรจัดไม่ได้ทำเพื่อต้องการรางวัล แต่ทำเพราะอยากตอบแทนคืนสังคมบ้าง

“มันเริ่มจากที่จั่นรู้สึกว่าเรามาทำงานในวงการตรงนี้เราได้รับโอกาสที่ดี เราได้รับรายได้ที่มากกว่าคนอื่น ถึงเราจะมีรายจ่ายมาก แต่เรามีรายได้ที่เยอะ และไปไหนมาไหนได้รับความเอ็นดู เราก็อยากจะเอาส่วนนี้ตอบแทนให้กับสังคมบ้าง ก็เลยแบ่งเงินของรายได้ที่จะได้ส่วนหนึ่งในการทำบุญเสมอ ไม่ว่าจะช่วยเหลือคน ช่วยเหลือน้องหมา น้องแมว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นช่วยเหลือน้องหมา น้องแมวแทน”

“สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือความสุขใจของเรา ตอนแรกคนก็บอกว่าช่วยแล้วได้อะไร เหนื่อยเปล่า แต่เราสุขใจ เรานอนหลับ เพราะว่าอย่างน้อยน้องหมา น้องแมวเขาพูดไม่ได้เหมือนคน และเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิต ด้วยความที่เราเป็นคนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวด้วย เราก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรา คนยังสามารถพูดได้ ร้องขอความช่วยเหลือได้ แต่น้องหมา น้องแมวเขาไม่สามารถพูดกับใครได้ อย่างน้อยเราเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเขาก็ยังดี”

บอกไม่คิดทำเป็นมูลนิธิ และที่ผ่านมายากแทบทุกเคส

“ไม่เคยคิดจะตั้งมูลนิธิเลยค่ะ เราใช้เงินส่วนตัวในการช่วยเหลืออยู่แล้ว ก็จะช่วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า หรือเหตุการณ์ที่เกิดกับคนใกล้ชิด หรือกับครอบครัวเพื่อนสนิทไปเจอมาแล้วไม่รู้จะทำยังไงเราก็จะช่วยเขา เพราะพี่เก๋ (ชลลดา เมฆราตรี) ก็เปิดอยู่แล้ว และช่วยเหลืออยู่แล้ว จั่นรู้สึกว่าเราไม่ได้มีทีมงานที่เยอะขนาดนั้น การที่เราอยากจะทำบุญอาจจะเป็นการที่เราสร้างความทุกข์ เราอาจจะได้บาปก็ได้ แต่เราก็ช่วยอยู่คนเดียว ไม่ได้มีทีมงานหรือองค์กรอะไร การที่จะทำแบบนั้นมันจะต้องเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต มีคนประสานงาน เราก็ช่วยเฉพาะเหตุการณ์ที่เจอเท่านั้นเอง คือช่วยแล้วตัวเราไม่เป็นทุกข์”

“ถามว่ายากมั้ย ที่ผ่านมาก็ยากทุกเคสนะ มันจะแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นช่วยปี 54 ที่น้ำท่วม น้องหมาถูกทิ้งเอาไว้ตามบ้านคน เวลาที่เราจะเข้าไปช่วยเราก็กลัวว่าเดี๋ยวเขาจะหาว่าเราบุกรุกเข้าไปขโมยของบ้านเขา ก็เลยจะป้องกันตัวเองโดยการถ่ายคลิปเอาไว้ก่อนว่าเข้าไปช่วยน้องหมา ไม่ได้เข้าไปเอาทรัพย์อะไรในบ้านของเขานะ ก็ป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน บางทีน้องหมาอาจจะไม่ใช่ที่เขาเลี้ยงไว้ แต่ด้วยความที่ต้องเอาชีวิตรอดมันก็ไปอยู่ตรงนั้น มันก็มีหลายสถานการณ์”

“เคสล่าสุดคือน้องโนบิตะ เป็นหมาข้างทางอยู่หน้าออฟฟิศของพี่ชายแล้วมันโดนรถชน เราก็เลยช่วยไว้เพราะไม่มีใครทำอะไรเป็น ทุกคนตกใจไม่รู้จะทำยังไง เพราะปกติหมาโดนรถชนมันจะมีเลือดออก แต่ด้วยความที่เราช่วยมาเยอะเรารู้ว่าตัวนี้ไม่มีเลือดออก และเป็นหมาเด็กเพิ่งอายุ 3 เดือน ขาลากเลย จั่นรู้เลยว่าน่าจะเลือดออกข้างในช่องท้องหรือมีอวัยวะอะไรที่อันตราย ซึ่งก็จริงๆ ถ้าเราไปถึงโรงพยาบาลช้ากว่านี้เขาอาจตายได้ เพราะกระดูกสะโพกหลุดออกมาจากเบ้าและหักด้วย ขาขวาก็หักอีก ด้วยความที่เป็นน้องหมาจรจัดก็มีเห็บหมัดเยอะ มีพยาธิเม็ดเลือด การที่จะได้รับการผ่าตัดทันทีเลยยังทำไม่ได้ ก็เลยต้องได้รับการรักษาเบื้องต้น ใส่เฝือกอ่อนเพื่อพยุงก่อน และรักษาเรื่องเห็บหมัดเพื่อที่เขาจะได้รับการรักษาต่อได้”

“ทีนี้ก็มาลำบากเรื่องของการหาเลือด ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกัน (ยกมือไหว้) พี่เก๋ก็ช่วยลงประกาศให้ ก็ต้องขอบคุณคนที่พาน้องหมามาด้วย หมาที่มาเราก็ต้องดูว่าเข้ากับเลือดเขาได้มั้ย คือมา 5 ตัวไม่ใช่ว่าจะได้นะคะ บางทีไม่ได้เลยก็มี จริงๆ มันเริ่มจากตอนที่จั่นถ่ายละคร เพิ่งเข้าช่อง 7 ใหม่ๆ ไปถ่ายละครที่วัดๆ หนึ่งและมีน้องแมว 3-4 ตัวอยู่ที่ร้านอาหาร มันตัวเล็กมาก เราก็คิดว่าเดี๋ยวเอาไปลงช่วยประกาศหาบ้าน เพราะคนตามเยอะ คนต้องช่วยได้อยู่แล้ว วันนั้นก็เอารถเก๋งไปคิดว่าเดี๋ยวรถมันเลอะ ไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย และมันก็มีเห็บหมัด พอวันรุ่งขึ้นเราไปรับมันก็คือโดนหมากัดตายหมดแล้ว (น้ำตาคลอ) หลังจากนั้นก็เลยฝังใจมากว่าถ้าเจอเหตุการณ์ตรงหน้าก็คือจะช่วย”

“เลือกเคสที่เกิดขึ้นตรงหน้าเลยค่ะ หรือไม่ก็จากเพื่อนสนิทคนสนิทที่เจอแล้วเขาไม่รู้จะทำยังไงแล้วขอให้เราช่วย แต่จะไม่ก้าวเข้าไปหาเอง เพราะทุกวันนี้มีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือเยอะมาก เวลาไม่ได้ตอบก็กลัวเขาจะด่า หลังๆ มาก็เลยรู้สึกว่าต้องปล่อยวางแล้วล่ะ ไม่กดเข้าไปอ่านเลย เพราะเราไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ เพราะเราไม่ได้เป็นมูลนิธิหรือเป็นองค์กร เราใช้เงินส่วนตัวของเราช่วย เริ่มจากความรู้สึกผิดในใจที่เล่าให้ฟังเลย เราไม่สามารถช่วยสิ่งมีชีวิตทุกตัวบนโลกใบนี้ได้ ก็ช่วยเฉพาะที่เราไหวและไม่เดือดร้อน”

“คือเราก็ใช้ทุนของตัวเอง เราก็มีภาระ เราก็ต้องดูว่าช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเราช่วยแล้วกลายเป็นเราต้องไปกู้หนี้ยืมสินเราก็จะไม่สบายใจ ก็จะบาปเปล่าๆ ใจก็ยึดหลักคำสอนของพระพุทธองค์ว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แต่ถ้าตัวไหนที่มาเจอเราแล้ว ถ้าเราช่วยได้เราก็จะช่วยมันเต็มที่ แต่ละตัวต่างก็มีกรรมของตัวเอง พยายามคิดแบบนี้ก็จะปล่อยวางได้มากขึ้น”

บอกหมาแมวไม่เคยหลอก มีแต่ช่วยคนที่โดนหลอก

“ที่บั่นทอนก็มีค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องช่วยคนแล้วโดนหลอก แต่หมาแมวไม่เคยหลอกจั่นเลย ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเข็ดขยาดนะคะ แต่ต่อไปเวลาเราจะช่วยใครเราจะลังเลมากขึ้น และพอเจอเหตุการณ์แบบนี้เวลาเป็นข่าวจะไม่ชอบเลย เพราะมันจะทำให้อนาคตถ้ามีคนอยากจะทำดี มีคนอยากจะช่วย ก็จะทำให้เขาคิดและมีสิทธิที่จะกลัว เพราะเขาไม่รู้ว่าจะโดนหลอกหรือเปล่า จั่นเองถ้าต่อไปจะช่วยคนก็จะต้องคิดมากขึ้น ซึ่งถ้ากับน้องหมาน้องแมวเราไม่ต้องคิดเยอะ เพราะเขาไม่ได้หลอกเรา”

“ถามว่าจะโกรธมั้ยถ้ามีคนบอกว่าเราไม่ช่วยคน แต่เลือกช่วยหมาแมวแทน แน่นอนว่าต้องโกรธอยู่แล้ว เราก็ยังเป็นคนมีความรู้สึก เราก็เคือง แต่โชคดีที่คนที่หลอกจั่นก็มักจะสามารถจับมาดำเนินคดีได้ทุกครั้ง ยิ่งที่ผ่านมาเรื่องข้าวที่จั่นเคยช่วยไป เป็นช่วงที่พระองค์ท่านเพิ่งสิ้น จั่นก็รู้สึกว่าในช่วงเหตุการณ์แบบนี้คนไทยก็ควรที่จะช่วยกัน ทีวีก็เอาหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาให้คนไทยช่วยกัน แล้วคุณมาฉวยโอกาสนี้ในตอนที่คนไทยทุกคนกำลังโศกเศร้า จั่นก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันแหละ จั่นก็บอกเขาไปนะว่าเราโกรธ เขาก็ขอโทษ เพราะเขาก็ลำบากมีความจำเป็นต้องใช้ เข้าใจว่าคนเรามีความลำบากไม่เหมือนกัน แต่ไม่อยากให้อาศัยโอกาสนี้มาหลอกคนอื่น ลองคิดดูว่าในอนาคตถ้าคุณลำบากจริงๆ จะไม่มีใครกล้าช่วยคุณ ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปช่วย”

“จั่นไม่เคยซีเรียสเลยที่ใครจะว่าเราสร้างภาพ เพราะเราทำแล้วเราสบายใจ เรานอนหลับ เราทำของเรามาตั้งแต่เข้าวงการก็จะ 15 ปี เราทำของเราต่อเนื่องมาโดยตลอด เราทำแล้วเรามีความสุข จั่นไม่ได้ทำเพราะอยากได้รางวัลหรืออยากจะพิสูจน์อะไร เราทำเพราะเราสบายใจ อย่างที่บอกว่าทำเพื่อน้องหมาน้องแมวเพราะเรารู้สึกผิดในใจ ถ้าวันนั้นเราช่วยเขา เขาก็จะได้บ้านใหม่ คงไม่ตาย แต่นี่คือโดนหมากัดตายคอหัก เราก็รู้สึกสลดใจ ถ้าเราช่วยได้ก็อยากจะช่วย เราจะไม่รอ ส่วนใครจะมองว่ายังไงก็เรื่องของเขา จั่นว่าเวลาเราเป็นผู้ให้มาตลอด อย่างกรณีของโนบิตะ เวลาที่เราร้องขอเลือดเราก็จะได้ (ร้องไห้) ซึ่งน้องหมาตัวหนึ่งที่มาบริจาคเลือดก็ไม่ใช่ว่าเลือดจะ เข้ากันได้ มา 5 ตัวบางทีก็ไม่ได้เลย แต่พอเวลาเราเป็นผู้ให้แล้ว เมื่อไหร่ที่คุณร้องขอก็จะมีคนให้เรามาเอง เราก็ชื่นใจค่ะ”