Inside Dara
ฝันมีครอบครัวอบอุ่น "กุ๊บกิ๊บ-โอ้" รักฉลุย

2 ปีที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นปีทองของดาราสาว "กุ๊บกิ๊บ"สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่มีเข้ามาไม่ขาดสาย รวมถึงเรื่องความรักที่คบหากันด้วยดีกับหนุ่มหล่อ "มาริโอ้ เมาเร่อ"

วันนี้จังหวะดีเข้ากองละคร "ปัญญาชนก้นครัว" ของผู้จัดมือใหม่ "แอน ทองประสม" ที่เธอร่วมแสดง เลยถือโอกาสกะเทาะหัวใจของดาราสาว


ความรักกับ "มาริโอ้" เป็นอย่างไรบ้าง?

กุ๊บกิ๊บ - "ณ วันนี้ลงตัว พอเราเข้าใจกัน รู้ใจตัวเอง และเริ่มโต ก็เป็นอะไรที่สบายขึ้น วันนี้ความรักของกิ๊บสบายๆ เน้นไปที่งาน หาประสบการณ์ชีวิตไปก่อน ถ้าว่างก็เจอกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทุกลมหายใจ(หัวเราะ) เพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน ชีวิตเราทั้งคู่เดินมาพร้อมกัน"


รู้จักตอน 7 ขวบ เป็นแฟนจริงตอนไหน?

กุ๊บกิ๊บ - "ที่เพื่อนๆ เชียร์ให้คบกันตอนเราอายุ 16 ปี เป็นแบบปั๊ปปี้เลิฟ ไม่ใช้คำว่าแฟนจริงจัง ตอนนั้นขำๆ แบบเด็กๆ โทร.คุยกัน เป็นแนวนั้นมากกว่า เราไม่ได้อยู่ ร.ร.เดียวกัน คือหลานกิ๊บลูกพี่สาวอายุเท่ากิ๊บ เขาเรียนที่เดียวกับโอ้ เป็นเพื่อนกัน กิ๊บเป็นเด็กแก่แดดต้องไปดูแลหลาน ไปไหนไปด้วย ก็เริ่มรู้จักกันตอนนั้น ชีวิตวนเวียนอยู่ด้วยกัน เจอกันด้วยความบังเอิญเสมอ ความสัมพันธ์เริ่มจากเพื่อนแล้วขมวดเป็นคนพิเศษ และเขาก็ไม่เคยมองใคร"

"ตอนนั้นกิ๊บกับโอ้คบกันในแนวเพื่อน พูดมึง กู จนตอนหลังที่เราเลิกกันไปและกลับมาคบกันอีกครั้ง เราก็คิดว่าต้องปรับกันหน่อย ถ้าจะคบกันเป็นแฟนต้องหวานกันนิดนึง ก็เลยพูดเพราะขึ้น"


9 ปีที่เป็นแฟนกัน เป็นอย่างไรบ้าง?

กุ๊บกิ๊บ - "โอเคนะ กิ๊บว่าคู่เราสเปเชี่ยลกว่าคู่อื่น เพราะด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน ทำให้ได้รู้จักกันอย่างจริงๆ รู้จักทั้งหมดของเขา ไม่ว่าจะด้านดีหรือแย่ พอถึงวันนี้รู้สึกว่าดีจังที่มีคนคนหนึ่งโตมาพร้อมกับเรา พูดอะไรก็เรื่องเดียวกัน โอ้เหมือนคนในครอบครัวเดียวกับเรา เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เกือบครึ่งชีวิตของเรามีเขามาโดยตลอด"


ด้วยความที่ "โอ้" เป็นหนุ่มฮอต มีหึงบ้างไหม?

กุ๊บกิ๊บ - "ไม่เคยหึงดีใจมากที่คนชอบเขาเยอะๆ มีคนกรี๊ด และตามเขา เพราะนั่นคือความภูมิใจนะ คนชื่นชอบคือเรื่องที่ดี ไม่ใช่เรื่องที่น่าห่วง เราเป็นเพื่อนกัน รู้จักหมดทุกอย่าง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องหึงหวงอะไรทั้งสิ้น กิ๊บว่าคนเป็นดาราแล้วเป็นแฟนกันเวลามีคนมายุ่งกับแฟนเรา ผู้ชายต้องจัดการตัวเอง เราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งวุ่นวาย ถ้าตัวเขาจะไป ใครก็ห้ามไม่อยู่ ตัวเราต้องรู้ดีว่าอันไหนเหมาะสมไม่เหมาะสมค่ะ"

"กิ๊บชอบที่มีคนมากรี๊ดกร๊าดเขาเยอะ จะบอกให้เขากอดเลย เต็มที่เลย(หัวเราะ) เพราะเรารู้สึกว่าเรามีวันนี้ได้เพราะคนกลุ่มนี้ เราได้เงินมาจากประชาชน ต้องอยู่กับประชาชนให้ได้ คือหึงไม่ได้"


ที่บ้านว่าอย่างไรบ้าง เข้ากันได้หรือเปล่า?

กุ๊บกิ๊บ - "เราเข้ากันได้ตั้งนานแล้ว ทางบ้านโอ้เห็นกิ๊บมาตั้งแต่เด็ก เขารู้จักเรา แม่กิ๊บรู้จักแม่โอ้ ที่บ้านรู้จักกัน กิ๊บรักแม่โอ้เหมือนแม่ตัวเอง แม่กิ๊บก็รักโอ้เหมือนลูก ถ้าวันหนึ่งเราจบกัน เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราจะยังมองกันเหมือนครอบครัว"


วันนี้มองถึงอนาคตการแต่งงานหรือยัง?

กุ๊บกิ๊บ - "ไม่มองค่ะ คนเราอย่าไปคาดหวังอนาคต ใช้ชีวิตทุกวันให้มีความสุข วันหนึ่งถ้าใช่มันจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ความคาดหวังคือการกดดัน ทำวันนี้ให้ดี ถ้าวันนี้เราดี พรุ่งนี้เราก็ต้องดี"


ใจจริงอยากแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่?

กุ๊บกิ๊บ - "อายุ 27 ไม่เกิน 28 ปีค่ะ กิ๊บไม่อยากแต่งงานตอนแก่ ความฝันสูงสุดคืออยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีชีวิตที่เรียบง่าย"

"ทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตกับครอบครัวน้อยเกินไป เราใช้ชีวิตกับคนอื่นมากกว่าคนในบ้าน สุดท้ายพอวันหนึ่งสูญเสียไปก็ทำให้เสียใจ เงินทองไม่จำเป็นต้องมีเยอะ ชื่อเสียงพอวันหนึ่งเราแก่ก็หมดไป สิ่งที่อยู่กับเราคือครอบครัวต่างหาก"


ดูเหมือนจะโหยหาความเป็นครอบครัว?

กุ๊บกิ๊บ - "ไม่ได้โหยหาขนาดนั้น แต่คนเรามีเป้าหมายในชีวิตไม่เหมือนกัน กิ๊บรู้ว่าความสุขที่สุดในชีวิตกิ๊บคืออะไร คือครอบครัวที่อบอุ่น คือการมีคนรักอยู่ใกล้ๆ คนรักในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแฟนอย่างเดียว หมายถึงครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น พ่อแม่ พี่น้อง คนที่มุ่งเอาแต่งานจนลืมครอบครัว สุดท้ายวันหนึ่งก็ไม่เหลืออะไร มันไม่คุ้ม"


แต่งตอน 27-28 ปี ถ้า "โอ้" ยังดังและแรงอยู่ล่ะ?

กุ๊บกิ๊บ - "ดังแล้วแต่งไม่ได้เหรอ(หัวเราะ) ทำไมต้องเอาความดัง ชื่อเสียง เงินทอง ไว้ก่อน ยอมเสียความสุขที่แท้จริงของชีวิตทำไม แต่กิ๊บยังไม่เคยมานั่งคุยกับโอ้เรื่องแบบนี้ ถ้าถึงเวลาคงรู้เอง ผู้หญิงต้องมีอยู่แล้วความรู้สึกที่อยากแต่งงาน คนเราสามารถใช้ชีวิตได้ทั้งสองด้าน เวลาผ่านไป มีเงินเป็นร้อยเป็นล้านก็ไม่สามารถซื้อช่วงเวลากลับมาได้


มองอนาคตต่อไปอย่างไร?

กุ๊บกิ๊บ - "ไม่คาดหวังอะไร ทุกอย่างมีมามีไป เงินทอง ชื่อเสียง เป็นสิ่งไม่ยั่งยืน ใช้ชีวิตให้มีความสุข เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุดให้เป็นความทรงจำดีๆ ถ้าจะอยู่วงการนี้ไปอีกนานก็เป็นเรื่องดี หรือวันหนึ่งเบื่อ ไปค้นหาชีวิตทำอย่างอื่นก็ได้ คนเราเลือกมีความสุขได้หลายอย่าง บางคนอาจอยู่บ้านเฉยๆ ปลูกผัก ชีวิตพอเพียง ทุกวันนี้ที่พวกกิ๊บทำอยู่คือโอกาสดีๆ ที่เข้ามาเท่านั้นเอง แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเราเลยค่ะ"

เพราะยังไง "กุ๊บกิ๊บ" ก็คือ "กุ๊บกิ๊บ" วันยังค่ำ


อยู่วงการด้วยความจริงใจ
โด่งดังมาด้วยผลงานละคร "เงารักลวงใจ" ในบทร้าย สำหรับนางร้ายสาว "กุ๊บกิ๊บ"สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย

โดยเจ้าตัวกล่าวถึงการได้เล่นร้ายในละครเรื่องแรกว่า "ตกใจค่ะ เพราะเราคิดว่าเราเล่นไม่ได้ ไม่เคยผ่านงานแสดง แต่พี่จ๋า(ยศสินี) บอกว่าพี่เชื่อว่ากิ๊บทำได้ ก็เลยลองดู ตอนแรกขอเขาเป็นนางเอก เพราะไม่คิดว่าจะเล่นเป็นนางร้ายได้เพราะชีวิตกิ๊บไม่ได้เป็นนางร้าย มันห่างไกลตัวเรา แต่พอได้ทำการบ้านเยอะๆ และได้รับคำแนะนำทั้งพี่หนุ่ม-กฤษณ์, พี่จ๋า อาจิ๋ม-มยุรฉัตร รวมถึงหม่อมน้อย(ม.ล.พันธุ์เทวนพ) ก็ช่วยให้ผ่านไปได้"

ผลตอบรับละครเรื่องแรก งานนี้ต้องบอกว่า กุ๊บกิ๊บเจอคนเกลียดแบบจริงจัง

"ไปซื้อของไม่มีคนขายให้ แม่อินมากบอกว่าฉันไม่เคยเลี้ยงลูกให้เป็นแบบนี้ บางคนจะขอตบ ซึ่งเรื่องนี้โชคดีมากที่คนชอบและตอบรับ ทำให้มีงานหลายเรื่องตามมา อย่าง ดวงใจอัคนี, สะใภ้ไม่ไร้ศักดินา, นายสุดซ่า ข้าสุดแสบ, ลิขิตเสน่หา, แม่ยายที่รัก, มณีแดนสรวง, ธรณีนี่นี้ใครครอง และปัญญาชนก้นครัว 9 เรื่องในเวลา 2 ปีถือว่าเยอะ เราโชคดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส"

แรกเข้าวงการเจอคนสบประมาทว่าหน้าตาไม่สวย ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดาวร้ายสาวรู้สึกนอยด์ ด้วยเธอเป็นคนคิดบวก

ดาราสาวกล่าวอีกว่า "2 ปีที่อยู่วงการบันเทิงทำให้รู้จักประเภทของคนมากขึ้น ต้องอยู่ด้วยความระมัดระวัง คนดีมีเยอะ แต่คนไม่ดีก็มีเหมือนกัน การดำรงชีวิตให้อยู่ในวงการบันเทิงให้ได้ คือกิ๊บใช้ความจริงใจ ใช้ความเป็นกิ๊บ"

"กิ๊บเหมือนดอกกุหลาบที่สวยงาม แต่มีหนามไว้ป้องกันตัวเอง กิ๊บจะไม่เอาไปทำร้ายใคร

นอกจากเขามาทำร้ายกิ๊บก่อนค่ะ"

อย่างนี้เขาเรียก สวยประหาร


ฉายแววแต่เด็ก

"กิ๊บมีพี่น้อง 6 คน กิ๊บเป็นน้องคนที่ 6 คุณแม่กิ๊บเป็นแม่บ้าน ส่วนคุณพ่อเป็นตำรวจ เราเป็นลูกสาวคนเล็ก พ่อแม่ก็ตามใจ" สาว "กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์" แง้มเรื่องครอบครัว

และเล่าต่อว่า "กิ๊บเหมือนลูกหลง พี่สาวคนโตอายุ 40 กว่า สามารถเป็นแม่เราได้เลย เพราะลูกคนโตของเขาอายุเท่ากับกิ๊บ"

สำหรับชีวิตวัยเด็ก ดาราสาวเผยว่า "คุณพ่อเลิกกับคุณแม่ตั้งแต่เราเด็กๆ คุณแม่กิ๊บแต่งงานสองรอบ รอบที่สองก็มีกิ๊บ รอบแรกเป็นพี่ทั้ง 5 คน ครอบครัวเราไม่สมบูรณ์แต่อบอุ่น เพราะเรามีพี่ๆ และแม่ก็ทำหน้าที่เป็นทั้งแม่และพ่อ ไม่มีปมด้อยเลย"

"ตอนเด็กกิ๊บจะเอาแต่ใจมาก แม่ออกไปทำงาน เราอยู่กับพี่เลี้ยง ก็จะอาละวาด พี่เลี้ยงจะอยู่กับเราไม่ทนสักคน กิ๊บเป็นเด็กแก่นซน ขี่จักรยาน ยิงนก ตกปลา เป็นหัวโจกทั้งเพื่อนผู้หญิงและผู้ชาย"

ส่วนเรื่องเรียนเธอว่า "กิ๊บย้ายโรงเรียนบ่อยมาก 10 โรงเรียนได้ เพราะบ้านกิ๊บไม่ค่อยอยู่กับที่ รวมถึงกิ๊บก็ซ่าและขี้เบื่อ"

"กุ๊บกิ๊บ" มีแววนักแสดงตั้งแต่เด็ก กล้าแสดงออก "กิ๊บเป็นเด็กกิจกรรม เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ดรัมเมเยอร์ นักกีฬา เรื่องเรียนเรียนดี แต่หัวกบฏ(หัวเราะ) แหกคอก ชอบคุยและเล่นในห้องเรียน"

แววนักแสดงเริ่มฉายตอนอายุ 14-15 ปี โดยเธอกล่าวว่า "ตอนนั้นไปเดินสยามกับเพื่อนๆ โอ้และด้วยมีหลายโมเดลลิ่งชวน งานชิ้นแรกเอ็มวีสิงห์เหนือเสือใต้ เพลงกู๊ด เล่นกับดิว-อริสราและโอ้ ได้ค่าตัว 1,500 บาท จากนั้นก็ถ่ายนิตยสาร โฆษณาเล็กๆ น้อยๆ มาเรื่อยๆ จนมีคนชวนทำเพลงเป็นวงชื่อ เบบี้บูตี้ แต่ยังไม่ทันวาง เวลาซ้อมไม่ตรงกันเลยแยกกัน ประจวบกับตอนนั้น พี่เอ-ศุภชัย ชวนไปเล่นละครช่อง 3 เลยตัดสินใจหยุดเรื่องเพลงค่ะ"


ตั้งแต่นั้นมา ชื่อ "กุ๊บกิ๊บ" ก็ขึ้นทำเนียบนางร้ายของวงการ

ชื่อเล่น : กุ๊บกิ๊บ

ชื่อนามสกุล : สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย

วัน/เดือน/ปีเกิด : 16 ก.ย.2531

บิดา/มารดา : มณฑล เหลืองอุทัย/ชนาภา ชินชวนิช

พี่น้อง : 6 คน พี่สาว 3 คน พี่ชาย 2 คน เป็นน้องคนสุดท้อง

การศึกษา : อนุบาลร.ร.พระหฤทัยฯ ดอนเมือง, ป.3-ป.5 ร.ร.เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เมืองทองธานี, ป.5-ป.6 ร.ร.เทพอัปสร แถวมีนบุรี, ม.1 ร.ร.เซนต์ปอล หนองคาย, ม.2 ร.ร.เซนต์โยเซฟ บางนา, ม.3 ร.ร.อัสสัมชัญวิทยา อุบลราชธานี, ม.4-ม.6 ร.ร.อัสสัมชัญพาณิชย์(เอซีซี), ปัจจุบันเรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ หลักสูตรพิเศษ ม.รามคำแหง ปี 4
'แพนเค้ก' ชนะใจ'หมี' มีสิทธิ์แต่ง!

แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ เบื่อรักนักร้องแล้ว ช่วงนี้ “ความรัก สีกากี” กำลังมาแรงหนุ่มในเครื่องแบบ “หมวดหมี” มีภาษีดีที่สุดเหนือหนุ่มไหน เหมือน แพนเค้ก จะหยุดให้ “คุณตำรวจ” เข้ามา ตรวจหัวใจ ถ้าตรวจจับ แล้วถูกใจกัน รักครั้งนี้มีหวัง แอบ...ฝันไกลให้สัมปทานหัวใจไปยาวนาน!

นางเอกดัง แพนเค้ก มีพร้อมทุกอย่าง งานเยอะ เงินแยะ  ครอบครัวอบอุ่น  สิ่งเดียวที่เธอแสวงหาคือ  “ความรัก” รักครั้งก่อน เป้–อารักษ์ หนุ่มมาดเซอร์ ลองรัก ลองคบแล้ว มันไม่ใช่ ก็โบกมือบ๊าย...บาย แพนเค้ก พูดชัดว่า “ต่างคน ต่างแยกย้ายกันไป” ทำเอา หนุ่มเป้ มาดเซอร์ ยืนเซ่อ!! มา รู้ตัวอีกที อ้าว...แพนเค้ก เปลี่ยนใจ สลัดรัก เป้ ไปตั้งต้นรักใหม่ แบบ เป้ ยังไม่ทันตั้งใจ บ้างก็ว่ารักทุกๆครั้งที่เกิดขึ้น และจบลง ในชีวิต แพนเค้ก เพราะมี “แม่” เป็นคน “กำหนดรัก” เพราะ แพนเค้ก จะพูดเสมอตอนให้สัมภาษณ์ว่า “ครอบครัวรักใคร ก็รัก ด้วย” มันค่อนข้างชัดเจนว่า แม่ปลื้ม ใคร แพนเค้กก็พร้อมลุย! จะรัก จะเลิก เหมือนมีแม่คอยกำหนด

ล่าสุด...ถูกลือหนัก แม่หน่อย–นวลนง จัดหนัก!! เชียร์ หมวดหมี ตำรวจหนุ่มไฮโซ มียศโก้ แต่งงานกันไป ได้เป็น คุณนายตำรวจ พ่วงท้ายไปอีกตำแหน่ง เพราะหัวอกคนเป็นแม่ เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน แพนเค้ก สายตากว้างและไกล มองอะไรขาด แต่ที่ผ่านมา เห็นว่า “ลูกสาวรักพระเอก” เวียร์–ศุกลวัฒน์ คณารศ และ เป้–อารักษ์ ก็ปล่อยให้รักสดใสตามวัยสาว แต่สุดท้ายคนที่จะได้เป็น “ลูกเขยตัวจริง” ที่สามารถปกป้องและดูแล แพนเค้ก ได้ แม่เล็งไว้ในใจว่าคงไม่ใช่หนุ่มในแวดวงบันเทิงอย่างแน่นอน

ช่วงนี้โผหัวใจ แพนเค้ก เปิดแล้ว “นายตำรวจกำลังมาแรง” ที่ผ่านมาแค่เห็นโผล่ไปช่วยงานราชการกรมตำรวจบ่อยๆ แต่ “รักในใจ” มันหวานขึ้นทุกขณะจิต เลยปิดไม่มิด แพนเค้ก มิอาจต้านกระแสรักได้ ยอมรับว่ากำลังคบหาในระยะเริ่มต้นกับ หมวดหมี จริง แต่หนุ่มคนนี้ยังไม่มีใครทราบชื่อจริง ยังไม่มีใครเห็นตัวจริง จนมี “ปาปารัซซี่” อยากรู้จัก ย่องไปสืบประวัติถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า หมวดหมีเป็นใคร มาจากไหน ถึงได้พิชิตหัวใจ แพนเค้ก ได้เร็วไวหลังจากเลิก เป้ ได้ไม่นาน แสดงว่า หมวดหมี ต้อง หล่อ และ เร้าใจ เจอปุ๊บรักปั๊บได้ฉับไว ปานถูก “กามเทพแผลงศร”

นอกจากความรักมันจะล้นทะลักใจ จนปิดไม่มิด แพนเค้ก ก็ไม่กล้าโกหก เพราะช่วงนี้เริ่มมีคนเห็นควง หมวดหมี ไปกินอาหารรับลมทะเลที่ หัวหิน โดยมี แม่หน่อย คอยเชียร์อยู่ด้วย

ถามไป แพนเค้ก ก็ไม่บอกอะไรเกี่ยวกับ “แฟนหนุ่ม” บอกแค่ว่า “รู้จักพี่เขามานานพอสมควร ไม่รีบ ทุกอย่างที่บอกเป็นเรื่องของเวลา เขาเองเป็นคนนอกวงการก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่เราสามารถพูดอะไรได้ คนละสายงาน”

อาจจะเพราะประสบการณ์ มีรัก 2 ครั้ง กับหนุ่ม 2 สไตล์ เวียร์–เป้ รวมทั้ง “ข่าวสร้างกระแส” กับ ฟิล์ม–รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ที่สนิทเป็นเพื่อนสายธรรมะ ท่าน ว.วชิรเมธี ด้วยกัน ที่มีข่าวจับคู่กับ แพนเค้ก คงเป็นบทเรียนรักที่มีค่า แพนเค้ก พูดมาก พอวัน “หมดรัก” ต้องเลิกกัน คำพูดมันพันมัดตัวชวนให้อึดอัด รักครั้งนี้ แพนเค้ก กับ หมวดหมี เลยไม่เปิดเผยเท่าไร แต่รู้อยู่ในใจว่า “รักใคร” ก็พอแล้ว!

คาดว่า แพนเค้ก คงจะสุขสมใจ และ หมวดหมี คงเป็น “แฟน” ที่ถูกใจคุณแม่มากที่สุด ถึงขนาดลือกันว่า “ผ่านการคัดสรรจากแม่” มาแล้ว รักเลยไม่มีอุปสรรค!

ช่วงนี้ แพนเค้ก ก็เลยพร้อมรัก ดูจากสภาพร่างกาย วัยสาวเบ่งบานเต็มตัว โพสท่าอวดความสาวความขาว ในนิตยสาร “VOLUME” รู้เลยว่า แพนเค้ก ชิ้นนี้ จะผ่านมากี่ฝน ก็ น่าหม่ำและน่ามอง อิจฉาแต่ หมวดหมี ที่ได้เป็นหนุ่มที่ทำให้ แพนเค้ก ติดอก ติดใจ จนลืมรัก “พระเอก” ได้หมดเกลี้ยง!

ห่วงก็แค่ว่า หมวดหมี ชายชาติตำรวจ เคยแต่กวดจับ “ผู้ร้าย” วันนี้ กลายเป็น “ผู้ต้องสงสัย” ของแฟนคลับ “คนรักแพนเค้ก” เห็นที หมวดหมี ต้องคอยระวัง “พลพรรคคนรักแพนเค้ก” จะคอยตรวจจับพฤติกรรมซอกแซกแงะประวัติ ไม่รู้จะทนรัก ทนรับมือกับการ รักสาวในวงการได้นานเท่าใด?

แต่ หมวดก้อง–นรบดี ศศิประภา สามี หมิว–ลลิตา ก็ทำให้เห็นแล้วว่า “รักเอาชนะทุกอย่าง” รวมทั้งรักเอาชนะใจนางเอก จน หมิว มีลูก 2 คน เชื่อเลยว่า หมวดหมี คงมี “น้ำผึ้งหวานๆ” เอาไว้ราดรด แพนเค้ก ถูกชโลมด้วยน้ำผึ้งทุกวันก็ชุ่มฉ่ำน่าหม่ำและใจอ่อนไปเอง!

“หวาย” มองอุปสรรค เป็นแรงผลักดันสู่ความสำเร็จ

ถ้าเอ่ยถึง “ฮิพฮอฟ” ส่วนใหญ่หลายคนต้องนึกถึงแต่หนุ่มๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ที่ร้องเพลงแนวนี้ แต่ถ้ามองในฟากของผู้หญิงหนึ่งสาวที่เราต้องนึกถึงก่อนนั่นคือ หวาย-ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์ หรือ หวาย กามิกาเซ่ เด็กสาวที่มากความสามารถ เธออยู่ในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 15 ปี จนตอนนี้เติบโตเป็นสาวแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างในชีวิต งานนี้ เลยจับเธอมานั่งคุยสบายๆ ล้วงลึกถึงเรื่องต่างๆ ในชีวิตสาวหวายมาให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนเธอจริงๆ


การทำงานเพลงของเราตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?

“ตอนแรกที่เข้ามาวงการเพราะหวายไปร้องเพลงที่คอนเสิร์ต คุณตาชรินทร์ นันทนาคร แล้วพี่ที่อาร์เอสเห็นหวายร้องเพลงและเต้นได้ เขาเลยติดต่อมาบอกว่ากำลังหาเด็กผู้หญิงที่รักการเต้นและร้องเพลง ก็เลยเข้าไปออดิชั่นดูได้เข้ามาอยู่กามิกาเซ่ตอนนั้นได้อยู่เป็นโปรเจคจนตอนนี้มีอัลบั้มเดี่ยว 3 อัลบั้มแล้วค่ะ 5 ปีที่ผ่านมาทุกคนได้เห็นเราโตขึ้นเยอะ เพราะเราอยู่ตั้งแต่ 13-14 ปี ตอนนี้จะ 19 แล้วเขาก็จะบอกว่าเรายังเด็กตอนนี้โตแล้ว”


5 ปีบนเส้นทางงานเพลงที่ตัวเองรักมีความเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง ?

“มีเยอะค่ะ เป็นปกติที่คนเราจะตื่นเต้น เวลาทำงานก็ทำเต็มที่ที่สุด ไม่กลัวคนวิจารณ์ แต่พอเราได้ยินคนพูดเกี่ยวกับเราในทางไม่ดีทำให้เราเสียใจแล้วก็ท้อ ไม่อยากสู้ต่อ แต่พอเราโตมาเรื่อยๆ ก็รู้ไม่ควรที่จะท้อ เพราะเราเลือกที่จะมาเส้นทางนี้แล้ว แรกๆ คิดไม่อยากทำเลย รับไม่ได้ที่มีคนมาว่าเราทั้งที่ไม่รู้จักเราเลย เรื่องหลักๆ ที่เขาว่าก็เป็นเรื่องน้ำหนักบ้าง เรื่องเราร้องเพลงบ้าง เพราะเป็นนักร้องเด็กที่ร้องแนวฮิพฮอพแต่งตังเหมือนผู้ชายแต่ไม่ใช่ทอม เขาไม่เข้าใจในตัวเรา แต่พอเราโตขึ้นแนวเพลงโตขึ้นยังเป็นฮิพฮอพแต่ผสมป๊อบให้เพื่อนๆ ฟังง่ายขึ้นเขาก็เปิดใจรับเรามากขึ้น หนูมีกลุ่มแฟนคลับแต่แรกแล้ว แล้วก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆเราก็รู้สึกดีใจ เพราะเขาทำเว็บเพจแฟนคลับให้จากเดิมมีไม่กี่ร้อย ตอนนี้เพิ่มเยอะมากๆ”


ช่วงเวลาที่ท้อหาวิธีปลอบใจตัวเองให้แข็งแรงยังไง ?

“คุยกับคุณพ่อคุณแม่เยอะ ท่านเป็นคนที่สนับสนุนเราตรงนี้มาก ไม่ใช่พ่อแม่ที่ให้เรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่ได้คิดว่าการเรียนไม่สำคัญ แต่เชื่อว่าเราสามารถทำสองอย่างพร้อมกันได้มีความรับผิดชอบพอ หวายเจอปัญหาก็เดินเข้าไปคุยเวลามีคนเขียนว่าเรา พ่อแม่ก็อธิบายให้เราฟังว่ามีคนรักก็ต้องมีคนไม่ชอบบ้าง พอโตขึ้นเชื่อซิทุกคนก็จะเข้าใจเราเอง ซึ่งพอโตมาตอนนี้ก็มีคนเปิดใจรับเรามากขึ้นจริงๆ เวลาเรามองกลับไปก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ เรายังผ่านไปได้ประสบการณ์จะสอนเรา ถึงตอนนี้ยังมีคนว่าเราอยู่บ้าง แต่มันทำให้เราเข้มแข็ง เพราะถ้าอ่านแล้วไม่ใช่เรื่องจริงเราก็ปล่อยวางไป”


คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูเรายังไง ดูภายนอกเหมือนคุณหนูมาก?

“คุณพ่อคุณแม่หวายปล่อยทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้บอกทุกเรื่องเขาเลี้ยงแบบนี้แต่เด็ก ถ้าเราจะไปข้างนอกก็ต้องบอก ที่สำคัญหวายไม่เคยโกหกคุณพ่อคุณแม่เลย ท้ายที่สุดคนที่เราจะเชื่อใจมากที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นค่ะ เราเรียนนานาชาติแต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่ปล่อยเพราะเห็นเป็นเด็กฝรั่ง แต่ปล่อยเพราะเวลาเราอยู่สังคมอินเตอร์อาจารย์จะไม่ได้เข้ามาว่าเรา ห้ามโน่นนี่ แต่เขาจะให้เรารับผิดชอบเอง เราเป็นครอบครัวฝรั่งก็แค่สามารถคุยกับคุณพ่อคุณแม่ได้ทุกเรื่อง อย่างเพื่อนหวายบางคนไม่กล้าเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเรื่องความรัก แต่เรื่องแบบนี้หวายสามารถบอกได้ค่ะ”


คนดูภายนอกอาจมองเราเปรี้ยวแรงแน่ ?

“ที่จริงเป็นคนตรงไปตรงมา แต่คนจะสับสนกับคำว่าแรง คนคิดอะไรแล้วพูดออกมา เวลาไปข้างนอกคนบอกว่าหยิ่งเพราะเขาไม่รู้จักเราจริงๆ บางคนเจอหน้าไม่ชอบกันก็สีหน้าเวลาที่เราไม่ยิ้มอาจดูวีนโกรธ อยากให้เข้าใจนิดนึง เราไม่สามารถทำให้ทุกคนรักเราได้ทั้งหมด แต่ว่าหวายมีหน้าที่ที่จะอธิบายให้ทุกคนฟังนี่แหละค่ะว่า จริงๆ เป็นยังไงเราจะได้เข้าใจกันมากขึ้นเนอะ เราโตแล้วมีความรักผิดชอบ เข้ามาวงการตั้งแต่อายุ 13 ปี ตอนนั้นกำลังวัยรุ่นอยู่เลย พอมาทำงานก็ไม่มีเวลา แต่ทำให้เราโตมีความรับผิดชอบมีความอดทนมาก ทำให้เราได้รู้เข้ามาทำงานไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ให้กับทุกคน แล้วเราโชคดีขนาดไหนที่ได้รับโอกาสนี้”


เรื่องของการเรียนล่ะทำงานด้วยเรียนด้วย ?

“โอ้โห หนักเลยค่ะ ตอนแรกๆ หนักเพราะเราเรียนโรงเรียนอินเตอร์อาจารย์จะปล่อยมากกว่า พอมาท้ายเทอมจะค่อยมาบอกเราว่าเกรดไม่ดีให้ทำอะไรขาดอะไร เพื่อนๆ ทุกคนก็จะเข้าใจเพื่อนเราก็ช่วยด้วย พอมาถึงตอนนี้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาคอินเตอร์ ตอนแรกเรียนสาขาบริหารธุรกิจ แต่ตอนนี้กำลังย้ายมาเรียนนิเทศค่ะที่เราชอบจริงๆ แล้วได้ลงเรียนภาษาเพิ่มไปด้วย”


ตอนนี้ถือว่าเราอยู่จุดสูงสุดที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้หรือยัง ?

“หวายอยากเป็นนักร้องจนโต เราทำได้ถึงขนาดนี้ก็มั่นใจแล้วว่าเราอยากทำต่อไปจริงๆ ซึ่งสัญญาหมดเพิ่งต่อใหม่อีก 5 ปี เราแฮปปี้มาก ไม่ใช่แค่นักร้องอย่างเดียวนะ ตอนนี้หวายเพิ่งเปิดร้านขายเบเกอร์รี่ชื่อร้าน “มันชี่” ที่แปลว่าหิวขนม อยู่แถวสุขุมวิท 71 เป็นความฝันตั้งแต่เด็กแล้วเราชอบทำคัพเค้ก จนเมื่อปีที่แล้วคุณยายเลยลงทุนกับคุณแม่ซื้อตึก 5 ชั้นลงชื่อร้านเป็นของเราให้เราได้ทำตามความฝันชั้นล่างเป็นอาหารคาเฟ่ ขนม ชั้นสองขายเสื้อผ้า อีกด้านที่สนใจคือหวายอยากเป็นนักแปลทุกคนจะตกใจเนอะ(หัวเราะ) อยากเป็นคนทำงานไปจนแก่เลย อยากเก็บเงินเพราะกว่าเราจะมีลูกมีหลานเราก็อยากทำงานเก็บเงินให้เขาไม่ลำบาก”


อะไรที่คนไม่รู้บ้างเกี่ยวกับตัวหวาย ?

“เป็นคนเซ้นซิทีฟ เครียดง่าย แต่ก็หายง่าย (หัวเราะ) เข้มแข็ง อีกอย่างเป็นคนที่เก็บเงินมาก จริงๆ นะ ดูข้างนอกเหมือนจะซื้อของเยอะแบรนด์เนมแน่ๆ แต่จริงๆ เป็นคนเก็บเงินเก่งเหมือนกัน เงินที่ได้มาจากการร้องเพลงทำงานเนี่ยไม่เคยใช้เลย ใช้ครั้งเดียวตอนซื้อไอแพด เพราะอยากได้เองที่เหลือเก็บธนาคารที่ไม่สามารถใช้ได้อีก 10 ปี เราอยากมีเงินใช้ตอนโตอยากเก็บเผื่ออายุ 30 ปี ก็มีเงินที่จะเลี้ยงน้องๆ เด็กๆ ญาติเรา เดือนนึงคุณพ่อคุณแม่ให้เงินหวายไม่เยอะนะ คนอื่นได้เป็นหมื่นแต่หวายได้ไม่กี่พันเอง ถ้าไม่พอจริงๆ หรือมีเหตุผลต้องซื้อของทำงานก็ขอได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ขอ แค่นี้พอแล้วสำหรับวัยเท่าหวาย อย่างแบรนด์เนมนี่ไม่เลย ซื้อแค่อย่างเดียวคือกระเป๋าตังค์ปราด้า ตอนไปฮ่องกงแล้วก็ใช้มา 3 ปีแล้ว ไม่เคยช็อปหมดเป็นหมื่นๆ คุณแม่เราก็เป็นเหมือนกันคือไม่ใช้แบรนด์เนมเก็บเงินเก่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่เราทำได้”


เรื่องความรักล่ะช่วงที่ผ่านมาเคยมีข่าวเยอะตอนนี้เงียบหายไปเลย ?

“ตอนนี้ทำงานหนักมากเช้าจรดเย็น ยังโตไม่พอ ยังเรียนด้วย เลยทำให้เราไม่มีเวลาทั้งกับตัวเอง เพื่อนๆ และครอบครัวเท่าไหร่ แล้วถ้าไม่มีเวลาให้กับพ่อแม่ขนาดนั้น หวายก็จะไม่มีเวลาพอสำหรับคนที่ดูใจแน่นอน ถามว่ามีเข้ามามั้ยก็มีเพื่อนสนิทคนนึงก็อย่างที่รู้ข่าวเขาชื่อ “อองตวน” เป็นคนฝรั่งเศส คุยแบบเพื่อนกันจะคอยให้กำลังใจเราตลอด เขาทำงานเป็นนักมวยเขาทำงานหนักเป็นคนมีระเบียบวินัยมาก ไม่เคยเจอมาก่อนในวัยนี้เขาเพิ่ง 20 ปี รักครอบครัวมาก ครอบครัวสำหรับเขาต้องมาก่อน เราเลยประทับใจเขาตรงนี้ ที่สำคัญเขาเข้าหาคุณพ่อคุณแม่ของเราท่านก็สบายใจที่เราเป็นเพื่อนกัน การมีแฟนหรือคนที่ดูใจไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอให้เรารู้ลิมิตและต้องบอกคุณพ่อคุณแม่ ถ้าท่านรับรู้จะดีกว่าจะได้ช่วยเราดูสบายใจทั้งสองฝ่ายค่ะ”


ฝากอะไรถึงแฟนๆ หน่อย ?

“ฝากแฟนๆ ติดตามผลงานหวายไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลที่ 2 สำหรับเพลง “เสียใจแต่ไม่แคร์” เพลงนี้เป็นเพลงที่ร้องยากมากเป็นแนวอาร์แอนด์บีที่ยาก อยากให้ลองฟังแล้วก็ติดตามหวายด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”


เป็นอีกหนึ่งสาวที่มากความสามารถแล้วก็มีแนวทางการใช้ชีวิตที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีกับแฟนคลับได้ดีจริงๆ อย่างนี้