Inside Dara
แม่รับทั้งน้ำตา กุญแจซอลท้องจริง เผยสามีลูกกีดกันไม่ให้เจอ

หลังจากที่มีภาพคนหน้าคล้ายนักแสดงสาว กุญแจซอล ป่านทอทอง ที่หญิงสาวในรูปมีรูปร่างคล้ายกับคนท้อง ไปทานข้าวกับแฟนหนุ่ม นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้ต่อสายตรงไปหาคุณแม่ของนักแสดงสาว เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าวจากคุณแม่มุก มุกดา บุญทอง

หลังจากที่มีข่าวออกมาได้คุยกับคุณพ่อหรือยัง?

กับพ่อไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะตอนนี้พ่อเพิ่งรักษาโรคหัวใจเพิ่งหาย ไม่อยากจะอะไรกับเค้ามาก และพ่อก็ทำงานละครหลายเรื่อง ไม่อยากให้เค้ามาอะไรกับตรงนี้ และอีกอย่างพ่อเค้าเลยจุดนั้นมาแล้ว เพราะ 8 เดือนไม่ได้เจอกัน พ่อก็พยายามทำใจแล้ว

แล้วกุญแจซอลได้ติดต่อมามั้ย หลังจากที่มีข่าวออกมา?

“ไม่เลยค่ะ”

ทำไมแม่ถึงตัดสินใจพูดเรื่องน้อง?

“มันจะได้จบๆ ไป เค้าจะได้ไม่ต้องมาโกหกสังคมว่าเค้าไม่ได้ท้อง เพราะแม่คิดว่าที่เค้าโกหกสังคม เพราะว่าเค้ากลัวว่าแม่จะรู้ว่าเค้าท้อง ไม่รู้ว่าแม่คิดถูกหรือเปล่านะ และเพราะแม่เห็นรูปนั้นแหละค่ะ แม่ถึงรู้ว่าเค้าท้อง แม่เห็นในคอมเมนต์ เห็นภาพนั้นพร้อมกับทุกคน เห็นแล้วก็ตกใจว่าทำไมเค้าทำกับลูกเราขนาดนี้

พาลูกเราไปยกเลิกสัญญากับช่อง ไม่ให้ลูกรับงาน ใครโทรไปก็กีดกัน ลูกอ่านไลน์แม่ก็ไม่เคยตอบ ยิ่งเห็นรูปล่าสุดเค้าโทรมมาก ยิ่งท้องด้วย คือทำไมต้องทำอย่างนี้กับครอบครัวเรา ทำไมไม่ให้เกียรติกันเลย ทั้งๆ ที่เราให้เกียรติเค้านะ เค้าเข้าออกบ้านเราได้ เห็นว่าเป็นทหาร ทำงานขนาดนี้น่าจะเป็นคนที่เราฝากลูกไว้กับเค้าได้ แต่พอเค้าทำอย่างนี้ เราผิดหวังมาก”

เค้าคบกันนานมั้ยถึงมาขอแต่งงาน?

“ไม่นานค่ะ เค้าคบกันตอนไปกรอกข้าวสาร และมันก็ไวเกินไป พอพูดคำเดียวว่า มันไวไปมั้ย ถ้ายังไม่พร้อมก็ดูๆ กันไปก่อน แล้วเค้าก็โกรธและเอาลูกเราไป ถามว่าคิดมั้ย ตอนที่เค้ามาขอท้องรึยัง ตอนนั้นยังไม่คิด จนกระทั่งแม่มารู้ว่าน้องท้อง เพิ่งเห็นว่าท้องขนาดนี้ ก่อนหน้านี้คิดว่าเค้าเพิ่งเรียนจบคงไปหางานทำ ไปเรียนรู้ด้านทนายความ เพราะผู้ชายเคยพูดว่าเค้าสามารถฝากให้น้องไปเป็นทหารได้ สามารถให้น้องไปเป็นนักบินได้ เราก็คิดว่าลูกเราอยู่กับเค้าคงรอให้ได้ดีแล้วกลับมา แม่ไม่คิดว่าจู่ๆ เค้าจะท้อง และมีอะไรกันก่อนจะมาสู่ขอ”

ไม่ได้กีดกันเค้าทั้งสองคนใช่มั้ย?

“คือไม่ได้กีดกันค่ะ เพราะเราไปคุยเรื่องแต่งงานกันแล้ว แม่มีคนกลางไปคุยเรื่องแต่งงานแล้ว แต่ยอมรับว่าตอนนั้นเครียด เพราะแม่ฝ่ายชายไม่ให้เกียรติเท่าไร มาแล้วก็เจ้ากี้เจ้าการ และบอกให้ฝ่ายหญิงออกค่าใช้จ่ายในวันสู่ขอนะ ส่วนในวันแต่งเค้าจัดการเอง และก็พูดเรื่องเงินสินสอดว่าเพิ่งไปงานสู่ขอมา บ้านนั้นเค้าไม่เรียกค่าสินสอดเลยนะ บ้านนี้เอาแค่ 5 แสน ซึ่งเค้าพูดแบบนี้ พอหลังจากคุยเสร็จยังคุยกับซอลเลย ซอลบอกว่าแม่ หนูหน้าชาเลย เรื่องสินสอดเราคุยกันจบที่ 2 ล้าน ก็ยังคิดว่าเหมือนเราได้ลูกชายเพิ่มมาอีกคนก็แล้วกัน

แต่หลังจากนั้นเค้า 2 คนกลับมากรุงเทพฯ ก่อน พ่อก็ถามว่าได้ข่าวยังไม่ค่อยพร้อมเหรอ ยังไงเพิ่งคบกัน ดูๆ กันไปก่อนดีมั้ย ผู้ชายก็ฉุนขึ้นมาเลย และวันนั้นทั้งวันเค้าก็นั่งคุยกันที่บ้านแม่ คุยกันเครียดเลย พอแม่กลับมา ลูกสาวอีกคนก็มาบอกว่า 2 คนนั้นเค้ารอคุยกับแม่อยู่ แม่ก็เลยเดินไปบอกเค้าว่าวันนี้แม่เหนื่อย ค่อยคุยกันวันหลังได้มั้ย ผู้ชายก็บอกครับๆ แล้วเค้าก็เรียกซอล ปิดประตูดังมากแล้วขับรถกันอย่างเร็ว คือตอนนั้นคิดว่าเค้าจะไปนอนอีกบ้านนึง เพราะแม่มีบ้าน 2 หลังใกล้ๆ กัน น้องไม่ได้เอาข้าวของออกจากบ้านไปเลยสักชิ้น”

แล้วได้ตามหากุญแจซอลมั้ย?

“ตามค่ะ คืนวันนั้นก็ไปตามที่คอนโดผู้ชาย เลยได้รู้ว่าเค้าเช่าเป็นรายวัน ไม่ได้อยู่ตลอด และผู้ชายคนนี้แม่ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหน เพราะทุกอย่างมันเร็วมาก แม่ตามทั้งคืน แม่ไปแจ้งความไว้ เค้าก็บอกว่าเจอพิกัดที่นครสวรรค์บ้าง เราก็ตามกันไปทุกที่ที่มีคนบอก จนไปแจ้งความที่ สน.สุวรรณภูมิ ตำรวจก็เชิญฝ่ายชายมาแต่เค้าไม่มา ทั้งๆ ที่เราแจ้งความ แต่เค้าไม่ยอมมาเจอ ไม่ยอมมาคุยกับเรา ที่ทำงานของผู้ชายก็ทำหนังสือส่งไปค่ะ แต่ลูกเราก็ปกป้องเค้า ไปจดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 14 ก.พ. แม่รู้เพราะว่าแม่ตามหา เลยรู้ว่าเค้าไปจดทะเบียนที่ สำนักงานเขตสายไหม

คือที่ลูกเราจดทะเบียนกับเค้าเพราะผู้ชายบอกว่า ต้องจดทะเบียนกับพี่นะ เพราะว่าจะได้เบิกประกันได้ เมื่อวานนี้ซอลคุยกับผู้ใหญ่อีกคนนึง เค้าโทรไปหาและถามว่าจะกลับมาหาพ่อกับแม่มั้ย แต่ลูกเราบอกว่าต้องปรึกษาผู้ชายก่อน แล้วเค้าก็ชวนคุย ถามว่าท้องเหรอ เค้าก็ยอมรับว่าท้อง ใกล้คลอดแล้ว เค้าก็บอกว่าหนูต้องจดทะเบียนกับพี่เค้าจะได้เบิกค่าใช้จ่ายได้ และเค้าบอกว่าเค้าจะคลอดเองด้วย ซึ่งเราเป็นห่วงมาก เพราะตอนแม่คลอดเค้าออกมา แม่ผ่าคลอด แม่กลัวเรื่องเค้าจะคลอดเอง เป็นห่วงเค้ามาก กลัวเค้าจะเป็นอันตราย แม่เป็นห่วงเค้า เมื่อก่อนแม่ดูแลคอยเตือนเรื่องอาหารการกิน แต่ตอนนี้เค้าท้อง เค้ายังดื่มน้ำอัดลมเลย ที่แม่เห็นในรูปนะ”

แม่อยากจะบอกอะไรลูกสาวมั้ย?

“ไม่อยากจะบอกอะไร เพราะเค้าไม่ฟังใครแล้ว แม่เป็นห่วงลูกนะ ที่ก่อนหน้านี้แม่ไม่พูด ไม่ให้ข่าว เพราะแม่กลัวลูกจะเป็นอันตราย แม่ดูข่าวที่คนหายตัวไปแม่ก็กลัว แม่เป็นห่วง แต่วันนี้ที่ต้องพูดเพราะแค่ไม่อยากให้ลูกต้องโกหกใครอีกต่อไป ถ้าจะท้องก็ท้องนะ แม่แค่อยากให้ลูกทำให้ถูกต้องมากกว่า”

ถ้ากุญแจซอลคลอดลูกเสร็จ และแฟนเค้าพาหลานกลับมาขอโทษพ่อกับแม่ล่ะ?

“มันก็ต้องดูนะว่าเค้ายังมีสามัญสำนึกมั้ย ไม่ใช่ทำตามกระแส คนเราต้องคิดเองได้ มีสามัญสำนึก ไม่ใช่สร้างภาพโกหกกัน มันไม่ใช่ สงสารหลานเพราะเค้าไม่รู้เรื่อง เค้าคงคิดว่าแม่ไปจู้จี้กับเค้ามากเกินไป แต่จริงๆ แล้วมันคือ ความรัก ความห่วงใย ที่แม่มีให้กับลูก ไม่ให้ห่วงลูกแล้วจะให้แม่ไปห่วงใคร แต่เค้าคงไม่ได้คิดหรอกว่าเราเป็นห่วงเค้า”