Inside Dara
"โบ"ยึดคำติคือครู ขอใช้โอกาสให้คุ้มค่า

มาถึงโค้งสุดท้าย สำหรับละคร "สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย" ทางช่อง 7 ที่ได้นางเอกสาวหน้าหวาน "โบ"ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ รับบท "แพรวา" คุณหนู ขี้อ้อน เอาแต่ใจ

ช่วงว่างจากละคร สาวโบก็เจียดเวลามาพูดคุยถึงผลตอบรับที่ได้จากละคร

ฟีดแบ็กละคร "สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย" เป็นอย่างไรบ้าง

โบ - "กระแสละครดีค่ะ ทีมงานปลาบปลื้มดีใจ ส่วนกระแสของโบ 50/50 มีทั้งที่บอกว่าดีขึ้น และบอกให้แก้เรื่องเสียง แรกๆ โบอาจตีความว่าเวลาเรามั่นใจ สดใส ต้องตะเบ็งเสียง ทำให้เวลาฟังออกมาดูหนวกหู ไม่รื่นหู ซึ่งอันนี้โบเข้าใจ คำติเป็นครูของโบอยู่แล้ว เป็นจุดที่ต้องพัฒนา ตอนนี้โบก็ไปเรียนวอยซ์เทรนนิ่งกับครูที่อักษรศาสตร์จุฬาฯ เลยเกี่ยวกับการเปล่งเสียงโดยเฉพาะ การหายใจ คือโบต้องเปลี่ยนใหม่หมด ถ้าไม่มีคำติเหล่านี้ โบอาจจะไม่ได้แอ๊กทีฟตัวเองแรงๆ ขนาดนี้"

โดนกระแสวิจารณ์ รู้สึกแป้วไหม

โบ - "แรกๆ มีบ้างเป็นธรรมดา จริงๆ คำติเราก็เก็บไว้เป็นครู ขณะเดียวกันทุกครั้งที่ดูละครโบก็ควรจะดูด้วยความภาคภูมิใจว่ามันคือผลงานของเรา ทุกซีนที่เข้าฉากโบจะเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น มีพัฒนาการขึ้น รู้สึกมั่นใจในการเล่นมากขึ้นและแฮปปี้กับสิ่งที่แสดงออกไป ขณะเดียวกันก็มีความสุขกับการทำงาน"

เรื่อง "สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย" เป็นงานแสดงละครเต็มๆ เรื่องที่ 2

โบ - "ใช่ค่ะ ถามว่าแตกต่างยังไงบ้างระหว่างเรื่องแรก "ไฟหวน" กับเรื่องนี้ "สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย" คือเรื่องที่แล้วไฟหวนจะเป็นพีเรียด แต่เรื่องนี้เป็นปัจจุบัน ก็จะเป็นจุดบ่งชี้ความแตกต่างได้ชัดเจนมาก เรื่องไฟหวนโบมีความรู้สึกว่าความคิด การแสดงออกหลายๆ อย่างเข้าถึงได้ยากกว่า ตรงที่เราไม่สามารถแสดงออกได้เต็มที่ แต่เรื่องนี้เหมือนได้แสดงออกเต็มที่ ไม่ต้องเก็บเอาไว้"

ยากหรือง่ายขึ้น

โบ - "เรื่อง "สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย" มีทั้งยากและง่ายในเวลาเดียวกัน ความง่ายคือโบสามารถเข้าใจตัวละครได้ง่ายกว่า ตรงที่เป็นปัจจุบัน สามารถเทียบเคียงอะไรได้หลายๆ อย่าง ความนึกคิดหรือการตีความจะไม่ต่างกับวัยรุ่นผู้หญิงในวัยโบเท่าไหร่ แต่ความยากคือเรื่องความละเอียดในด้านการแสดง บทจะมีจุดเปลี่ยนของชีวิต แรกๆ อาจสดใสร่าเริง และจะมีจุดพลิกผัน คุณป๊าป่วย มีการโกงกินกันในบริษัท มีอาที่พยายามฆ่าตัวตาย ดังนั้นระดับความเศร้ามันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะมีความลึกของคาแร็กเตอร์ตัวละคร เวลาถ่ายทำต้องลำดับช่วงเวลาดีๆ เพราะเวลาถ่ายไม่ได้ถ่ายตามเนื้อเรื่อง แต่ถ่ายตามโลเกชั่น จะมีความยากตรงนี้"

"และเวลาร้องไห้ ร้องไห้เพราะงอนแฟน กับร้องไห้เพราะพ่อตาย คนละฟีลกัน ความต่างตรงนี้เป็นส่วนที่ยาก แต่ก็เป็นเสน่ห์ของละครที่จะมีความลึกในคาแร็กเตอร์พวกนี้ กับตัวละครทุกตัว ถือเป็นอีกพัฒนาการหนึ่งของการแสดง"

เริ่มชอบหรือยัง

โบ - "ชอบมาตั้งแต่ต้น เป็นงานที่ชอบและทำได้ เป็นงานที่เปิดวิสัยทัศน์ของโบ ทำให้โลกของโบกว้างขึ้น โตขึ้น โบแฮปปี้กับการที่โบมากอง มองว่าสำหรับการแสดงไม่ใช่เฉพาะการยืนอยู่หน้ากล้องแล้วแสดงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการได้มาเจอเพื่อนที่กอง เจอช่างแต่งหน้า ช่างผม เจอพี่นักข่าว ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานโบทั้งหมด"

การที่ก้าวมาเป็นนางเอกช่อง 7 หลายคนเริ่มจับตามอง กดดันไหม

โบ - "กดดันอยู่แล้ว การถูกจ้องมองด้วยงานเป็นอะไรที่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น ถือเป็นแรงกดดันที่ดีที่ทำให้โบมีโอกาสพัฒนาตัวเอง พัฒนาศักยภาพของตัวเองในอีกหลายๆ มุม ทุกคนที่อยู่ในวงการถูกจับตามองนะ คุณเหมือนเป็นคนของสังคม ถึงจะไม่ถูกจับตามองในแง่งาน ก็อาจถูกจับตามองในแง่ของการใช้ชีวิต หรือเรื่องส่วนตัว ทุกๆ อย่าง เหมือนเราเป็นคนของประชาชนไปแล้ว ตรงจุดนี้โบรับทราบและเข้าใจในธรรมชาติของงานตรงนี้อยู่แล้วก่อนเข้ามา ไม่มีปัญหาอะไร"

ดารามากับข่าว เตรียมรับมือยังไง

โบ - "มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ยิ่งตอนนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์ ข่าวไปเร็วมาก โบเข้าใจว่าจะเป็นคนของสังคมโดยอัตโนมัติถ้าโบทำงานตรงจุดนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่โบตั้งใจไว้คือไม่อยากให้ข่าวมาควบคุมชีวิตโบ คุณแม่จะสอนเสมอว่าถ้าทำอะไรแล้วไม่กล้าบอกแม่หรือบอกใครไม่ได้ จะต้องเป็นความลับอย่าทำ ซึ่งการเข้าใจผิดการตีความผิดอาจเกิดขึ้นได้ แต่โบมั่นใจว่าไม่ใช่คนที่จะมีอะไรปิดบัง โบคงยึดหลักความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย จะหวังให้ทุกคนเข้าใจเราไม่ได้ แต่โบจะพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจโบได้ดีที่สุด"

จะยึดการแสดงเป็นอาชีพเลยหรือเปล่า

โบ - "ทุกวันนี้มันคืออาชีพของโบนะ คิดว่าทุกอย่างเป็นโอกาสของชีวิต จากที่โบเคยอยากเป็นนักการทูตมาก่อนตั้งแต่ 9 ขวบ รู้สึกว่าตัวเองได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ในเวลานี้ บางทีชีวิตไม่ได้เป็นไปตามแผนตลอด การวางแผนชีวิตคือการคาดเดา เราไม่ควรเอาสิ่งที่เราวางแผนทำมันจนไม่ดูสิ่งรอบข้างว่าเป็นยังไง หรือดูว่าโอกาสเป็นยังไง แต่ตอนนี้ในเมื่อโอกาสตรงนี้มา โบก็ควรฉวยโอกาสตรงนี้ทำให้ดีที่สุด ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีกว่า"

ที่บ้านสนับสนุนไหมอาชีพนักแสดง

โบ - "สนับสนุนค่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีส่งเสริมอยู่แล้ว ขอแค่เอ่ยปากก็จะสนับสนุนเต็มร้อย"

วางอนาคตยังไงบ้าง

โบ - "อย่างที่บอก การวางแผนเป็นเพียงการคาดเดา เราจะรู้สิ่งที่เราทำดีที่สุดขณะที่เรากำลังทำไม่อยากให้สิ่งที่โบวางแผนเป็นตัวบล็อกอะไรหลายๆ อย่าง อยากใช้ชีวิตให้คุ้ม แล้วมองไปรอบๆ ว่าโอกาสมีอะไรบ้าง อยากทำทุกๆ โอกาสให้ดีที่สุด จังหวะและโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อมีโอกาสแล้วอยากทำให้เต็มที่ แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน เพราะงานตรงนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราคนเดียว เราทำงานเป็นทีมเวิร์ก อยู่ในสังกัด ช่อง ของพวกนี้ถูกควบคุมด้วยประชาชน แต่ตอนนี้ได้โอกาสจากผู้ใหญ่ก็อยากให้โอกาสตัวเองได้ลอง"

"และในเมื่อโอกาสไม่ได้มาง่ายๆ ดังนั้นตอนนี้โอกาสมาแล้วก็ต้องใช้โอกาสให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ"

"เอก"หนุ่มคนสนิท-มองโลกมุมเดียวกัน

"ก็ดีค่ะ โบมีกำลังใจ เป็นเพื่อนสนิท คือ พี่เอก-ศุภากร ประทีปถิ่นทอง (เด็กวัดร้อยล้าน)" นางเอกสาว "โบ-ธัญญะสุภางค์" เปิดใจถึงเรื่องหัวใจในตอนนี้

"รู้จักเขาตั้งแต่สมัยเรียน 3 ปีแล้วค่ะ รู้จักกันตอนโบฝึกงานอยู่สถานทูตไทยที่กรุงโตเกียว บังเอิญคนที่ดูแลโบที่นู่นเป็นศิษย์วัดท่าไม้เลยเป็นจุดทำให้โบรู้จักวัดนี้ แล้วพี่เอกเป็นคนดูแลหลวงพี่ที่วัดท่าไม้ทำให้รู้จักกัน"

ถามว่าจุดไหนที่ทำให้เปลี่ยนจากคนธรรมดาเป็นคนสนิท นางเอกสาวตอบ "เราคุยกันมาเรื่อยๆ เป็นเพื่อนกันโดยตลอด กระทั่งโบกลับเมืองไทย แล้วด้วยตัวเองไปเรียนอยู่ญี่ปุ่น เพื่อนจะอยู่เมืองนอกซะหมด เพื่อนที่อยู่ในเมืองไทยจะน้อย ทำให้ชีวิตโบวนเวียนอยู่กับกลุ่มคนที่โบรู้จักอันน้อยนิดในเมืองไทยก็เลยสนิท คุยกัน เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ"

แล้วพัฒนาขนาดไหนแล้ว โบยิ้มหวานก่อนตอบ "ก็เป็นคนที่โบสนิทมากที่สุดค่ะ เวลาโบทำงานเหนื่อยๆ จะมีเขาที่ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษาด้านชีวิตด้านการทำงาน พี่เขาโตกว่า 2 ปี เรื่องบางเรื่องเราอาจมีวิสัยทัศน์ไม่เทียบเท่า"

มีคุยถึงอนาคตกันบ้างไหม ดาราสาวกล่าวว่า "โบเป็นคนที่เรื่อยๆ ตามวัยอันสมควร ตอนนี้โบอายุ 23 ปีเอง อนาคตคืออะไร แต่งงานเหรอ คงยังค่ะ แต่จริงๆ คือเหมือนกับในทุกๆ วันนี้ที่เรามีกันและกัน มีคนคุยให้เป็นกำลังใจ มันก็เป็นความรู้สึกดีๆ นะ เหมือนเราไม่ได้ตัวคนเดียว"

คุยกันที่บ้านว่าอย่างไรบ้าง "ไม่ว่าไงค่ะ โบมีอะไรก็เล่าให้คุณแม่ฟังทุกเรื่อง โบรักใครที่บ้านก็รักด้วย โบรู้สึกว่าความรักเป็นอะไรที่ไปได้กับเรื่องงาน มันควบคู่กันได้"

ถือเป็นผู้ชายในสเป๊กไหม "จริงๆ เป็นคนไม่ค่อยมีสเป๊ก แต่ก็มีความรู้สึกว่าเป็นคนนึงที่เรามองโลกในมุมเดียวกัน เหมือนเราเข้าใจกัน"

ตอนนี้มีโอกาสเจอกันบ้าง มั้ย โบกล่าวว่า "โอกาสเจอกันน้อยลงเยอะคือตอนนี้โบ ทำงาน และเขามีถ่ายละครเรื่อง "กุหลาบร้ายของนายตะวัน" แต่ก็มีโทร.และไลน์คุยกัน ตามโอกาสจังหวะที่เหมาะสมค่ะ"

ขอเป็นจุดเล็กๆ

เป็นเด็กเนิร์ด ไม่ได้มีความสนใจเรื่องการแสดงเลย สำหรับนางเอกสาว "โบ"ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ โดยเธอเล่าว่า "โบจบสาธิตเกษตร ม.6 ปุ๊บ ก็สอบชิงทุนไปเรียนรัฐศาสตร์ การทูตที่ประเทศญี่ปุ่น 4 ปี เป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่ 9 ขวบ ตั้งใจเรียนภาษามาก เกิดจากคุณพ่อทำงานการบินไทย เวลาได้พูดคุยและได้ไปเที่ยวเมืองนอก รู้สึกชอบด้านภาษา ได้เห็นโลกกว้าง เป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจและโบชอบด้านภาษา พูดได้ 6 ภาษา มี ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลี และสเปน คุณแม่พูดฝรั่งเศสได้อยู่แล้วเพราะจบดีไซน์จากฝรั่งเศส โบเลยพูดได้ และ คุณแม่จะมีเพื่อนอยู่หลายประเทศมาก เช่นเดียวกับคุณพ่อ ก็เลยมีโอกาสด้านนี้ค่อนข้างสูง"

แต่ความฝันจะเป็นนักการทูตต้องดร็อปลง เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงซะก่อน "ตอนนั้นฝึกงานอยู่สถานทูตไทยในญี่ปุ่นตอนเกิดสึนามิพอดี คุณแม่โทร.ให้รีบกลับมาเพราะเป็นห่วง พอ กลับมาปุ๊บก็อยากสมัครงาน ไปสมัครที่กระทรวงต่างประเทศกับการบินไทยแต่ไม่ได้ เขาต้องเอาใบปริญญาตัวจริง แต่โบเรียนจบก่อนกำหนด ต้องรออีก 8 เดือน ก็มีข่าวแคสต์หนัง "เค้าเรียกผมว่าความรัก" เลยไปลองดูเพราะไม่อยากอยู่บ้าน"

"จริงๆ ไม่เคยคิดอยู่วงการบันเทิงเลย รู้สึกเป็นอาชีพฉาบฉวย ไม่ได้สร้างความมั่นคงให้ชีวิต และถ้าพูดตามตรง จากเด็กเนิร์ด แว่นตาหนาเตอะ ไปอยู่ญี่ปุ่นเป็นเด็กทุนต้องมี GPA ที่เขาวางไว้ว่าต้องเกิน 3.50 ทุกเทอม ต้องขยันพอสมควร เลยไม่ค่อยดูหนังดูละคร"

ถามว่าจุดเปลี่ยนอะไรที่ทำให้หันมาเอาดีด้านงานแสดง

โบกล่าวว่า "น่าจะเป็นวันบวงสรวงหนัง มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ โบก็หันมามองตัวเองว่าจริงๆ แล้วโบอยากเป็นนักการทูตเพราะเป็นคนชอบพูดและคิดว่าเป็นเรื่องง่ายที่เราจะนั่งอยู่ในใจใครสักคน แต่มันเป็นเรื่องยากกว่าที่เราจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคน อย่างน้อยโบน่าจะเป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องของโบให้กับคนได้หลายๆ คน"

"เสียงของโบไม่ว่าจะพูดอะไรไป มันจะดังขึ้นกว่าการเป็นวัยรุ่นธรรมดา มันเริ่มจากจุดนั้นค่ะ"

แก้เพื่องาน

เป็นสาวใจกล้ายอมรับว่าเสริมดั้ง สำหรับสาว "โบ-ธัญญะสุภางค์" โดยเผยว่า "ส่วนตัวไม่ใช่คนแอนตี้ศัลยกรรม เมื่อก่อนโบไม่ดูแลตัวเอง แต่ทุกวันนี้จำเป็นต้องดูแลเพราะงานเราคือหน้าคือตัว เกี่ยวข้องหลายคน อย่างสัปดาห์ก่อนเป็นสิว ถ่ายละครจะมีปัญหามากเพราะทุกคนต้องตั้งกล้องหลบสิวเรา เลยคิดว่ามันคือความรับผิดชอบ เป็นงานของเรา อะไรที่ทำแล้วดีขึ้นโบไม่ขัดขวาง"

ที่ผ่านมาจะโดนว่าเยอะเรื่องจมูกที่ทำศัลยกรรม "ค่ะ ตอนเล่นหนังยังไม่ได้ทำ จริงๆ เป็นคนจมูกโด่งอยู่แล้ว แต่ไม่เรียบไม่สวย เลยไปแก้ไปเกลาให้เรียบ ช่วงแรกยังไม่เข้าที่ก็จะถูกคอมเมนต์เยอะว่าทำไมจมูกเหมือนสันเขื่อน ตอนนั้นตั้งใจว่าจะแค่เหลาตรงจุดนั้นออก แต่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ต้องใส่ซิลิโคน พอฟื้นขึ้นตกใจว่าทำไมจมูกโด่งจัง นี่โบแก้มาแล้วรอบนึง เอาให้ลงมาเพราะมันโด่งไป แต่ยังเอาออกไม่หมด ตั้งใจว่าพอจบละครเรื่องนี้ก็จะไปแก้"

"การทำอาชีพนักแสดง ความสวยไม่ใช่เรื่องที่เฉพาะความพึงพอใจส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องส่วนรวม โบให้ความสำคัญกับ จุดนี้ มองว่าเป็นความรับผิดชอบ เป็นงาน อะไรที่แก้แล้วดีขึ้นก็เต็มใจจะแก้นะ"

มีอะไรที่อยากทำเพิ่มไหม โบกล่าวว่า "ตาโบตี่ ทุกวันนี้ยังติดสติ๊กเกอร์ให้เป็น 2 ชั้น ก็คิดว่าถ้ามีโอกาสจะทำถาวร เป็นออปชั่นหนึ่งที่น่าสนใจ"