Inside Dara
‘พราว’ กับการกลับมารับงานแสดงในรอบ 2 ปีของ ‘อั้ม-พัชราภา’

จับตาละคร "พราว" ทางช่อง 7 กับการกลับมารับงานละครในรอบ 2 ปีของอั้ม-พัชราภา นางเอกซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ที่มีทั้งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในแง่บวกและลบจนกลายเป็นกระแสร้อนๆ ในโลกไซเบอร์ตั้งแต่ละครออนแอร์วันแรก...

เรียกว่าเป็นละครที่เป็นกระแสร้อนที่สุดในเวลานี้ก็ว่าได้สำหรับ “พราว” ละครฟอร์มใหญ่อีกเรื่องในปีนี้ของช่อง 7 สี ที่ได้ซุปตาร์ตัวแม่เมืองไทย อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มพันธุ์ข้าวเหนียว เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ พร้อมด้วยนักแสดงดังอีกมากมาย อาทิ เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์, อานัส ฬาพานิช, หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์, ส้ม-ธัญสินี พรมสุทธิ์, เสนาหอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค, บี-มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์, ดวงดาว จารุจินดา, สุพรรษา เนื่องภิรมย์, อ้อม-อังคณา วรรัตนาชัย, หมู-ภูษณะ บัวงาม, เมฆ-จุติ จำเริญเกตุประทีป ฯลฯ เพราะแค่ละครออนแอร์ตอนแรก ก็กลายเป็นกระแสที่ใครต่อใครในโลกไซเบอร์พูดถึงอย่างมาก แถมเรตติ้งก็ดีวันดีคืน เรียกว่ามาพร้อมทั้งกระแสและเรตติ้งแบบครบสูตรก็ว่าได้

ละคร “พราว” เผยถึงเรื่องราวชีวิตของพราว (อั้ม-พัชราภา) ซุปเปอร์สตาร์สาวเบอร์ 1 ของวงการบันเทิงในเมืองไทยที่มีแฟนๆ ชื่นชอบมากมาย แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวแกร่งทำงานเก่ง มั่นใจ ขี้วีน เอาแต่ใจ แต่ลึกๆ ในใจของพราวเองก็คนจิตใจดี และต้องการใครสักคนเข้าใจและพร้อมดูแลปกป้องเธอ แม้พราวจะมีคนรายล้อมมากมาย ทั้งแฟรงค์ (เสนาหอย) ผู้จัดการส่วนตัว, เอมี่ (บี-มาติกา) ผู้ช่วยสาวและเพื่อนสนิทของเธอ ไปจนถึงบรรดาญาติของเธอทั้งหลาย แต่คนรอบข้างเหล่านั้นก็ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจเธออย่างแท้จริง ชีวิตของพราวต้องเปลี่ยนไปเมื่อเธอตกอยู่ในอันตรายเพราะถูกปองร้ายจากคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอในมุมมืดไปจนแฟนคลับโรคจิตที่เข้ามาคุกคามในชีวิตของเธอ แต่ก็ได้สมชาย (เวียร์-ศุกลวัฒน์) นายตำรวจหนุ่มคอยช่วยเหลือเธออยู่ทุกครั้ง แม้ทั้งคู่จะเป็นไม้เบื่อไม้เมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่หลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนทั้งคู่ก็ทำให้เกิดความหวั่นไหวจนกลายเป็นความรัก

แต่แล้วความรักของพราวและสมชายก็ต้องเจออุปสรรคขัดขวางจากติณห์ (อานัส) ไฮโซหนุ่มที่เดินหน้าทำคะแนนพิชิตใจพราว แต่ลึกๆ แล้วติณห์ต้องการทำลายพราวเพราะเข้าใจว่าพราวเป็นคนทำให้ตรี (หมู-ภูษณะ) น้องชายตัวเองเป็นเจ้าชายนิทรา และยังต้องรับมือกับจันทร์จรี (หยก-ธัญยกันต์) ดาราสาวดาวรุ่งที่นอกจากจะจ้องทำลายชีวิตในวงการบันเทิงของพราวแล้ว ยังตั้งใจจะแย่งติณห์มาจากเธออีก และเมื่อพราวอยู่ในอันตราย มีน (อั้ม-พัชราภา) สาวสู้ชีวิตที่เป็นเด็กกำพร้าจากมูลนิธิบ้านแสนรักซึ่งหน้าตาคล้ายเธอราวกับฝาแฝด แต่ต่างกันตรงที่มีนมีปานแดงที่หน้า ก็ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นสแตนด์อินทำงานแทนเธอ ทำให้สุตเขตต์ (เอส-กันตพงศ์) ช่างภาพปาปาราซซี่สงสัยจึงตามสืบเรื่องนี้อย่างเงียบๆ สุดเขตต์คอยช่วยเหลือมีนอยู่หลายครั้งและรู้ความจริงจนได้ แต่ด้วยความรักที่สุดเขตต์มีให้กับมีน ทำให้เขาตัดสินใจไม่พูดเรื่องดังกล่าวให้ส้มจี๊ด (ส้ม-ธัญสินี) นักข่าวสาวที่เป็นคู่อริอีกคนของพราวฟัง ส้มจี๊ดแอบหลงรักสุดเขตต์ แต่เมื่อเข้าใจไปว่าสุดเขตต์มีใจให้พราว เธอจึงยิ่งเกลียดพราวมากขึ้น แต่เรื่องราวที่เป็นปมปัญหาเหล่านี้จะจบอย่างไรต้องตามชม

สำหรับละครเรื่องนี้ถือว่าเป็นการเปิดฉากการกลับมารับงานละครในรอบ 2 ปีของสาวอั้มได้อย่างสวยงาม เพราะสามารถสร้างกระแสร้อนๆ ในโลกโซเชียลอย่างมาก เอาแค่วันแรกที่ละครออกอากาศ แฮชแท็กละคร #พราว ในทวิตเตอร์พุ่งขึ้นอันดับ 2 ในรอบวันนั้น รวมทั้งในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมที่พร้อมใจกันพูดถึงละครเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเหล่าคนดังที่พูดถึงละครเรื่องนี้มากมาย โดยเฉพาะผู้คร่ำหวอดในวงการมาร์เก็ตติ้ง ธันยวัชร ไชยตระกูลชัย เคยพูดถึงอั้มกับละครเรื่องนี้ว่า “อั้มใช้กลยุทธ์ less is more เล่นละครน้อยเรื่อง แต่ impact ละคร Romantic Comedy ที่มีซุปตาร์แสดงนำจะมีเรตติ้งสูงที่สุด” นอกจากนี้ในห้องบางขุนพรหม ของเว็บบอร์ดสาธารณะชื่อดัง พันทิปดอทคอม ก็เต็มไปด้วยกระทู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ตั้งแต่ออกอากาศวันแรกมาจนถึงเวลานี้ โดยในเว็บบอร์ดดังกล่าวมีทั้งพูดถึงเนื้อหาของละคร คาแรกเตอร์ตัวละคร ไปจนถึงนักแสดงในเรื่อง และในเว็บดูละครย้อนหลังของช่อง 7 ก็มีคนเข้าไปดูละครเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

แน่นอนว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับละครเรื่องนี้มีทั้งแง่บวกและลบเป็นของธรรมดา หลายคนมองว่าไม่ผิดหวังกับการกลับมาเล่นละครอีกครั้งของอั้ม เพราะเจ้าตัวสามารถแสดงบท “พราว” และ “มีน” ได้แตกต่างทั้งบุคลิก ท่าทาง น้ำเสียง โดยเฉพาะการใช้สายตาที่บ่งบอกคาแรกเตอร์ที่แตกต่างอย่างชัดเจน ยิ่งเวลาที่อั้มต้องมาเจอกับเวียร์แล้ว หลายคนบอกว่าเป็นมวยที่ถูกคู่จริงๆ เพราะบทจะปะทะคารมกันก็ทำเอาคนดูฮาแตก บทจะเลิฟซีนกุ๊กกิ๊กก็ฟินจิ้นจิกหมอนกันกระจาย แถมหนุ่มเวียร์ก็ดูหล่อเซอร์แบบแมนๆ ถึงในเรื่องจะเป็นหนุ่มปากจัด แต่ก็แอบมีมุมหวานๆ กุ๊กกิ๊กจนกระชากใจสาวๆ ไปเต็มๆ ส่วนเอสที่ต้องเข้าฉากหวานๆ กับสาวอั้มก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ถือว่าเป็นคู่หวานๆ แบบเรียบๆ ที่ดูน่ารักไปอีกแบบ

ด้านนักแสดงอีกหลายคนก็ได้รับคำชมไม่น้อย ทั้งเสนาหอยที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่สามารถสวมบทแฟรงค์ ผู้จัดการที่เป็นชาวสีม่วงได้แซบถูกจริตถึงใจคนดู ยิ่งบวกกับคอสตูมสีสันสุดจี๊ด แถมยังได้คู่หูคู่ฮาอย่างสาวบีมาร่วมสร้างสีสันแล้ว ทำเอาคนดูฮากลิ้งทุกครั้งที่เห็นทั้งคู่ในจอทีวี, อานัส ที่ถึงแม้จะรับบทร้าย แต่ก็ได้รับคำชมว่าหล่อไม่แพ้พระเอก ยิ่งเข้าฉากเดินหน้าจีบสาวอั้มก็ทำเอาแฟนๆ แอบเคลิ้มไปเหมือนกัน แถมยังมีพัฒนาการความร้ายเงียบได้ไม่หลุดคาแรกเตอร์ โดยเฉพาะเรื่องการใช้สายตาที่ถือว่าทำได้ดีทีเดียว, ส้ม-ธัญสินี แม้จะบอกว่าเกร็งที่ต้องมารับบทนักข่าวคู่อริปะทะคารมกับสาวอั้มเป็นครั้งแรก แต่เจ้าตัวก็ทำได้ดีจนหลายคนอดหมั่นไส้ในความร้ายของส้มจี๊ดที่จี๊ดสมชื่อไม่ได้ ฯลฯ

ในส่วนของโปรดักชั่นก็เรียกว่าจัดเต็มจริงๆ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่ทำให้นักแสดงหล่อสวยดูดีทุกคน อุปกรณ์ประกอบฉากที่หรูหราสมราคา สถานที่ถ่ายทำสวยๆ มุมกล้องการถ่ายภาพที่สวยงาม รวมไปถึงเพลงประกอบละครที่ได้นักแต่งเพลงชื่อดัง ฟองเบียร์ มาแต่งเพลง “ใครสักคน” ที่เขียนมาจากเรื่องราวในชีวิตจริงและความรู้สึกจริงๆ ของอั้ม-พัชราภา โดยได้นักร้องดัง ฟิล์ม บงกช มาขับร้อง แม้กระทั่งโปสเตอร์ใบปิดละครเรื่องนี้ที่ได้รับคำชมไปเต็มๆ โดยเฉพาะโปสเตอร์คาแรกเตอร์บทจันทร์จรี ซึ่งเป็นคู่แข่งของพราว ที่ครีเอทได้แซบสมคาแรกเตอร์ของจันทร์จรีสุดๆ

แต่ละครเรื่องพราวก็ไม่พ้นเจอดราม่าเข้าจนได้ หลังมีคนตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งกล่าวหาว่าละครเรื่องนี้ก๊อบปี้มาจากซีรีส์เกาหลี You Who Came From The Star ทั้งเรื่องที่นางเอกเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ฉากปะทะคารมกับพระเอก ฉากเดินพรมแดง ฉากโก๊ะๆ ฮาๆ แต่งานนี้แฟนละครพราวและซีรีส์เกาหลีเรื่องดังกล่าวบางส่วนก็ออกมาโต้แย้งว่าไม่เหมือน เพราะละครแนวนางเอกเป็นซุปเปอร์สตาร์ดังแต่พระเอกเป็นคนธรรมดาก็มีมากมาย แค่เนื้อเรื่องหลักก็ไม่เหมือนกันแล้ว แถมตัวละครในเรื่องพราวหลายคนก็ไม่มีความเหมือนกับซีรีส์ดังกล่าวเลยสักนิด แต่อาจจะมีบางตัวละครที่มีคาแรกเตอร์คล้ายกันบ้าง เช่น พราว คล้ายคาแรกเตอร์ ซอนซงอี ตรงที่เป็นนางเอกซุปตาร์เหมือนกัน คนในครอบครัวหวังเอาแต่ผลประโยชน์ วีนเหวี่ยงแต่เป็นคนจิตใจดี, ติณห์ คล้ายคาแรกเตอร์ อีแจคยอง ตรงที่มีความร้ายเงียบกับนางเอก แต่ต่างกันตรงที่ติณห์ร้ายเพราะความเข้าใจผิดในตัวนางเอก, จันทร์จรี คล้ายคาแรกเตอร์ ฮันยูรา ตรงที่ร้ายแบบแสดงออก เป็นคนปากหวานก้นเปรี้ยว เป็นต้น นอกจากนี้ในเรื่องการแสดงของอั้มก็ยังมีหลายคนติงว่า สาวอั้มเล่นใหญ่มากไปนิดในฉากโวยวายที่ดูเหมือนตะโกนมากเกินไปในบางครั้ง ส่วนบทจันทร์จรีนั้นหลายคนมองว่าบทดูเป็นนางร้ายแนวละครตลาดมากไปนิด แม้ หยก-ธัญยกันต์ จะทำหน้าที่กับบทนี้ได้ดีจนแฟนละครพากันเกลียดและหมั่นไส้แบบสุดๆ ก็ตาม

ไล่มากันยาวจนถึงบรรทัดนี้ ไม่ว่าละคร “พราว” จะเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในแง่บวกและลบ แต่ก็ยังถือว่าเป็นละครที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานี้ เพราะความเป็นละครที่มีอั้ม-พัชราภา แสดงนำก็มักจะเป็นกระแสร้อนๆ เสียทุกเรื่องไป อีกทั้งละครเป็นความบันเทิงที่เข้าถึงได้ง่ายจึงไม่พ้นเป็นประเด็นเม้าท์ของบรรดาคนดูทีวีทั้งหลายอยู่แล้ว ว่ากันไปแล้วหากดูละครเพื่อความสนุกผ่อนคลายจากการเรียนการทำงานที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันก็น่าจะสนุกกว่าการมัวแต่จับผิดจนเสียอรรถรสในการรับชม แต่ทั้งนี้บรรดาผู้ผลิต ทีมงาน นักแสดง ก็ต้องพัฒนาผลงานตัวเองให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นไป เพื่อที่จะมอบความบันเทิงแบบคุณภาพให้คนดูแบบได้อรรถรสแบบเต็มอิ่มด้วย.