Inside Dara
โสดแล้วไงทำไมต้องเศร้า "จองกุก" ฮีลใจ "น้ำหวาน-พิมรา" แฟนทิพย์แล้ว 1

ปักหมุดสเตตัส "โสด" สำหรับ น้ำหวาน-พิมรา เจริญภักดี หรือ น้ำหวาน ซาซ่า นักร้องสาวเสียงดี-นักแสดง-พิธีกรสาวมากความสามารถ หลังตัดสินใจเลิกรา กวาง เอบีนอร์มอล ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสดราม่าร้อนระอุ ถึงความรักครั้งนี้ที่ไม่ได้ไปต่อและทำให้น้ำหวานต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อรักษาแผลใจกว่าที่เธอจะ “มูฟออน” ได้ กลับมาใช้ชีวิตคนโสด ยังโชคดีมีงานละครรุมจุกๆดับความฟุ้งซ่าน แถมตกหลุมรัก จองกุก วง BTS ศิลปินเกาหลี มาฮีลใจได้เป็นอย่างดี

ผ่านมรสุมชีวิตหนักๆสาวน้ำหวานฮึบสู้! พร้อมแจกความสดใสด้วยการ ขึ้นปก “มาลัยไทยรัฐ” เป็นครั้งแรก ถ่ายแฟชั่นหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ จากแบรนด์ดัง Poem ช่างภาพโดย สุรกิจ แก้วมรกต เจ้าตัวยอมเปิดปากถึงรักครั้งเก่า กับระดับความเฮิร์ตถึงขั้นน้ำหนักลดฮวบๆ...“หวานผอมลงน้ำหนักลดไป 6โลค่ะ ด้วยความที่ช่วงแรกๆ มันไม่ปกติค่ะ ร้องไห้หนักมาก มีปัญหาในเรื่องการนอน การกิน สภาพจิตใจมีผล น้ำหนักมันก็ลง จนมันลงมาถึงจุดจุดนึงเรารู้สึกว่ามีคนทัก ดูดีขึ้น เราเลยยิ่งเอาใหญ่ให้น้ำหนักมันลงอีก จนตอนนี้เป็นน้ำหนักโอเค สะดวกกับการทำงานของเรา หวานก็พยายามที่จะกลับมาให้เร็ว ช่วงแย่ๆหวานได้กำลังใจจากคนรอบข้างทั้งคนในครอบครัว เพื่อน ผู้จัดการ ทุกคนไม่มีใครทิ้งหวานเลย เพื่อนนี่ ผลัดเวรยามกันสอบถาม เพราะบางทีหวานออกมาจากบ้านเย็นแล้วหวานกลับดึกมาก เพื่อนจะเช็กขับรถเป็นยังไง พอเกิดเหตุการณ์นี้คนรอบข้างมาพูดๆ เรารับฟังแต่มันไม่เข้าใจ ในทางปฏิบัติมันทำไม่ได้เหมือนอย่างที่เค้าพูด เราอยากทำได้เพื่อเราจะได้หาย สรุปแล้วหวานมาเจอว่าเราดีลวันต่อวันดีกว่า หวานฝากถึงคนที่เผชิญปัญหาเหมือนกับหวาน พยายามทำตัวให้ยุ่งทุกวันจะได้ไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องเศร้าๆแล้วมันก็รอดจนหาย”

สาวน้ำหวานยังเล่าต่อด้วยว่า ช่วงกลางคืนเริ่มหาหนังดู เพื่อย้ายโฟกัสปรากฏว่ามันเวิร์กมากเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้...“หวานว่าจริงๆ เป็นการย้ายโฟกัส ทำชีวิตให้มันยุ่งๆ เราพยายามที่จะไม่คิดเรื่องแย่ๆ แต่ก็ห้ามไม่ได้หรอกยังไงก็มีคิดแว็บๆมาบ้าง ยิ่งเลื่อนโซเชียลมาเจอข่าวตัวเอง เจอคอมเมนต์ต่างๆ บางทีเกิดจากเราพูดไม่หมด เพราะเราพูดทุกอย่างออกไปไม่ได้เป็นเรื่องของมารยาทในการพูด ยิ่งเราเป็นคนสาธารณะทั้งคู่ ฉะนั้นเราเลือกใช้คำพูดได้ เราไม่นิยมทิ้งบอมบ์ให้คนอื่น เราไม่นิยมทำให้คนอื่นเดือดร้อน คอมเมนต์คณะทัวร์ก็มาลงแม่หวาน ทั้งๆที่แม่ไม่เคยมายุ่งกับชีวิตหวานนะ ไม่เคยตามทำงาน มันไม่ได้มีอะไรแบบนั้นเลย บางคนก็บอกว่าหวานเข้าข้างแม่เยอะมากไป ปกป้องแม่มากไป ไม่ว่าจะสัมภาษณ์เรื่องอะไรก็ตาม มันก็จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาตลอด หวานไม่เป็นคนจัสต์คนก็เลยไม่เข้าใจคนที่จัสต์คนอื่น เราเข้าใจเราเป็นคนอยู่ตรงนี้มันพูดยาก แม้กระทั่งเค้าเปิดตัวของเขา คณะทัวร์ก็ยังมาลงที่หวาน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับหวานเลย พอหวานบอกว่ามีคนคุยก็มีคอมเมนต์หนีไป อะไรแบบนี้งงมากว่าทำไมหวานทำอะไรก็ผิด ถ้าหวานจิตไม่แข็งพอ หวานน่าจะแย่เหมือนกัน”

เมื่อถามถึงประเด็นก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่ามีคนคุยๆแล้วเหมือนกันสรุปว่าคบหรือไม่ได้คบกัน “แค่บอกว่ามีคนเข้ามาคุยเท่านั้นเอง คอมเมนต์ ก็จะมาแบบ...หนีไป ต้องเอาแม่มาอยู่ด้วย หวานงงมากๆเลย ทำไมคิดกับหวานแบบนี้ จริงๆหวานโสด 100 เปอร์เซ็นต์ แค่เปิดใจไม่ได้ปิดกั้น ก็คุยๆ เป็นเพื่อน เราไม่ได้รีบเลย ไม่ได้แข่งกีฬาโอลิมปิก มีเวลาอยู่กับตัวเอง มีความสุขอยู่กับตัวเอง คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเป็นลักษณะของเพื่อนมากกว่า”

หลังจากนี้หากไม่เจอคนที่ใช่จะต้องอยู่เป็นโสดล่ะโอเคมั้ย “จริงๆไม่อยากนะคะ แต่ว่าหวานยังแฮปปี้เราได้ศึกษาไปก่อน เราไม่ได้รีบร้อนว่าเราจะต้องคอมมิต อะไรกับใครในตอนนี้ ไม่อยากเอาความเหงามาเป็นการเลือก ไม่อยากเอาอะไรก็ได้เพราะว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ ก็ไม่ใช่ ไม่เคยอยู่คนเดียวมีเพื่อนไม่เคยเหงา อยู่ได้ ไปได้ดีในวันนี้ดีกว่าที่คิด ดีกว่าวันแรกที่โสด”

โสดแล้วไงทำไมต้องเศร้านานเพราะหลัง น้ำหวาน สลัดความทุกข์ต่างๆด้วยการได้หลุดเข้าสู่ด้อมของ จองกุก วง BTS ศิลปินบอยแบนด์เกาหลีใต้ชื่อดังระดับโลก ถึงขั้นยกให้เป็น “แฟนทิพย์” เบอร์ 1 ในใจไปเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นไม่เชื่อตัวเองจะ “คลั่งรัก” ได้ขนาดนี้... “หวานว่าจริงๆการที่เรามีศิลปินไอดอลที่เราชื่นชอบ ฮีลใจเราได้จริงๆนะ หวานรู้สึกว่าเป็นการฮีลใจแบบน่ารัก ก่อนนอนเราดู เรามีความสุขมากเลยเหมือนคนชอบพี่จองกับพี่คัลแลนเขามีความสุขในการดู หวานชอบวง BTS หวานก็ดูก็มีความสุขเป็นความสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร และเขาทำให้เรามีรอยยิ้ม เวลาเขาให้สัมภาษณ์ หวานว่าแฮปปี้นะ”

ทำไมอยู่ๆโดนตกได้ล่ะ “ตอนนั้นโสดใหม่ๆ เราเลื่อนคลิปไปเจอจองกุก โอ้ ใครเนี่ย?! หลังจากนั้นมาไม่เคยเหงาอีกเลย ก่อนนอนดูทุกคืน กลับดึกแค่ไหนก็ดูวนซ้ำ หัวเราะที่เดิม รู้สึกว่าเขาฮีลใจเรา น่ารักทุกคน มีศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบอยู่แล้ว หวานเชื่อว่าทุกคนมี รุ่นพ่อแม่เราก็มีศิลปินที่ชื่นชอบแต่อาจจะไม่ได้มีโซเชียลมีเดียขนาดนี้ เขาจะเล่าความตื่นเต้นไปเจอศิลปินที่ชื่นชอบ โชคดีสมัยนี้ชื่นชอบก็ปัดไปเจอไอจีเค้า ติ๊กต่อก ดูคลิปในยูทูบต่างๆ มันฮีลใจเราและเป็นพลังบวก ให้เรามีความสุขและมีรอยยิ้ม สุดท้ายเราหนีสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น ถูกลิขิตไว้ไม่ได้ แต่เราไม่รู้หรอก เรามีความสุขไปวันๆ ไม่คาดหวังแล้วดีกว่า มัวคิดวันพรุ่งนี้ วันนี้ความสุขหายไปแล้ว”

ต้องเรียกว่า “อันลัคกี้อินเลิฟ” แต่น้ำหวาน ยังยิ้มได้เพราะเรื่องงานกลับปังเว่อร์! มีอะไรให้เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะครูสอนดำน้ำ เปิดบริษัทจัดงานออร์กาไนซ์ ไหนจะงานพิธีกร รวมถึงงานแสดงที่เจ้าตัวบอกเลยว่าปีนี้แฟนๆจะได้ดูแบบจุกๆฉ่ำๆกันไปเลย “ปีนี้หวานจะมีงานละครออนแอร์ 2 เรื่อง บัลลังก์ลูกทุ่งของเวิร์คพอยท์จะออนแอร์ปลายเดือนนี้ค่ะ กับดวงใจเทวพรหม ช่อง 3 ตอน พรชีวัน สำหรับงานวงการของหวานจะก็เรื่อยๆ จุบจิบประปรายและตอนนี้หวานมีงานบริษัท รับทำออร์กาไนซ์ และอีเวนต์ ชื่อโอเค ดิว จริงๆเป็นงานที่สนุก มีงานเข้ามาเรื่อยๆ เป็นอีกงานที่ทำ ให้เรารู้ว่า เราสามารถทำสำเร็จได้โดยไม่น่าเชื่อ”

กับละครบัลลังก์ เห็นว่าบทดราม่าหนักๆชีวิตรันทด ทำไมถึงอยากเล่นล่ะ “ตอนแรกที่พี่หนุ่ม-อรรถพร กับน้องฝ้าย ยื่นบทมาให้ ก็มองหน้าผู้จัดการ มันเกินความสามารถ คือเราประเมินความสามารถตัวเองได้สิ่งนี้เกินความสามารถ ภาพหวานเล่นละครอาจเห็นภาพนักแสดงไม่ชัดมากเท่ากับภาพนักร้องหรือพิธีกร ในเมื่อพี่หนุ่มยื่นบทดีขนาดนี้ให้ หวาน เชื่อว่าพี่หนุ่มเค้าจะต้องเห็นอะไร พอไปเวิร์กช็อปวันแรกไม่รอด ต้องพูดภาษาสุพรรณตลอดทั้งเรื่อง เล่นตั้งแต่สาวยันแก่ สอง ตาบอด ตั้งแต่สาวยันแก่ สามในเรื่องเราจะต้องลบภาพความเป็นเราให้หมด ต้องทารองพื้นเบอร์ที่เข้มที่สุด ทากระให้หน้าดำเป็นชาวบ้านจริงๆ ข้อจำกัด พูดภาษาสุพรรณกับตาบอดแค่นี้ก็ยากแล้ว คิดในใจสวยหน่อยได้มั้ยแต่ไม่ได้ โอเค พี่หนุ่มไว้ใจเรา เราก็ต้องฝึกฝนตัวเองทำให้ได้ หวานต้องตัดสินใจสยบความกลัวด้วยการทำอะไรให้มันแข็งแรงสักอย่างนึงก่อน เพื่อให้มันออกมาดีสักอย่างเลยมาเรื่องภาษาน่าฝึกง่าย ต่อมาเรื่องตาบอดเราต้องพยายามทำให้ได้ ทำให้เรารู้สึกเราก็ทำได้นี่หว่า ข้อจำกัดของคนอยู่ที่ใจหวานอยู่เลย ในสิ่งที่เราบล็อกตัวเองทุกเรื่อง พอเราก้าวมาได้มันได้จริงๆ หวานปรึกษาน้าใหม่ เขาบอกเค้าไม่ใช่เรา วิธีคิดต่างกัน ไม่มีวันสองคนจะเป็นคนเดียวกันได้ เขาหนีไปกับผู้ชายไร่อ้อย แต่ ณ วันนั้น เราใช้ชีวิตของเราปกติ ก็ใช่เราจะเป็นเค้าได้ยังไง เราต้องทำให้ดีที่สุด พอปิดกล้องรู้สึกคิดถึงตัวละครตัวนี้มากค่ะ”.