Inside Dara
ชีวิตของ ‘เมย์’ ลงตัวด้วยความสุข

ถ้าเอ่ยถึงนางร้ายเบอร์ต้น ๆ ในวงการบันเทิงที่ครองใจ แฟน ๆ คงต้องยกตำแหน่งให้ “เมย์ เฟื่องอารมย์” ซึ่งในวันนี้เธอมีผลงานโลดแล่นในวงการบันเทิงมานานถึง 19 ปี จากนักร้อง มาเป็นนักแสดง และปัจจุบันเป็นผู้จัดละคร งานนี้ “ดาวต่างมุม” เลยนัดแนะเธอมานั่งพูดคุยสบาย ๆ ถึงชีวิต การทำงาน ความรักที่ตอนนี้สุดแฮปปี้กับสามี “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” และอีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญคือการเป็นว่าที่คุณแม่ ทุกอย่างในชีวิตของเธอลงตัวแค่ไหน ติดตามบทสัมภาษณ์ของสาวเมย์กันเลยค่า

ตอนนี้เมย์อยู่ในวงการมานานแค่ไหนแล้ว ?

“โอ้โห เริ่มต้นมาก็ย้อนวัยเลย (หัวเราะ) ปีนี้เมย์อยู่วงการมา 19 ปี แล้วค่ะ เริ่มเข้ามาเป็นนักร้องปี 2539 แล้วแสดงละคร ประมาณปี 2542 เข้ามาทางน้าแต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์ ให้มาเป็นนักร้องออกอัลบั้ม ตอนนั้นก็คิดว่าเราเข้ามาเพราะเราชอบร้องเพลง แต่สักพักเริ่มมีละครติดต่อเข้ามาของค่ายอัครมีเดีย เป็นละครช่วงบ่ายโมง ช่อง 9 ไม่รู้คนยังจำได้มั้ย แล้วก็มีช่องอื่น ๆ เห็นก็เล่นละครมาเรื่อย ๆ ซึ่งตอนแรกก็จะเป็นบทแบบเรียบร้อย นางเอก แต่ที่เปรี้ยงเลยคือเมย์เล่นนางร้าย เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนชอบ เริ่มมีแฟนคลับ มีแฟนละคร มีงานเยอะมาก คือเมื่อก่อนพูดถึง เมย์ เฟื่องอารมย์ ทุกคนต้องรู้จักว่าเป็นนางร้ายทุกช่อง เปิดไปก็เจอแต่เมย์ เป็นแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่งค่ะ (ยิ้ม)”

ความรู้สึกที่เป็นนางร้ายเบอร์หนึ่งของวงการ?

“ก็ถือว่าเป็นจังหวะหนึ่งของชีวิต และเป็นสิ่งที่ดีเพราะเราตั้งใจทำงานมาก เรารู้สึกว่าถ้าเรามาในเส้นทางนี้ เราก็อยากเป็นนักแสดงที่ดีมีคุณภาพเล่นให้สมบทบาท และเราก็มีความสุขมากในการได้ทำงานที่รัก ไม่ว่าจะเล่นเป็นตัวอะไรก็ตาม มันก็คือบทบาทที่เราได้แสดงตรงนั้นเราก็ทำเต็มที่ ยิ่งมีคนชอบที่เราแสดง มีแฟนคลับ มีคนจ้างเราเยอะ ๆ เราก็มีความสุขแล้วก็ดีใจมากค่ะ”

นักแสดงรุ่นใหม่ชอบคิดว่าถ้าเล่นบทนางร้ายแล้วคนจะติดภาพ?

“ใช่ค่ะ ช่วงนั้นคนจะติดภาพ แต่กลายเป็นว่าเขาไม่ได้เกลียดเรา เรารู้สึกว่าโชคดีและดีใจที่คนเขาแยกแยะได้ และกลายเป็นว่าชอบที่เราเป็นนางร้าย เขาจะมีฉายาให้ว่า “นางร้ายหน้าหวาน” ก็รู้สึกดีค่ะที่คนชอบเพราะเราตั้งใจทำงานเต็มที่ เรารักตัวละครที่เราเล่น เราก็อยากให้คนอื่นรักตัวละครตัวนี้เหมือนกัน แม้จะเป็นตัวร้ายแต่มันก็สร้างสีสันให้กับละครนะ”

การใช้ชีวิตในวงการบันเทิงเมย์เรียนรู้อะไรบ้าง ?

“วงการบันเทิงไม่ใช่ว่าจะเข้ามากันได้ง่าย ถึงเมย์โชคดีที่ได้เข้ามาง่ายเป็นนักร้องมาก่อน แต่การอยู่ให้คงทน ได้รับความนิยม มีชื่อเสียง ให้ยาวนานเป็นสิ่งที่ยาก วงการบันเทิงสอนเราเยอะ สอนให้เราทำงานตรงต่อเวลา ตั้งใจ การเป็นคนของประชาชน ต้องฝ่าฟันหลายอย่างทั้งเรื่องข่าว การวางตัว การคบคน รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ทำยังไงให้คนรัก หลาย ๆ อย่างมันเป็นส่วนที่ทำให้เราเป็นคนที่พัฒนา วงการสอนให้เราเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่อ่อนต่อโลก รู้จักที่จะปรับตัวและเรียนรู้ในการแสดงเสมอเพื่อเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ”

เวลาเจอข่าวแรง ๆ เราผ่านตรงนั้นไปได้ยังไง?

“ความจริงใจคือสิ่งแรกค่ะ หลักในการอยู่ให้ ได้กับข่าวแรง ๆ สภาพจิตใจต้องเข้มแข็ง สภาพข้าง นอกต้องไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ถ้าเราหวั่นไหว หรือตามน้ำให้เขาจูงไปมันก็เหมือนกับไม่มีสติ และทำอะไรออกไปอาจจะไม่ยั้งคิดมันจะทำให้เราโดนตราหน้าในสังคมได้ แต่ของเมย์จะมีสติ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ทุกก้าวของเราจะมั่นคงเราจะฝ่าฟันและแก้ไขอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ เรามีความตั้งใจที่ดี เราก็เชื่อว่าถ้าเรามีความคิดที่ดี เราจะได้สิ่งที่ดีกลับมา ไม่ว่าจะมีสิ่งไม่ดี ๆ มา เราทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็กเราก็ผ่านมันไปได้”

ฝีมือมีความสำคัญการอยู่ในวงการมากน้อยแค่ไหนในความคิดของเมย์?

“ถูกต้องค่ะ (ยิ้ม) บางคนอาจจะคิดว่าเข้ามาเพราะหน้าตาสวย แต่อย่าลืมว่าวงการนี้คนสวยหล่อกันทุกคนนะ เพราะฉะนั้นความสามารถ นิสัย มีสัมมาคารวะ ตรงต่อเวลา เป็นมิตร เราถึงจะอยู่ได้ในวงการ ที่สำคัญเราจะเข้ากับประชาชนได้มั้ย ทำให้แฟน ๆ หรือประชาชนรักเราได้มั้ย เพราะการเป็นนักแสดงก็เหมือนเราเป็นคนของประชาชนค่ะ”

เคย “หลง” หรือ “เหลิง” กับชื่อเสียงในวงการหรือเปล่า?

“ทุกวันนี้เมย์ไม่เคยรู้สึกหลงหรือเหลิงกับชื่อเสียง เมย์ยังคงเป็น “เมย์ เฟื่องอารมย์” ธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องทำงานหาเงิน ไม่เคยคิดว่าต้องมีคนมาสปอยส์ ต้องหลงตัวเอง ต้องเว่อร์ เพราะพ่อแม่สอนเสมอว่าอย่าหลงตัวเอง ให้ทำกับทุกคนเท่าเทียมกัน อย่าคิดว่าเราต้องไปใช้คนโน้นคนนี้ เพราะถึงจะโด่งดังก็เป็นคนเหมือนกัน ตอนนี้เมย์เคยเป็นยังไงเมย์ก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ”

ตอนนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้จัดละครแล้วเป็นยังไงบ้าง?

“เริ่มมีผู้จัดวัยพอ ๆ กับเมย์เยอะขึ้น ด้วยประสบการณ์ทำงาน เรามีโอกาสที่ดี พี่โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง ผู้บริหารของช่อง 8 เขาได้เจอเราก็ถามว่าสนใจมั้ยเป็นผู้จัดละคร เราก็ยังงง คือเคยฝันว่าอยากเป็นผู้จัดละคร เมื่อผู้ใหญ่ให้โอกาสมา ก็ตกลงลองสักตั้ง คิดว่าถ้าลังเลโอกาสผ่านแล้วจะผ่านไปเลย เรื่องแรกเป็นเรื่อง “น้องเมีย” กระแสตอบรับดีมาก ต่อมาเรื่อง นางมาร, และกำลังออนแอร์ก็เรื่อง“ชิงรักหักสวาท” เป็นเรื่องความเชื่อเรื่องดวงชะตา ชิงไหวชิงพริบ สนุก เข้มข้นมากค่ะ ถึงเรื่องจะดูแรงแต่สนุก ไม่ได้แรงแต่แบบต่ำ เพราะเมย์จะดูความเหมาะสมในการออกอากาศเสมอ คนชอบถามทำไมเราถึงทำแต่ละครแรง ๆเพราะทางช่องเขาก็รีเควสมาว่าอยากได้แนวนี้ หลังจากจบเรื่องนี้ก็มีแพลนต่ออีก ตอนนี้เตรียมงานอยู่ เรื่องนี้ก็เป็นพีเรียตยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เมย์ชอบได้แต่โจทย์ที่ยากและหนักค่ะ แต่มันท้าทายความสามารถของเรานะคะ”

การเป็นผู้จัดละครเมย์ต้องดูุแลส่วนไหนบ้าง ?

“เมย์ดูแลทุกขั้นตอน เลือกละคร บท ทีมงาน นักแสดง สถานที่ เสื้อผ้า ฯลฯ ตอนแรกยังไม่ท้องก็ออกกองบ่อย พอท้องก็ต้องปล่อยบ้าง แต่จะให้เขาถ่ายงานให้ดูทุกวัน ตัดต่อเราก็ดูเองที่ห้องตัด ถามว่าเมย์พอใจกับการเป็นผู้จัดของตัวเองหรือยัง ก็ยังต้องพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เวลาอยู่กองก็มีความสุขมาก ไม่เคยคิดว่าเบื่อการไปกองถ่าย รู้สึกรักการแสดงเหลือเกิน แล้วเวลาเราได้เป็นผู้จัดเราก็มีความสุขมากที่ได้เห็นตัวละครของเราทุก ๆ ตัว อยากให้นักแสดงและคนที่ทำงานกับเราทุกคนมีความสุข เหมือนกัน นี่คือสิ่งสำคัญในการดูแลกองถ่ายของเมย์ เมย์จะไม่โฟกัสแค่นักแสดง อยากให้ทุกคนดูแลกันอย่างพี่น้อง มีอะไรคุยกันได้ขอแค่ทุกคนแฮปปี้”

ชีวิตในวันนี้ของ เมย์ เป็นยังไงบ้าง ?

“ชีวิตแฮปปี้มากนะคะ ทุกอย่างมันอยู่ในจุดที่ลงตัว เมย์มีความสุขนะ ไม่ต้องหวือหวา ใช้ชีวิตเหมือนเดิมตั้งแต่เข้าวงการมาจนปัจจุบัน ยิ่งพอมีครอบครัว และตอนนี้มีลูกทุกอย่างเติมเต็มสมบูรณ์ในแบบที่เราพอใจมีความสุขแล้วจริง ๆ ค่ะ”

ทุกคนยกคู่เรากับพี่หนุ่ม กรรชัย เป็นไอดอลในการปลูกต้นรักมา16 ปี?

“กับพี่หนุ่มคบกันมา 16 ปีแล้ว เรามีพื้นฐานคือความรัก ไม่ว่าจะเจออุปสรรคต่าง ๆ ถ้าเรามีความรักให้กันไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถแยกเราได้ แม้ว่าเราจะมีสิ่งที่ยั่วยุให้นอกลู่นอกทาง แต่สุดท้ายเราก็กลับมาคบกันเหมือนเดิม นอกจากความรักก็มีเรื่องของความเข้าใจซึ่งกันและกันให้มากด้วย ต้องเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น และเขาก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น”

เชื่อเรื่องเนื้อคู่มั้ย ?

“เชื่อค่ะ ถ้าไม่ใช่คงจะอยู่กันไม่นานขนาดนี้ หลายคนบอกว่าถ้าเป็นฉัน ฉันเลิกไปนานแล้วเจอแบบนี้(หัวเราะ) เมย์ว่าคู่เราถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเนื้อคู่กัน เมย์ยังจำครั้งแรกที่เจอพี่หนุ่มได้เสมอ ค่อย ๆ ซึมซับ เป็นความผูกพันเราคบกันมา 10 กว่าปี นานมาก ตั้งแต่เมย์เข้าวงการมาใหม่ ๆ เราห่างกัน 7 ปี เขาโต แต่เรายังเป็นวัยรุ่น คนไม่ค่อยรู้เห็นภาพแต่พี่หนุ่มขี้เล่น เจ้าชู้ แต่ตัวจริงเขานะหัวโบราณมาก ย้ำว่ามาก(ยิ้ม) จุกจิก ไม่ชอบให้เราแต่งตัวเปรี้ยว แต่เราก็ปรับตัวกันมาได้ บางครั้งดื้อมาก พี่หนุ่มก็จะคอยสอน เวลามีปัญหาก็ปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง เขาเป็นคนดี จิตใจดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่น เป็นผู้ชายเก่ง เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ ทุกวันนี้เรารู้แล้วพี่หนุ่มเป็นทุกอย่างในชีวิตเมย์จริง ๆ ค่ะ”

ตอนนี้มีอีกบทบาทหนึ่งคือการเป็นว่าที่คุณแม่?

“ใช่ค่ะ หลังจากแต่งปรึกษากันเรื่องน้องเลย พี่หนุ่มอยากมีเราก็พร้อมแล้ว ต้องหยุดทุกอย่างเพื่อเตรียมการ แล้วก็ปรึกษาคุณหมอ ซึ่งเมย์มีลูกยาก อายุเราก็เยอะประมาณหนึ่งเลยตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว ไข่ของเมย์ก็มีน้อยและต้องรอจังหวะอีก ก็เลยตัดสินใจหยุดทุกอย่างแล้วทำเลย จากนั้นแช่แข็งเก็บไว้ก่อน ก็ไปเที่ยวพักผ่อนร่างกายก่อน สุดท้ายได้น้องติดดีใจมากค่ะ ตื้นตันบอกไม่ถูกเลยนะ เพราะเราตั้งใจมาก เข้าใจความรู้สึกของการเป็นแม่ คิดว่าเราเป็นแม่คนแล้วเหรอเนี่ย (ยิ้ม) ตอนนี้ดูแลตัวเอง ทานอาหารที่ดี เช็กร่างกาย พบหมอตลอด แต่พี่หนุ่มเขาจะระวังโน่นนี่เยอะมาก แต่แบบนี้ดีค่ะเราก็แฮปปี้”

วางอนาคตในวงการต่อไปอย่างไร?

“เมย์จะยังทำงานไปเรื่อย ๆ แล้วก็จะเป็นคุณแม่ที่ดีของลูกแล้วก็เป็นภรรยาที่ดีของสามีด้วย จะทำทุกอย่าง ถามว่าจะทิ้งการแสดงมั้ย ไม่ทิ้งแน่นอน แต่การทำหน้าที่แม่ก็ต้องเต็มที่ เพราะพี่หนุ่มเขาเป็นคนหัวโบราณทำงานก็ทำได้แต่ต้องเลี้ยงลูกด้วยค่ะ แล้วน้องเป็นผู้หญิงต้องดูแลเต็มที่หน่อย จริง ๆ ลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ขอให้เรามีลูกได้ก็ดีใจมากแล้ว ยิ่งได้ผู้หญิงพี่หนุ่มยิ่งแฮปปี้นะ เพราะเขาอยากมีลูกสาวแต่แรกสมใจคุณพ่อเค้าค่ะ (ยิ้ม)”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามเมย์มาตลอดซะหน่อย?

“ขอบคุณทุกคนจริง ๆ ค่ะ เมย์อยู่ในวงการนี้มานานมาก ขอบคุณทุกคนที่รักเมย์มาก ทำให้เมย์เป็นที่รักของทุกคนอยู่ได้ยาวนาน เมย์สัญญาว่าจะเป็นคนของทุกคนแบบนี้ตลอดไป ต่อไปเมย์ก็จะมีเมย์จูเนียร์ก็ฝากทุกคนรักเขาด้วย และอยากให้ทุกคนติดตามผลงานของเมย์ ไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือผู้จัดหรือทำงานสายอื่น ๆ ก็อยาก อยู่่ให้กำลังใจกันไปนาน ๆ เมย์จะตั้งใจทำทุกงานให้ดีที่สุดเพื่อนแฟน ๆนะคะ (ยิ้ม)”.