Inside Dara
“ฝ้าย เวฬุรีย์” เผ็ดแซ่บ อวดหุ่นปัง แถมขึ้นแท่น “นางร้ายตัวแม่”

สวยแซ่บไม่แผ่ว สำหรับ ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร ดีกรี “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2014”-นักแสดงลูกหม้อช่อง 8 ล่าสุดขึ้นแท่น “นางร้ายตัวแม่” ที่แฟนๆคุ้นหน้าค่าตากันอย่างดี...มาเยือน “มาลัยไทยรัฐ” อีกครั้ง สาวฝ้ายพร้อมแจกความเซ็กซี่ เพิ่มเติม เผ็ดแซ่บยิ่งกว่าเดิม อวดหุ่นปัง โดยเสื้อผ้าจาก : larobe8/prive couture เครื่องประดับจาก : ira jewelry แต่งหน้า-ทำผม : pai_makeup/gavin.makeup ช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต เก็บภาพสวยๆมาฝากแฟนๆ

ย้อนเส้นทางก่อนเข้า “วงการบันเทิง” สาวฝ้ายเริ่มต้นจากเป็น 1 ในพิธีกรสตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก รุ่นที่ 5 หลังจากนั้นเบนเข็มเข้าสู่วงการ “ขาอ่อน” ประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2014 จนคว้ามงมาครอง ก่อนสละ “ตำแหน่ง” เพื่อลดกระแส “ดราม่า” พร้อมเบนเข็มก้าวสู่เส้นทางการเป็น “นักแสดง” อย่างเต็มตัว อาทิ “เรือนริษยา, นางบาป, มงกุฎริษยา, เชลยศึก, เสน่ห์นางครวญ, มัจจุราชฮอลิเดย์, เล่ห์รัญจวน, ปอบผีเจ้า” จนล่าสุดรับบทรำเพย ในละครมหากาพย์อีโรติกชายรักชาย “เรือนร่มงิ้ว” ทางช่อง 8 เกรี้ยวกราดจนแฟนๆ พร้อมใจแจก “สตรอว์เบอร์รี” ให้ทั้งไร่ ด้วยความหมั่นไส้ในจริตร้อยเล่มเกวียน

“เรื่องนี้รับบทเป็นรำเพย เป็นสาวชาวลำปางที่คุณหลวงไปเคลมมา เค้าคงมีแผนทำตัวเองให้ดูเป็นผู้ชายเลยต้องรับเมียน้อยมา แต่จุดประสงค์ของเราคือจับคนรวย อยากมีชีวิตที่สุขสบาย พออยู่ในบ้านเราไม่พอ ต้องการเป็นเจ้าของ อยากเป็นที่หนึ่ง เป็นจอมวางแผนแต่สำเร็จน้อยมาก (หัวเราะ) เราคิดว่าฉลาด เราเก่ง เราอยู่เหนือ บางทีเราชนะแต่ส่วนใหญ่จะแพ้เพราะคนอื่นรู้ทันแผนการของเรา ต้องเล่าก่อนตอนแรกๆฝ้ายแอบเซ็งเพราะก่อนหน้านี้เราเล่นเล่ห์รัญจวน บทค่อนข้างหนักและแรงกว่านี้ เพราะคิดว่าตัวละครตัวนี้เหมือนไม่มีอะไร เป็นสิ่งที่เราคิด พอเราไปเวิร์กช็อป บทรำเพย เหมือนกับว่ายากกว่าที่เราเคยเล่นมาอีก เพราะว่าด้วยที่ทุกคนคาดหวังเป็นสีสันของเรื่อง เราพยายามหาจุดเด่น ให้คนดูคิดถึงและเกลียดไปด้วย เหมือนบทจะง่ายแต่ไม่ง่ายเลย ยังนึกเลยว่าวันนั้นเราปฏิเสธคงเสียดายมากๆ เรื่องนี้สนุกด้วยบท เปิดเรื่องมาแตกต่างเรื่องอื่น มีปลายปมให้คนดูติดตาม คนนี้ลูกใคร ใครฆ่า มาลัย (พิงกี้-สาวิกา) น่าติดตามมากค่ะ”

ฟีดแบ็กละครก็ปัง แฟนๆละครพร้อมใจยกแม่โป้งคว่ำให้รัวๆ ป้อนคอมเมนต์ ด่าแรงๆ แบบไม่ต้องประหยัดคำใดๆ แต่ก็ไม่ทำให้ฝ้าย-เวฬุรีย์ หวั่นไหวแต่กับภูมิใจที่คนดูอินกับตัวละคร

“ดีใจค่ะ เราตั้งใจตลอด เราเล่นละครตั้งใจทุกเรื่อง บางทีกลัวเหมือนกัน คอมเมนต์ไม่ดี เล่นอะไร ไม่เห็นได้เรื่องคือสิ่งที่กลัวมาก เราพยายามตั้งใจทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด คนด่าผลไม้เพียบเลย สตรอว์เบอร์รีได้เยอะมาก เราเข้าใจนะเพราะบางทีเราดูละครก็อินเกลียดตัวร้ายอยู่แล้ว ถือว่าเราทำหน้าที่สำเร็จในระดับนึงแต่จริงๆเรื่องนี้คุณหลวงร้ายกว่าเยอะเลย เป็นจอมวางแผนทุกอย่าง ละครไทยไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้”

ตอนนี้กลายเป็น “นางร้ายนัมเบอร์วัน” ของช่องไปแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง

“ยังค่ะ เรียกว่าบทที่ถนัดมากกว่า แต่ว่าไปเล่นบทอื่นๆได้มั้ยก็เล่นได้อยู่แล้วเพราะเราเป็นนักแสดงเราก็ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง เค้าให้เราเป็นอะไรก็ต้องเป็นให้ได้”

ดวงถูกโฉลกนางร้ายเล่นแล้วปัง

“ใช่ๆ เรื่องที่ผ่านมาเราทำได้ก็เลยได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ลองเรื่องต่อไป ไว้วางใจให้เราเล่น”

คำว่านางเอกจะค่อยๆห่างไกลเราไปทุกที

“ใช่ค่ะ แต่ถามว่าแอบเสียดายมั้ยก็ไม่หรอกค่ะ เป็นเรื่องของโอกาสและจังหวะชีวิต บางทีคนที่มองเข้ามาเห็นเราเหมาะ ทำตรงนี้ได้ดีกว่า ยังไงให้คนดูตัดสินอยู่ดี”

ถามจริงๆฝ้ายกับรำเพยมีส่วนคล้ายกันบ้างมั้ย

“ไม่มีเลยค่ะ ตัวจริงฝ้ายจะเป็นคนตลก ชิลๆ โก๊ะๆ ฟีลนั้น ไม่มีฟีลรำเพยหรือตัวร้ายที่เคยเล่นมาสักตัว”

สถานการณ์โควิด–19 เป็นยังไงบ้าง

“นอนอยู่บ้านค่ะ (หัวเราะ) มีงานยูทูบบ้างนิดหน่อย ช่องชูก้าร์ มอนสเตอร์ ทำกับเพื่อนๆผู้หญิง 7 คน ช่วงโควิดระบาดหนักๆต้องหยุดไปก่อน เป็นการรวมตัวของแก๊งสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กค่ะ สนิทกันนานมาก ทุกวันนี้ยังติดต่อกันอยู่ แต่ละคนตอนนี้เป็นเน็ตไอดอลบ้าง ก็ลองทำ มีเพื่อนนางงามที่สนิทกัน”

กับความเป็นสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กเป็นยังไงบ้าง

“10 กว่าปีแล้วค่ะ จุดเริ่มต้นเข้าวงการ ด้วยตัวรายการทำให้เราต้องทำกิจกรรมกันเยอะ เลยสนิทกันมาก กลายเป็นว่าเราสามารถพูดอะไรก็ได้ในแก๊งนี้”

ใครเม้าท์เก่งสุดในกลุ่ม

“เหนื่อยค่ะ 7 คน คาแรกเตอร์ไม่เหมือนกันสักคน มีความวุ่นวายแบบแปลกๆ ไม่มีใครซ้ำกันเลย พอทำรายการย้อนบรรยากาศเก่าๆ แต่ตอนนี้ก็หยุดไป 2 วีก เทปหมดแล้วเพราะไปไหนไม่ได้ ที่ผ่านมาเที่ยวทิพย์ตลอดค่ะ ลงรูป เริ่มขุดหารูปเก่าๆ มาลง คิดถึงอยากไปเที่ยว”

ตอนนี้ใจไม่อยู่เมืองไทยด้วยหรือเปล่า

“ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วค่ะ ก็ต้องคิดถึงนิดนึง”

อัปเดตนิดนึง สถานการณ์รักกับหนุ่มคริสเป็นยังไงบ้าง

“เกือบ 2 ปีที่ไม่ได้เจอกัน ยาวค่ะไม่ได้เจอ ได้แต่เฟซไทม์ไลน์ โทรศัพท์คุยกัน ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

แฟนมีบ่นๆอยากกลับมาเมืองไทย

“มีค่ะ นางอยากกลับมาเมืองไทยมาก คือเค้าก็กลัว มีช่วงหลังไทยระบาดหนักแต่ฝั่งโน้นลดลง เค้ากลัวว่ามานี่จะอันตราย เวลานางมาได้ เดือนนึง ถ้ามาต้องกักตัวที่ไทยก็จะเสียเวลาไปแล้ว 14 วัน ครึ่งเดือนเลยรู้สึกไม่คุ้มเลย นางชวนเราไปที่โน้นแทน”

แพลนบินไปอเมริกาล่ะ

“อยากไปค่ะ ก่อนหน้านี้แฟนก็ชวนเยอะมาก ตั้งใจกะไปเชียร์นางงามด้วย มีหลายคอนเทนต์ ที่อยากทำ ได้เจอแฟน ได้เชียร์นางงาม แต่เราก็ห่วงแม่ ห่วงพ่อด้วยถ้าเกิดมีอะไรขึ้น ไม่มีใครทำเรื่อง เพิ่งซื้อบ้าน ต้องทำเรื่อง กลัวเสร็จไม่ทันตอนบิน ยังไม่ได้บอกนางสักทีจะไปวันไหน”

เค้าชวนให้อยู่เมืองนอกด้วยกันเลย

“ยังค่ะ เค้ารู้ว่าฝ้ายยังอยากทำงาน อยากอยู่ตรงนี้ก่อน”

ระยะห่างมีผลต่อการคบกัน

“ไม่มีเลยค่ะ แต่คนอื่น ฝ้ายไม่รู้ แต่เราโอเค อยู่ห่างกัน เรามีเวลาให้คนรอบตัว พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ได้อยู่กับตัวเอง ได้มีอะไรทำ มีช่วงเวลาคิดถึงใดๆ ก็จะไม่ค่อยทะเลาะกัน แต่เวลาอยู่ด้วยกันก็จะมีการตีกัน”

ช่วงที่เค้าบินกลับมาเมืองไทยล่ะ

“ช่วงนั้นจะตีกันบ่อยค่ะตีกันเรื่องเล็กๆน้อยๆ เรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ตอนนี้อยู่ห่างกันโอเคไม่มีทะเลาะกันอาจจะเพราะอยู่ไกลกัน มีช่วงเวลาคิดถึงกันมากกว่าค่ะ”.

ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต