Inside Dara
“วีวี่”ลูก”ต้อม รัชนีกร”นอยด์หลังถูกคนสบประมาทยังไงก็ดังเพราะมีแม่เป็นดารา

สวยได้แม่ "วีวี่" ลูกสาว "ต้อม รัชนีกร" สุดนอยด์ หลังถูกคนสบประมาท ยังไง ก็ดังเพราะมีแม่เป็นดารา งานนี้ทั้งสองคนเคลียร์แล้ว...

งานนี้ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมานิยามมีแค่คำเดียวคือสวยได้แม่สำหรับ วีวี่ เวอร์โรนิก้า ลูกสาวคนสวยของคุณแม่หน้าไทย ต้อม รัชนีกร ที่ควงคู่กันมาออกรายการคุยแซ่บShow เพราะก่อนหน้านี้ได้เกิดเป็นไวรัลว่าเด็กสาวคนนี้ทำไมร้องเพลงเพราะจัง หลังไปออกรายการแข่งขันการร้องเพลงมา โดนทั้งคู่มาเม้าท์มอยสไตล์แม่ลูก รับวันแม่ที่กำลังจะมาถึง พร้อมสไตล์การเลี้ยงลูกแบบไม่เหมือนใคร รวมถึงคำถามที่ทำให้สาวต้อมถึงกับสะอึกจนเกลายเป็นเรื่องทะเลาะกัน เมื่อลูกสาวถามว่าพ่อของหนูคือใคร

ต้อม เผยว่า “ตอนเด็กๆ ไม่ว่าจะร้องเพลง หรือตีกลอง หรืออะไร นางจะไม่ให้แม่รู้ นางจะอาย นางจะเขิน อย่างตอนเด็กที่จะไปประกวดร้องเพลง เราก็เอาลูกไปให้เพื่อนของเราสอน แต่อิแม่ต้องไปอยู่ข้างนอก ห้ามอยู่ตอนที่กำลังสอน ไม่งั้นลูกจะไม่ยอมร้องเพลง แต่เอาก็แอบดูผ่านกระจก อยากรู้ว่าร้องได้ไหม อย่างวีวี่เองพอเขาสงสัยแบบนี้ เราก็เข้าสายมู ให้ขึ้นจุดธูปบอกพระพิฆเนศ เขามีความผูกพันธ์ตรงนี้ ขอว่าถ้าวีวี่เป็นอะไรก็ขอให้พระพิฆเนศบอก จะได้แก้ไขทัน เขาจุดธูปบอกกลางคืน เช้ามาเจ็บทันทีเลย ก็เลยส่งโรงพยาบาล อาการเด่นชัดคือเป็นเนื้องอก หมอก็ผ่าเลย ด้วยการส่องกล้องจากแผลเล็ก ซึ่งค่าใช้จ่ายก็สูง แต่ก็ไหวอยู่ ซึ่งก้อนเท่ากำปั้น เราสองคนนิสัยเหมือนกันมาก ก็นางบอกว่าส่องกระจกก็คือเหมือนแม่มาก รู้สึกว่านางจะได้แบบเวลาเครียดมากๆ ก็ช่างมัน ปล่อยมันเร็วเหมือนเรา ซึ่งเราก็เป็นแบบนี้ เพราะเราเองก็ปลูกฝังแต่เล็กๆ ว่าอย่าไปใส่ใจกับคนที่นินทาเรา และนางก็จะบอกว่าแม่อย่าซื้อชุดแก่นะ เดี๋ยวหนูใส่ไม่ได้

ส่วนในเรื่องที่งอนกัน คือนางเป็นตั้งแต่ ม.4 เรื่องการเรียน นางมาถามว่าแม่อยากให้เรียนคณะอะไร นี่ก็บอกว่าแล้วแต่ลูกเลย อยากเรียนอะไร ก็เรียน สรุปลูกเครียด ถามกลับว่าทำไมแม่ไม่เหมือนพ่อแม่คนอื่นเขาเลย เพราะถ้าเลือกในสิ่งที่แม่ชอบ แต่ถ้าลูกไม่ชอบ หนูก็จะไม่มีความสุข และวันที่เขาสอบเทียบได้ เราน้ำตาไหลเลยเราดีใจ เราถามว่าได้ด้วยเหรอ นางส่งไลน์มาให้ดูว่าติดอันดับที่ 11 และเขาก็มากอดเรา พูดกับเราว่าหนูช่วยแม่ได้แค่นี้ เราก็เฮ้ย…ลูกเราโตแล้ว ก็แม่จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเทอมมัธยมแล้ว เพราะสอบเทียบไปมหาลัยเลย เราก็น้ำตาคลอ เรื่องแฟนลูกตอนแรกๆ ที่เขามาปรึกษา เราก็ตุ้มๆ ต่อมๆ แต่เขาชอบใคร เราก็ชอบด้วย ก็มากินข้าวด้วยกัน และนางก็บังคับทุกอย่าง คือถ้ากอดนาง ก็ต้องกอดแฟนนางด้วย แต่เขาไม่ใช่ลูกฉัน ทำไมฉันต้องกอดมันด้วย (หัวเราะ) แต่ก็ต้องดูๆกันไปแหละ”

วีวี่ เผยว่า “หนูเป็นคนขี้เขิน เขินกับทุกคนเลย เขินมากกับคนที่อยู่ใกล้ตัว อย่างวันนี้มาออกรายการและเพื่อนเห็น และมาแซวเราก็เขินไปอีก ที่แพ้เขาคือมันไม่ได้เชิงลิปซิงค์ แต่เหมือนว่าเขาเอาไมค์มาเอง เอาอุปกรณ์มาเอง เขาออโต้จูนกับไมค์ ยังไงเขาก็เพราะกว่าหนูอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ไม่รู้ว่าเขาเตรียมอุปกรณ์มาขนาดนี้ เพราะคิดว่าถ้าคนเราเก่งจริง อุปกรณ์พวกนี้ไม่ต้องใช้ก็ได้นะ ซึ่งเราได้ที่ 2 แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไร แต่แค่รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ เรื่องเนื้องอกในคอเราเป็นตอนประมาณ 10 กว่าๆ ขวบ คือตอนนั้นถ้าจับหรือส่องกระจก คอหนูบวมกกว่าคนปกติ เหมือนคนเป็นไทรอยด์ พอจับๆ เจอเป็นลูกกลม เราก็คิดว่าทุกคนก็อาจจะมี แต่อาจจะใหญ่กว่าคนอื่น จนไปถามแม่ แม่ก็บอกปกติมั้ง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นเราก็ไปหาหมอ เขาก็บอกว่ามันปกติ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้กลัวนะ หมอเขาคุยกับแม่ เราแค่คิดว่ามันกำลังจะออกไปจากตัวเราแล้ว แต่แม่กลัวว่าเราไม่ตื่นเพราะยาสลบ

ซึ่งหลังจากนั้นก็ชาๆ ที่แผลไป 6 เดือน ซึ่งพักฟื้นนานเป็นปี กว่าจะกลับมาร้องเพลงได้ เพราะเราไม่มั่นใจในการเปล่งเสียง ที่มั่นใจมาร้องเพลงอีกครั้งเป็นเพราะว่าเราโตขึ้น สังคมมันทำให้เรารู้ว่าถ้าเรามีของดี เราก็ไม่ต้องเก็บมันไว้ หนูมั่นเกินไปไหมอ่ะ เพราะเมื่อก่อนหนูนอยด์บ่อย เพราะมีคนพูดว่าเขาได้ทำแน่ๆ เพราะเขาเป็นลูกดารา ซึ่งไม่ชอบคำนี้”

“ตอนนั้นมันต้องเข้ามหาลัยฯ มันต้องเลือกสายที่เรียนแล้ว มันเกี่ยวกับอนาคต เราก็เลยถามว่าอยากให้เรียนอะไรดี แต่แม่ตอบกลับว่าก็แล้วแต่ อ้าววว…ก็เราคิดไม่ออก แล้วมาให้แม่ช่วยคิด แม่ก็ไม่ช่วยคิด เราก็งงไปอีก ซึ่งถามว่าคำแนะนำของแม่สำคัญไหม ก็คือจะฟังเป็นคนแรกๆ เลย เพราะเราฟังตัวเองและฟังแม่ด้วย แต่ด้วยคำตอบของแม่ที่อยากให้เราเรียน เรารู้อยู่แล้ว แต่เราก็เลือกในสิ่งที่อยากเรียน เราไม่ได้เลือกเพราะชอบ เพราะเราขี้เบื่อ แม่จะบอกว่าอะไรที่เราทำแล้วชอบ เราจะอยู่กับมันได้จนตาย