Inside Dara
วิวาห์'วุ้นฯ'จัดโอฬาริก 'ชาคริต'เฮง!

วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ เตรียมจัดปาร์ตี้สละโสด ฤกษ์วิวาห์ (21 เม.ย.) ที่จะถึงนี้ นับถอยหลังไปอีกไม่กี่วัน วุ้นเส้น สาวซ่าส์ก็จะได้ชื่อว่า “เจ้าสาวของชาคริต” แบบถูกต้อง ใครจะทัก จะท้วง ยังไง วุ้นเส้น ก็ยืนยัน รักชาคริต แย้มนาม แน่นหนัก รักครั้งนี้ทำให้หัวใจเธอร้อนแรงและอบอุ่น ผสมกลมกล่อม จนเธอสามารถลืมฉายา “ผู้ชายไม้เลื้อย” ไปได้ วุ้นเส้น พร้อมเสี่ยง!! ในเมื่อเจอคนที่ ใช่ ในเวลาที่ชอบ เธอพร้อมโดดร่วมเตียงเคียงหมอน เป็น “เมียชาคริต” แบบไม่ต้องคิดอะไร (มาก)

ความรัก...ครั้งนี้ วุ้นเส้น พูดประมาณว่า มันช่างถูกฝาถูกตัวกันซะจริงๆ หลังจากรู้จักกันผ่านๆมานาน 8-9 ปี แต่เพราะชะตาฟ้าลิขิต การพบกันในรายการ “ครัวแล้วแต่คริต” ที่ ชาคริต เป็นพิธีกรในครั้งนั้น ชาคริต และ วุ้นเส้น ถูกพลังรักดูดให้เลิฟกัน ขนาดทั้งคู่ยังไม่รู้เลยว่า “แอบหวานออกอากาศ” ไปตั้งมากมาย พอเป็นแฟนกันแล้ว ย้อนกลับไปดูเทปรายการในวันนั้นยังแอบเขิน ทำม้าย...หวานโชว์ได้ขนาดนั้น ช่วงแรกกะแอบซุ่มศึกษากันเงียบๆ แม้แต่เพื่อนๆก็ไม่มีใครรู้ แต่พอรู้ว่าคบใคร เพื่อนรักทั้งหลาย อาทิ เจนสุดา ปานโต, คริส หอวัง, นานา ไรบีนา ไม่มีใครกล้าคัดค้าน มีแต่ยุส่ง เชียร์ให้รัก ชาคริต เพราะ “สาวๆแก๊งนี้” ประกาศตัวว่า “แอบกรี๊ด...ด ชาคริต” กันมานานแล้ว พอรู้ว่า วุ้นเส้นได้ปรุงรักร่วมกับ ชาคริต เพื่อนสนิทพากันอิจฉา แถมรักครั้งนี้ ลงท้ายด้วย งานวิวาห์...มีแต่สาวๆอิจฉากันทั้งเมือง


วุ้นเส้น พูดถึง ชาคริต ด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ของความรัก ล่าสุด ในรายการ “ราตรีสโมสร” ทางช่อง 3 ค่ายโพลีพลัส ว่า “ไม่มีวันไหนที่ไม่อยากอยู่ใกล้ ชาคริต” ฟังแล้วขนลุก!! แสดงว่า ชาคริต ต้องเด็ดสะระตี่ โดย วุ้นเส้น ยังคอนเฟิร์มอีกว่า “คิดว่าการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่คิดว่าจะมีจุดนั้นด้วยซ้ำ แต่พอได้คุยกับ ชาคริต แล้วจี๊ด ขนลุก อยากมีอนาคตด้วยกัน ทำไมอยู่ใกล้เค้าแล้วไม่เบื่อซักที” อ่ะ! อย่าคิดว่า วุ้นเส้น หลงเสน่หา แต่ วุ้นเส้น หลงรักการดูแลเอาใจใส่ที่ ชาคริต ทำให้รู้สึกเชื่อมั่น รู้สึกปลอดภัย ถ้าอยู่กับ ชาคริต ไม่มีปัญหาไหนที่ วุ้นเส้น จะผ่านไปไม่ได้ หวานใส่กันขนาดนี้ หมอดูชื่อดังจะ ฟันธง หรือ คอนเฟิร์ม!! ฝันไปเหอะว่า วุ้นเส้น และ ชาคริต จะเชื่อ คู่รักคู่นี้เชื่อ “หัวใจตัวเอง” กระแสข่าว ฉายาต่างๆ ทั้งความเจ้าชู้ ไม้เลื้อย วิวาห์ล่ม รักไปเรื่อย ไม่ได้สั่นคลอนความมั่นใจในรักของ วุ้นเส้น ที่มีต่อ ชาคริต ไปได้ เพราะ วุ้นเส้น เน้น! สิ่งที่เห็นและสัมผัสกับตัวเองและประจวบเหมาะกับ วุ้นเส้น ดัน เป็นสาวชอบเสี่ยง!


เธอมีสเปกชอบผู้ชายที่เจ้าชู้นิดๆ อย่างกับพ่อเธอ แต่เทกแคร์เก่ง และสุดท้ายไม่ว่ายังไงแล้ว พ่อก็เห็นครอบครัวสำคัญที่สุด การตัดสินใจ “แต่งงาน” ในครั้งนี้ เพื่อนสาวคนสนิท เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, แอน–อลิชา, นานา, โอซา แวง, พิตต้า ดีใจที่เพื่อนจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา แถมเพื่อนๆยังอ้อนให้จัดปาร์ตี้สละโสด ด้วยการปิดผับจัดปาร์ตี้ส่วนตัวฉลองความโสดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ สาววุ้นเส้น จะไม่โสดอีกตลอดกาล เพราะคาดคะเนกันแล้วว่า หลังแต่งงาน วุ้นเส้น กับ ชาคริต อาจจะฮันนีมูนดูดดื่ม ช่วงข้าวใหม่ปลามันจนอาจจะลืมเพื่อนๆก็ได้


เพราะแค่การ์ดแต่งงาน ก็ หวานจนน้ำตาลเกาะ วุ้นเส้น อัพภาพการ์ดแต่งงานให้ได้ดูกันก่อนล่วงหน้า เป็นภาพสไตล์วินเทจของทั้งคู่ อิงแอบแนบชิดกัน พร้อมตัวอักษรภาษาอังกฤษสีทอง เขียนว่า “For Eternity” ซึ่งแปลว่า “นิรันดร์” ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าของ วุ้นเส้น ทำให้รู้ว่า รักครั้งนี้มีอยู่จริง และ ชาคริต ทำให้เห็นว่า “รักจริง ไม่ทิ้งจัง”

ช่วงนี้ วุ้นเส้น ก็ฟิตหุ่น เตรียมพร้อมเป็น “เจ้าสาวของชาคริต” โชว์แฟชั่นสวยน่ามองให้ Volume ถือเป็น แฟชั่นก่อนวิวาห์ ทิ้งทวนความสวยและความสาวให้หนุ่มไทยได้ดูต่างหน้า ก่อนไม่โสด

การก้าวข้าม “ความโสด” มาใช้ชีวิตคู่ สำหรับ วุ้นเส้น ไม่ใช่สิ่งที่ น่ากลัว แต่กลายเป็นสิ่งที่ เธอรอ และวันนี้ ชาคริต อาสาทำหน้าที่นี้ แบบ “วิวาห์ไม่ล่ม” เหมือนในอดีต งานแต่งงานเตรียมการไปแล้ว (ว่าที่) เจ้าสาวกังวลอยู่เรื่องเดียว ชุดเจ้าสาวยังไม่เสร็จ เพราะดีไซเนอร์อยากให้เสร็จช่วงใกล้แต่ง เพราะว่าหากหุ่นเปลี่ยนจะต้องแก้ไขได้ทันเวลา ส่วนชุดวันหมั้นกับชุดเพื่อนเจ้าสาว วุ้นเส้น ไว้ใจให้ นาเดีย เป็นคนทำ!

ความรัก...เป็นเรื่องของ พรหมลิขิต ดูอย่าง วุ้นเส้น กับ ชาคริต ในโลกแห่งมายา ละครเรื่อง “แหม่มแก้มแดง” ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 เล่นเรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่ ไม่ได้คู่กัน เพราะ “คู่แท้” ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้ ก็ย่อมได้คู่กันในชีวิตจริงเสมอ...

ยุ้ย มีสุขกับคำว่า นางเอกภูธร

กำลังโด่งดังได้ใจแฟนละครอยู่ตอนนี้ สำหรับละคร “กระบือบาล” นางเอกของเรื่อง ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม เลยมาเปิดใจ เผยเรื่องราวการทำงานของละครเรื่องนี้ ที่ยากไม่ใช่เล่น เพราะใช้เวลาการถ่ายทำนานร่วมปี และการทำงานที่ตอนนี้ก้าวหน้าถึงขั้นโกอินเตอร์เล่นหนังต่างประเทศ ส่วนเรื่องความรักที่กำลังคบหากับ ธันญ์ ธนากร นั้นก็กำลังไปได้สวยเลยทีเดียว


ตอนนี้ละคร “กระบือบาล” ได้ออกอากาศแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ดีใจค่ะ เพราะถ่ายมาได้ปีหนึ่งแล้ว แฟนละครถามกันเยอะมากว่าเมื่อไรจะได้ฉายสักที แอบลุ้นเหมือนกันว่าหลายคนน่าจะชอบ เพราะเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้หลากหลายรสชาติ พวกเรานักแสดงอ่านบทแล้วยังชอบเลย เล่นกันเองยังขำ เรียกว่าถ้าใครได้ดูเรื่องนี้ต้องอมยิ้มอย่างแน่นอนค่ะ ละครเรื่องนี้ถ่ายทำมาค่อนข้างนาน ยุ้ยว่ามันมีทั้งข้อดีข้อเสียนะ อย่างข้อดีมันทำให้มีเวลาตัดต่อให้สนุกมากขึ้น ถ้าไม่มีเวลามาเร่งมันก็จะประณีตได้ รวมทั้งใส่อะไรได้มากขึ้นอย่างเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ส่วนข้อเสียคงเป็นการรอนานนี่แหละ แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้รอนานขนาดนั้นค่ะ ไม่ใช่ละครดองนะคะ ยุ้ยเพิ่งจะปิดกล้องมาได้ 2-3 เดือนเอง ไม่ได้ดองมาเป็นปี ระยะการถ่ายทำมันค่อนข้างนานแค่นั้นเอง


ความยากของละครเรื่องนี้อยู่ตรงไหน?

ยากตรงที่ต้องเล่นกับน้องควาย ตามชื่อเรื่องกระบือบาลนั่นเอง แต่เรื่องนี้ยุ้ยไม่ได้ขี่ควายนะ แค่เข้าฉากด้วยกัน ทางฝั่งพระเอกจะอยู่กับน้องควายมากกว่า ยุ้ยค่อนข้างกลัวน้องควายเหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เพราะยุ้ยเคยเจอเวลาเล่นกับสัตว์แล้วโดนมันกัดหรือทำร้าย เลยต้องระมัดระวังตัวนิดนึง จะถามทีมงานด้วยว่าน้องควายตัวนี้ดุไหม ทำไมเขาถึงหัก คนเลี้ยงบอกว่าเขาวิ่งชนกัน โอ้โห โหดขนาดนั้น เพราะฉะนั้นอยู่ห่าง ๆ ไว้ดีกว่า แล้วอีกอย่างเรื่องนี้ก็ต้องไปถ่ายต่างจังหวัดท่ามกลางไอแดดร้อนมาก แต่ก็สนุกสนานนะคะ เพราะนักแสดงในเรื่องรุ่นราวคราวเดียวกัน สนิทสนมและเข้ากันได้ดีทุกคนเลยค่ะ


ช่อง 7 มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลอะไรถึงยุ้ยบ้างไหม?

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะคะ ยุ้ยเองยังเป็นนักแสดงในสังกัดของช่อง 7 สัญญาก็ยังมีอยู่อีก 4 ปี และคิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคงเป็นไปในแนวทางที่ดี ไม่มีอะไรน่ากลัว ยุ้ยคิดว่าคุณแดงยังเป็นที่ปรึกษาและยังอยู่ใกล้ ๆ พวกเรา ไม่ได้ไปไหน ถ้ามีเวลา ยุ้ยก็ไปกราบท่าน ซื้อขนมซื้อผลไม้ไปเยี่ยมท่าน


บางคนมองว่านักแสดงช่อง 7 อาจจะเริ่มกังวลถึงอนาคตของตัวเอง?

ยุ้ยว่าไม่มีนะ อย่างตัวยุ้ยเองมองว่ามันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนอื่น ๆ ก็ยังมั่นใจและอุ่นใจ ก่อนที่คุณแดงจะไป ท่านก็ได้ฝากงาน และคนที่อยู่ ณ ปัจจุบันก็ได้เคยทำงานกับคุณแดงมาก่อน พวกเราก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะมากระสับกระส่าย กลัวทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมไม่น่าจะเป็นไปได้ค่ะ


รู้สึกอย่างไรที่บางคนมองว่านางเอกช่อง 7 ดูบ้าน ๆ ไม่ค่อยเปรี้ยงเหมือนอีกช่อง?

ยุ้ยว่าตลาดของช่อง 7 อยู่ที่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว แฟน ๆ ยุ้ยจะอยู่ตามต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพฯ อยู่ที่บทละครที่ได้รับด้วย อย่างยุ้ยจะได้รับบทนางเอกบ้าน ๆ จะดูใกล้เคียงกับชีวิตของคนต่างจังหวัดหรือตามชนบท แฟน ๆ ทางต่างจังหวัดเลยเยอะมากกว่าค่ะ บางคนเรียกยุ้ยว่านางเอกภูธร ยุ้ยมีความสุขนะเวลายุ้ยได้ไปโชว์ตัวตามต่างจังหวัด เพราะทุกคนให้การต้อนรับที่อบอุ่นและรักเรามากค่ะ


12 ปีในวงการบันเทิงของยุ้ยเป็นอย่างไร?

มีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไปนะคะ แต่ส่วนมากจะสุข เพราะชีวิตของยุ้ยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้จะเจอข่าวหรือเรื่องร้าย ๆ บ้าง ก็อยู่มาได้เพราะความเข้มแข็งของยุ้ยที่เพิ่มขึ้น จากวันแรก ๆ ที่เสียใจ วันเวลาผ่านไป เรื่องร้าย ๆ เยอะขึ้น แต่มันเหมือนเรามีเกราะปกป้องหัวใจของเราอยู่ ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ความรักจากคนรอบข้างก็สำคัญมาก ทั้งครอบครัว ทั้งแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจ ทุกคนบอกว่าอย่าเอาความรู้สึกของคนที่ไม่ชอบเรามาทำให้เราเป็นทุกข์ เราเอาความรู้สึกดี ๆ จากคนที่รักเรามาสร้างกำลังใจให้เราดีกว่า เพราะคนเหล่านี้นั่นเองที่มีค่าในชีวิตของยุ้ย


เสียใจกับข่าวที่แรง ๆ บ้างไหม?

เสียใจนะ ตรงที่เขาไม่รู้จักเรามากกว่า ถ้ารู้จักเราแล้วเราผิดจริงมาว่าได้เลย ยุ้ยจะยอมรับเลย อยากถามเขาว่าคุณรู้จักยุ้ยดีแล้วเหรอ มาว่ายุ้ยแรง ๆ แบบนี้ได้อย่างไร แต่คิดอีกทีเรื่องร้าย ๆ ในชีวิตที่มันเข้ามาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราเข้มแข็งอยู่กับความเป็นจริงให้ได้ก็พอ


มีโอกาสได้ร่วมงานกับต่างประเทศด้วย?

ยุ้ยได้เล่นภาพยนตร์ของอเมริกา ยุ้ยโชคดีตรงที่ลูกสาวนายทุน เขาชื่นชอบผลงานของยุ้ย ติดตามชมมาตลอด แต่ตอนนี้เขาป่วยอยู่ เป็นเด็กแฝด ร่างกายต้องได้รับการผ่าตัด แต่เขาไม่แข็งแรง คุณหมอที่โน่นบอกว่าวิธีหนึ่งที่ช่วยเด็กได้คือการได้ดูยุ้ยเล่นละคร เขาจะยิ้ม กินข้าวได้ และยอมกินยา คุณแม่ของเขาก็อยากทำอะไรเพื่อลูกสาว เพราะลูกสาวคนนี้รักยุ้ยมาก เรียกยุ้ยเป็นนางฟ้าเป็นเจ้าหญิง เอาเราเป็นแรงบันดาลใจในการรักษาตัวเอง ยุ้ยเลยมีโอกาสได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ ชื่อเรื่องว่า “ไวท์ไทเกอร์” ยุ้ยถือว่ายุ้ยโชคดีที่สุดในชีวิต คุณคาเรนซึ่งเป็นเจ้าของหนังเขาน่ารักและใจดีมาก ฟังเขาเล่าเรื่องของยุ้ยกับลูกสาวเขาแล้วน้ำตาซึมเลย ขนลุกตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่เราอยู่ไกลกันคนละขั้วโลก รู้สึกว่าปีใหม่ปีนี้ยุ้ยโชคดีที่ได้มาถ่ายหนังเรื่องนี้ ได้เจอคนดี ๆ ในชีวิต ได้รู้สึกว่าหนึ่งลมหายใจของยุ้ยมีค่ากับเด็กอีก 2 คนมาก ยุ้ยยังไม่ได้เจอน้องเลยค่ะ แต่ทุกวันที่ถ่ายหนังหรือซ้อมคิวบู๊ ยุ้ยจะถ่ายวิดีโอส่งไปให้เขาดูตลอด ให้เขารู้ว่าพี่ยุ้ยทำเพื่อเขาอยู่นะ เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องทำเพื่อพี่ยุ้ยด้วยการทานยาทานข้าว เข้มแข็ง แล้วก็ผ่าตัด ถ้ามีโอกาสยุ้ยก็จะบินไปที่อเมริกา จะได้เจอกัน


การร่วมงานกับต่างชาติมีความแตกต่างจากของไทยอย่างไร?

แตกต่างตรงภาษาค่ะ เพราะยุ้ยไม่เก่งภาษา แต่เราต้องพยายามเพราะในเรื่องต้องพูดภาษาอังกฤษ นักแสดงส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ ทีมงานบางส่วนเป็นคนไทยบ้าง ต้องทำการบ้านหนัก และค่อนข้างเครียดเหมือนกัน โชคดีตรงที่เขาไม่ได้เรื่องมากเลย ตามใจเราทุกอย่าง ส่วนพระเอกก็น่ารักมาก คอยช่วยเขียนบทให้ยุ้ยพูด เพราะบางคำมันอาจพูดยากไป


รู้สึกอย่างไรที่บางคนไปเมาท์ว่ายุ้ยเล่นหนังเกรดบี?

มันไม่สำคัญเลย เพราะยุ้ยก็ไม่เคยไปคุยว่ายุ้ยได้เล่นหนังฮอลลีวูดอะไรแบบนั้น ยุ้ยพูดแค่ว่าเล่นหนังนอก เป็นหนังของอเมริกา จะเป็นเกรดไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ อย่างเรื่องละคร คนจะต้องมองว่าต้องเป็นละครหลังข่าวเท่านั้น ละครเย็นก็เป็นงานที่ยุ้ยรักเหมือนกัน แถมได้เงินไม่ต่างกัน อาจได้เยอะกว่าด้วยซ้ำ ส่วนหนังเรื่องนี้จะเกรดอะไรไม่สำคัญ แต่ยุ้ยมีความสุขกับมันมาก เพราะไม่ใช่แค่ทำเพื่องานหรือเพื่อเงิน แต่เพื่อลมหายใจของเด็กอีก 2 คนนะ ยุ้ยไม่โกรธที่ใครจะเมาท์ว่าอะไร แค่คิดว่าเขาคงเป็นคนที่ขี้อิจฉา คนที่คิดดีหรือหวังดีจะไม่มาว่าคนอื่นแบบนี้ ซึ่งก็แล้วแต่คนจะมองด้วยค่ะ หนังเขาเน้นขายที่ยุโรปก่อนค่ะ แต่จะได้ฉายที่เมืองไทยหรือเปล่าคงเป็นเรื่องของอนาคต


ตอนนี้เรื่องของหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง?

ตอนนี้มีความสุขดีค่ะ ทุกอย่างเริ่มโอเคขึ้น ยุ้ยกับธันญ์เริ่มมาจากความเป็นเพื่อนกันมาก่อน แล้วเราก็เจอปัญหากันมาเยอะมาก แต่ทุกวันนี้ปัญหาแทบจะไม่มีแล้ว เพราะต่างคนต่างเป็นกำลังใจให้กัน ช่วยเหลือกันยามเราหรือเขาทุกข์ การคบกันไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรพิเศษ ด้วยการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน ด้วยเพศที่ต่างกัน พอมาคบกัน รู้เลยว่าต้องปรับเยอะ ก็พยายามไม่ทำในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ชอบ แต่ก็ไม่ใช่กดดันจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เราไม่เฟคใส่กัน ไปเที่ยวกันบ้าบอ ยุ้ยหลุดแค่ไหนเขาก็เห็น เขาเป็นแบบไหนยุ้ยก็เห็น ไม่ต้องมาสร้างภาพใส่กัน มันก็เลยสบาย ๆ อยู่ด้วยกันแบบเพื่อนมากกว่าค่ะ เขาเป็นคนจริงใจ ยุ้ยไม่ได้ต้องการใครสักคนที่วิเศษมาจากไหน ยุ้ยขอแค่คนที่เวลายุ้ยเหนื่อยหรือท้อ ขอแค่เขามาอยู่ข้าง ๆ มีคำพูดที่ทำให้เรามีความสุขให้เราสบายใจ ไม่มาทับถมให้เราแย่ไปกว่านี้ แค่นี้ยุ้ยก็โอเคแล้ว


มองไกลไปถึงอนาคตไหม?

จริง ๆ แล้วยุ้ยคบกับใคร ยุ้ยมองไปถึงอนาคตเสมอ เพราะอายุก็มากขึ้นทุกวัน ยุ้ยอยากทำให้มันดี แต่อนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคต ปัจจุบันยุ้ยมีความสุขที่สุด อนาคตข้างหน้าอาจจะไม่ใช่ ก็เป็นเรื่องของอนาคต คุยกันว่าเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เราจะเอาปัญหาที่เคยเจอกับความรักครั้งเก่ามาปรับแก้ อะไรที่ไม่ดีเรารู้แล้วว่าไม่ควรทำ ด้วยความรักครั้งเก่ายุ้ยคาดหวังไว้มาก แล้วพอมันไม่ใช่ ความรักครั้งนี้ยุ้ยจึงไม่อยากหวังอะไรเยอะ รู้สึกว่าอะไรที่เรายิ่งหวังมันก็จะยิ่งผิดหวัง พยายามมองโลกในแง่ดีด้วย เพราะยุ้ยโตขึ้น ความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่อยากจะคาดหวังอะไรเขามาก เพราะชีวิตเขาก็เป็นของเขา เรายังเป็นอย่างที่เขาต้องการทุกอย่างไม่ได้เลย


แหม...รุ่งทั้งงาน ทั้งความรักอย่างนี้ แฮปปี้ซะไม่มีนะจ๊ะ.

'ยุ้ย ญาติเยอะ' ท้องโต 5 เดือน หอบผัวเปิดตัวครั้งแรก

ครั้งแรก อดีตนักร้องลูกทุ่งฮอต ยุ้ยญาติเยอะ หรือจริยา ปรีดากูล ควงคู่สามี เล็ก-ชูชาติ ผ่องตระกูล มาเปิดเผยชีวิตรักยาวนานกว่า 14 ปี พร้อมตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว ยืนยันตั้งใจท้องไม่พลาด ชีวิตมีความรักดี


อยู่ด้วยกันมาแล้วกี่ปี? "14 ปีได้แล้ว" วันนี้ทำไมยอมเปิดเผย? ยุ้ย "(ตอบทันที) เพราะหนูไม่ได้ปิดอยู่แล้วค่ะ ทางพี่เขารู้ (รายการวีไอพี) ก็เลยมา ไม่ได้ปิดอยู่แล้ว ก็พอดีอยากบอกแฟนเพลงอยู่แล้ว ไม่ได้หายไปไหนนะ" เล็ก (สามี) "มันนานมาแล้วครับ เปิดซะเลยดีที่สุด" ตั้งใจมีลูก? ยุ้ย "ตั้งใจเลยค่ะ จริงๆ ตั้งใจ น้ำท่วมไม่ได้ออกมาเลย สู้อยู่ที่บ้าน อีกอย่างด้วยอายุด้วยค่ะ มีน้องดีกว่า 34 ปีแล้ว ถ้ามากกว่านี้จะไม่ดีกับน้อง ท้องซะเลยตอนนี้" มาปุ๊บติดปุ๊บ? (ยุ้ย) "ใช่ค่ะ ก็ได้อย่างใจ" เล็ก "อย่าถามนะว่าทำยังไง (ยิ้ม)"


พบรักกันยังไง? "พี่เขาเป็นตลกอยู่ที่วงยุ้ยค่ะ ก็ชอบกันแล้วคบหาดูใจกันมาเรื่อยเลยค่ะ" เล็กชนะใจพ่อยุ้ยได้อย่างไร? เล็ก "ก็ชนะใจได้ พอเข้าบ้านปุ๊บ ทุกอย่างต้องนิ่งหมดเลย แล้วพ่อก็มาดูเรา พ่อดูตัวเราได้ไม่นานก็ป่วย แล้วทีนี้เราก็ดูพ่อแล้วแหละ สืบเนื่องกันมาตลอด พ่อเสีย กับแม่ไม่ปัญหาอยู่แล้ว เข้าใจกันด้วยดี"


หลังจากนั้นยุ้ยกล่าวให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี ว่า จะรับงานเพลงไปถึงเมื่อไหร่? "รับถึงเดือนหน้า 17 เม.ย. อีกอย่างท้องใหญ่แล้ว" ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน "ไม่ได้จดทะเบียน กำลังหาที่จดอยู่ค่ะ เห็นในทีวีอยากจะจดอยากทำอย่างเขา ไม่ได้ยึดถือว่าจะต้องทำ" งานเพลงชุดใหม่ไม่ได้ทำกับโฟร์เอสแล้ว? "อยู่กับโฟร์เอสมาตั้งแต่อายุ 15 ปีแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อีกอย่างทางผู้ใหญ่มีหลายหุ้น มันไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ ชุดใหม่ก็อาจจะซอฟต์ๆ ลงหน่อย แต่เรื่องเต้นยังชอบเต้นอยู่ เดี๋ยวลดหุ่นได้จริงๆ จังๆ ก่อน (ยิ้ม)" ถ้าชุดใหม่ไม่เปรี้ยงเหมือนเก่าแล้ว? "ไม่มีความกังวลค่ะ ไม่เปรี้ยงก็ไม่เป็นไร เราเปรี้ยงไปแล้ว (ยิ้ม) ไม่ต้องหลายรอบขนาดนั้นก็ได้ มันดูจะเป็นคนพิเศษไป (ยิ้ม) เรามีแฟนเพลงอยู่ค่ะ มันไม่น่ายาก ไม่กังวลใจ มันเป็นสิ่งท้าทายมากกว่า มันเป็นเรื่องใหม่ๆ ที่เราอยากทำ" ชีวิตรักมีความสุขดี? "มีความสุขดีค่ะ".