Inside Dara
“แม็กกี้ อาภา” หาแฟน ขอคนดีต่อใจ

ถึงจะเป็น “นางเอก” แต่ก็ร้ายใช่ย่อย แม็กกี้-อาภา ภาวิไล นางเอกสาวมากความสามารถจากละคร “หนี้เกียรติยศ” ทางช่อง 7HD ของผู้จัดฯ ยุ้ย–จีรนันท์ และ ธันน์–ธนากร ค่ายสตาร์เฟรม แถมพ่วงตำแหน่ง “เจ๊ดัน” พระเอกหน้าใหม่ รวมถึง โอ๊ต–รัฐธีร์ พระเอกดาวรุ่งไปพร้อมกัน

ลุกขึ้นมาแซ่บ!! สาวแม็กกี้ มาเยือน “มาลัยไทยรัฐ” อีกครั้ง!! พร้อมแฟชั่นสวยหรูดูแพงจากแบรนด์ดัง ทั้ง Flat2112, Larobe8, Tinyyystyle และ Bythian Thailand แต่งหน้าโดยพีระนันท์ ตันนารัตน์ ไอจี first_make_up และช่างผม : เกษม คนซื่อ ไอจี : zam_zsmbe เนรมิตความสวยปิ๊ง ถึงแม้จะเพิ่งฟื้นไข้จากอาการป่วย “งูสวัด” รุมรัก แต่สปิริตแรง ใจเกินร้อย พร้อมโพสท่าลุคแซ่บๆให้ช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต ถ่ายทอดความสวย หวาน เผ็ดแซ่บแบบไม่ห่วงม่านชัตเตอร์จะเออร์เรอร์!! ณ สถานที่ Slole Cafe & Garden โชคชัย 4 ซอย 52/1 ย่านลาดพร้าว

กับละครเรื่องราวเดินทางมาเกือบถึงโค้งสุดท้าย กำลังสนุกเข้มข้นที่แฟนๆรอลุ้นบทสรุปจะจบยังไง?!! แม็กกี้เล่าให้ฟังว่า “เรื่องนี้ต้องบอกว่าดราม่ามากๆค่ะ ตั้งแต่อ่านบทตอนแรกก็รู้สึกเลยว่าทำไมชีวิตของตัวนางเอกมันถาโถมขนาดนี้ เปิดเรื่องมาพ่อเสียชีวิต บ้านก็ล้ม ละลาย คุณแม่ก็ป่วย เราต้องดูแล มีน้องสาวก็เฟียสๆแบบไม่ยอมรับและเข้าใจกับภาวะที่เกิดขึ้น บ้านต้องติดหนี้ และเราคือเสาหลักของบ้านที่ต้องดูแลทั้งหมด แถมแฟนก็ทิ้งเพราะครอบครัวเขารับไม่ได้ที่บ้านเรากำลังจะล้มละลาย คือถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงของคนคนนึงต้องบอกว่ามันหนักมากๆ ทำให้แม็กกี้รู้สึกว่าบทของตัวละครปานตะวันที่เล่นมันท้าทายมากๆ หนักมากๆ คือเขาต้องสร้างภาพออกมาให้ทุกคนเห็นว่าเขาแข็งแรงพอที่จะเป็นเสาหลักของบ้านได้ ทั้งที่จริงๆข้างในเราอ่อนแอมากเหลือเกิน จนมาได้เจอกับพระเอก ซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณพ่อที่เจอมาตั้งแต่เด็ก เขาเข้ามาดูแลทุกอย่างดูเหมือนจะแฮปปี้ แต่ท้ายที่สุดก็มีเหตุให้พลิกชีวิตอีกครั้ง ซึ่งมันหนักมากนะสำหรับชีวิตของผู้หญิงคนนึงในความรู้สึกของแม็กกี้”

ขึ้นแท่น “นางเอกดราม่า”!! ถ่ายทอดชีวิตสุดรันทด แม็กกี้ตีบทได้แตกกระจุยจนแฟนๆน้ำตาร่วงด้วยความสงสาร ทำมั้ยทำไมชีวิตถึงเจอแต่เรื่องแย่ๆไม่จบไม่สิ้น

สาวแม็กกี้ เผยว่า “ไม่ถึงกับถนัดสายดราม่าหรอกค่ะ จริงๆก็อยากเล่นทุกบท อย่างคอมเมดี้ก็อยากเล่น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เล่น (ยิ้ม) คือส่วนตัวแม็กกี้ชอบที่จะเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวละครไปเรื่อยๆด้วยอยู่แล้วส่วนหนึ่ง แบบเดี๋ยวมีบู๊ แอ็กชัน หรือดราม่าคอมเมดี้เลยก็มี อย่างตอนนี้กำลังถ่ายทำเรื่องตุ๊กตาอยู่ ก็จะเป็นแนวผีๆหน่อย คิดว่าการที่เราได้เล่นทุกแบบ แบบนี้มันดีนะคะ คือวนๆไป ครบทุกแบบเลย แต่ถ้าถามว่าส่วนตัวชอบเล่นละครแนวไหน คงต้องบอกว่าดราม่าคอมเมดี้ค่ะ แม็กกี้ว่ามันดูแตกต่างกัน แต่มันสนุก มันยากนะแต่แม็กกี้ชอบ คืออย่างซีนที่เรากำลังร้องไห้อยู่หนักมาก แต่คนดูเขารู้สึกตลก หัวเราะไปกับฉากนี้ แบบนี้แม็กกี้ว่ามันท้าทายดีค่ะ”

กับฉายา “เจ๊ดัน” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย!! แต่เป็นเพราะช่อง 7 มักให้เธอได้ประกบพระเอกดาวรุ่งมานักต่อนัก แถมแม็กกี้ไม่ทำให้ผิดหวัง ...เรียกว่าพระเอกน้องใหม่คนไหนผ่านการ “เจิม”จาก เจ๊แม็กกี้ เอ๊ย ร่วมงาน รับรองเกิดและปังทุกรายสิน่า!! จนทุกคนพ้องใจเรียกขาน “เจ๊ดัน” มือหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ต้องบอกว่าเราได้รับโอกาสที่ดีมากๆ มาตลอดมากกว่า ซึ่งละครหลายเรื่องที่เราเล่นจะได้เจอกับพระเอกใหม่อยู่บ่อยๆ ส่วนตัวก็มองว่าเป็นข้อดีนะคะ ทำให้เราสามารถร่วมงานกับทุกๆ คนได้โดยไม่ยึดติดว่าจะต้องร่วมงานกับพระเอกคนเดียวตลอด อย่างเรื่องหนี้เกียรติยศที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ ก็ได้ร่วมงานกับโอ๊ต-รัฐธีร์ ซึ่งมีโอกาสได้เจอกันในงานละครมาก่อนหน้านี้แล้วนะคะ โอ๊ตเป็นคนเก่งค่ะ เขาก็ปรับตัวและพัฒนาเรื่องการแสดงไวมากๆ การทำงานร่วมกันเลยไม่ใช่แบบหน้าใหม่ซะเลยทีเดียวค่ะ”

วกมาเรื่องสุขภาพของแม็กกี้-อาภา ปีนี้ถือว่าหนักที่สุดแล้วก็ว่าได้ กับโรคงูสวัดที่เพ่นพ่านผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้แฟนๆตกอกตกใจไปตามๆกันด้วยความเป็นห่วงแต่โชคดีที่ผ่านมาได้ “จริงๆถือว่าหนักในรอบหลายๆปีเลยค่ะ เพราะตัวแม็กกี้เป็นคนสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองพอสมควรมาตลอด ไม่ได้เจ็บป่วยมาหลายปีมากๆ ครั้งนี้คือสิ่งที่เราไม่คาดคิดว่ามันจะเกิด คือมันก็เกิดขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นแค่เป็นแผลเล็กๆ ไม่ได้พุพอง แต่มันเล่นงานเราข้างในคือทำลายระบบอื่นๆเข้าไปถึงสมอง ตอนแรกตกใจมากเพราะเราก็ไม่คิดว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ เป็นโอกาสที่ดีที่ให้เราได้หันกลับมาดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นอีก พร้อมลุยงานต่อค่ะ” ว่าแต่ไม่หาคนมาช่วยดูแลสักที “ถ้าถึงจังหวะก็คงจะมีนะคะ (หัวเราะ) แม็กกี้ว่าของแบบนี้ขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะเวลา” ส่วนหนึ่งเพราะแม็กกี้อยู่กับคุณแม่ตลอดเวลา “ไม่แน่ใจว่าคนนอกจะคิดแบบนั้นหรือเปล่า แต่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจตรงกันว่า คุณแม่จะหวงแม็กกี้มาก เหมือนถ้าเข้ามาจะต้องผ่านคุณแม่ก่อน แต่ความจริง ตอนนี้เราก็โตเต็มที่แล้ว ไม่ได้ปิดกั้น แม็กกี้ว่าทุกอย่างคงเป็นตามจังหวะของช่วงโอกาสมากกว่า ถ้ามีโอกาสได้เจอก็คงจะได้เห็นกัน” ไม่มีจังหวะมากี่ปีแล้วค่ะ “(หัวเราะ) เดี๋ยวจะหาจังหวะให้ตัวเองแล้วค่ะ” เคยด้วยเหรอ “คือปล่อยไปเรื่อยๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ของเราด้วยมั้งคะที่ชอบทำงาน พอเราชอบทำงานมันก็เลยยากที่จะมีจังหวะ โอกาสดีๆ ที่จะได้เจอคนอื่นๆ อาจจะต้องรอเวลาอีกนิดให้เราชิลกว่านี้มั้งคะ เพราะตอนนี้อยู่กับงานเราก็โฟกัสที่งาน มีเวลาว่างเราก็ไปเที่ยวกับเพื่อน เราก็โฟกัสที่เพื่อนๆ และที่ที่เราไปเที่ยว ทุกอย่างมันคงอยู่ที่จังหวะจริงๆ”

เพื่อนๆไม่แนะนำหนุ่มๆ บ้างเหรอ “จริงๆ มันขึ้นอยู่ที่เรามากกว่า อยู่ที่เราคลิกหรือไม่คลิก กับสเปกก็เปลี่ยนตลอด เปลี่ยนทุกปีเลยตามเทรนด์ (หัวเราะ) อย่างตอนแรกเคยชอบฟีลฝรั่ง ลูกครึ่ง ชอบคนหล่อๆ แต่พอเราโตขึ้น ระยะเวลาเพิ่มขึ้น เราก็คิดว่าคนที่ดีต่อใจ เข้าใจเรา พูดรู้เรื่องก็น่าจะเพียงพอแล้ว” ถามกันตรงๆคุณแม่เคยตั้งกฎไหมผู้ชายแบบไหนแม็กกี้ห้ามคุย “แม็กกี้ว่าคนเป็นแม่พูดทุกคนอยู่แล้วนะคะ คือคนเป็นแม่ก็รักลูกทุกคน อยากให้ลูกได้ดี แต่แม็กกี้ก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วถ้าลูกรักใคร แม่ก็คงรักด้วย ส่วนคุณแม่แม็กกี้ก็จะมีแค่เรื่องคนที่จะเข้ามาต้องเข้าใจเรื่องหน้าที่การงานของเรานะ เพราะงานที่เราทำอยู่แตกต่างจากคนอื่นในเรื่องของเวลา เพราะฉะนั้นถ้าคนเข้ามาเขาไม่เข้าใจตรงนี้ก็คงจะลำบาก อาจจะทะเลาะกัน ซึ่ง ถ้าเขาเข้าใจก็น่าจะโอเคนะคะ”.

สถานที่: Slole Cafe & Garden