Inside Dara
"คริส หอวัง" กับบทบาทสุดท้าทาย เล่นแล้วสะใจ ใน "ชีวิตภาค 2"

พิสูจน์ความท้าทายอีกครั้ง นักแสดงสาวมากฝีมือตัวแซ่บตัวแม่ “คริส หอวัง” เติมความเข้มข้นให้ชีวิตการแสดง รับบทร้ายลึก ร้ายเว่อร์ แสดงนำในละคร “ชีวิตภาคสอง” ทางช่องวัน 31 งัดสกิลการปะฉะดะออกมาฟาดกัน มันส์กันทั้งเรื่อง คริส ต้องปะทะกับศึกรอบด้าน และต้องมาเชือดเฉือนกับเหล่ายอดฝีมือ อาทิ อาตู่-นพพล โกมารชุน และ ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล รวมทั้ง เบญ-เรวิญานันท์, ปลื้ม-ธยศทรณ์, ป่าน-คมกฤษณ์, ตุ๊ก-ดวงตา, จ๊ะจ๋า-พริมรตา, ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า ฯลฯ

“คริส” รับบท “รตา” สาวแซ่บที่แต่งงานกับ ปรเมศ (อาตู่-นพพล) หนุ่มใหญ่วัยคุณพ่อ เธอจึงกลายมาเป็นแม่เลี้ยงสุดแซ่บของ ปิ่น (บิ๊นท์-สิรีธร) ซึ่ง ปรเมศ โรคหัวใจกำเริบ จังหวะเดียวกับที่ สอง (ก๊อต) ชายหนุ่มที่มีชีวิตหาเช้ากินค่ำ ก็เกิดโรคหัวใจกำเริบอาการโคม่าพร้อมกัน ปรเมศ เสียชีวิตแต่วิญญาณของ ปรเมศ มาใช้ชีวิตอยู่ในร่างของ สอง และกลับมาอีกครั้ง

“คริส หอวัง” เผยถึงบทบาทนี้ว่า “เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นละครของคนสมัยใหม่ ไม่มีใครดีหรือชั่วร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเดี๋ยวนี้คนดูเก่ง มันทำให้นักแสดงเองสนุก รตาเป็นคนเผ็ด แสบ เอาจริง สู้ กล้าคิดกล้าทำ เรื่องนี้ความสนุกตรงที่ทุกคนคิดว่าตัวเองฉลาดที่สุดเรื่องมันเลยพลิกไปพลิกมา และทุกคนมีแผน เล่นแล้วมันส์สะใจมากเพราะเป็นเรื่องที่มันไกลจากตัว เป็นการฟาดฟัน สืบสวน ให้คนดูตามหาและเลือกว่าจะอยู่ฝั่งไหน ใครเป็นคนฆ่าปรเมศ คนเล่นเองก็สะใจเพราะปล่อยของไปได้สุด

การทำงานเรื่องนี้สนุกตรงที่นักแสดงในเรื่องเรียนรู้มาจากทุกทิศทาง เราเติบโตกันมาคนละกอง คนละที่ พอเรามาเจอกัน ผู้กำกับให้อิสระกับเรา เรากับนักแสดงอีกคนต้องทำการบ้านมาอย่างดีเพราะมันอาจจะมีการอิมโพรไวส์ใส่กัน เช่น ก๊อตไม่รู้ว่าคริสจะทำอะไร คริสก็ไม่รู้ว่าก๊อตจะเล่นอะไร เวลาเจอคนเก่งๆแล้วเราสะใจ เหมือนการตีเทนนิสโต้ไปมา

ความเป็นนักแสดงเจ้าบทบาท คริส เลือกบทบาทที่ใช่ ยากหรือไม่ คริส เผยว่า “กับเรื่องนี้เข้าตอนนั้นมาตอนเพิ่งจบเรื่องรากแก้ว ซึ่งเรื่องนั้นเป็นดราม่าที่กดอารมณ์เข้าไปข้างในมาก เกือบเป็นซึมเศร้าแล้วมั้ง คริสเลยบอกพี่หวานเจี๊ยบ ผู้จัดการ ว่าเราพักบทดราม่ากันก่อนนะ แล้วเค้าก็ส่งเรื่องนี้มา บอกว่าลองอ่านก่อน เรื่องนี้น่าสนใจ เราบอกว่าไม่เอาๆๆ พอมาอ่านทรีตเมนต์ อุ๊ย เป็นเมียอาตู่ ใครเล่นบ้าง ก๊อต ต่อจากนั้นก็มีป่าน เบญ แม่ตุ๊ก พี่ต๊งเหน่ง เยอะมาก รับเลย ซึ่งพอเข้ามาเล่นจริงๆ มันดราม่าคนละแบบกันอย่างรากแก้ว อันนั้นมันกดเข้าไปในความรู้สึก แต่อันนี้เป็นดราม่าที่เอาออกมาข้างนอก แบบ แกเป็นอย่างนั้นกับฉันใช่มั้ย ได้ งั้นฉันจะทำอย่างนี้ มันสะใจค่ะ ความท้าทายในเส้นทางการแสดงมีเรื่อยๆ มันสนุกดีนะคะ อะไรง่ายๆไม่เคยมาถึงเราจริงๆ”

ยิ่งอยู่มานาน งานยิ่งแซ่บทุกด้าน คริส เผยว่า มันก็คงเข้มข้นสะใจ ต้นปีที่แล้วที่เปิดตัวว่าเราเป็นผู้บริหารค่ายเพลง “2 FLOW” (ทูโฟลว์) วันที่ข่าวออกมาเยอะๆ เรารู้สึกเหมือนที่คั่นหนังสือที่บอกว่าชีวิตเรามันเปลี่ยนไปอีกหน้าหนังสือแล้ว ซึ่งปีหน้าก็น่าจะมีโปรเจกต์ใหม่ๆอีก

เรื่องค่ายเพลง คริส เข้ามาควบคุมการผลิตเองทุกขั้นตอน เล่าว่า “ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำค่ายเพลง แต่เป็นความสนุกท้าทายจริงๆ มันเป็นทุกอย่างที่เป็นส่วนผสมของคริสมารวมกัน เหมือนตั้งแต่เด็กจนโตเค้าใส่สิ่งเหล่านี้มาให้ในร่างคริส เคยเป็นครู เป็นดีเจ นักแสดง เป็นคนชอบจัดแจง รักแพสชัน เอาทั้งหมดมารวมกัน และฟ้าก็ส่งมาบอกว่ายูทำค่ายเพลงมั้ย เหมือนต้องงัดเอาทุกอย่างที่มี ทั้งครู ดีเจ ทำโปรดักชัน งัดทุกพาร์ตที่คนอื่นเคยให้ประสบ การณ์มาและต้องเรียนรู้เพิ่มอีก เพราะในอุตสาห กรรมเพลงมี รายละเอียดเยอะแล้วมีแต่คนเก่งๆ พอเป็นเราต้องส่งเด็กขึ้นเวทีมันต้องดีตั้งแต่แรก

ณ วันนี้ผ่านมา 1 ปี กับการทำค่ายเพลงยังสนุก คริสว่าค่ายเพลงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ตอนนี้มี 2 ศิลปิน เค้าอาจจะต้องโรยแฟนคลับในทุกงานที่ไป เพราะมันไม่มีบันไดพิเศษ ทุกคนต้องเริ่มจากจุดแรกขึ้นไป ส่วนเพลงจะดังหรือไม่ดังเราไม่รู้จริงๆทำเพลงที่เราชอบ หวังให้เพลงนั้นมีคนหมู่มากขึ้นให้การสนับสนุน คริสลงไปทำเองหมด น้องๆช่วยกันทำเพลง คริสจะเริ่มตั้งแต่งานครีเอทีฟ คีย์วิชวล โลโก้เพลง โปรดักชัน ออนไลน์คอนเทนต์ ปีต่อไปเป็นการสร้างทีมให้แข็งแกร่งขึ้น”

ชีวิต “งาน” เข้มข้นแล้วชีวิต “รัก” เข้มข้นแค่ไหน “คริส” เปิดใจเติบโตถึงวันนี้ เจอความรักมาหลายภาค ผ่านหลายเรื่องราวที่ทำให้วันนี้เติบโต “คริส” เล่าว่า “ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา คริสก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆทางความคิดนะ และมันก็ตามอายุด้วย ตอนนี้กลับมาคิดว่าเราอยู่กับใครก็ได้ ทำอะไรกับใครก็ได้ เพราะไม่ว่าใครจะเข้ามาออกไป ชีวิตเรามันต้องเหมือนเดิม อย่าเอาความสุขไปแขวนไว้กับใครเยอะมาก พอคิดได้อย่างนั้นใครก็ได้ที่เข้ามาแล้วทำให้เรามีความสุข อยู่แบบมีไลฟ์สไตล์คล้ายกันก็พอแล้ว มันไม่ซีเรียสแล้ว”

คริส เล่าต่อ “สมัยก่อนสัก 10 ปีที่แล้ว มันก็มีความคาดหวังว่าจะแต่งงาน มีลูกอายุเท่านี้ๆ พอมันเลยเวลามา เราไม่ได้อยากมีลูกแล้ว พอไม่ได้คิดเรื่องมีลูก เรื่องแต่งงานก็เลยไม่ใช่เรื่องที่จำเป็น พอไม่จำเป็น นั่นแปลว่าเราแค่อยากมีเพื่อนที่อยู่เคียงข้างเรา เหนื่อยก็ปรึกษากัน ไปหาอะไรอร่อยๆกิน เราทำให้เค้ามีความสุข เค้าทำให้เรามีความสุขก็อยู่กันไปเรื่อยๆ แต่วันไหนที่เราทำให้เค้าไม่มีความสุขโดยที่เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ก็แยกกันได้เลย เราก็เสียใจนะถ้าเค้าไป แต่เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะบังคับใครเพื่อให้เปลี่ยนแปลงเพื่อเราอีกแล้ว มุมมองความรักตอนเด็กกับตอนนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิงมาก จริงๆคริสอยากมีความรักตลอดเวลาเลยนะ ชีวิตสดใสเพราะมีความรัก ตอนนี้ก็ดีค่ะ หัวใจไม่มีเหงา”

หลายคนเชียร์อยากให้คริสมีรักที่ดี? “จริงๆก็สมหวังนะ บางครั้งก็อยากขอบคุณบนฟ้า พอโตมากๆเรามองย้อนไป แฟนเก่ายังเป็นเพื่อนกันได้ ทุกคนมาในช่วงเวลาที่จัดสรรเข้ากับชีวิตตอนนั้นจริงๆในแต่ละช่วงชีวิต รักในตอนนี้มันไม่มีอะไรต้องหวือหวาแล้ว ไม่ต้องเปิดตัวมีรูปคู่หวานๆ เพราะเราไม่รู้ว่าวันไหนที่เราทำให้เค้าไม่มีความสุขรึเปล่า ถ้าต้องไปเปิดวาร์ปเค้า ครอบครัวเค้าเราก็สงสาร แต่เราก็ใช้ชีวิตปกตินะ ไปไหนคนรอบตัวก็ได้เจอ”.

เสื้อผ้า : @canitt_official

ช่างภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต