Inside Dara
“ฟาง” ศรัทธารักแท้เชื่อมั่นในพรหมลิขิต

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีงานให้ดูไม่ขาด สำหรับสาว ฟาง-พิชญา เชาวลิต ที่ล่าสุดเจ้าตัวเผยมุมมองการทำงานบนเส้นทางบันเทิงกว่า 8 ปี ว่าขอเต็มที่ทุกบทบาทไม่ว่าจะเด่นหรือไม่ รวมทั้งยังเผยถึงเรื่องความรัก ที่เพิ่งอวสานกับแฟนหนุ่ม เอเอ-พีรวิชร์ เหราบัตย์ แบบหมาด ๆ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าสาว ชาม-ไอยวริญทร์ โอสถานนท์ เป็นมือที่สามด้วย

ถามถึงฟีดแบ็กเรื่อง “บ่วงวันวาร” หน่อยเป็นยังไงบ้าง?

“ฟีดแบ็กดีมากเลยค่ะ บอกว่าบางฉากก็มีการพัฒนาฝีมือ แต่คำติก็มีบ้างว่าเรายังเล่นไม่ถึง ต้องทำการบ้านมากขึ้น ส่วนตัวฟางก็พอใจในฝีมือการแสดงตัวเองระดับนึงนะ แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่อีกหลายจุด คือฟางเป็นคนแรงน้อย และวันนึงก็ถ่ายหลายซีน คือที่เราเล่นเอง จะรู้ว่าเราเล่นได้เต็มที่เพียงแป๊บนึง เราก็เลยต้องผ่อนหนักผ่อนเบาบ้างค่ะ”

เริ่มต้นจากการเป็นนางเอก แต่ระยะหลังมักได้รับบทรองหรือไม่ก็เป็นนางร้าย?

“ฟางไม่ซีเรียสค่ะ จริง ๆ มันเป็นปกติของมนุษย์ทุกอาชีพ คือถ้าเรามองในเรื่องของค่านิยมที่ว่าเราต้องเป็นนางเอก มันจะทำให้เราอยู่ไม่ได้ แต่ฟางเป็นคนไม่แคร์เรื่องนางเอก ต่อให้เรารับเชิญแค่ตอนเดียวก็ดีใจแล้ว เพราะฟางถือว่าทุกโอกาสที่ฟางได้รับมันเป็นบทเรียน เลยไม่ได้คิดว่าเราต้องเป็นนางเอกหรือนางร้ายนัมเบอร์วัน เพียงแค่ว่าในแต่ละบทบาทมันจะมีเสน่ห์ในตัวมันเอง ความท้าทายของฟางก็คือเมื่อไหร่ที่เราได้รับบทที่น้อยในเรื่อง การบ้านคือว่าเราจะเล่นยังไงให้คนดูเห็นเราแล้วประทับใจ แม้ว่าจะออกมาหนึ่งฉากแต่คนดูก็จำได้ว่าเรามีส่วนกับละครเรื่องนี้ บางเรื่องฟางแค่รับเชิญด้วยซ้ำ คือถ้าบทเราเด่นอยู่แล้วยังไงก็เด่น แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้บทไม่เด่น เราจะทำให้คนรู้ว่าตัวละครนี้ก็มีบทบาทสำคัญในช่วงนึงของละครเรื่องนั้นค่ะ”

อยู่วงการบันเทิงมา 8 ปี ได้อะไรจากการทำงานบนเส้นทางนี้?

“เป็นโอกาสที่ดีมาก ทุกวันนี้ก็รู้สึกขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ไม่ได้ทิ้งเราไป ฉะนั้นทุกโอกาสที่ฟางได้มา ฟางต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบทเล็กหรือใหญ่ หรือบางงานเราจะไม่ได้ค่าตอบแทนเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็ถือว่ามันเป็นจุดนึงในการพัฒนาตัวเอง เพราะในวงการนี้ยิ่งอายุมาก โอกาสก็จะน้อยลงไปเรื่อย ๆ เวลาของฟางจะเป็นการนับถอยหลัง ดังนั้นฟางต้องเก็บเกี่ยวตรงนี้ให้มากที่สุด ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ฟางยึดถือมากที่สุดก็คือจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อว่าวันนึงที่เราไม่ได้ยืนตรงนี้แล้ว หันกลับไปมองเราจะได้ไม่ต้องเสียใจว่าทำไมวันนั้นเราไม่ทำให้ดีกว่านี้”

เป็นอีกหนึ่งคนที่มีข่าวคราวมาตลอด ข่าวไหนที่มันบั่นทอนจิตใจเราที่สุด?

“คงเป็นเรื่องความรักมั้งคะ เพราะชีวิตฟางอยู่ได้ด้วยความรักเป็นอันดับหนึ่ง จริง ๆ ฟางเป็นคนรักแรงเกลียดแรงนะ คนไหนรักก็รักเลย ฟางจะอยู่ข้างเขาเสมอ แต่คนที่ฟางเกลียด ฟางก็จะบอกเลยว่าฟางเกลียดคนนี้ ถ้าใครมาพูดถึงคนที่เราไม่ชอบก็จะบอกเลยว่า หนูไม่พูดถึงคนนี้ เราพยายามตรงกับความรู้สึกตัวเองด้วย ฉะนั้นเวลาเจอข่าวที่มันกระทบกับคนที่ฟางรักจริง ๆ ฟางก็จะเฮิร์ท ไม่ว่าจะเป็นคนรักหรือครอบครัว แต่ถ้าเป็นข่าวมีคนว่าฟาง เช่น เมื่อก่อนบอกว่าเราเป็นสตรอเบอรี่หรืออะไร ฟางไม่แคร์เลย เพราะถ้าเราเก็บทุกความคิด ไปตามข่าว เราจะไม่สบายใจเองค่ะ”

สถานะหัวใจตอนนี้เป็นยังไง?

“ตอนนี้ถือว่าโสดนะคะ ฟางไม่ได้มีอคติกับความรัก ฟางดำเนินชีวิตอยู่ได้เพราะมีรักนำทางอยู่ อะไรที่ผิดหวังเราก็ผิดหวังไป แต่อะไรที่ให้อภัยได้เราก็ให้อภัย ฟางถือว่าทุกครั้งที่ผิดหวังเรื่องความรักมันก็เป็นอีกก้าวที่ทำให้ฟางได้โตขึ้น ได้มองโลกอีกมุมนึงค่ะ”

จริง ๆ สาเหตุการเลิกรากันครั้งนี้ สำหรับฟางมันเกิดจากอะไร เพราะมีข่าวว่าชามเป็นมือที่สาม?

“จริง ๆ ฟางมองว่ามันมีส่วนหมดทุกเรื่อง ทั้งตัวเราเองและคนอื่น ไม่ใช่แค่มันมีบุคคลที่สาม เข้ามามันถึงจะจบ มันรวมหลายองค์ประกอบ ในรายละเอียดฟางว่ามันเป็นอะไรที่เป็นเรื่องเซ้นซิทีฟ คือปัญหามันเกิดมาสักพักนึงแล้ว เราก็พยายามปรับความเข้าใจกัน แต่พอมันจูนไม่ติดเราก็ขอพักก่อน ในช่วงพักนั้นถ้ามีคนอื่นเข้ามา ก็อาจจะทำให้ยากแก่การปรับความเข้าใจ ฉะนั้นถ้าสมมุติช่วงที่เราพักกันอีกฝ่ายมีมือที่ไม่ใช่แค่สาม แต่อาจจะมีมือที่สี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบ ก็อาจจะทำให้การกลับมาคุยกันยากกว่าเดิม แต่ทั้งหมดมันก็อยู่ที่ว่าเราจะให้อภัยได้มั้ยในอนาคตเท่านั้น”

เอเอยืนยันว่าชามไม่ใช่มือที่สาม เราได้มีถามเขาตรง ๆ มั้ย?

“ก็ถามนะคะ ฟางคิดว่าใครจะตอบใช่หรือไม่ใช่ ฟางไม่สนใจ ฟางถือว่าทุกคนรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ถูกพาดพิงหรือไม่ได้ถูกพาดพิงในข่าว อันนี้เขาก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าใครทำอะไรตรงไหน ฟางก็คงไม่จำเป็นมานั่งประกาศว่าใครเป็นมือที่สาม หรือไม่ใช่ พี่เอตอบอะไรเขาก็รู้อยู่แก่ใจ ฟางตอบอะไรฟางก็รู้อยู่แก่ใจ หรือบุคคลอื่นที่โดนพาดพิงเขาก็รู้ว่าความจริงเป็นอะไร แต่เราก็เข้าใจว่าเรื่องส่วนตัว เราก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ค่ะ”

เสียดายกับความสัมพันธ์ครั้งนี้มั้ย?

“ไม่เสียใจค่ะ เพราะตลอดเวลาที่มันโอเคมันก็ดี มันก็มีทั้งสุขทั้งทุกข์ปนกันไป และทุกครั้งที่ฟางเลือกคบใคร ก็จะเลือกอย่างดี ฉะนั้นฟางก็รู้สึกว่าเลือกแล้วที่จะคบ ดังนั้นพอเกิดเหตุการณ์ขึ้น เวลาเปลี่ยน อะไรของคนมันก็ไม่เที่ยง ฟางไม่ได้โกรธ ไม่เสียใจ ไม่เสียดายเวลา เพราะทุกอย่างทำให้ฟางโตขึ้น คุ้มค่าที่ได้ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งกับผู้ชายคนนี้ มีความรู้สึกว่าเรามีเมมโมรี่ดี ๆ ซึ่งฟางก็จะเก็บทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีไว้ เพราะเรื่องที่ไม่ดี ไหน ๆ มันเสียความรู้สึกไปแล้ว ฟางก็คิดว่าเราต้องได้อะไรตอบแทนกลับมาในความเสียใจอันนั้น ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นว่าเราเสียไปโดยเปล่า คือเมื่อไหร่ที่เราเสียใจร้องไห้ ทุกเรื่องก็ยังอยู่ในหัว ฟางเป็นคนจำเก่ง ก็จะจำหมด ฉะนั้นฟางก็เลยเป็นคนที่ค่อนข้างจะระวัง เรื่องดีเราก็จำไว้ว่าความสุขเป็นอย่างนี้ แต่วันหนึ่งก็ต้องเตรียมพร้อมรับกับความทุกข์เหมือนกัน แต่พอเจอความทุกข์แล้ว ก็จะรู้สึกว่าความทุกข์เป็นอย่างนี้ และเดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไปแล้วเราก็จะเจอกับความสุข มันก็จะเป็นบทเรียนให้ฟาง”

คิดว่าเหตุการณ์ความรักครั้งนี้ให้อะไรกับฟางที่สุด?

“หนึ่งเลยคือเรื่องอารมณ์ เราต้องใจเย็นกว่านี้ สองเป็นเรื่องการให้อภัย ครั้งนี้เรียกว่าสอนให้ฟางให้อภัยเยอะที่สุด ทั้งกับคนที่เขาตั้งใจทำร้ายเรา และก็ต้องให้อภัยกับสิ่งที่เราไปทำร้ายคนอื่นเหมือนกัน พูดตรง ๆ เราก็ไม่ใช่นางเอกแสนดี มีมุมไม่ดีเหมือนกันที่ทำลงไปให้ใครหลายคนเจ็บช้ำน้ำใจ หรือเสียใจกับการตอบคำถามบางอย่างที่ตรง ๆ ของเรา ก็มีคนรับไม่ได้บ้าง ฟางก็ต้องขออโหสิกรรมด้วย บทเรียนนี้มันเป็นความรักที่ฟางชอบนะคะ มันสนุกและก็ได้รู้จักคำว่าอโหสิกรรมจริง ๆ และการเลิกครั้งนี้ อย่างน้อยเราก็ยังมีแฟน ๆ คอยให้กำลังใจ เวลาที่เราเจอเรื่องร้าย ๆ ฟางจะมองเห็นว่ามีน้อง ๆ แฟนคลับมาเขียนให้กำลังใจ คือฟางไม่ได้ตอบแต่ฟางก็อ่าน เราก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเรามีตัวตน มันทำให้ฟางหันกลับมามองเห็นครอบครัว แม่ก็พูดว่าเวลาที่ลูกมีความสุขออกไปก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ที่ลูกมีความทุกข์ที่ตรงนี้ยังเป็นกำแพงที่รองรับฟางเสมอ มันเลยรู้สึกว่าครั้งนี้มันอาจจะเสียคนที่ฟางรักไปคนหนึ่ง แต่ได้คนอีกมากมายกลับเข้ามาในชีวิตฟาง ก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้เสียอะไร ฟางไม่ท้อ ไม่เข็ดความรักเลย พร้อมจะเริ่มต้นใหม่และพร้อมจะเริ่มต้นแบบดี ๆ ด้วย ไม่ทำร้ายตัวเอง ก็พร้อมที่จะให้อภัยพี่เอและหลาย ๆ คนในอดีต เพราะในอนาคตเราก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้”

ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้มุมมองต่อความรักเปลี่ยนไปเยอะมั้ย?

“เปลี่ยนไปเยอะมาก ๆ เลยค่ะ คือสำคัญที่สุดที่ฟางได้ก็คือคำว่าให้อภัย ที่เพิ่งมาเข้าใจตอนนี้เลยว่า ให้อภัยจริง ๆ มันเป็นยังไง เพราะตอนเกิดเรื่อง มันยากที่เราจะให้อภัย ในใจมันจะมีอารมณ์ปรี๊ดปร๊าด หลังฉากเราสุดยอดเลย ฟางโชคดีที่มีคุณแม่ ที่บอกว่าเราเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสดีกว่า ดูสิว่าเราได้อะไรจากเรื่องนี้ การเจ็บช้ำน้ำใจไม่ได้แปลว่าเราเสีย ถ้าดูให้ดีจะเห็นว่าเรามีอะไรบางอย่างกลับมา ฟางอยู่กับตัวเองนานมาก ฟางคิดว่าการเลิกครั้งนี้ฟางแทบไม่เสียอะไรเลย คือเราต้องแลกค่ะ ได้อะไรมาก็ต้องเสียอะไรไป แต่เสียอะไรเราก็ต้องได้สักอันหนึ่งมา อยู่ที่ว่าเราเห็นรึเปล่าว่าเราได้อะไร คือถ้าเรามานั่งคิดว่าทำไมมาทำกับฉันแบบนี้ ฉันไม่เคยทำอะไรเลย ฉันเกลียดแก ฉันจะทำกลับบ้าง มันก็เหมือนเป็นเจ้ากรรมนายเวรไม่มีที่สิ้นสุด ก็มานั่งมองว่าเขาทำเราเหรอ ถ้าเขาทำแล้วมีความสุขก็ทำไป ฟางคิดว่าฟางเปลี่ยนใครไม่ได้ เปลี่ยนได้แค่ตัวเอง ก็คิดว่าเปลี่ยนตัวเองดีกว่า ให้คนอื่นเป็นอย่างที่เขาเป็นดีแล้ว แต่เราเองที่จะเรียนรู้ว่าเราจะเปลี่ยนยังไงให้เข้ากับคนนั้นได้ ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็จบค่ะ”

ศรัทธาในรักแท้มั้ย เชื่อในพรหมลิขิตรึเปล่า?

“ฟางเป็นคนเชื่อในรักแท้มาก เพราะทุกครั้งที่ฟางมีคนรัก เราจะเริ่มจากรักตั้งแต่แรกเห็น ถ้าเห็นตอนแรกแล้วเราเฉย ๆ แล้วเขาเข้ามาจีบ ก็คุย ๆ กันไป สำหรับฟางมันไม่มีวันพัฒนาค่ะ เราก็เลยหาแฟนยาก สำหรับฟางเห็นแล้วต้องรักเลยตั้งแต่ครั้งแรก ถึงจะอยู่ด้วยกันได้นาน รักครั้งต่อไปเราก็ไม่ต้องสแกนอะไรเยอะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีที่สุด และถ้ามันจะผิดหวัง ก็ให้มันผิดหวังไป ไม่ได้กลัว”

ผู้ชายที่ฟางอยากฝากชีวิตให้ดูแล เขาต้องเป็นคนแบบไหน?

“ต้องเป็นคนที่เข้าใจฟาง ง่ายที่สุดเลย ต้องเป็นคนเหมือนฟาง เขาจะได้ไม่ต้องพยายามเข้าใจฟาง เขาจะอยู่กับฟางได้อย่างมีความสุข ไม่ฝืน ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร เพราะฟางบอกแล้วว่าฟางจะเปลี่ยนตัวเองคนที่อยู่กับฟางก็อยากให้เป็นตัวของตัวเอง เดี๋ยวก็รู้เองค่ะว่าอยู่กันได้มั้ย แค่นั้นเองค่ะ”

เป็นอีกสาวที่รับมือกับการอกหักได้ชาญฉลาดจริง ๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เจอรักแท้โดยเร็วนะ