Inside Dara
“เจ” เผยความแซ่บของ “ปิ่น” ซื้อชุดคอสเพลย์พยาบาลญี่ปุ่นมาเติมเต็มความรัก!

“เจ เจตริน” เผยเจอทางที่ถูกสำหรับชีวิตคู่ ควง “ปิ่น เก็จมณี” เที่ยวสวีตเติมหวาน ก่อนยอมรับภรรยาเพิ่งซื้อชุดคอสเพลย์พยาบาลญี่ปุ่นมาเติมเต็มความรัก บอกไม่อยากให้มองแค่เรื่องเพศ เผยเป็นความสุข ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เชื่อหลายคู่ก็ทำกัน

ควงแขนไปสวีต คิดว่าเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามัน สำหรับ “เจ เจตริน วรรธนะสิน” กับเมียรัก “ปิ่น เก็จมณี วรรธนะสิน” ซึ่งฝ่ายชายก็เผย ถึงเทคนิคครองรักฉบับแซ่บว่าฝ่ายภรรยาเพิ่งจะซื้อชุดคอสเพลย์มาจากญี่ปุ่น ว้าว!

“ปีหนึ่งจะเที่ยวกันครั้งหนึ่ง แต่ปีนี้เราไปส่ง 3 เจ้าที่อังกฤษ ก็เลยคิดว่าต้องไปส่งเขาเพราะเจ้าสมุทรเขายังเด็กเลยไปเที่ยวอังกฤษด้วย แล้วไหนๆ ลูกไม่อยู่ก็เลยพักพาเขาไปประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ก็ไปญี่ปุ่น แล้วก็ไปเกาหลี จากที่น้ำหนัก 75-76 กิโลมาตลอดตั้งแต่วัยรุ่น กลับมาก็ 81 กิโล ตอนนี้ก็พยายามรีดอยู่”

“อยากจะแนะนำให้หลายๆ คู่ลองดู เพราะญี่ปุ่นจะมีพวกคอสเพลย์ขายเยอะ เราก็เล่นๆ ขำๆ กัน ปิ่นเขาเป็นคนอารมณ์ดีก็เลยซื้อมาฝากเพื่อน(หัวเราะ) ก็จะมีชุดนักเรียนญี่ปุ่น ชุดนางพยาบาลญี่ปุ่น”

บอกชอบชุดยูนิฟอร์มนางพยาบาล ไม่อยากให้มองแค่เรื่องเพศ เป็นจุดเติมเต็มความรัก

“บางทีก็ชอบชุดยูนิฟอร์มนางพยาบาล(หัวเราะ) ปิ่นเขาตัวเล็กๆ ก็น่ารักดี รอบนี้ซื้อมาหลายชุดเลย ปิ่นเขาซื้อมาฝากเพื่อนด้วย อย่าไปคิดว่ามันคือเรื่องเพศอย่างเดียวนะครับ มันคือจุดเติมเต็มความรักให้มันชุ่มชื่นด้วย มันกลายเป็นน้ำหล่อเลี้ยงในชีวิตประจำวัน เจอบางคู่เห็นแฟนหันหน้าหากันเรียกอีแก่ หันมาไอ้แก่ อีลุง อีป้า มันเป็นความสุข เรามีชีวิตด้วย เรามีลูกด้วยกันมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาหลายขุม ผมก็อดีตคนเคยแรง มาถึงวันนี้เรายังมีความสุข แล้วเราก็ได้ค้นพบว่านี่คือความสุขที่แท้จริง ความสุขที่สุดมันคือตรงนี้ หลายๆ คู่ก็ทำ ซึ่งผมก็ดีใจ เขาส่งข้อความมาบอกว่าเรากลายเป็นแรงบันดาลใจในการหันมามองคู่ตัวเองว่าทำไมเราถึงไม่สดชื่นเหมือนคู่เจ-ปิ่น”

เผยเคล็ดลับเติมเต็มรัก ควงสวีตทิ้งทุกอย่าง ขออยู่ในโลกของเราสองคน

“ผมเจอทางที่ถูกต้องสำหรับคู่เรา เป็นทางสว่างนั่นคือการพากันไปเที่ยว มันทำให้เราลืมทุกอย่างเพราะเราทิ้งทุกๆ อย่างไว้เหลือแต่เราสองคนจริง เรามีความสุขกันมาก บางทีอยู่เมืองไทยเราต่างคนต่างทำงานก็ไม่ค่อยได้สื่อสารกันมาก ก็อาจจะมีเรื่องหงุดหงิดรำคาญกัน อยู่ที่โน่นมันก็มีแค่เราสองคน เลยไม่มีเรื่องอื่นๆ เข้ามากวนใจ อยากจะบอกทุกๆ คู่ที่อยู่ในวัยลุงๆ ป้าๆ ด้วยว่าต้องหันมาใส่ใจคู่ของตัวเอง”

ทริปหน้าจะไปล่าแสงเหนือ

“ทริปหน้าจะไปล่าแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์แต่ลูกๆ 3 คนไม่ต้องบินกลับมา เขาบินจากอังกฤษไปที่นั่นกันเลย จะมีเที่ยวเป็นครอบครัวกับลูกๆ 1-2 ครั้ง จะมีเที่ยวกับปิ่น 1 ครั้ง ตอนนี้ปิ่นเขาก็มีเวลาออกอีเวนต์เหมือนเซเลบทั่วไปแล้วก็มีทำรายการประจำ ส่วนใหญ่ทุกวันเขาก็จะออกกำลังกาย เขาออกกำลังกายเยอะมาก”

ชม “เจ้าสมุทร” เก่งที่สุดในบรรดาลูก 3 คน

“เฟสไทม์ไม่ค่อยนะ เพราะสังคมเด็กที่เรียนที่โน่นไม่ค่อยมาโซเซียล แล้วจะไม่มาถ่ายเซฟฟี่นะ จะน้อยมาก เจ้าสมุทรทางโรงเรียนไม่ให้ใช้ด้วยโทรศัพท์ด้วย ถามว่าทั้ง 3 เจ้าปรับตัวได้แล้วหรือยัง เจ้าสมุทรถือว่าเก่งสุดในบรรดา 3 พี่น้องนะ เจ้านายกับเจ้าขุนเคยส่งไปซัมเมอร์ก่อน มีเสียงสะอื้นน้ำตาไหลพราก ขุนจะไม่ร้อง แต่บ่นอยากกลับบ้าน เจ้าสมุทรเลยนิ่งมาก เขาจะหายไปเลยจนเราต้องท้วงนะว่าอยู่ไหนแล้ว”

บอกเมียแสบ อินบ็อกถาม “พี่ฉอด” จะได้ขึ้นคอนเสิร์ตด้วยมั้ย เปิดใจมันส์แน่

“ครั้งนี้จะเป็นเอ็กซ์ตรีมนะ ที่อิมแพค ตอนนี้เตรียมการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สคริปต์เพลง แขกรับเชิญ แขกพิเศษ เอฟเฟ็กต์ของเล่นต่างๆ บนเวที ตอนนี้เพิ่งขึ้นเดือน พ.ย.กำลังจะขึ้นซ้อมแล้ว ช่วงท้ายมีแดนซ์มาราธอน มันต้องมันอยู่แล้วล่ะ แขกรับเชิญกวนๆ มันๆ หน่อย ครั้งนี้ 3 เจ้ากลับมา จะเพิ่มซีนของเจ้าขุน เจ้านาย และเจ้าสมุทร ปิ่นขึ้นนะ ซึ่งปิ่นแสบนะมีการส่งอินบ็อกไปหาพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) ถามว่ามีปิ่นมั้ย”

“เจด้าไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ก็คงไม่มีดรามานะ ตอนนี้เขาเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เขาไม่มีเวลาเรียนเยอะ ต้องบอกว่าการจัดคอนเสิร์ตมันเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยาก มันต้องมีการซ้อมเป็นเดือน ท่าเต้นต่างๆ มันไม่ใช่ว่าพอมาถึงแล้วขึ้นเลย ไม่มีเป็นไร เวลาเขามาเขามากับคุณแม่และสามีของคุณแม่เขา ไม่มีอะไรนะ ไม่กวนกัน ผมว่าเจดีเอ็นเอจะต้องมีเจ้านายหรือเจด้าตลอดนะ ลองติดตามไปแล้วกัน 3 เจ้าส่งเพลงไปแล้วให้ไปซ้อมที่อังกฤษ กลับมาบล็อกกิ้งนิดๆ หน่อยๆ”