Inside Dara
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์สูตรลับซูเปอร์สตาร์ 'บี้-สุกฤษฏิ์'

เป็นซูเปอร์สตาร์คนดัง ที่กำลังมีผลงานมากมาย สำหรับ "บี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว" ที่ตอนนี้กำลังทำภารกิจอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กับการแสดงละครเวทีเรื่อง "Behind The Painting" ซึ่งหากบรรลุตามเป้าหมาย บี้อาจจะเป็นนักแสดงไทยที่ได้โลดแล่นบนถนนบรอดเวย์อันเลื่องชื่อ ถึงจะกำลังมุ่งมั่นกับละครเวทีระดับโลก แต่ซูเปอร์สตาร์หนุ่มก็ไม่ทิ้งงานที่เมืองไทย เพราะทั้งเพลงใหม่อย่าง "ระวังคนกำลังเหงา" และ "รักแท้แปลว่าเธอ" รวมถึงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต "คิดถึงวิทยา" ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ วันที่ 20 มีนาคมนี้ งานกำลังรุ่งขนาดนี้ มีโอกาสเลยขอพูดคุยกับซูเปอร์สตาร์หนุ่มคนนี้กันหน่อย

มุมดนตรี
พูดถึงเพลงใหม่ 2 เพลงที่ปล่อยออกมาหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เพลงใหม่ของผมชื่อเพลง "รักแท้แปลว่าเธอ" เป็นเพลงอารมณ์สบายๆ อะคูสติกหน่อยๆ ความตั้งใจตั้งแต่แรก คืออยากปล่อยเพลงนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก ส่วนเพลง "ระวัง...คนกำลังเหงา" เพลงแรกที่ปล่อยออกมา เป็นเพลงที่ผมตั้งใจ อยากทำแนวนี้มาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน เป็นแนวโซลฟังก์ ที่เราไม่เคยทำมาก่อน พอเราฟังแล้ว รู้สึกว่ามันแปลกดี มันใช่สำหรับเรา แนวนี้ที่ค้นหามานานอย่างเมื่อ 2 ปีก่อน ผมอธิบายไม่เป็น ว่าเพลงแนวนี้เป็นยังไง เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องดนตรี จะอธิบายอะไรไปโปรดิวเซอร์ก็งง เพราะเขาไม่เข้าใจเรา จากนั้นเราก็เริ่มเป็นพวกครูพักลักจำ เหตุผลที่ชอบแนวนี้ เพราะมันได้ความสด กีตาร์สด กลองสด เบสสด มีเครื่องเป่า มันเข้ากันดนตรีมีหลายชิ้นสลับกับไปมา มีคอรัสเข้ามาเพิ่มมีเสียงปรบมือ มีจังหวะแซก โซโล มันครบรสดี แต่การทำเพลงนี้ไม่ง่าย เพราะบางครั้งสื่อสารกับโปรดิวเซอร์ หรือเจ้านายเรา จากการที่เป็นป๊อปแดนซ์ แล้วเปลี่ยนพรึบ เหตุผลต้องเยอะ จะมาแค่ชอบไม่ได้

คิดจะศึกษาเรื่องเกี่ยวกับดนตรีอย่างจริงจังไหม อย่างเช่นลงคอร์สเรียน

ศึกษาบ้าง แต่ว่าเครื่องดนตรี ผมจะไม่ค่อยรู้เยอะ รู้แค่พอสื่อสารได้ เล่นกีตาร์ก็เล่นได้แบบพอทำเนา พอให้รู้ว่าประมาณไหน ยังไง ประมาณหนึ่ง กลองก็พอเล่นได้ประมาณหนึ่ง เอาไว้ต่อสู้กับโปรดิวเซอร์ว่าผมอยากได้แบบนี้ แนวดนตรีแบบนี้ เมื่อก่อนจะบอกไม่ได้ เลยค่อยๆ ศึกษาเรื่องดนตรี เผื่อเอาไว้ตอบคำถามได้ เพราะในห้องประชุมต้องตอบให้ได้ว่าทำไมอยากได้ ตอบไม่ได้ก็ตกไป ซึ่งเราไม่ได้มีเวลาไปเรียนตามหาวิทยาลัย เราใช้วิธีเรียนด้วยตัวเอง เปิดอินเทอร์เน็ต เวลาไปงานต่างๆ ก็จะไปยืนคุยกับนักดนตรี มือกีตาร์ มีไปปรึกษา

โกทูบรอดเวย์
เส้นทางการไปแสดงละครเวทีบรอดเวย์ถึงไหนแล้ว

ตอนนี้ก็เดินทางมาได้ครึ่งทาง จากที่ทำกันมาปีครึ่ง เกือบ 2 ปี ผมทำปีครึ่งถึง 2 ปี แต่ว่าเจ้านาย ("บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ทำมาหลายปีแล้ว เดินทางไปๆ กลับๆ เรื่องกาารแสดงบรอดเวย์คนที่ถือสัญชาติอเมริกันเท่านั้น ที่มีสิทธิได้แสดงในบรอดเวย์ ซึ่งถ้าเราไม่มีสัญชาติอเมริกัน ก็ต้องเอาเหตุผลไปขอ ซึ่งตอนนี้ผ่านแล้ว คราวนี้ก็เหลือแต่ว่าให้โปรเจกท์ที่ทำค่อยๆ ประสบความสำเร็จไปทีละขั้น อย่างที่ไปล่าสุดเมื่อปลายเดือนมกราคม ผมต้องไปแสดงให้ทางนักลงทุนและเจ้าของโรงละครในถนนบรอดเวย์ได้พิจารณา ว่าเรามีโอกาสจะเอาเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในเส้นทางบรอดเวย์ได้ไหม ซึ่งไปประมาณเดือนหนึ่งกว่าๆ แสดงประมาณ 2-3 รอบ ซึ่งถ้าเข้าตากรรมการ เราก็ไปถึงขั้นต่อไป คือ ประมาณปลายๆ ปี เราจะเล่นแบบครบเครื่อง แต่เล่นที่โรงละครนอกเมืองก่อน โดยมีการขายบัตรแล้ว ซึ่งขั้นนี้แหละ ที่จะเป็นตัววัดว่าเราจะได้ไปต่อที่ถนนบรอดเวย์ไหม

มีออกอาการท้อหรือกังวลกับการได้เดินก้าวแรกในระดับโลกแบบนี้บ้างไหม

อารมณ์ท้อ ก็มีเยอะ แต่ผมจะมีสมุดที่คอยจดเวลาได้รับคำชม แล้วเมื่อเราท้อ ก็มาเปิดอ่านคำชมเหล่านั้น เราก็จะฮึดขึ้นมา มันเหมือนเป็นกำลังใจที่คอยเติม เวลาเรารู้สึกท้อแท้ ส่วนเรื่องความกังวล บอกเลยว่ากังวลที่สุดในชีวิต แต่ไม่ได้กังวลจากความกดดดันภายนอกที่คนพูดถึง แต่เรากังวลว่าเราจะทำได้ไหม คำว่าทำได้ มันหมายถึง ว่าเราจะทำได้โดยสมบูรณ์แบบหรือเปล่า แต่เรื่องแรงกดดันจากคนอื่นๆ ไม่ได้มีผลกับเราเลย

ไปอยู่อเมริกานานๆ แบบนี้ คิดถึงเมืองไทยไหม

ผมเป็นคนชอบอยู่กับบ้าน ทั้งบ้านจริงๆ และประเทศไทย เรารู้สึกว่าเที่ยวได้แต่อยู่ไม่ได้ แต่พอรู้ว่าต้องไปทำ ความกังวลมันสูงมาก เกิดขึ้นกับชีวิตเรา ครั้งแรกไปประมาณ 10 วัน แค่ 10 วันเรายังไม่รู้เลยว่า เราออดิชั่นผ่านหรือเปล่า เป็นครั้งแรกที่ต้องไปลองดู ลองเห็น ยังรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากๆ แค่ 10 วันเอง พอยังไม่เข้าตากรรมการก็กลับมา พี่บอยให้เรียนการแสดง เรียนภาษา เรียนร้องเพลงอย่างหนักหน่วง เรียนภาษาอังกฤษวันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน อาทิตย์ เรียน 4 วัน ไปไหนก็ไม่ได้ไป

ได้ประสบการณ์การอะไรจากการได้ไปทำงานในระดับโลกแบบนี้

จะบอกว่าประสบการณ์จากการทำงานครั้งนี้ มันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ผมไม่สามารถเอาชื่อเสียงจากเมืองไทยไปได้ เราไม่ได้มีเครดิตอะไรที่นั่นเลย อยู่ที่ประเทศไทยคนรู้จักเรา แต่ที่นั่นให้ใครไปบอกเขาว่าเราเป็นซูเปอร์สตาร์ เขาก็แค่รับรู้ แต่ไม่ได้ซึมซับไปด้วย แต่เขาให้เกียรติเรา เพราะว่าพี่บอยมีเครดิตที่นั่น เราโชคดีที่มีนายเป็นคนสนับสนุน เราเลยได้ผลพวงมาจากเจ้านาย การที่เราไปทำงานครั้งนี้ ถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เราต้องสานต่อความฝันของเจ้านาย ผมเคารพการตัดสินของผู้มีพระคุณและอยากตอบแทนโอกาสที่ได้รับมาอย่างดีที่สุด เอาจริงๆ ถ้าเป็นตัวผมเอง ความสามารถ หรือว่ากำลังมันคงไม่พอที่จะไปทำตรงนี้ การที่ผมได้ก้าวไปบนบรอดเวย์ มันถือว่าเป็นก้าวที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เกิดมา การแสดงบรอดเวย์มันใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ถ้าจบอันนี้ไปก็คงต้องไปเล่นละครจักรวาล (หัวเราะ) แล้ว

หนังเรื่องแรกในชีวิต
ทำไมถึงเลือกที่จะเล่นภาพยนตร์เรื่อง "คิดถึงวิทยา"

จริงๆ ตัวผมเองอ้อนวอนจีทีเอชมานานแล้วนะ ว่าอยากที่จะเล่นหนังกับจีทีเอช คือพูดกับพี่ๆ ที่จีทีเอชมานานหลายปี เจอหน้าก็บอกพี่เขาอยากเล่น อยากเล่น พี่ๆ เขาก็ปลอบใจเรามาตลอดว่ายังไม่มีโปรเจกท์ ซึ่งพอพี่เขามีโปรเจกท์ เขาก็นำเสนอกับเจ้านายเราก็คือพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เราก็แอบไปอ้อนเจ้านายเราว่าเราอยากเล่น พี่บอยมองหลายๆ มุมก็เลยยอมให้เราเล่น และตอบตกลงกับทางจีทีเอชไป ซึ่งเราเองยินดีมาก

การแสดงภาพยนตร์เป็นอย่างไรบ้าง

ผมว่าสนุกดีนะ แต่ผมว่ามันยากตรงที่ผมเล่นแบบรัชดาลัย เธียเตอร์ (หัวเราะ) ทางพี่ๆ ที่จีทีเอชเขาก็บอกว่าอย่าเล่นใหญ่ ไม่เอา เล่นให้เป็นธรรมชาติโดยปกติผมเองเป็นคนที่เสียงดัง ทำอะไรดูเยอะกว่าปกติอยู่แล้ว (หัวเราะ) การมาเล่นภาพยนตร์ พวกพี่ๆ เขาก็บอกว่าพูดเบาลงก็ได้ ความชัดเจนให้ลดลง อย่างตัว ร, ล พี่เขาก็บอกว่าไม่ต้องพูดชัดมาก เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ มันไม่เหมือนตอนที่เราเล่นละครเวที มีปัญหาเรื่องนี้นิดหน่อย แต่ส่วนอื่นไม่มีปัญหาเลย ทุกอย่างไปด้วยดีและราบรื่นมาก

การแสดงหนังกับการแสดงละครเวทีอะไรยากกว่ากัน

ผมว่ามันยากคนละแบบ แต่ถามผมตอนนี้ผมว่าหนัง เพราะว่าเราชินกับการแสดงแบบละครเวทีแล้ว ส่วนงานหนังเป็นงานที่ใหม่มากสำหรับเรา เราต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่าง ตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกที่เปิดกล้องใหม่ๆ ยอมรับเลยว่ากลับมานอนก่ายหน้าผากเลย เพราะเราไม่เคยรู้จักกับศาสตร์นี้มาก่อน ตอนนั้นคิดเลยว่า มันอาจจะไม่ใช่ทางของเราหรือเปล่า แต่เมื่อทำงานไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มจับทางได้ว่าผู้กำกับต้องการอะไร การแสดงแบบนี้ต้องไปในทิศทางไหน เราเริ่มรู้จักกับศาสตร์นี้มากขึ้นและเข้าใจมากขึ้น แต่งานทุกอย่างต่างมีความน่าสนใจและความท้าทายแตกต่าง เราไม่สามารถบอกได้ว่างานไหนดีกว่างานไหน

ความรักซูเปอร์สตาร์
ความสัมพันธ์กับ "โม" มนชนก ในตอนนี้เป็นอย่างไร

จริงๆ ก็เป็นเพื่อน แล้วก็สนิทกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ มีคนเห็นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเราไปในที่สาธารณะ ไม่มีคนเห็นสิแปลก ส่วนตัวผมเป็นคนทำตัวปกติ ไปไหนมาไหนปกติอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าการที่เราไปไหนมาไหนกับใคร เป็นเรื่องที่ต้องทำตัวให้ลำบาก แค่ว่าเราไปไหนทำอะไรอยู่ในศีลในธรรม ไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร ไม่ได้ไปทำร้ายใคร ก็พอแล้ว ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ลุยเลย เท่าที่ผมรู้จักโม เขาเป็นผู้หญิงที่แข็งแรง เรื่องกระแสต่างๆ ผมว่ามันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า เราเองใช้ชีวิตเหมือนปกติ แค่อย่าทำอะไรนอกลู่นอกทางแค่นั้นเอง เอาจริงๆ ถ้าเราจะไปไหน ถึงคนจะจับจ้องแค่ไหน เราก็ไปได้อยู่แล้ว เราไปแบบบริสุทธิ์ใจ

ตอนนี้ "บี้" พร้อมมีสาวคนพิเศษมาอยู่ข้างกายในฐานะแฟนไหม

ผมว่าเรื่องของความพร้อม ในตอนนี้เราเป็นวัยรุ่น การเจอใคร คุยกับใครเป็นเรื่องปกติ แต่ที่จะพัฒนามาใช้คำว่าแฟน มันคงให้เป็นเรื่องของเวลา ผมเองเป็นคนมีความคิดว่า เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง ถ้าถามถึงตอนนี้ ผมเองพร้อมประมาณหนึ่งที่จะมีคนอยู่ข้างกาย แต่ถามว่าพร้อมที่จะมองอนาคตว่าจะแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกไหม ผมบอกเลยว่ายัง แต่ในเรื่องของความเป็นวัยนรุ่น ความป๊อปปี้เลิฟ มันต้องมีบ้างอยู่แล้ว แต่อย่างที่ผมบอกมาตลอด ว่าผมเป็นคนทำงานเยอะ การหาใครสักคนที่เข้าใจจริงๆ มันเป็นเรื่องยากมาก หากวันหนึ่งผมจะมีใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ผมต้องการแค่คนที่เข้ากันกับเราได้ อยู่ด้วยกันแบบสบายใจ

นี่แหละ!! ขวัญใจมหาชน


เขาคนนี้ : สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว
ชื่อเล่น : บี้
วันเกิด: 4 กันยายน พ.ศ. 2528
การศึกษา : ปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 ภาควิชา วิศวกรรมอุตสาหกรรม สาขาวิชา วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ผลงานเพลงที่ผ่านมา : อัลบั้ม Love Scenes อัลบั้ม I Love You Too อัลบั้ม Hug Bie อัลบั้ม รักนะคะ อัลบั้ม It's Alright อัลบั้ม ณ บัด Now
ผลงานการแสดง : ซิทคอมนัดกับนัด รอยอดีตแห่งรัก หัวใจศิลา พระจันทร์สีรุ้ง ดอกรักริมทาง ข้ามเวลาหารัก คู่กรรม ละครเวที บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล ละครเวที ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล
ผลงานล่าสุด : ซิงเกิ้ลใหม่เพลง "ระวังคนกำลังเหงา-รักแท้แปลว่าเธอ" ละครเวที "Behind The Painting The Musical" (บรอดเวย์) และภาพยนตร์ "คิดถึงวิทยา"