Inside Dara
ปู แจงภาพจุกหลุดเป็นเหตุสุดวิสัย ปัดแย่งโฆษณา ใหม่ แค่กินไอติมแจกในงาน

ปู ไปรยา แจงภาพจุกหลุดเมื่อครั้งร่วมงานนิวยอร์กแฟชั่นวีค เผยตนเซฟมาอย่างดีแต่เป็นจังหวะเผลอ ไม่ได้มีเจตนาจะโชว์ เป็นเหตุสุดวิสัย ปัดแย่งพรีเซ็นเตอร์ ใหม่ ดาวิกา กินไอศกรีมเพราะมีแจกในงาน ฟุ้งถ้าอะไรเป็นของเราก็เป็นของเรา

เรียกว่างานเข้าเบาๆ สำหรับนางเอกสาว ปู ไปรยา ลุนเบิร์ก หลังจากที่กลับถึงไทยปุ๊บ ก็ต้องรีบมาชี้แจงถึงภาพหลุดจุกโผล่หลังจากที่ไปร่วมงานนิวยอร์กแฟชั่นวีค ซึ่งสาวปูจะชี้แจงว่าอย่างไรนั้น ไปฟังกัน

ถามถึงรูปถ่ายที่เห็นหน้าอก? "อ๋อ ของเก็ตตี้อิมเมจใช่ไหมคะ จริงๆ มันมีสติกเกอร์แปะอยู่ เรามั่นใจว่าเซฟมาดี ปูไม่ได้ซีเรียส แต่ก็เห็นคนแชร์รูปเยอะเหมือนกัน แต่บางจังหวะด้วยความที่เราใช้ชีวิตก็อาจจะมีจังหวะเผลอ มันเป็นอุบัติเหตุเราทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่ได้ตั้งใจถ่าย แต่ที่ภาพมันชัด เพราะคุณภาพกล้องเขาชัดอยู่แล้ว ถ้าซูมดูดีๆ จะเห็นว่ามีการเซฟมาอย่างดี ไม่อย่างนั้นดาราฮอลลีวูดไม่ไปเดินกลางถนนหรอกค่ะ แต่คือเราก็ระวังเต็มที่แล้ว แต่บางครั้งมันเป็นเหตุสุดวิสัย เราทำอะไรไม่ได้ ก็ไม่ซีเรียส" มีบางกระแสวิจารณ์เราในแง่ลบ? "เราเป็นผู้หญิง มันไม่มีใครตั้งใจให้มีรูปแบบนั้นออกมาอยู่แล้ว ซึ่งปูเชื่อว่าคนทั่วไปเขามีวิจารณญาณที่ชัดเจน และเข้าใจรู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ตั้งใจ คอมเมนต์ที่ปูและทีมงานเช็กดูก็ไม่มีอะไร เลยไม่ได้รู้สึกโกรธหรืออคติ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ รูปหลุดหนักกว่านี้เราก็เคยมี เราอยู่ในจุดนี้ เราโตแล้ว มีทัศนคติที่เข้าใจวงการ เลยไม่ซีเรียส เพราะมันไม่มีอะไร" พอเห็นรูปแล้วบอกทีมงานให้ลบไหม? "ปูจะบอกยังไง ปูไม่รู้จักคนถ่าย แต่พอเขาลงรูปแล้วก็ไม่เป็นไร การทำงานเหมือนเราเดินอยู่บนบันได ต้องมีสิ่งที่มาขัดเราอยู่ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก"

ตอนกินไอศกรีมก็โดนถ่ายรูป? "ในโชว์เขาแจก เราก็กินค่ะ มีช่างภาพถ่ายรูป แต่เราไม่ได้ซีเรียส" คนมองไปช่วยงานที่มีแบรนด์ไอศกรีมยี่ห้อนึง คนเลยมองว่าจะเป็นพรีเซ็นเตอร์คนต่อไป? "ไม่ได้เป็นแน่ๆ คือ ในโลกนี้มีแบรนด์สินค้ามากมาย ถ้าปูจะต้องเลือกชอบอะไรที่ตัวเองชอบ มันก็ไม่ใช่ คือ เราก็ไม่ได้คิดลึกขนาดนั้น ท่ากินไอติมก็มีเลียนิ้วด้วย (หัวเราะ)" คนจะมองว่าจะปาดหน้าใหม่-ดาวิกา รับพรีเซ็นเตอร์?

"ไม่ค่ะ อย่างที่บอกปูไม่เคยปาดหน้าใคร อะไรที่เป็นของเราก็เป็นของเรา วงการนี้มีหลายสินค้าปะปนกันไป ปูไม่เคยคาดหวัง ไม่งั้นปูก็ต้องถ่ายรูปกันทุกสินค้าลงไอจีแล้วค่ะ"

เป็นยังไงบ้างไปร่วมงานนิวยอร์กแฟชั่นวีคปีนี้? "ก็ดีค่ะ ต้องขอบคุณเทรซาเม่ และยูนิลิเวอร์ ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ก็ไปกันครบทีมเลย ปกติปูไปคนเดียว ก็ได้ประสบการณ์กลับมาเยอะ ครั้งนี้ถือเป็นการไปนิวยอร์กแฟชั่นวีคเป็นครั้งแรก ก็นั่งฟร้อนโลว์เหมือนเดิม และมีถ่ายรูปกับ สตีเว่น ไคลน์ ด้วย กระแสตอบรับก็ค่อนข้างดี ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกระจายรูปและกระจายข่าว" ครั้งนี้ไปทั้งหมดกี่ห้องเสื้อ? "น่าจะ 8-9 มั้งคะ ปูชอบ อเล็กซานเดอร์ แวง เป็นพิเศษ เพราะเป็นแนวของเราอยู่แล้ว ปูชอบใส่สีดำ แต่งตัวเปรี้ยวๆ โชว์อะไรเปรี้ยวๆ นิดนึง" เห็นมีเดินโพสท่าข้างหน้าด้วย? "ใช่ค่ะ เราก็อยากสนุกสนานนิดนึง (หัวเราะ) ถ่ายรูปกลับมาเยอะเลย"

เตรียมเสื้อผ้าไปเยอะไหม? "ก็เตรียมกระเป๋าไปหลายใบเหมือนกัน แต่ห้องเสื้อก็ส่งมาให้เยอะเหมือนกัน เลยไม่ได้ซื้อเยอะค่ะ จริงๆ ชุดที่เตรียมไปก็ใส่ไม่หมดนะ แต่พยายามเอาใจทุกคนใส่ให้หมด บางวันก็มีเปลี่ยนใส่ 2 ชุด เพื่อถ่ายรูปลงขอบคุณให้เขา" มีถ่ายรูปกับ แอนนา วินทัวร์ ด้วย? "ใช่ค่ะ ก็เดินเข้าไปแนะนำตัว (หัวเราะ) ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะเราก็อยากเจอเขามานานแล้วเหมือนกันค่ะ" เรียกว่าเป็นการโกอินเตอร์ครั้งแรกเต็มตัวของเราเลยไหม? "ปูว่ายังนะ เพราะว่าทางเมืองนอกยังไม่มีใครรู้จักเรา โกอินเตอร์ต้องมีการเล่นหนังหรืออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ปูว่าอันนี้เป็นแค่การร่วมงานมากกว่า"

ถามถึงการถ่ายแบบการกุศล? "อย่างที่บอกปูร่วมงานกับแอมฟาร์ (AMFAR) มาทีนึงแล้ว คือ มันเริ่มต้นมาจากปูไปเยี่ยมผู้ป่วยโรคเอดส์ แล้วปูก็พอรู้ว่าการระดมทุนในการหาทางออก หรือวิจัยยารักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ ก็เป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับการเยี่ยมผู้ป่วย ก็เลยได้ร่วมงานกับแอมฟาร์ ปูก็ช่วยเขาระดมทุนและมีการบริจาคด้วย ก็เลยมีโอกาสได้ถ่ายรูปกับคุณสตีเว่น ไคลน์ ซึ่งเป็นอีกคนนึงท่ีสนับสนุนแอมฟาร์เหมือนกัน เราก็ได้เจอและพูดคุยเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ว่าจะช่วยเหลือยังไง ถือว่าเป็นความฝันอีกอย่างนึงค่ะ เพราะ สตีเว่น ไคลน์ ถือว่าเป็นช่างภาพติดอันดับ 1-2 ของโลก พอได้เจอก็ตื่นเต้นทำตัวไม่ถูก แต่ได้พูดคุยแล้วเขาก็น่ารัก"

คอนเซปต์ก็ค่อนข้างสตรอง? "สตรองค่ะ เราค่อนข้างฟรี ไม่คิดอะไรมาก ถามว่าเซ็กซี่ไหม ปูมองว่าเวลาเราเป็นนางแบบหรือนักแสดง เขาให้ทำอะไรเราก็ทำ เพราะมันคือหน้าที่ ปูเชื่อว่าเราอยู่ในจุดๆ นั้น คือ ตัดสินใจแล้วก็โอเค" การทำงานมันแตกต่างจากที่เมืองไทยไหม? "ไม่แตกต่างนะคะ ประเทศไทยก็มืออาชีพไม่แพ้ที่อื่นนะ" จะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกไหม? "ก็หวังว่าจะได้เจอกันอีก ดูพูดคุยชอบพอกัน ก็โอเคค่ะ" หลังจากนี้จะมีแพลนไปดูแฟชั่นที่ไหนอีกไหม? "เดี๋ยวมีไปถ่ายแบบที่มิลาน อิตาลีต่อ มีปกหนังสือของไทยด้วย แล้วก็ดูโชว์" ต้องเซ็กซี่กว่าเดิมไหม? "ไม่ค่ะ ปกติไม่ใช่แนวเซ็กซี่ เบาๆ ค่ะ เราต้องดูกาลเทศะ ดูสถานการณ์ด้วย ต้องดูโจทย์ด้วยว่าที่เขาให้มามันเป็นอะไร" ไปครั้งนี้ได้ประสบการณ์อะไรกลับมาบ้าง? "จริงๆ ปูไปนิวยอร์กมาหลายครั้งแล้ว ประสบการณ์การทำงานในอเมริกา เป็นอะไรที่ปูชอบที่สุด เดี๋ยวรอดูว่าในอนาคตปูจะมีโอกาสได้อยู่มากขึ้นไหม ก็พยายามตั้งเป้าหมายให้เป็นอย่างนั้น" มีเอเจนซี่เข้ามาคุยไหม? "มีแล้วค่ะ ปีหน้าก็จะมีตั้งเป้าหมาย จะมีการวางแผนว่าต้องไปทำอะไรต่อไป ต้องดูเรื่องเวลาอีกทีนึง แต่ปีหน้าไม่ใช่ว่าจะเห็นหน้าปูน้อยลงแน่นอน ที่เมืองไทยยังเป็นการทำงานอาชีพหลักของปู ถ้าไปเมืองนอกก็ไป 2-3 อาทิตย์ แล้วก็บินกลับค่ะ"