Inside Dara
เปิดใจ ‘ไมร่า’ ในวันที่ชีวิตมาไกลเกินที่ฝัน

ถ้าเอ่ยถึงเด็กสาวที่มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงจนชนะการประกวดไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 1 นั้นทุกคนต้องไม่ลืมสาวน้อยลูกครึ่งไทย-อเมริกัน “ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย” อย่างแน่นอน แม้ครั้งนั้นเธอเจอกระแสต่าง ๆ ถาโถมจนควรถอดใจในการเป็นนักร้อง แต่ล่าสุดไมร่าพิสูจน์ความสามารถตัวเองให้คนไทยได้เห็นจากการเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายของการแข่งขันประกวดร้องเพลงรายการ “ไรซิ่ง สตาร์” (Rising Star) ที่โด่งดังของสหรัฐอเมริกา ปลุกกระแสแฟนคลับไทยร่วมเชียร์ล้นหลาม งานนี้ “ดาวต่างมุม” ได้โอกาสพูดคุยกับน้องไมร่าเลยต้องถามไถ่ถึงชีวิตที่เลือกเดินในถนนสายดนตรีจะเป็นอย่างไร ติดตามกันเลยค่า

อัพเดทชีวิตตอนนี้ให้ฟังหน่อย หลังจากย้ายไปอเมริกา?

“ใช่ค่ะจบจากไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ได้ 2 ปี ครอบครัวของไมร่าก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่อเมริกา ไปเข้าไฮสคูลที่นั่นตอนนี้เกรด 12 หรือ ม.6 แล้ว กำลังต้องเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยต่อไปด้วย แต่หนูก็ยังทำงานควบคู่กับการเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็โอเคเปิดโอกาสให้เราได้ทำหลาย ๆ อย่างค่ะ”

จากนั้นก็หายไปจนกระทั่งเข้าร่วมประกวดร้องเพลงรายการ ไรซิ่ง สตาร์?

“จุดเริ่มต้นเลยหนูเห็นเขาประกาศรับสมัครในอินเทอร์เน็ตเลยลองสมัครไปออดิชั่นดู จริง ๆ แล้วไม่คิดจะประกวดร้องเพลงอีกแล้วนะคะ เพราะหนูไม่ชอบการประกวดเลย ตื่นเต้น เครียด แต่มองไกล ๆ กว่านั้นคือเรื่องของโอกาส มันไม่ได้มีบ่อย ๆ พอออดิชั่นไปก็ผ่านเข้าไปได้ทีละด่าน ๆ จนเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ พี่ ๆ เพราะเราก็ห่างจากการประกวดมานานแล้ว”

รายการไรซิ่งสตาร์ มีกฎกติกาอย่างไร?

“รายการนี้เป็นรายการใหม่ ผู้ชมต้องโหลดแอพพลิเคชั่นมาดู ถ้าชอบก็กดให้คะแนนเลย โหวตได้ครั้งเดียว คณะกรรมการเป็นคนมีชื่อเสียงคือ แบรด เพสลีย์, ลูดาคริส และคีช่า ซึ่งเขาให้ความสนใจให้คำแนะนำดีมาก แต่วันที่ตกรอบเราก็เสียใจมากที่จะไม่ได้เจอเพื่อน ๆ คีช่าก็เข้ามาปลอบ ไปคุยว่าไม่ต้องเศร้า เธอมีพรสวรรค์ อย่ายอมแพ้ ดีใจที่มีนักร้องระดับโลกมาคอยแนะนำเหลือเชื่อจริง ๆ ค่ะ”

จากเวทีที่เมืองไทย สู่การเข้ารอบที่ลึกในเวทีประกวดของอเมริกาเรียนรู้อะไรบ้าง?

“ก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเราจะไปลองมา เหมือนฝันจริง ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรายการ หนูได้ประสบการณ์รู้ต้องปรับปรุงแก้ไขในด้านไหน 2 เดือนที่อยู่ร่วมรายการเพื่อน ๆ มีความสามารถมากทุกคน เขาเป็นมืออาชีพทุกคนเดินสายแข่งเวทีประกวดดัง ๆ อย่าง อเมริกัน

ไอดอล, เดอะวอยซ์ เวลาเขาซาวด์เช็กเสียงทีเรารู้สึกหนาวไปเลยเสียงดีมาก แต่ทุกคนน่ารัก มิตรภาพที่ไมร่าสร้างไว้กับพวกเรามันดีมากจริง ๆ ดีใจที่ตัดสินใจคลิกสมัครไปและคว้าโอกาสตรงนั้นมาค่ะ”

กลับมาคราวนี้ดูโตขึ้นมาก จากสมัยประกวดก็อตทาเลนต์เจอกระแสหนัก ๆ แต่ไม่ทิ้งความฝัน?

“ใช่ค่ะ แต่ที่หนูแข่งรายการ ไรซิ่งสตาร์ ไม่ใช่พิสูจน์ให้คนเปลี่ยนความคิดที่เคยถูกมองว่าไม่เหมาะที่จะชนะไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ เราคงไปแก้ไขหรือทำให้คนเชื่อไม่ได้ แต่เวลาจะพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำได้ไม่ทิ้งฝันตรงนั้นสำคัญกว่าค่ะ”

ได้ยินว่าอยู่อเมริกาก็ยังได้ขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกับนักร้องระดับโลก “เดวิท ฟอสเตอร์”?

“ใช่ค่ะ เคยร้องเพลงด้วยกันตอนเขามาเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่ไทย ไมร่าไปดูเขาร้องเพลงก็นั่งแถวล่าง ๆ เขาก็ถามว่าใครที่ร้องเพลงได้บ้าง คนนั่งข้าง ๆ ก็ชี้มาที่ไมร่า แล้วพอหนูกลับไปอเมริกาก็ได้ไปร้องเพลงร่วมกันที่หาดมาลิบู ได้ร้องเรื่อย ๆ เมื่อไหร่ที่นึกถึงเขาก็จะเชิญเราไปค่ะ”

ถือว่าเป็นเด็กสาววัย 17 ปี ที่มีประสบการณ์เยอะมาก?

“ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม) แต่บางทีเวลาเห็นเพื่อน ๆ ได้ไปปาร์ตี้ เที่ยวเล่น ก็อยากทำแบบนั้นบ้าง เป็นเด็กธรรมดาว่างก็ไปเที่ยว แต่พอมาคิดอีกที เราไม่ได้ถูกห้าม แต่นักร้องคือสิ่งที่อยากเป็น ถ้าอายุมากกว่านี้ก็ยากแล้ว ตั้งใจทำตอนนี้ดีกว่าคงดีมากทีหลังขอแค่ไม่เสียโอกาส”

เส้นทางที่เราเลือกเดินที่อเมริกากว้างมากไม่ท้อเหรอ?

“บางทีก็ท้อค่ะ คนรอบตัวที่มาออดิชั่น เขายังไม่ได้เลย แล้วเราจะได้ได้ยังไง แต่ไมร่าจะไม่ยอมแพ้ เพราะนี่คือสิ่งที่เรารัก อยู่อเมริกามา 1 ปี กว่าจะได้ไปออดิชั่นร้องเพลง หรือแคสติ้งนักแสดงยากมาก คนเป็นล้าน ๆ เราจะเดินไปยังไง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็มาคุยกับหนูให้ลองซิ ๆ โอกาสเดียวในชีวิต ซึ่งมันคุ้มนะได้ฝึกความมั่นใจ ค่อย ๆ พัฒนาไม่เขินมาก”

แสดงว่าไมร่าเดินตามฝันทั้งออดิชั่นร้องเพลงและแคสติ้งงานแสดง?

“ใช่ค่ะ แต่ไปที่อเมริกาหนูต้องเริ่มทุกอย่างใหม่ สร้างคอนเน็คชั่นใหม่ คุณพ่อคุณแม่และหนูมองว่าถ้าเราอยากจะเดินทางสายนักร้องจริง ๆ ก็ไปอเมริกากันเถอะ เพราะมีโอกาสทั้งงานแสดงและร้องเพลงแคสติ้งทั้งรายการทีวี หนัง ร้องเพลง โชว์อะไรก็ทำหมด เพราะอยู่ที่อเมริกาหนูจะมีผู้จัดการที่คอยพาไป ซึ่งมันยากมาก ๆ แต่ได้ประสบการณ์เยอะค่ะ (ยิ้ม)”

ครอบครัวเราก็ให้การสนับสนุนเรื่องนี้ไม่น้อย?

“คุณพ่อคุณแม่ไปเชียร์ทุกครั้งที่หนูประกวด คอยให้กำลังใจ ยอมย้ายประเทศไปทำงานเพื่อไมร่า เราโชคดีมากที่คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนกับสิ่งที่ไมร่าเลือก บอกเสมอว่าอย่าท้อ อย่างน้องสาวก็ร้องไห้วันที่หนูตกรอบประกวด (หัวเราะ) แม่ก็ชอบเตือนวันไหนมีชื่อเสียงห้ามหยิ่ง ห้ามเชิด หลงตัวเอง ซึ่งเราจำเสมอมา จะไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเป็นไมร่าที่โก๊ะ ๆ งุ้งงิ้งเหมือนเด็กเช่นเดิมค่ะ”

ไอดอลของไมร่าคือใคร?

“ถ้านักแสดงไมร่าชอบ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์” เขาเป็นคนมั่นใจ ไม่ทำตัวเป็นดีว่า เล่นได้ทุกบทบาทการแสดง ส่วนนักร้องไมร่าชอบ “ซาร่า บาไรย์ลีส” เขาไม่ได้ดังมาก แต่เป็นนักร้อง นักดนตรีที่แต่งเพลงเอง เคยไปดูการแสดงสดของเขาเสียงเพราะมาก เลยอยากเป็นนักร้องที่มีเพลงของตัวเองและมีคุณภาพแบบนั้นค่ะ”

ชีวิตที่อเมริกาลงตัวมั้ย?

“มีความสุขมาก ๆ ค่ะ เพราะเราเติบโตมาสองวัฒนธรรม ไมร่าได้ความเป็นไทยจากคุณแม่ที่สอนเรื่องมารยาท แต่ในความเป็นอเมริกันก็มีในเรื่องของความคิดอิสระ กล้าแสดงออก ถ้าเป็นอเมริกันเกิร์ลไปเลย แม่คงรับไม่ได้ (หัวเราะ) ส่วนชีวิตในโรงเรียนก็โอเคไม่มีใครมาแกล้งเหมือนในหนังนะเพื่อน ๆ น่ารักค่ะ”

ในการเรียนมหาลัยที่เร็ว ๆ นี้เราเลือกจะเรียนด้านไหน?

“น่าจะไปทางดนตรีค่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากเข้ามหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ(UCLA) หรือมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่ก็ยากมาก ๆ ก็ต้องพยายามทำเกรดให้ดี เรื่องเรียนเราไม่ทิ้งแน่นอน แต่มีประสบการณ์ในช่วงวัยรุ่นเพื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็สำคัญ แต่บางคนอาจเลือกตัดเรื่องเรียน แต่เราจะไม่ทิ้ง ตอนนี้เลยมุ่งที่เรียนก่อนค่ะ”

อยู่ที่อเมริกามีหนุ่ม ๆ ฝรั่งมาจีบหรือยัง?

“(หัวเราะ) ก็มีเข้ามาเป็นเพื่อน ๆ มากกว่า แต่ไมร่าไม่ค่อยสนใจ หนูขี้เกียจนะ อย่าเพิ่งมาอะไรเยอะ ๆ เป็นเพื่อนกันก่อนดีแล้ว ชอบนอนดูทีวีอยู่บ้านมากกว่าไปเดท แล้วคุณแม่ก็หวงด้วย”

แล้วที่กลับมาเมืองไทยครั้งนี้มีอะไรมาฝากแฟน ๆ บ้าง?

“มีซิงเกิ้ลใหม่ที่แต่งโดยพี่โก้ มิสเตอร์แซ็กแมนค่ะ ชื่อเพลง “เป็นเธอได้ไหม” เนื้อหาจะประมาณว่าเราอยากรู้ว่าความรักเป็นยังไง วานเธอช่วยอธิบายให้เราเข้าใจหน่อย ซึ่งไมร่าเคยไปร้องเพลงที่ฝรั่งเศสกับพี่โก้ แล้วก็มาเจอกันอีกที่ละครเวทีเรยา เดอะ มิวสิคคัล พี่เขาเลยชวนอยากให้ทำเพลง เราก็จะได้ไม่ห่างจากงานที่เมืองไทยค่ะ”

สำหรับน้อง ๆ ที่มีความฝันเหมือนเราแต่อาจจะไม่กล้ามีคำแนะนำให้มั้ย?

“ตอนแรกหนูก็ไม่กล้า ไม่มั่นใจ เราไม่รู้จนกว่าเราจะได้ก้าวไปลอง ตอนเด็ก ๆ ไมร่าเองก็เคยโดนเพื่อนบอกว่าร้องเพลงทำไม ร้องไม่ดี ไม่เพราะ เราไม่ท้อก็ฝึกเพราะเราชอบ เพราะไม่มีใครรู้อนาคตจะเกิดอะไร แค่ลองทำให้ดีที่สุด อย่าไขว้เขวตราบใดสิ่งนั้นคือสิ่งที่เราชอบก็เดินหน้ากันต่อไป”

สุดท้ายฝากถึงแฟน ๆ ที่ชื่นชอบเราและให้กำลังใจมาตลอดหน่อย?

“หนูไม่คิดจริง ๆ ว่าพี่ ๆ จะมาติดตามให้กำลังใจหนู อยากบอกว่าดีใจมากที่คนไทยส่งกำลังใจ คอยโหวตให้หนู ขอบคุณทุกคนที่รักและสนับสนุน ไม่ว่าหนูอยู่ที่ไหน ยังไงก็ติดตามข่าวสารของหนูในเฟซบุ๊กแฟนเพจพิมพ์คำว่า “Maneepat Myra Molloy” และอินสตาแกรม @maneepatmolloy จะพยายามอัพเรื่องต่าง ๆ ให้ได้ติดตามกันบ่อย ๆ ค่ะ(ยิ้ม)”

เรียกว่าเป็นการพูดคุยกับสาวไมร่าแบบหมดเปลือกจริง ๆ ซึ่งเราได้เห็นความตั้งใจของสาวน้อยคนนี้ ก็อย่าลืมเป็นกำลังใจและติดตามผลงานของเธอกันต่อไปนะคะ...