Inside Dara
โบว์ เบญจวรรณ เพราะรักจึงปล่อย ก๊อต จิรายุ เลิกกันแต่ยังเป็นเพื่อนได้

ทำเอาแฟนๆ ช็อกและแอบเสียดายไม่น้อย เมื่อนักแสดงสาว โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ ได้ยุติความสัมพันธ์กับนักแสดงหนุ่ม ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานถึง 10 ปีแล้ว

ล่าสุด โบว์ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกที่งานเปิดตัว i-Tail PET CINEMA โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักสุนัขและแมวแห่งแรกในประเทศไทย ณ โรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเมกาบางนา พร้อมอัปเดตหัวใจของตัวเองให้ทุกคนได้ทราบว่า

สภาพจิตใจตอนนี้?

วันนี้แล้วกัน วันนี้โอเค เราเดย์บายเดย์ บรรยากาศที่นี่ด้วยทำให้เราได้เห็นสิ่งน่ารักๆ เอ็นดูทุกอย่างไปด้วย เป็นวันที่ดี โอเค ถ้าอยู่คนเดียวก็แล้วแต่วันเหมือนกัน

โบว์เป็นคนที่ค่อนข้างยอมรับอารมณ์ตัวเอง ถ้าวันไหนดีก็จะบอกว่าดี โดยเฉพาะเวลาเพื่อนๆ มาถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ดีก็ดี แต่ถ้าวันไหนนอยด์มากจะโทรหาเพื่อนให้มาหา หรือจะหากิจกรรมทำ

แต่ช่วงนี้ค่อนข้างอยู่บ้าน โบว์รู้วึกว่าการที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองหรือความรู้สึกต่างๆ มันค่อนข้างสำคัญ ช่วงนี้ได้นั่งสมาธิเยอะขึ้น ได้อ่านหนังสือเยอะขึ้น ฟังข้อความ หรือเปิดฟังอะไรที่มันเจริญสติเรา ที่ทำให้รู้สึกว่าต้องจัดการกับมันให้ได้

เพราะฉะนั้นการที่โบว์เอาเอนเนอร์จี้ของโบว์ออกไปข้างนอก อาจจะต้องเอนเตอร์เทนคนโน้นคนนี้ หรือไปเจอคนโน้นคนนี้ มันกลายเป็นว่าเหนื่อย การที่เราอยู่บ้านแล้วจัดการกับอารมณ์ตัวเองเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับโบว์ตอนนี้

แต่ก็มีด้วยความที่เพื่อนๆ เป็นห่วง ก็จะมาบุกบ้านกัน เหมือนเขาก็ใช้ชีวิตของเขาไป เขารู้ว่าเราก็จัดการของเราอยู่ ก็จะฟีลมาปิกนิกแล้วปล่อยให้เราเป็นเราไป

ใจกี่เปอร์เซ็นต์?

ก็แล้วแต่วัน ต้องเดย์บายเดย์เท่านั้น โบว์ไม่อยากลัดขบวนการ หรือไม่อยากบอกว่าโอเคมาก แล้วทุกคนคิดว่าโอเคจริงๆ แต่ในใจคือยังไม่โอเค เพราะฉะนั้นโบว์จะค่อนข้างจริงใจกับความรู้สึกที่เจอ ณ วันนี้

ยังร้องไห้คนเดียว?

มันมีแหละ (ใช้ธรรมะช่วย?) ใช่ วันไหนดิ่งมากการนั่งสมาธิและพิจารณาต่อความรู้สึก สิ่งนึงที่สำคัญและช่วยได้เยอะคือยอมรับ ยอมรับว่าตอนนี้ไม่โอเค ยอมรับว่าวันนี้ดีขึ้น

แล้วอีกอย่างที่โบว์ทำเพิ่ม มีดีเอ็มเข้ามาเยอะเหมือนกัน ก็แนะนำน้องคนนึงไปว่าปกติโบว์จดบันทึกอยู่แล้วประจำวัน แต่ก็จดความรู้สึกตัวเองเข้าไปเพิ่ม เหมือนไดอารีถึงตัวเอง

พอเวลาเรากลับไปดูจะเห็นว่ามีการพัฒนาความรู้สึกนะ บางวันอาจจะดรอปบ้าง หรือกลับไปสเตป สองสเตป มันสามารถดูได้ว่าเราพัฒนาไปตอนไหน จากวันแรกที่เขียนจนถึงวันนี้ เราเห็นว่าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ตั้งแต่วันที่ไปออกรายการ จนถึงวันนี้ได้คุยกับเขาบ้างหรือยัง?

(ส่ายหัว) (ทักไปหาเขามั้ย?) ไม่ทักเลยค่ะ โบว์ไม่ได้อยากทำให้ใครอึดอัด (เขาก็ไม่ได้ทักมา?) ไม่มีการพูดคุยกัน

สิ่งที่มันยังทัชใจเราอยู่คือภาพเก่าๆ หรือแฟนคลับที่ให้กำลังใจแล้วยังเห็นมูดเดิมๆ ในโซเชียล?

ภาพโบว์ในโซเชียลตอนนี้เยอะมาก โบว์ว่าจริงๆ ต่อให้ไม่มีภาพพวกนั้นมันอยู่ที่นี่ (จับที่หัวใจ) มันเป็นการสะสมระยะเวลานานมาก โบว์ไม่สามารถที่จะกดลบมันไปได้ ถ้าทำได้มันอาจจะไวขึ้น ดีขึ้น

แต่ว่า ณ เวลานี้ก็แค่ยอมรับความจริงว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ แล้วเราก็วันต่อวัน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเลย เราไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ในสภาวะนี้อีกนานแค่ไหน หรือว่าวันนึงโอเคมากๆ โบว์ไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นมันได้แค่ทีละวันๆ จริงๆ ค่ะ

เวลาดาราเลิกกันคนจะมองหาคนผิด เรามองยังไง?

โบว์ว่าถ้ามันดีร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โบว์ว่าทุกคนมีแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้คบกันแค่ 3-4 เดือน หรือคบกันเป็น 10 20 ปี สุดท้ายมันก็ต้องมีบางอย่างที่มันอาจจะกระทบกัน บางสิ่งบางอย่างที่เคยทำ

ณ วันนี้มันอาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะมนุษย์เราต้องเข้าใจว่าเปลี่ยนแปลงทุกวัน ความต้องการ ความชอบของเราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ปีที่แล้วเราอาจจะชอบกินก๋วยเตี๋ยวมาก มาวันนี้จะกินข้าว ไม่กินก๋วยเตี๋ยวแล้ว มันเป็นไปได้ เพราะเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

อะไรที่มันเคยโอเคมันอาจจะ ณ วันนี้ไม่โอเค มันต้องเติบโตจากจุดเก่าไป เพราะฉะนั้นโบว์ว่าจุดๆ นี้มันก็ทำให้โบว์เติบโตไปอีกระดับนึง ทำให้ไตร่ตรองความคิดตัวเอง หรือการกระทำหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นกับใครก็แล้วแต่ จะเป็นเพื่อน หรือครอบครัว เราจะมีการคิดมากขึ้นว่าเราไม่อยากให้ใครู้สึกไม่ดีกับเรา

เพราะฉะนั้นมันคือการตกผลึกของเราไปด้วย เหมือนเราข้ามไปอีกขั้นนึงว่าเราเป็นเวอร์ชันที่ดีขึ้นได้ บางสิ่งบางอย่างมันต้องเกิดขึ้นเพื่อให้เราเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นคือการที่เราเปลี่ยนแปลง หรือการที่เรามีเหตุการณ์อะไรที่มากระทบมันต้องทำให้เราโตขึ้น แล้วโตขึ้นไปในทางที่ดีด้วย

ณ วันนี้เข้าใจเหตุผลที่เขาเปลี่ยนไป?

ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พยายามเข้าใจ เพราะทุกคนที่เจอโบว์พยายามทำความเข้าใจกับเขามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือครอบครัว เรารู้สึกว่าการที่เราเข้าใจคนนึงจริงๆ เราจะรู้เลยว่าเราต้องรับมือเขายังไง หรือเข้าหาเขายังไง มันเป็นการใช้ชีวิตค่ะ

เขาบอกว่ามันเป็นปัญหาที่สะสม เขาเปรียบเป็นตึก มันใช่เหตุผลเดียวกับที่เราคิดมั้ย?

ไม่พูดแล้วกันค่ะ

มีคนพยายามหาเหตุผลให้คู่เราว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้หรือเปล่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องคลิปที่กินอาหาร?

(หัวเราะ) เอาจริงๆ ทุกครั้งก่อนถ่ายเราจะมีการพูดคุยกันก่อน และก่อนลงก็จะมีการคุยกัน เช็กกันว่าลงได้มั้ย แล้วเหมือนจะนานแล้วด้วย

ทุกการลง เราจะไม่ลงอะไรที่ไปกระทบใครอยู่แล้ว เราจะมีการคุยกันก่อน เพราฉะนั้นมันไม่ได้เป็นการแกล้งกัน ก็รู้กันแล้วว่าจะทำ ไม่ว่าคลิปอะไรก็แล้วแต่ เราไม่อยากให้มีดราม่าเกิดขึ้น

ฉะนั้นถ้าเรารู้สึกว่าทั้งคู่ หรือกับเพื่อนเองก็เถอะ เวลาจะลงคลิปอะไรก็จะถามว่าโอเคไหม ลงได้ไหม มีการพูดคุยอยู่แล้ว แต่ก็เข้าใจ พยายามเข้าใจ โบว์ไม่ได้โกรธหรือเคืองนะ เข้าใจจริงๆ พอไม่ได้มีการลงดีเทลก็อยากจะหาข้อมูลเพิ่ม โบว์เข้าใจตรงนี้เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันกระทบอะไรโบว์มาก ก็มองไปยิ้มไป

ตอนแรกคนให้กำลังใจเรา แต่พอมีคลิปออกมาทัวร์ก็ตีกลับเรา?

บางคอมเมนต์ได้เห็น ในสิ่งที่โบว์รู้สึกนะบางอันที่เรารู้สึกว่าไม่ก็แค่ผ่านไป แต่ถ้าบางอันที่เอ๊ะว่ามีจุดที่เราปรับได้อีก โบว์พยายามเอาคำติมาดูว่าหรือตรงนี้เราอาจจะไม่น่ารัก หรือตรงนี้เราอาจจะปรับให้มันดีขึ้นได้

เพราะว่าเรามนุษย์ที่สามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา เราไม่ได้หยุดอยู่กับที่แล้วเราจำเป็นต้องยึดติดว่าเป็นแบบี้จะไม่เปลี่ยนแปลง เราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด พรุ่งนี้อาการโบว์อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ หรือไม่ก็แย่กว่านี้ก็ได้ มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา

เราไม่คิดว่าผิดที่ฝั่งเราหรือเขามั้ย?

มันน่าจะทั้งคู่แหละ โบว์คิดว่าน่าจะต้องเป็นทั้งคู่ เพราะตบมือข้างเดียวมันไม่ดังเนาะ มันต้องมีอะไรที่ต่างคนต่างกระทบกันมากกว่า (เคยเลิกมาหลายครั้ง?) อันนั้นเป็นฟีลทะเลาะกัน (ครั้งนี้หวัง?) ไม่อยากพูดเลย

อยากคุย อยากเคลียร์อะไรกับเขามั้ย?

จริงๆ มีหลายอย่างที่อยากพูดมาก แต่โบว์ค่อนข้างที่จะเคารพในการตัดสินใจของเขาแล้วก็ให้เกียรติ เพราะรู้สึกว่าใครที่อยู่กับเราแล้วเขาไม่แฮปปี้ โบว์ไม่ได้ใจร้ายเกินไปที่จะต้องรั้งไว้ คุณต้องอยู่ในความทุกข์กับเรา

โบว์รู้สึกว่าถ้าเรารักใครมากพอ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่เขาอยู่ในจุดอื่นแล้วแฮปปี้กว่า ถ้าเรารักเขาจริงๆ ก็ต้องไม่เห็นแก่ตัว แล้วเราก็ต้องมาจัดการกับตัวเอง

ที่ผ่านมามีสัญญาณว่าทะเลาะก่อน?

จริงๆ ที่ผ่านมาอาจจะเป็นฟีลง้องแง้ง เป็นฟีลไม่คุยกัน 2-3 วัน ก็เป็นเหมือนคู่ปกติทั่วไปแหละ เวลาไม่แฮปปี้กับอะไรก็จะพักก่อน หันหลังก่อน ไปตั้งสติก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกัน แต่ก็ (พยักหน้า)

เรียกว่าต้องปล่อยเขาไปเพราะรัก?

ต้องปล่อย ในเมื่อมันต้องเป็นแบบนี้

วันหนึ่งมันอาจจะมีหวังก็ได้?

โบว์ไม่รู้เลย ไม่กล้าจะคอนเฟิร์ม หรือฟันธง เพราะว่าโบว์ไม่รู้จริงๆ แม้กระทั้งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ค่อนข้างตกใจอยู่เหมือนกัน ก็เลยไม่คาดหวังอะไรละ (ยิ้ม) อะไรมันจะเกิดก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะเวลาเราไปปักธงอะไรไว้มันเฮิร์ตอะ มันไม่เป็นดั่งใจที่เราต้องการ หรือสิ่งที่เราคิดเอาไว้ แล้วมันเคว้งอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน

ตอนนี้ใช้คำว่ามูฟออน โบว์สามารถเดินออกมาได้มั้ย?

โบว์พยายามอยู่ (หัวเราะ) มันนาน เมมโมรีมันเยอะ อย่างที่บอกโบว์จะค่อยๆ ไป เพราะโบว์ไม่อย่กรู้สึกว่า ไม่เอาละ เราสบาย แล้วผ่านไป 2 อาทิตย์ดิ่งกว่าเดิมอีก โบว์กลัวว่ามันจะไปอยู่ในจุดๆ นั้น เพราะฉะนั้นเดย์บายเดย์ให้มันเป็นกระบวนการของมันไป

บางคนทำได้ไวก็ดีใจกับเขามาก เพราะมันจะฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว แต่ถ้ามันต้องใช้เวลาก็ให้เวลากับมัน เพราะพูดตรงๆ ความรู้สึกนี้ก็ไม่ได้มีมานานมาก (ยิ้ม) พอมาแล้วก็ทำความรู้จักใหม่ เราก็ต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจเขาใหม่ ว่าเราอายุขนาดนี้แล้ว โตขนาดนี้เรามีวิธีในการจัดการกับมันยังไง เราคงไม่ใช้วิธีเดิมๆ ค่ะ ก็ใช้วิธีที่มันโตขึ้น

เรื่องข้าวของต่างๆ?

โบว์กับเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว เขาอยู่บ้าน โบว์ก็อยู่คอนโดของโบว์

จริงๆ แล้วเกี่ยวกับเรื่องทัศนคติด้วยมั้ย เพราะคนจับประเด็นเวลาที่ก๊อตพูดออกสื่อ?

เขาเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ และเป็นคนคิดหลายชั้น ถ้าใครรู้จัก หรือเคยสัมภาษณ์เขา เขาจะไตร่ตรองในทุกๆ อย่างที่พูดออกไป หรือข้อความในอดีตที่เขาเคยลง โบว์ว่ามันก็คือบทสรุปจากที่เขาอ่านหนังสือ หรือที่เขาประสบมา ให้คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือได้อ่าน หลายๆ คนก็ได้ตกผลึกจากตรงนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องดี สำหรับโบว์ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกค่ะ

ไม่เกี่ยวกับมือที่สามใช่มั้ย?

คิดว่าใช่ (ยิ้ม)

ไม่เคยมีเรื่องให้ระแคะระคายใช่มั้ย?

ใช่ค่ะ ไม่มี

เป็นปัญหาที่สะสมมานานใช่มั้ย?

ไม่รู้เลย คิดว่านะ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ โบว์คิดว่าบางทีมันไม่จำเป็นต้องหาคำตอบแล้ว ปล่อยให้เวลามันเคลียร์ไป แยกกันไปเติบโต

โบว์คิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเขาเป็นคนที่ดีและเป็นคนน่ารัก โบว์คิดว่าโบว์ได้เติบโตจากการที่ได้อยู่กับเขา เพราะเขาเป็นคนที่ตั้งใจมุ่งมั่น ทำให้เรามีความพยายามอยากจะพัฒนาตัวเองเช่นกัน ไม่มีความรู้สึกไม่ดี ไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองอะไรก็แล้วแต่ มีแต่ความหวังดีให้

ทุกวันนี้สวดมนต์นั่งสมาธิ โบว์มีแต่แผ่ความรักให้เขา เพราะสุดท้ายแล้วเราก็มีแต่ความหวังดี เราไม่ได้อยากจะให้เขาจมปลักอยู่กับความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ อยากให้เขามีความสุข

เพราะสุดท้ายแล้วเราไม่ได้มีความโกรธเคือง ไม่ได้มีความแค้นอะไร ต่อให้อะไรก็แล้วแต่ไม่ถูกใจเราก็เถอะ แต่ทำให้คนที่เรารักแฮปปี้เราก็ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรมากมาย.