Inside Dara
แฟน “กระติ๊บ” หวงเซ็กซี่ “เบาได้เบา”

ได้เวลาปล่อย “ของ” แบบไม่กั๊กฝีมือ กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล ดาราสาวเจ้าเสน่ห์ มี “มง” การันตีความสวย ด้วยตำแหน่งรองอันดับ 3 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2551 และรางวัลงามอย่างไทยมาครอง ก่อนจะผันตัวเป็น “นักแสดง” ช่อง 7 ยุคอนาล็อก ก่อนตัดสินใจเป็น “นักแสดงอิสระ” เพื่อหาประสบการณ์ชีวิต ล่าสุดสวมบทจุ๋ม หมอนวดเจ้าเสน่ห์ ในละคร “บังเกิดเกล้า” ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 ผลิตโดย บริษัท เช้นจ์ 2561 จำกัด เต็มที่สุดๆ ด้วยการลงทุนเพิ่มน้ำหนักเพื่อเป็นคุณโส ขาวอวบ น่าฟัด ซึ่งเรื่องราวกำลังเข้มข้นคลั่กๆๆๆ ห้ามพลาดสักตอน

ขอพักลง “อ่าง” สลัดลุค “สาวไซด์ไลน์” เพราะสาวกระติ๊บขอสวมวิญญาณนางแบบ ขึ้นปก “มาลัยไทยรัฐ” เสิร์ฟความสวย แซ่บ ให้แฟนๆแบบเต็มๆกับแฟชั่นสุดเซ็กซี่ ซึ่งเซตนี้กระติ๊บลงทุนแต่งหน้าเอง บวกกับเสื้อผ้าสวยหรูดูแพง จากแบรนด์ milin เพิ่มความเผ็ดแซ่บได้ไม่ยาก ให้ช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต เก็บภาพรัวๆกับแฟชั่นสวยหวานปนเซ็กซี่

กระติ๊บเผยว่า “ติ๊บ ไม่ได้ถ่ายอะไรแบบนี้นานมาก เรียกได้ว่าโพสไม่เป็นกันเลยทีเดียว อันนี้ไม่ได้โกหกนะ เกร็งไปหมด ประมาณสองชุดแรกก็ยังเกร็งอยู่เลย ทำมือไม้ไม่ถูกว่าต้องถ่ายยังไง ก่อนหน้าที่จะมาถ่ายก็คือซ้อมยิ้มหน้ากระจกด้วยนะ ต้องทำหน้ายังไง เพราะว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนี้นานมาก เหมือนย้อนวันวานของเราไปในตัว ประมาณ 10 กว่าปี ที่ถ่ายเซ็กซี่ครั้งสุดท้ายลงหนังสือมา ตอนนั้นพี่จอร์จ ธาดา ถ่าย น่าจะ 8 ปีที่แล้ว นานเหมือนกัน แล้วหลังจากนั้นคือ ใครมาชวนถ่ายไม่ถ่ายเลยนะ ติ๊บเขิน” เวลาเราถ่ายแฟชั่น ปั่นแฟนเราเค้าขอดูชุดไหมว่าเซ็กซี่อะไรยังไง “เค้าจะพูดคำหนึ่งว่า ทำอะไรเพลาๆลงหน่อย อย่าโป๊มากนะ เค้าก็จะมีแอบๆมาบอกเหมือนกัน ก็หวงแหละ ออกนอกบ้านยังแต่งโป๊ไม่ได้เลย”

มาร่ายยาวกับการรับบท “สาวไซด์ไลน์” นั่งดริงก์ ออเซาะแขกกระเป๋าหนัก สายเปย์ งานนี้ไม่ง่าย ไม่หมูอย่างที่คิดเอาไว้เลย “ตั้งแต่เล่นละครมา ติ๊บยังไม่เคยเจอบทท้าทายแบบจุ๋ม เพราะเป็นหมอนวด เด็กนั่งดริงก์ สู้ชีวิต ตอนที่ติดต่อเข้ามาติ๊บตัดสินใจเล่นทันทีเลย และเชื่อว่าหลายๆคนคงอยากเล่นบทแรงๆแซ่บแบบนี้เพราะมีความท้าทายไม่น้อย ตอนแรกติ๊บถึงขั้นปรึกษาเพื่อนว่าให้เพื่อนพาไปดูของจริงดีไหม เคยคุยกับพี่กิ๊ก-สุวัจนี เพราะว่าพี่กิ๊กเองก็เคยเล่นบทประมาณนี้มาก่อน พี่กิ๊กบอกว่า พี่ไปดูเองเลยนะที่พัทยา แล้วติ๊บก็ไปบอกพี่กู่ ผู้กำกับ บอกว่าไม่ต้องขนาดนั้น ไม่ได้เป็นแบบถึงขั้นนั้น เป็นแบบเด็กดริงก์ ให้พยายามสังเกต หรือดูหนังอะไรแบบนี้ก็พอ เพราะว่าก็เคยเล่นกับพี่กู่มาก่อน พี่กู่ก็จะบอกว่าเอาประมาณตัวนี้ แต่ขอเพิ่มดีกรีอีกนิดจากเรื่องที่แล้ว”

เพราะบทแซ่บๆพาไป ทำให้ต้องเจอบทนัวเนีย คลอเคลียกับหนุ่มๆ ซึ่งคนที่เข้าฉากบ่อยที่สุดเป็นใครไม่ได้นอกจาก หนุ่ม-ศรราม เป็นการทำงานด้วยกันครั้งแรกแต่เข้าหารับส่งกันไหลลื่น ทำให้กองถ่ายมีชีวิตชีวา กระติ๊บเล่าว่า “การร่วมกับพี่หนุ่มสนุกค่ะเพราะตัวบทติ๊บ ก็คือหลอก พี่หนุ่มก็หลอก คือหลอกกันไปหลอกกันมา มันจะมีอารมณ์แบบ กอดกันนะ แล้วต่างคนก็ต่างหันหน้าไปอีกกล้อง แล้วคือไม่ได้เตี๊ยมกัน หนูก็จะทำปากพูดว่าตอแหล แบบไม่มีเสียง แล้วพี่หนุ่มก็แบบทำจะอ้วกใส่อะไรแบบนี้ แต่คือตอนถ่ายเราไม่รู้ว่าเค้าทำ พอคัตเสร็จ เมื่อกี้พี่หนุ่มพูดอะไรรึเปล่า พี่เค้าก็บอกพี่ทำท่าจะอ้วก ติ๊บก็เลยรู้สึกว่า มันมวยถูกคู่ ส่วนเวลาเข้าฉากนัวๆ อ้อนๆ เชื่อมั้ย ติ๊บเกรงใจน้องวีจิ ลูกสาวพี่หนุ่มเหมือนกัน มันโชคดีที่เราเป็นสายบุก ก็จะไม่ค่อยเขิน”

สาวกระติ๊บ-ชวัลกร เลือกที่จะบินเดี่ยวเป็น “นักแสดงอิสระ” ช่วง 2 ปีที่ต้องดูแลตัวเองเลยเป็นช่วงปรับตัวยกใหญ่ กระติ๊บเผย “ก็ปรับตัวมากนะคะ เพราะว่าสมัยก่อนเราเป็นเด็กที่มีสังกัด อย่างน้อยคือเราก็มีแรงซัพพอร์ต มีโอกาสให้เราอยู่เสมอ เพราะว่าอย่างน้อยสังกัดก็ต้องหยิบยื่นสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กในสังกัดก่อน แต่ว่าพอเราออกมาเองเนี่ย! โอเค มันมีโอกาสที่จะร่วมงานหลากหลายมากขึ้น รู้จักคนใหม่ๆ ที่ใหม่ๆ มันกว้างมาก แต่เราจะคว้างานมาได้ยังไง มันก็ค่อนข้างที่จะยากเหมือนกัน” ในช่วง 2 ปีที่เราออกมาฉายเดี่ยว มันทำให้เราเติบโตมากแค่ไหน? “ติ๊บว่ามันเปลี่ยนไปเยอะ เหมือนเข้าใจอะไรมากขึ้น ในวัย 32 คือเพิ่งจะมาเข้าใจชีวิตจริงๆ มันช่างดุเดือด แต่ว่าติ๊บโชคดีที่ติ๊บมีคนข้างกายที่ดี มีทีมที่ดี มีคนซัพพอร์ต คนร่วมงานที่ดี ถ้าแต่ก่อนเรามีสังกัด เราไม่ค่อยสนใจคนหลังบ้านเท่าไหร่ แต่พอตอนนี้หลังบ้านนี่แทบจะเป็นหัวหอกของเราเลย ในการต่อสู้ทุกอย่าง คือเมื่อก่อนเราติสต์ได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ จริงๆตอนนี้ติ๊บก็ยังเป็นอยู่นะ แต่ก็ลดจากเมื่อก่อน”

งานก็รุ่ง รักก็เริ่ด...ด เพราะ หนุ่มปั่น-พจศกร แฟนหนุ่มนอกวงการโปรไฟล์ดีดีกรีนักเรียนนอก ต่างคบหาดูใจกันมานานถึง 10 ปี เป็นรักมาราธอน จนทุกคนลุ้นเมื่อไหร่ทั้งคู่จะมีข่าวดีลั่นระฆังวิวาห์ สาวกระติ๊บเปิดใจว่า “บางวันก็คิดทีเล่นทีจริงว่ายังไงดี แม่ก็เริ่มถามๆมาแล้ว เมื่อไหร่จะแต่งงาน เมื่อไหร่จะมีน้อง แต่พอติ๊บค้นข้างในตัวเองจริงจังเออทำไมยังไม่ทำนะ เรายังสนุกกับงานอยู่จริงๆ ถ้า แต่งก็คงจะเป็นวันที่จะมีน้องเลยแล้วกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่ตอนนี้อายุก็ 32 แล้วไง เดี๋ยวไปฝากไข่ก่อนแล้วกัน ทำงานก่อน แล้วก็ช่วงวัยที่เราจะเลี้ยงหรือสามารถที่จะเติบโตพร้อมลูก ติ๊บก็คิด แต่บางวันติ๊บก็รู้สึกว่ายังไม่เหมาะเป็นแม่ ยังไม่พร้อม ทุกวันนี้คือก็ยังชอบใช้ชีวิตแบบนี้ ติ๊บเคยถามแฟนแบบทีเล่นทีจริง เค้าบอกว่าแล้วแต่ติ๊บเลย เค้าพร้อมเสมอ แต่ตัวติ๊บไม่พร้อม” ถ้าเกิดวันหนึ่งเค้าลุกขึ้นมาเซอร์ไพรส์ขอติ๊บแต่งงาน? “ถ้าไม่ถูกใจคือ ไม่จ้ะ (หัวเราะ)”

10 ปีที่เรียนรู้กัน มันใช่ในอย่างที่เราต้องการ นี่คือลงตัวแล้วหรือยัง? “ติ๊บกับเค้าโชคดีที่เราคบกันเหมือนเพื่อน เพื่อนเค้าก็คือเพื่อนติ๊บ มันเลยแทบจะไม่ต้องพยายามหรืออะไร เราจะรู้สึกว่า เหมือนเค้าเป็นเพื่อนสนิทตลอดเวลาของเรา เราก็ดีใจที่มีเค้าอยู่ตรงนี้ตลอด คือเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งแฟน เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งผู้ปกครอง หรือเวลามีปัญหาเค้าก็อาจจะเป็นผู้พิทักษ์เรา เค้าก็เป็นได้ทุกอย่าง” ณ ตอนนี้ มันยังมีหนุ่มๆเข้ามาจีบไหม แบบรู้แหละว่าเรามีแฟน แต่ก็อยากลองของ? มีค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ก็มี ก็คืออยากลองของแหละ ติ๊บก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้เค้า อยากรู้ว่าเค้าจะจัดการตรงนี้ยังไง เค้าหึงเราปะ เค้าก็พิมพ์กลับไปว่าอย่าโทร.มาได้ไหม ถ้ามีอะไรคุยกับเค้าได้ เราก็รู้สึก เค้าก็ยังหวงอยู่นะ ปกติเค้าจะแบบไม่หึงหรอก ไม่หวงหรอก ก็นานๆทีจะมีมาให้ลองของ มันก็ตลกดีค่ะ”.