Inside Dara
นับแสนแอนตี้! "กระแต อาร์สยาม" เฟค? สร้างปรากฏการณ์ "Dislike"

กลายเป็นปรากฏการณ์ที่กำลังน่าจับตาดูอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณียอด "Dislike" เพลงทีเซอร์เรียกน้ำย่อย "ตื๊ด" ของสาวกระแต อาร์สยาม (นิภาพร แปงอ้วน) โดยทันทีที่ถูกปล่อยลงยูทิวบ์ แทนที่กระแสจะดีอย่างที่ "เฮียฮ้อ" บอสใหญ่แห่งอาร์เอส คาดไว้ ทว่ากลับมียอดคลิก dislike มากมายจนน่าละอายใจ (ล่าสุดมียอด Dislike 11,364 แล้ว ในขณะที่ยอด Like มีแค่ 1,520) ซึ่งคงต้องตามลุ้นกันต่อไปหากเพลงเต็มถูกปล่อยออกมา

ไม่เพียงแต่ความน่าตกใจข้างต้น ยังมีกลุ่มคนรวมตัวกันตั้งเพจแอนตี้นักร้องสาวคนนี้กันด้วย ล่าสุด มีตัวเลขคนเข้ามากดไลค์เพจดังกล่าวแล้วจำนวน 115,773 ไลค์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น้อย และกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

สร้างปรากฎการณ์ "Dislike" บนยูทิวบ์

เป็นกระที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย สำหรับงานเพลงล่าสุดของนักร้องสาวท่านนี้ ที่เพียงแค่ทีเซอร์ถูกปล่อยออกมา ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ยับถึงความไม่เหมาะสมในความเป็นลูกทุ่งทั้งเนื้อร้อง และการแต่งตัว จนสร้างปรากฏการณ์กดไม่ชอบ หรือ Dislike มากกว่า Like ทำให้เรื่องนี้ร้อนไปถึงต้นสังกัดที่แทบจะตามลบกันไม่ทัน

"ภาพก็ไม่ใช่ลูกทุ่ง ไปก๊อบเพลงฝรั่งมา มันลูกทุ่งตรงไหน ฝรั่งมีร้องเอื้อนด้วยเหรอหะ??" คุณ Gusalin sarachan

"เพลงนี้ถ้าไม่เอานักร้องลูกทุ่งมาร้องก็ดีน่ะ แต่ติดตรงเพลงมันลูกทุ่งยังไง แน่นอนพอรับได้นะ เพราะเอานักร้องสตริงกับลูกทุ่งมาผสมกัน แต่นี่จะลูกทุ่งหรือสตริงเอาให้แน่สักอย่างดิ" คุณ 2527nana

"หาความเป็นไทยไม่เจอ! กระแสนิยมไปป่ะ เพลงลูกทุ่งนะ ไม่ใช่สตริง" คุณ Mam Ranchana

ขณะที่คนเห็นด้วย ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นกัน

"วัตถุประสงค์ของการฟังเพลงก็คือ ฟังให้มันรู้สึกว่ามีความสุขหรือสนุกไปกับเพลงเท่านั้นก็พอ ตัวนักร้องจะเป็นยังไงหรือแนวเพลงจะเป็นแบบไหนก็ช่างเขาเหอะครับ อย่ารบกันเลย โลกจะได้เย็นลงบ้าง ^^" คุณ Gemini Saga

"ชอบครับ! เพลงลูกทุ่งต้องก้าวไปข้างหน้าบ้าง ไม่ใช่ย่ำอยู่ที่เดิม ถ้าชอบช้าๆ เนิบๆ ก็ไปฟัง ต่าย, ศิริพร หรือใครๆอีกหลายคนสิ" คุณ Ram Kama

"สนุกจัง ชอบๆๆ อยากตื๊ดๆๆๆ" คุณ maxnum281

ทางฟากต้นสังกัดเอง แม้จะเคยออกมาพูดว่า ตลาดเพลงลูกทุ่งต้องเปลี่ยนตามยุคสมัย ปัจจุบันมีเพลงลูกทุ่งแนวใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งลูกทุ่งสไตล์ป็อป ลูกทุ่งเกาหลี ลูกทุ่งร่วมสมัย แต่ในมุมของ "แดน บุรีรัมย์" ในฐานะครูเพลงผู้เชี่ยวชาญด้านเพลงลูกทุ่งไทย อดีตนักดนตรีลูกทุ่งผู้มากประสบการณ์ และคณะกรรมการการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งตามรายการโทรทัศน์และสถาบันการศึกษาต่างๆ เขาเคยให้สัมภาษณ์ผ่าน ASTV ผู้จัดการ Live อย่างตรงไปตรงมาในกรณีคล้าย ๆ กันว่า

"ลูกทุ่งแท้ๆ โดยวิธีการร้อง ทุกวันนี้ก็ยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง ยกตัวอย่าง คัฑลียา มารศรี, ฝน-ธนสุนทร, สุนารี ราชสีมา ฯลฯ เขาขายเสียงไม่ได้ขายความสั้น แต่นักร้องลูกทุ่งน้องใหม่ช่วงหลังๆ กลายเป็นว่าต้องเน้นขายสั้นโชว์โป๊ไปแล้ว นี่แหละที่มันทำให้เสียภาพลักษณ์ แทนที่จะขายศิลปะ"

"คนรุ่นก่อนเขาก็ไม่ได้เน้นขายรูปลักษณ์แบบนี้ ลูกทุ่งก็อยู่กันมาได้ช้านานค่อนศตวรรษ 60-70 ปีมาแล้ว ขายเนื้อหาสาระของเพลง ขายลูกเอื้อนแบบลูกทุ่ง แค่นั้นก็อยู่ได้แล้ว แถมคนยังชื่นชมเยอะแยะ การชื่นชมกับความโด่งดัง มันผิดกันนะ ถ้าคุณทำอะไรแล้วดูมีศิลปะ สวยงาม ถูกจารีตประเพณี ความโด่งดังมันก็เป็นอมตะ แต่ถ้าคุณทำอะไรให้เสื่อมวัฒนธรรม เสื่อมประเพณี ถึงจะโด่งดังก็จะได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าว แค่ชั่วระยะที่กำลังฟู่ฟ่าเท่านั้นเองแหละ พอบั้นปลายก็อยู่ไม่รอด แต่ถ้าดังด้วยความดี-ความงาม จะอยู่ได้นาน"

"ฉะนั้น ลูกทุ่งจะเป็นอะไรก็ได้ จะร้องแบบใหม่ เอื้อนแบบร่วมสมัยก็ได้ ไม่ได้บังคับให้ต้องเป็นลูกทุ่งแท้ ไม่ได้บอกให้ยืนย่ำอยู่กับที่ เพราะเข้าใจว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่าขอให้อย่าเกินเลยวัฒนธรรม เรื่องความดีความงามของไทยกันนักเลย ช่วยกันรักษาหน่อยเถอะ"

อย่างไรก็ดี กรณีกระแต อาร์สยามนั้น คล้ายกันกับกรณีสาวน้อย Rebecca Black เจ้าของผลงานเพลง Friday ที่มียอดกด "ดิสไลค์" มากที่สุดจากการจัดอันดับ 10 MV ที่มีคนกด Dislike มากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่วงการบันเทิงไทยยุคนี้กำลังจับตาดูอยู่ไม่น้อย เพราะสื่อออนไลน์ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อกระแสดัง-ดับมากกว่าแต่ก่อน

อึ้ง! คนเกลียด ตั้งเพจแอนตี้นับแสน

แต่หากจะวิเคราะห์ให้ลึกลงไป ปรากฏการณ์กระหน่ำ Dislike ทีเซอร์เพลงใหม่ของนักร้องสาวท่านนี้ อาจไม่ใช่เพราะแนวเพลงที่ดูขัดกับความเป็นลูกทุ่งอย่างเดียว เพราะนักร้องลูกทุ่งที่เป็นข่าวหลาย ๆ ท่าน เซ็กซี่ วาบหวิวมากกว่าเธอเสียอีก แต่กลับไม่เป็นที่จงเกลียดจงชักมากมายขนาดนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่ากระแสข่าวลบ ๆ หลาย ๆ กระแสข่าว ทำให้ใครหลายคน พาลไม่ชอบผลงานของเธอไปด้วย

เห็นได้จากเพจ แอนตี้กระแต อาร์สยาม ที่ออกมาแฉอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะขุดคุ้ยข้อความที่โพสต์ในอินสตาแกรม เรื่องราวในอดีต และจับผิดการให้สัมภาษณ์ ซึ่งก็ดูเหมือนข้อมูลต่าง ๆ จะชัดเจน และตรงกัน จน "นาธาน โอมาน" ทนไม่ไหวออกมามอบตำแหน่ง "ลวงโลก2" ให้เลยทีเดียว

ประเด็นที่เรียกได้ว่าร้อนแรงที่สุด คือ มีคนจับสังเกตได้ว่า ภาพชีวิตหรูหราราคา 10 กว่าล้านที่กระแต และกระต่าย อาร์สยาม ซึ่งเป็นน้องสาว ได้โพสต์ในอินสตาแกรม ล้วนเป็นภาพที่หามาจากในอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ภาพที่พวกเธอสัมผัสและถ่ายเอง ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นประเด็นการกินอาหารผ่านเน็ต ที่เธอโพสต์ภาพอาหารสุดหรูเหมือนเธอได้ไปกินมาเอง แต่เมื่อหาดูดี ๆ แล้ว กลับพบว่าภาพดังกล่าวเป็นรีวิวร้านอาหารในอินเทอร์เน็ต

หรือหากใครยังจำกันได้กับกระแสข่าวที่ชอบอ้างรูปรถหรูคนอื่นเป็นของตัวเอง อวดร่ำอวดรวยว่ามีเงินอยู่มาก ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้มีมากอะไรขนาดนั้น แล้วหากมีคอมเมนต์ที่เข้าไปจับผิดตัวเธอกับน้องสาวแล้วล่ะก็ เธอจะบล็อกทันที แล้วก็มาแจ้งต่อบรรดาแฟนคลับว่าคอมเมนต์มันหายไป

นอกจากนี้ยังมีประเด็นมือที่สาม หรือเรื่องอื่น ๆ ที่คนในวงใน และคนใกล้ชิดออกมาแฉอีกมาก ซึ่งความจริงจะเป็นอย่างไร เจ้าตัวยังไม่ออกมาแถลงการณ์

ต่อกรณีดังกล่าว ทัศน์สรวง วรกุล อดีตนายกสมาคมนักข่าวบันเทิง และผู้จัดรายการวิทยุคลื่น 103.5 FM one วิเคราะห์ในภาพรวมว่า การที่ใครสักคนจะถูกคนไม่ชอบได้มากขนาดนี้ มีหลาย ๆ อย่างประกอบกันไป อย่างนักร้องสาวคนนี้ ที่ผ่าน ๆ มาเคยมีข่าวกับดารา นักแสดงชายระดับพระเอกอยู่บ้าง เป็นไปได้ที่คนบางกลุ่มจะพาลไม่ชอบผลงานของเธอ และคอยจับผิดพฤติกรรมอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งจริงหรือไม่ เจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงกับสังคม

"เราก็ไม่สามารถไปตัดสินเขาได้ แม้จะมีหลักฐานออกมายืนยันก็ตาม เพราะการจะโพสต์หรือบอกเล่าอะไรทั้งในอินสตาแกรมและในเฟซบุ๊ก มันอาจจะมีทั้งความจริง และไม่จริง ถ้าไม่จริง ก็ควรออกมาชี้แจงสังคม หรือยืดอกรับกันไป มันน่าจะเป็นผลดีกว่ามาก" อดีตนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงแนะ

สารจากผู้หวังดีถึง "สาวแต"

อย่างไรก็ดี พฤติกรรมดังกล่าว ทำให้คนบางกลุ่มเริ่มรู้สึกเป็นห่วงมากกว่าจะไปซ้ำเติม โดยเฉพาะบุคคลท่านหนึ่งที่เคยทำงานร่วมกับนักร้องสาวท่านนี้ ซึ่งเขาได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ" ด้วยความห่วงใย และอยากให้นักร้องสาวท่านนี้ กลับมาเป็นเด็กที่น่ารักเหมือนเดิม

"เข้าไปชม เพจแอนตี้ กระแต กระต่าย อาร์สยาม แล้ว ผมบอกตรงๆ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่า ศิลปินสักคนหนึ่งทำไมถึงได้มีคนจงเกลียดจงชังขนาดนี้ เข้าไปตามดูการวิจารณ์ที่ผมเรียกว่าด่าในทุกรูปแบบแล้ว ก็มานั่งพิจารณาว่าตลอดเวลาที่เราทำงานกับศิลปินสาวท่านนี้ตามงานต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ผมได้ผลสรุปกับตัวเองเพียงสั้นๆว่าเธอเปลี่ยนไปเยอะพอควร"

"ยิ่งประมวลเรื่องข่าวคราว กระแสปีนเกลียว ข่าวมือที่สาม (ที่คนก็ยังไม่เชื่อ) และการพยายามทำ PR ที่ไร้การวางแผน ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นข้อผิดพลาด ยิ่งการปะทะกับกลุ่มแฟน ๆ จนกลายเป็นการ anti เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ซ้ำเจ้าตัวและพี่น้องก็ไม่ได้เข้าใจว่ากำลังเป็น "การติดหล่มความเจริญในหน้าที่การงาน" ยังมองว่ามีคนจ้องล้มตัวเองลง..ผมยากให้ใครที่รู้จักและสนิทกับน้องคนนี้ช่วยกันเตือนเธอครับ ว่าโปรดหยุดคิดและทบทวน ก่อนจะมีกลุ่มคนไปยืนถือป้าย "Dislike หรือ Anti" ที่หน้างานเวลามีคนจ้างเธอไปทำงาน ผมรับรองว่าหากเปิดเรื่องแบบนั้นขึ้น..นับถอยหลังสู่การจบอาชีพนี้ได้เลยครับ อยากให้น้องสาวคนนี้กลับมาเป็นเด็กที่น่ารักคนเดิมครับ"

ทั้งนี้ ยังฝากไปถึงศิลปิน โดยเฉพาะศิลปินหน้าใหม่ๆ ให้ดูกรณีนี้ไว้เป็นตัวอย่างว่าควรพัฒนาไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาอาชีพของตนเองให้พุ่งต่อไป ไม่ใช่การ "ฆ่าตัวตายแบบนี้"

"ชื่อเสียง" ชื่อนี้อันตรายใช่เล่น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า คำว่า "ชื่อเสียง" เป็นสิ่งที่หลายคนอยากได้ แต่ก็ร้ายใช่เล่นเหมือนกัน เพราะเมื่อพัดผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นดารา หรือคนธรรมดา หากหลงระเริงไปกับมันและใช้โอกาสนั้นแบบไม่รู้จักคิด อาจทำให้ "ชื่อเสียง" และโอกาสดี ๆ เลือนหายไปอย่างน่าเสียดาย มิหนำซ้ำยังจะถูกประณามหยามเหยียดไปพร้อม ๆ กันด้วย ซึ่งที่ผ่าน ๆ มาก็มีตัวอย่างให้เห็นกันมากมาย อย่างกรณี "นาธาน โอมาน" ที่สร้างภาพหลอกลวงจนสุดท้ายก็ต้องพบจุดจบอย่างที่เป็นอยู่

"ดาราที่ดี ไม่ใช่สร้างภาพ อวดร่ำอวดรวย หรือทำให้ตัวเองดูรวยแล้วจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดแฟนคลับนะ แต่มันอยู่ที่การวางตัว ความสามารถ รวมไปถึงผลงานที่ออกมา มันเป็นเครื่องพิสูจน์มากกว่า แต่ถ้าเป็นดารา เป็นบุคคลของสาธารณะ แล้วยังหลอกพวกเขา หลอกสังคม เชื่อเถอะว่า สักวันคุณจะถูกขุดคุ้ย และตีแผ่ออกมา ไม่เฉพาะแต่เพียงดารา อย่างหลวงปู่เณรคำ เราก็เห็นผลของการหลอกลวงกันไปแล้ว ดังนั้นถ้าหลอกคนในสังคมวันนี้ได้ แต่ถ้าวันไหนที่ความจริงถูกเปิดเผย สิ่งที่ได้รับกลับมามันคือความเกลียดชังที่ทวีคูณมากยิ่งขึ้น" อดีตนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงทิ้งท้าย