Inside Dara
ชีวิตเปลี่ยนไป “ปันปัน–สุทัตตา” คนใหม่ซีซัน 2

ตาลุกวาวร้องว้าว เมื่อเห็นความสวย! เฟียซ! ปัง! ของสาวผิวขาวโอโม่ “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” ที่ลุกขึ้นมาถ่ายแบบสุดเป๊ะใน “มาลัยไทยรัฐ” จากนักแสดงสาววัยฮอร์โมน วัยว้าวุ่นที่ใครๆ ก็รู้จักและเห็นการเติบโตในวงการบันเทิง เจอเรื่องราวดราม่า ทั้งร้อนและหนาว แต่ก็ผ่านมาได้ทั้งหมดถึงวันนี้และยิ่งเข้าใจชีวิตมากขึ้น วันนี้ “ปันปัน” พร้อมก้าวไปข้างหน้า เปิดตัวเองอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ แถมยังเผยความเซ็กซี่ที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น

เลยต้องถาม “ปันปัน” ว่าตอนนี้มองว่าตัวเองโตขึ้นหุ่นก็เฟิร์มแล้ว พร้อมลงรูปเซ็กซี่ได้? “ใช่ค่ะ ก็นิดๆหน่อยๆไม่ให้เยอะเกินไม่ให้น่าเกลียด” มองว่าตัวเองเป็นสาวเซ็กซี่บ้างมั้ย? “อาจจะมีนิดนึง นิดๆไม่ได้เยอะมาก อาจจะเพราะหนูผิวขาวด้วย ทำอะไรมันก็จะดูโป๊ไปหมด แต่หุ่นหนูไม่โป๊ ตัวตรงๆ หุ่นเหมือนเด็ก”

ช่วงหลังได้เห็นปันปันในมุมที่หลากหลายขึ้น เติบโตขึ้น “ปันปัน” เผยว่า “หลังๆมาเริ่มมีการไปถ่ายแบบเล่นๆลองเปลี่ยนลุคดู จากที่เมื่อก่อนไม่เคยแต่งตัวแบบนี้เลย ก็ลองดูบ้าง เปลี่ยนบ้าง การแต่งหน้าทำผมก็ลองเปลี่ยนดู เราเคยมีคอมฟอร์ตโซนที่เราต้องหน้าผมประมาณนี้ แต่ตอนหลังก็ลองปรับ คนที่ช่วยดูเค้าก็โอเค บอกว่ามันเข้ากับเรา สมัยก่อนหนูถ่ายรูป หนูไม่เคยไม่ยิ้ม เจอกล้องต้องยิ้ม โตขึ้นมันก็มีจิกกล้องบ้างเปลี่ยนบ้าง เราก็โอเค ซึ่งสมัยก่อนเราจะคิดเองว่าประหลาดหรือเปล่าถ่ายรูปไม่ยิ้ม”

อะไรที่ทำให้เรากล้าออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง? “มันเป็นความอยากลองอะไรใหม่ๆคนก็เห็นเราแบบเดิมซ้ำก็ต้องเปลี่ยนบ้าง”

เวลาได้เห็นตัวเองในลุคใหม่หลาก หลาย รู้สึกยังไง? “เอาจริงๆไม่ค่อยชิน ไม่คุ้น เท่าไหร่ (ยิ้ม) แต่รู้สึกโอเคกับการได้ลองอะไรใหม่ๆนะคะ ก็หลากหลายแต่ก็ยังไม่มากขนาดนั้น ยังมีอะไรที่อยากลองพัฒนาให้ได้มากกว่านี้อีกเยอะ”

ตั้งเป้าในการทำงาน ณ ตอนนี้ยังไงบ้าง? “หลักๆเลยอยากเป็นนักแสดงให้ดี นอกเหนือจากนักแสดงก็อยากมีงานอื่น เช่น เป็นพิธีกร ร้องเพลง เต้น ทำอะไรที่ยังทำไม่เป็น แต่ก็ต้องฝึก ซึ่งไม่ง่ายเลย สมัยก่อนด้วยความที่เรายังเด็ก แล้วก็ไม่เอาอันนี้ไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ก็อยากลองทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น”

บทบาทการแสดงตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ก็ดูเติบโต ตีบทแตก? “เราก็โตไปกับบทบาท อนาคตก็หวังว่าจะมีบทที่หลากหลายให้เล่นยิ่งขึ้นในหลายช่องทางเพราะเราก็เป็นนักแสดงอิสระ คนอาจจะติดภาพเราเป็นเด็กวัยรุ่นพอโตมาก็มีการปรับเปลี่ยนบท อยากลองเล่นบทแตกต่าง อย่างเช่น เป็นคนโรคจิต ซับซ้อน มีหลายร่าง อย่างบทร้ายก็เริ่มมีมาแต่ก็ยังไม่ถึงกับร้ายสุดแซ่บสุด หนูรู้สึกเหมือนหนูเพิ่งเริ่มเข้าวงการถึงเราอยู่มานานก็จริงแต่โอกาสก็ยังมีอีกเยอะ เพราะอายุเรายังน้อยด้วย ตอนนี้รู้สึกว่านี่คือทางที่เราต้องเลือกเดินแล้ว เราก็วนกลับมาตกผลึกตัวเองว่าสุดท้ายเราก็คงชอบทางนี้แหละได้ทำงานตรงนี้”

ผ่านเรื่องราวหลากหลายในวงการถ้าเป็นบางคนอาจจะล้มหรือเซไปแล้วแต่ “ปันปัน” ก็ยังคงอยู่และเดินหน้าต่อ อะไรที่ทำให้ยังอยู่ “ปันปัน” ตอบอย่างจริงใจว่า “หนูว่าหนูโชคดี ที่มีคนรอบข้างที่ดี มีพ่อแม่ที่คอยซัพพอร์ตมีเพื่อนพี่น้อง คนรอบตัว มีผู้จัดการมีคนดูแลคนรอบตัวที่เป็นห่วงเราตั้งแต่เด็ก จริงๆหนูคิดมาตลอดว่าตัวหนูไม่ได้เป็นคนเลวร้ายหนูไม่ได้คิดร้ายกับใครนะ และมองโลกในแง่ดี ซึ่งอาจจะเป็นเพราะนิสัยเราเป็นแบบนี้ มันเลยคงทำให้เราอยู่ได้ คนรอบตัวสำคัญค่ะถ้าเมื่อไหร่ที่คนรอบตัวรู้สึกว่าเราไม่ดี ไม่เชื่อในตัวเราก็คงอยู่ไม่ได้ แต่เราโชคดีที่คนรอบตัวรักเรา เค้าคงรู้ว่าเราก็เป็นคนแบบนี้”

ที่ผ่านมาในโซเชียลก็มีหลายด้านไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ยังมีคนคอยแซะ หรือบูลลี่เรา เราตั้งรับยังไง? “เป็นเรื่องปกติค่ะหนูเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์นะ มันก็มีคนไดเรกต์ข้อ ความมาด่าก็มี เราก็เห็นนะ เราก็จะเข้าใจว่ามันไม่มีใครในโลกนี้ที่ทุกคนจะรักได้ หรือถ้าเข้ามาด่าในไอจีเราก็เลือกลบทิ้งบล็อกไปเลย แล้วก็กลับมาอยู่ในโลกของเรา เราก็ปล่อยผ่านไป”

มองตัวเองจากวันแรกถึงวันนี้เราโตขึ้นแค่ไหน? “เยอะเลยค่ะ 3 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นคนละคนเลยทั้งความคิดต่างๆ เพื่อนๆก็บอกว่าปันปันเปลี่ยนไปเยอะซึ่งเราก็ไม่รู้ตัวเลยนะ แต่คนอื่นบอกเราเอง อาจจะเพราะหนูเรียนจบด้วยค่ะ เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น เข้าสู่การทำงานว่าเราอยากทำอะไรกันแน่เริ่มค้นหาตัวเอง เริ่มโตมากขึ้น ก่อนหน้านี้ก็ไม่แน่ใจว่าเราจะทำอาชีพนี้ไปตลอดเหรอเราจะรอดเหรอ ก็พอทำได้แต่อาจจะยังไม่ได้ดีที่สุด แต่ตอนนี้ถ้าเราไปต่อเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด เมื่อก่อนเราก็เป็นเด็กดื้อคนหนึ่งไม่อยากทำอันนั้น อันนี้ ไม่เอาไม่พยายาม ตอนนี้เราก็พยายามมากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น เราก็ต้องอยู่ให้ได้”

ส่วนความรักตอนนี้ทุกอย่างลงตัวดี เพราะหัวใจหนุ่มนักธุรกิจ “ไบร์ท–อนันต์” เป็นรักที่ไม่หวือหวาคบหาอย่างเข้าใจ เลยถามว่าเกี่ยวมั้ยมีแฟนที่โตกว่าเยอะทำให้ “ปันปัน” โตขึ้นด้วยรึเปล่า เจ้าตัวเผยว่า “อาจจะเป็นส่วนนึงแต่ส่วนหลักๆมันอยู่ที่ตัวปันเองอยู่แล้ว ถ้าเด็กไปคบกับผู้ใหญ่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องมันก็คุยไม่ได้ แต่ด้วยความที่เราอาจจะโตกว่าเพื่อนอยู่แล้ว ด้วยความที่เราทำงานตรงนี้ ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กเรื่องความรับผิดชอบ เรื่องเวลา เรื่องวินัยในการทำงาน”

ท้ายสุด ณ วันนี้ ถ้าคนพูดถึง “ปันปัน” อยากให้คนนึกถึงอะไร? “อยากให้นึกถึงปันปันที่เป็นปันปันทุกวันนี้ที่เติบโตขึ้น มีความคิดมากขึ้นไตร่ตรองมากขึ้น ทำอะไรช้าลง คิดก่อนทำมากขึ้น ระวังตัวมากขึ้น เมื่อก่อนไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่ ไม่ได้เป็นเด็กซ่าเหมือนสมัยก่อน เรียกว่าชั่วโมงบินทำให้โตขึ้น เรียกว่าปันปันซีซันสอง ก็ได้ค่ะ (ยิ้ม)”.

Choreographer : @tey99

Style : @noom_num

Photographer : @champ_cubastudio MUA : @suma_arm Hair : @piikorn