Inside Dara
“มิ้ง 2018” มหากาพย์ท้องไม่มีลูก !!?? 1 เดือน ฟาดรายได้ 2 ล้านเศษ

นาทีนี้ต้องบอกว่านอกเหนือจากความแซบของละครหลังข่าวของช่องวันอย่าง “เมีย 2018” แล้ว

ที่แซบยิ่งกว่านั้น ก็คือมหากาพย์ดราม่าเข้มข้นของ “มิ้ง-ศวภัทร สุนทรนันท์” อดีตแฟนสาวนอกวงการของนักแสดงหนุ่ม “กัปตัน- ชลธร คงยิ่งยง” ที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นนำเสนอกันอย่างแพร่หลายในสื่อบันเทิงทุกแขนงต่อเนื่องกันมาแรมเดือน

ปฐมบทของมหากาพย์เรื่องนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ที่ฝ่ายหญิงมีการออกข่าวมาว่าตนเองตั้งท้องกับนักแสดงหนุ่ม และมีการเรียกร้องความรับผิดชอบ ถึงขนาดมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวกันเลยทีเดียว โดยฝ่ายชายเองก็เหมือนว่าจะน้อมรับความผิด เพราะตอนนั้นต้องบอกว่าโดนสังคมกดดันอย่างหนักเลยทีเดียว ด้วยตามธรรมชาติของสังคมไทย มักจะถ่ายเทความสงสาร และเห็นใจไปที่ผู้หญิงที่ตั้งท้องโดยที่ฝ่ายชายไม่เหลียวแลไว้ก่อน

ถูก-ผิด จริง-เท็จอย่างไร ค่อยมาว่ากันทีหลัง !!

ทว่าในระหว่างที่ความชัดเจนยังไม่ปรากฏ ในอีกมุมหนึ่ง กระบวนการสืบค้นหาความจริงจากสายสืบออนไลน์ก็ทำงานกันอย่างหนักหน่วง โดยไม่ต้องมีใครจ้างวาน

และต้องไม่ปฏิเสธว่าการขุดคุ้ยข้อมูลในแง่มุมต่างๆ นั้น ส่วนใหญ่จะเทน้ำหนักไปที่ว่าฝ่ายหญิงอาจจะไม่ได้ท้องตามที่ให้ข่าว โดยมีการงัดภาพของมิ้งที่ปรากฏอยู่ในไอจีในช่วงเวลานั้นออกมาหักล้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าท้องหรือว่าชุดที่สวมใส่ ซึ่งดูแล้วไม่เหมือนลักษณาการของคนที่กำลังตั้งครรภ์เลยแม้แต่น้อย

แต่ที่สุดแล้ว ทุกคนก็ทำได้เพียงแค่ตั้งข้อสังเกต ไม่สามารถยืนยันฟันธงลงไปได้อย่างชัดเจน ได้แต่รอเวลาให้ความจริงปรากฏออกมาเอง

เพราะเรื่องท้อง หรือไม่ท้องนั้น !!!??? อย่างไรเสีย วันหนึ่งก็ต้องรู้กันอยู่ดี

กระทั่งเรื่องดำเนินมาถึงบทสรุป เมื่อฝ่ายหญิงเป็นคนออกมาโพสต์ข้อความทางไอจีว่าตนเองแท้งไปเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่าสาเหตุมาจากเรื่องสุขภาพตัวเอง ภาวะความเครียดประกอบกับทำงานหนักเกือบทุกวัน ไม่ดูแลตัวเองเท่าที่ควร โดยเฉพาะก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองท้องนั้น มีการดื่มแอลกอฮอลล์ด้วย

*เรื่องนี้ไม่โทษใครทั้งสิ้นโทษตัวเองล้วนๆ รู้สึกผิดมากๆ ค่ะ รู้สึกแย่เสียใจทุกอย่างค่ะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากทำให้ดีกว่านี้ ซึ่งมิ้งก็ต้องพยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะกลัวกระแสสังคมที่จะมาโจมตีมิ้ง มันยากมากค่ะ

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ยืนยันหนักแน่นว่า ทุกอย่างที่พูดไปนั้น เป็นเรื่องจริงทั้งหมดและไม่เคยมีการปลอมแปลงเอกสารแต่อย่างใด

"ทั้งหมดที่ชี้แจ้งไปคือสิ่งที่มิ้งสามารถพูดได้ที่นี้และหลังจากนี้จะไม่มีการพูดเรื่องนี้อีกค่ะ ซึ่งจะเชื่อหรือไม่นั้นแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนค่ะ ไม่ขอให้ใครมาเชื่อ มิ้งไม่สามารถบังคับใครให้มาเชื่อมิ้งได้ และเข้าใจทุกๆ คนค่ะ อาจมีบางเรื่องที่พูดไม่ชัดเจนลงดีเทลมากไม่ได้เพราะจำไม่ได้ทั้งหมดหรือลืม”

แต่ที่ทอดเวลาไว้ไม่ออกมาพูดว่าแท้งตั้งแต่แรก ก็เพราะกลัวกระแสสังคมที่ตั้งป้อมจะโจมตีอยู่แล้ว

“เหตุผลที่มิ้งไม่ออกมาพูดเรื่องแท้งคือ 1. กระแสสังคมค่อนข้างแรงมาตั้งแต่วันแรกไม่ว่ามิ้งจะพูดอะไรไปคือผิดหมด หาว่าโกหกทุกอย่าง ยอมรับว่าไม่กล้าออกมาพูดเพราะมีคนดักไว้ทุกทางว่าห้ามแท้งนะ ซึ่งความเป็นจริงแล้วมิ้งไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้แท้งได้ค่ะ แต่สุดท้ายมิ้งต้องยอมรับว่ายังไงก็ต้องโดนด่าอยู่ดี 2. มิ้งไม่ใช่ดาราและคิดว่าถึงเป็นดาราก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าออกมาพูดหรือชี้แจงให้คนนอกรับรู้ค่ะ"

มาถึงตรงนี้ ก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าสิ่งที่สายสืบโซเชียล และผู้คนส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตมาตั้งแต่แรก ส่อเค้าว่าจะเป็นจริงตามนั้น แต่เพื่อให้การตั้งสมมติฐานนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ก็มีการเทียบเคียงว่าช่วงเวลาที่มิ้งระบุว่าตนเองแท้งนั้น เจ้าตัวยังคงโพสต์รีวิวสินค้าลงในไอจีตามปกติ โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็ก ไม่ได้มีทีท่าของคนที่เพิ่งจะสูญเสียลูกในท้องแต่อย่างใด

นอกจากผู้คนในโลกออนไลน์ที่อยู่ในกระบวนการขุดคุ้ยข้อมูลแล้ว ดูเหมือนว่ากระทั่งคนในวงการบันเทิงเอง ก็ออกมาร่วมด้วยช่วยกันตามล่าหาความจริงในเรื่องนี้ โดยเฉพาะ “มดดำ-คชาภา” พิธีกรจอมแฉ ถึงกับตั้งค่าหัวสำหรับคนที่สามารถหารูปมายืนยันได้ว่า ในช่วงเวลาที่มิ้งให้ข่าวว่าตนกำลังตั้งครรภ์นั้น เจ้าตัวยังไปเริงราตรีที่สถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ. อยู่เลย

“ท้อง_ะยำตำบอนอะไร ไปไล่ดูนะ ดีไม่ดี มีคนพิสูจน์ได้ด้วย เขาบอกฉี่ที่เอาไปตรวจว่าท้อง เป็นเอาของคนอื่นเขามาตรวจว่าท้อง เอาของคนท้องมา มันเหมือนละครเลย ใบยืนยันต่างๆ ก็ยังไม่มี ฝากท้องต่างๆ ก็ไม่เคยไปตรวจ ชาวเน็ตก็ไปขุดกัน จนรู้หมด นางบอกว่านางไปซื้อที่ตรวจฉี่เซเว่นหน้าบ้าน แล้วก็เอาฉี่คนท้องไปตรวจโรงพยาบาล

ฉันชอบที่พี่ชายมาให้สัมภาษณ์ว่าทุกคนยังเข้าใจผิด ทุกคนไม่เข้าใจน้องสาวผม โอ๊ยยยยย เขาเข้าใจกันจะตายห่าอยู่แล้ว กูรู้ตั้งแต่อาทิตย์แรกว่ามันไม่ท้อง มีคนว่ามันไปเต้นอยู่ มันไปเต้นอยู่กับเด็กฉัน! มันไปรู้จักกันได้ไง มันไปเที่ยวที่อาร์ซีเอ

วันนี้พูดได้เต็มปาก เพราะมันบอกว่าแท้งแล้ว มึงไม่เคยไปฝากครรภ์ มึงจะแท้งได้ยังไง แล้วมึงไปเต้นจริงหรือเปล่า ใครมีรูปคลิปนั้นฉันให้หมื่นนึงเลย"

เช่นเดียวกับนักแสดงสาว “ปันปัน-สุทัตตา” ที่ก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อว่ามิ้งท้องมาตั้งแต่แรกเช่นเดียวกัน ถึงขนาดมีการกดไลค์ข้อความที่มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า

“กับคนเก่าก็คำตอบแบบนี้ เครียดลูกหลุดโว้ยยยย”

ขณะที่ “แพท-ณปภา” ก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ได้อย่างโดนใจเต็มๆ โดยมองอย่างเข้าใจและเห็นใจคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย

“อาจเป็นไปได้ว่า รับงานไว้แล้ว อาจเพิ่งมารู้ว่าแท้ง แต่ถ้าเป็นตัวแพท แพทจะคืนงานไป แล้วบอกได้มั้ยว่าเราแท้ง แต่มิ้งอยากรีวิวต่อก็รีวิวไป ตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ ยังไง แต่ตอนนี้คนก็คิดว่าน้องไม่ได้ท้อง อย่างแพท ท้อง จะมีฮอร์โมนตัวหนึ่ง ผลิตออกมา แม้แท้ง ฮอร์โมนตัวนี้ ก็จะอยู่กับร่างกายไป 3 เดือน ถ้าไปตรวจแพทย์ก็จะรู้ ส่วนเรื่องขูดมดลูก ถ้าแท้ง ต้องไปขูดผนังมดลูกออกอยู่แล้ว ถ้ามีหลักฐาน เป็นแพทจะโชว์ผลอัลตราซาวด์ อะไรก็ได้ จะมีผลฮอร์โมนออกมาอยู่แล้ว คนท้อง ฮอร์โมนสวิง เพราะแบบนี้ มันชัดเจน

ถ้าแพท เป็นแม่ฝ่ายชาย จะแถลงอะไรก็พูดยากตอนนี้ แพทฐานะเป็นคนกลางทั้ง 2 ฝั่ง คนหนึ่งก็เข้าใจ กัปตันน่าจะโดนกระทำมากที่สุด ขณะที่วันนี้ ถ้าสิ่งที่มิ้งพูดเป็นเรื่องจริง แพทก็สงสารมิ้ง แต่ถ้าพูดไม่จริง เราก็ต้องเห็นใจกัปตันบ้าง ถ้ามิ้งโกหก ก็ต้องออกมาขอโทษสังคม โดยเฉพาะเรื่องรีวิวสินค้าแม่และเด็ก มิ้งบอกว่าแท้ง ตั้งแต่ 27 มิ.ย. แต่ไปรับรีวิวสินค้า หลังจากนั้น หรือบอกคนอื่นว่าแพ้ท้อง เรื่องแท้งไม่แท้งไม่เป็นไร แต่สุดท้ายแล้ว มีหลายจุดเหมือนโกหกแบบนี้ อยากให้ออกมาขอโทษ ถ้าน้องขอโทษ เชื่อว่าสังคมไทยให้อภัย”

ประมวลจากสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนสังคมจะเปลี่ยนข้าง จากที่เคยก่นโทษผู้ชาย กลายเป็นหันมาสงสารแทน

จากคนที่ถูกพิพากษาว่าเป็นจำเลยของสังคม มีความเป็นไปได้ว่าสุดท้ายแล้ว กัปตันอาจจะกลายเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ก็ได้ หากว่าความจริงถูกพิสูจน์ว่ามิ้งไม่ได้ท้อง

แต่ไม่ว่าจะท้อง หรือไม่ท้อง !!?? ที่แน่ๆ นับตั้งแต่มีข่าวคราวว่ามิ้งท้องนั้น เจ้าตัวก็ได้รับการจ้างงานประเภทรีวิวสินค้ามากถึง 45 ชิ้น โดยค่าตัวเฉลี่ยต่อการรีวิวสินค้า 1 ชิ้นอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท

บวกลบคูณหารแล้ว เท่ากับว่ามิ้งฟาดรายได้ไปถึง 2 ล้านเศษๆ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือน มากกว่าดาราระดับ ท็อปๆ อีกหลายคนด้วยซ้ำ

ตรงกันข้ามกับฝ่ายกัปตัน ที่เสื่อมเสียทั้งภาพพจน์ ชื่อเสียง กว่าที่ความจริงจะปรากฏก็แทบจะหมดที่ยืนในวงการ

ก็ไม่แปลก หากว่าทางครอบครัวของกัปตันจะออกมาเรียกร้องและทวงคืนความยุติธรรมด้วยการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

เห็นเรื่องนี้แล้ว ก็อดจะย้อนนึกไปถึงมหากาพย์ลูกใครหว่า !!?? ที่กระฉ่อนวงการก่อนหน้านี้

ทั้ง 2 เรื่องนี้ มีทั้งความเหมือนและความต่างกันอยู่ในที

สิ่งที่เหมือนกัน ก็คือฝ่ายชายตกเป็นจำเลยของสังคม กรณีถูกฝ่ายหญิงกล่าวหาว่าทำท้องแล้วไม่รับผิดชอบจนแทบจะหมดอนาคตในวงการ ทั้งที่ความจริงยังไม่ปรากฏ

แต่อาจจะต่างกันตรงที่ มหากาพย์แรกนั้น ฝ่ายหญิงท้องจริง และถึงขณะนี้ลูกชายก็เติบโตขึ้นตามวัย ขณะที่นักแสดงชายที่ถูกโยนความผิดว่าเป็นพ่อของเด็กนั้น แม้ว่าความจริงจะได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว แต่ชื่อเสียงก็ด่างพร้อยไปจนแทบจะไม่สามารถกอบกู้คืนมาได้ ถึงจะยังคงมีงานบันเทิงอยู่ไม่ขาด แต่ตำแหน่งที่ยืนก็ไม่ได้ถูกจัดวางอยู่หัวแถวเหมือนเดิม

ส่วนมหากาพย์เรื่องล่าสุดนี้ ถ้าความจริงปรากฏออกมาว่าฝ่ายหญิงไม่ได้ท้องตามที่ให้ข่าวนั้น อาจจะเป็นเธอเองที่จะไม่มีที่ยืนในสังคม งานรีวิวสินค้าที่เคยกอบโกยเงินไปเป็นล้าน ก็อาจจะไม่มีใครจ้างแล้ว เพราะคงไม่มีเจ้าของสินค้าที่ไหนกล้าเอาภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์มาเสี่ยง

สองล้านที่ได้มา อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าเทียบกับอนาคตที่เหลืออยู่ !!???

แท้งจริง หรือว่าไม่เคยท้อง !!??? มหากาพย์เรื่องนี้ ยังมีตอนจบให้คนรอติดตาม !