Inside Dara
สู่เส้นทางเดินใหม่ของชีวิต 'โบ'ลิขิตตามหัวใจปรารถนา

ในช่วงสัปดาห์หน้า มีภาพยนต์ไทยเรื่องหนึ่งกำลังจะเข้าฉาย บังเอิญได้ยินชื่อหนังแล้วสะดุดหู จึงได้ค้นหาข้อมูล และได้รู้ว่าเป็นหนังของหนุ่มมาดเซอร์ "เป้" อารักษ์ อมรศุภศิริ แสดงคู่กับนางเอกสาวหน้าใหม่ที่วันนี้ จะพาไปรู้จักกับเธอคนนี้ "โบ" ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ ดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอก พูดได้ถึง 6 ภาษา แถมพ่วงท้ายด้วยข่าวกับพระเอกของเรื่องอีกต่างหาก เอาเป็นว่าเราไปค้นหาความจริง และตัวตนของสาวคนนี้กันเลยดีกว่า

ภาพยนต์เรื่องแรก
บทบาทในภาพยนตร์ เรื่อง เขาเรียกผมว่าความรัก เป็นอย่างไรบ้าง

เรื่องนี้โบเล่นเป็นหญิงสาว ที่ชื่อ เก้อ ดูจากชื่อคงจะต้องเดาออกแล้วว่า ชีวิตความรักของหนู เป็นอย่างไร ก็รอเก้อเหมือนชื่อนั่นแหละ(หัวเราะ) เพราะพี่ศิน (วศิน ปกป้อง)ผู้กำกับอยากให้ชื่อออกมาแนวนี้ และดูน่ารักๆ ในเรื่อง เก้อตอนเด็กจะเป็นเด็กผู้หญิงอ้วนดำ และแอบไปชอบพระเอกที่เป้(อารักษ์ อมรศุภศิริ)รับบทเป็นคิว ซึ่งเขาเป็นคนที่ฮอตมากๆ และเป็นคนที่โตขึ้นมาก็สาวกรี๊ดกร๊าดอะไรประมาณนี้ แต่พระเอกเขาก็จะเหวี่ยงๆ ไปตลอด และตัวเก้อเอง ก็เคยโดนพระเอกกระทำเจ็บแสบมากในตอนเด็ก หลายอย่างทั้งฉีดน้ำไล่ ตอนเราไปบอกชอบเขา ซึ่งทำให้เกิดเป็นปมในใจของเก้อว่า นับต่อจากนี้ไปถ้าผู้ชายหรือแม้กระทั่งพระเอกจะมาจีบ เราก็จะไม่รับรักเขาเด็ดขาดเลย พอโตขึ้น อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป เก้อสวยขึ้น และทุกอย่างมันก็เป็นไปอย่างที่เราเคยคิดแค้นไว้ เพราะพระเอกก็มาหลงรักเราเข้าจริงๆ แต่เรายังคงฝั่งใจ กับเรี่องที่เกิดขึ้นในอดีตอยู่ ส่วนบทสรุปของหนังเรื่องนี้ จะเป็นยังไง ต้องไปติดตามกันดูในโรงภาพยนต์กันดีกว่า ถ้าหนูเล่าหมด เดี๋ยวผู้กำกับจะมาดุหนู และคุณผู้ชมจะเสียรสชาติของหนัง

ตัวละครชื่อ"เก้อ"มีความเหมือน ความต่าง จากตัวตนของ โบ มากน้อยแค่ไหน

ตัวละคร ชื่อ เก้อ มันเป็นเหมือนหนูตรงที่ แต่ก่อนตอนเด็กๆ หนูก็ไม่ได้สวยอะไร เพราะเราเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน เนื้อตัวก็จะออกแนวด่างๆ ดำๆ ผอม ใส่แว่น ฟันเหยิน พอตอน ม.3 หนูทำแว่นหักก็เปลี่ยนไปใส่คอนเทคเลนส์แทน และไปจัดฟันให้ดูดีขึ้น ผิวพรรณก็เริ่มขาวขึ้น ซึ่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่อยู่ในทีมว่ายน้ำกับหนูมา 9 ปีตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.3 เขาจำหนูไม่ได้เลย เป็นอะไรที่เจ็บใจเรามากๆ ที่ผ่านมาเราไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยหรือนี่ ลองนึกดูนะเกิดมาตั้งแต่เด็กจนถึง ม.3 วันวาเลนไทน์หนูไม่เคยได้ดอกไม้เลย พอเราจัดฟันปุ๊บ สวยขึ้นก็มีคนเอามาให้ถึง 102 ดอก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่บังเอิญมากๆ สำหรับหนูกับการได้มารับบทเป็นตัวละครตัวนี้ ที่มันไม่ได้มีความต่างอะไรกับหนูเลย(หัวเราะ)นี่ถือว่าคนที่แคสนักแสดงเขามองขาดจริงๆ

ก่อนหน้านี้รู้จัก "เป้"อารักษ์ คนมีชื่อเสียง พอมีโอกาสร่วมงานกับหนุ่มสุดออตเป็นอย่างไรบ้าง

ก่อนหน้านี้โบมองพี่เป้ว่าเป็นหนุ่มที่ฮอต มีเสน่ห์ หล่อเลือกได้หล่อขั้นเทพ สุดๆ(ยิ้ม) นี่หนูมองเขาจากข้างนอกนะ พอได้มาเจอเขา ก็ตื่นเต้นมากๆ เพราะเขาเองก็เป็น ซุป'ตาร์ ในดวงใจของหนู(หัวเราะ) นี่แอบโปรโมทรายการให้ พอทราบว่าจะได้เล่นภาพยนต์ดเรื่องนี้ หนูดีใจมากๆและยิ่งได้รู้ว่าพระเอกเป็นพี่เป้อีก ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เพราะนับวันรอ จะได้เจอเลยด้วยซ้ำ แล้วก็นึกไปว่าพี่เขาจะเซอร์จะแนวแค่ไหนเชียว พอได้เจอก็เกินคาด เพราะเขาเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และแนวที่บอกนี่คือเขาเป็นคนที่ร้องเพลงอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในกองนะ และเป็นที่สามารถเห็นอะไรนิดหน่อยก็แต่งออกมาเป็นเพลงได้คือ หนูทึ่งเขามาก พี่เป้เคยบอกโบว่าทุกคนบนโลกนี้จะมีความแนวเป็นของตัวเองแตกต่างกันออกไป เพราะบนโลกนี้คนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน

ได้ข่าวมาจากกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า โบเป็นนางเอกเทกยับ

ต้องยอมรับกัน ณ จุดนี้เลยคือโบเองก็เป็นมือใหม่ ในส่วนของโบแต่ละซีนก็ค่อนข้างที่ต้องใช้อารมณ์มากๆ หนูคิดว่ามันไม่ใช่การเขินหรืออะไรหรอกด้วยความที่เป็นมือใหม่ของหนูเองที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เจอหน้าพี่เป้ก็กระเจิดกระเจิงหมดแล้ว(หัวเราะ) อย่างมีอยู่ฉากที่ที่เราต้องตบหน้าพี่เป้อันนี้กลับโดนจริงๆ ซึ้งก็ถือว่าเป็นการผิดพลาด(ยิ้ม) หรือตั้งใจก็ไม่แน่ ทางด้านพี่เป้เอง เขาก็ตกใจอยู่ เพราะเราตบไป 5 รอบแล้วแต่ไม่โดน พอรอบที่ 6 เขาก็บอกให้เราเต็มที่ไปเลยนัดแนะกันเป็นอย่างดี ว่าให้โดนที่แก้ม แต่สรุปผลที่ออกมาคือ หนูตบเข้าที่กกหูเข้าอย่างแรง เลยทำเอาพี่เป้มึนไปเลยทีเดียว ถือว่าเป็นฉากที่สมจริงและเนียนมากๆ (หัวเราะ)

ถามถึงฉากที่ประทับใจที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้

ต้องบอกเลยว่า มีหลายฉากมากๆ เพราะว่าด้วยเนื้อเรื่อง มันจะมีมุกตลกอย่างมุกที่ไม่ใช่การไปยืน ซัดมุกกันของตัวละคร หรือการยิงมุกขึ้นมาลอยๆ แต่มันจะถูกร้อยให้เข้าไปอยู่ในเนื้อเรื่อง ซึ่งมันอาจจะเป็นมุกคลาสสิก ที่พี่เป้บอกว่าเป็นมุกที่เกี่ยวกับกามเทพที่เขานั่งขำอยู่เป็นวันๆ แต่ขอบอกต้องไปดูเอาในหนัง

ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างไร เป้มีส่วนช่วยหรือไม่

ถ้าเรื่องเกี่ยวกับการแสดง ทางทีมงาน จะมีคนสอนการแสดงอยู่ในกองอยู่แล้ว ส่วนพี่เป้เขาก็จะคอยช่วยในการต่อบท เพื่อให้การทำงานในการถ่ายทำง่ายขึ้น และเขาก็จะคอยช่วยทำให้เราผ่อนคลาย และช่วยในการทำอารมณ์ได้อย่างดี เพราะเราถือว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ถ้าเราทำไม่ได้ก็ยังมีอีกหลายคนในกองที่เขารอเราซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นคว่ามกดดันของหนูมากๆ

นางเอกคนใหม่ของช่อง 7 สี
ถูกผู้จัดละครของช่อง 7 สี ทาบทามให้รับบทนางเอกในละครเรื่อง "ไฟหวน"

ก็ยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครั้งแรกที่พี่ต้อ(มารุต สาโรวาท) ติดต่อเข้ามาว่าจะให้เล่นเป็นนางเอกของเรื่องไฟหวน และ ประกบคู่กับพระเอกของช่องอย่าง พี่เติ้ล(ธนพล นิ่มทัยสุข) สำหรับเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันในส่วนของการแสดง หนูเองยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไรบ้างกับงานด้านละคร เพราะยังคงต้องรอให้บวงสรวงก่อน และหนูเองก็ต้องไปเรียนรู้ทางการแสดงให้มากขึ้น

ทราบข่าวเซ็นสัญญาการเป็นนักแสดงช่อง 7 สีเรียบร้อยแล้ว

หนูต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ทุกท่านที่หยิบยื่นโอกาสดีๆ แบบนี้ให้กับหนู เพราะคนเป็นจำนวนไม่น้อยอยากก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงแห่งนี้ และหนูถือว่าสิ่งนี้คือโอกาสที่หนูจะได้ทำให้ได้ และจะตั้งใจทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด กับช่อง 7 หนูเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่อง เป็นเวลาทั้ง 5 ปี ยังไงก็ขอให้หนูประสบความสำเร็จ เป็นกำลังใจให้หนูด้วยแล้วกัน

ครอบครัวแสนอบอุ่น
พูดถึงครอบครัวบ้าง พอได้เข้ามาในวงการบันเทิงแล้วมีห่วงอะไรเราหรือไม่

สำหรับครอบครัวหนูคิดว่าทุกคนก็ไม่ห่วงอะไรหนูเลย ออกจะเป็นไปในทางที่เห่อและดีใจด้วยซ้ำว่าลูกฉันเป็นดาราแล้วโดยเฉพาะคุณแม่ ซึ่งบ้านโบ จะถือคติอย่างเดียวกันว่าหากคนในบ้านรักอะไรก็จะเป็นไปในทางเดียวกันด้วยและช่วยสนันสนุน หรือเรารักใครคุณพ่อคุณแม่ก็จะรักด้วย

เกี่ยวกับเริ่องของหนุ่มๆ ที่จะเข้ามาจีบ คุณพ่อคุณแม่มีแอบห่วงเรื่องนี้ไหม

เรื่องพวกนี้ โบว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วแหละ แต่คุณแม่เราจะคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว และเคยสอนไว้ว่า ถ้าโบไม่กล้าที่จะบอกแม่เรื่องไหน ก็ไม่ควรจะทำสิ่งนั้นก็พอ ปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา และความเหมาะสมของจังหวะหัวใจของเราดีกว่า

ก้าวใหม่ในวงการบันเทิง
ก่อนที่ยังไม่ได้เข้าวงการบันเทิง มีมุมมองอย่างไรบ้างเกี่ยวกับอาชีพดารานักแสดง

หนูเคยคิดว่าการที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เป็นเรี่องที่วิเศษมากๆ เพราะได้แต่งตัวสวยๆ มีคนแต่งหน้าทำผมให้ มายืนยิ้มหน้ากล้องแล้วก็ได้เงินเยอะด้วยดีจังเลย ประมาณนี้ แต่ก่อนโบคิดแค่นั้นจริงๆ พอได้ลองเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ แล้ว โลกที่เรามองมันช่างต่างกันลิบลับ เพราะการเป็นนักแสดง นี่ต้องใช้พลังอย่างมหาศาล และเหน็ดเหนื่อยกับการทำหน้าที่ของตัวเองมากซึ่งหนูคิดว่าการเป็นดารา มันต้องใช้ทักษะในการทำงานหลายๆ สิ่งมารวมกัน โบรู้สึกว่า มันเป็นอาชีพที่ขอบอกเลยว่า ถ้าไม่ได้เข้ามาลองด้วยตัวเองคุณอาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่ายใครก็ทำได้แต่ที่จริงมันไม่ใช่เลย

มีการเตรียมความพร้อมไว้รับมือกับเรื่องราว และชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไรบ้าง

หนูไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเป็นกังวล หรือเตรียมตัวตั้งรับข่าวคราวต่างๆ เลย เพราะว่าหนูไม่เคยมองว่ามันเป็นเรื่องร้ายที่จะเข้ามาในชีวิต เราเคยเป็นอย่างไรก็คงจะเป็นตัวหนูคนเดิม โบไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวตน หากว่าเราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน พี่เป้ก็เคยสอนว่า ถ้าเราจะยืนอยู่ได้ในวงการนี้ เราไม่ควรที่จะไปกลัวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ และถ้าเราไม่ได้ไปทำอะรที่ผิดศีลธรรม เราก็จะอยู่ได้ด้วยตัวขอเราเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัว หรือปิดบัง ถ้ามีใครถามมา เราก็ตอบไปตามความเป็นจริง จะเชื่อหรือไม่เชื่อ อย่างไรอันนี้ก็แล้วแต่เขา อันนี้พี่เป้บอกมา แต่เราก็ควรที่จะต้องระมัดระวังตัวในการแสดงออกในที่สาธารณะให้มากขึ้น เพราะเราเองจะไปทำอะไรที่ดูไม่ดีออกไปไม่ได้

ความสามารถ บวกกับความสดใสของเธอคนนี้ มีพลังเหลือหลาย...เจอแบบนี้ใครไม่รักก็ บ้าแล้ว!!


รู้จักกับเธอ
เธอคือ...ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์
ชื่อเล่น...โบ
การศึกษา...Ritsumeikan Asia Pacific University (รัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ)
ความสามารถพิเศษ พูดได้ 6 ภาษา : ไทย, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สเปน, ฝรั่งเศส
ผลงาน ภาพยนตร์เรื่อง เขาเรียกผมว่าความรัก