Inside Dara
‘ณเดชน์’กับทุกก้าวที่เต็มไปด้วยความพยายาม

หากเอ่ยถึงหนุ่มหล่อมากความสามารถที่ยังคงได้รับความนิยมจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของหนุ่มคนนี้เป็นแน่ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่ไม่ว่าจะจับงานอะไรก็มักถูกจับตามองเสมอ ไม่ว่าจะงานแสดงละคร ภาพยนตร์หรือแม้กระทั่งร้องเพลงประกอบละครแฟน ๆ ก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี วันนี้ “หนุ่มฮอต หนุ่มฮิพ” ขอยกพื้นที่ตรงนี้ ให้หนุ่มแบร์รี่ อีกครั้ง ตามคำเรียกร้องของสาวแท้ สาวเทียม สาวเล็ก สาวใหญ่ เอาล่ะเราไปคุยกับ ณเดชน์ กันเลยดีกว่า

วงการบันเทิง
จากวันที่เริ่มเข้าวงการมาจนถึงตอนนี้คิดว่าตัวเองมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?

“ผมว่าหนึ่งเลยคือ นิสัยครับ เพราะมันทำให้ผมมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความคิดความอ่านที่ค่อนข้างจะดีขึ้น (ยิ้ม) และอย่างหนึ่งที่ผมภูมิใจคือเราหาเงินได้เอง และดูแลคนในครอบครัวของเราและทุกคนในบ้านได้ ผมว่าคงไม่มีใครที่ไม่ชื่นชมลูกหลานที่เป็นดารา นักแสดงหรอก เพราะอย่างผมทุกคนในบ้านก็มีความสุข ปลื้ม ผมก็ดีใจแล้วครับ”

ณ วันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จในวงการแล้วหรือยัง?

“ยังครับ เพราะว่าการประสบความสำเร็จมันไม่รู้จะหาตรงไหนมาพูดว่าอะไรคือการประสบความสำเร็จของเรา เพราะมันแค่ 5 ปีเองในวงการ ซึ่งผมมองว่าเรายังมีอะไรอีกเยอะข้างหน้าที่ให้เราต้องเจอ และผมเองก็เพิ่งจะอายุ 23 ปีเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะอยู่วงการนี้ยังไง ในอนาคตมันจะเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่รู้เลย คือผมมองในมุมที่คิดว่าถ้าสมมุติในอนาคตเรามีครอบครัวแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จเลยหรือเปล่า ผมเลยต้องพยายามต่อไปอีกเรื่อย ๆ พัฒนาตัวเองในเรื่องของการแสดงให้ดีที่สุดมากกว่า ไม่ได้มองว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ครับ”

ยังมีบทบาทไหนที่เรายังไม่ได้แสดงและอยากแสดงอีกบ้าง?

“คอมเมดี้ครับ ที่มันแบบคอมเมดี้จัด ๆ เลยนี่ยังไม่เคยเล่น แต่ที่อยากเล่นเพราะว่าผมรู้สึกถึงความเป็นตัวเองมาก ๆ หรือว่าเราได้ใส่อะไรเพิ่มเติมลงไปในการแสดง คือผมเป็นคนที่แอคทีฟค่อนข้างเยอะ แล้วก็เป็นคนที่ชอบหาเรื่องตลกหรือว่าพูดตลก ร้องเพลงตลกมาให้ทุกคนได้ขำขันกัน ก็เลยคิดว่าอยากจะลองดูสักครั้งถ้ามีโอกาสครับ”

“แฟนคลับ”
มุมมองของเรากับแฟนคลับ เรามองเขาอย่างไร?

“แฟนคลับสำหรับผมคือ กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามาหลงรักเราตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมจำได้เลยว่าวันที่บวงสรวงละครเรื่องเงารักลวงใจ ก็เป็นเรื่องแรก ๆ ของผม ซึ่งพอผมเดินออกมาจะบวงสรวงในวันนั้น ก็มีแฟนคลับเดินมาหาผมแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แปลกใจ คือเราคิดในใจว่าเขารู้จักเราไหม เราไม่รู้จักเขา แต่เขาเหมือนรู้จักเรามานานมากแล้ว และเขาก็ตลกมากที่เห็นเราทุกครั้งก็จะถ่ายรูปเรา ถ่ายกันเข้าไป (หัวเราะ) คือมันก็เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าแปลกและน่ายินดีเพราะว่าการที่เราจะมีคนรักหรือใครสักคนหนึ่งที่รักเราได้มากขนาดนี้มันน่าดีใจมาก

บางทีการที่เรามีฐานแฟนคลับที่มากขึ้น มันทำให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย หรือบางทีเราไปอีเวนต์ไปงานต่าง ๆ เราก็จะมีอารมณ์ประมาณว่าอยู่ไหนนะแฟนคลับเรา เขาอยู่ตรงไหน ก็จะมองหาตลอด คือมันจะมีอารมณ์ประมาณนี้ และอบอุ่นใจเวลาเห็น ยิ่งเวลาเราร้องเพลงเขาก็จะโบกมือไปด้วยกับเรา แล้วก็ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นในทุก ๆ งานที่ไปด้วยกันครับ”

ในเรื่องนิสัยส่วนตัว ทุกคนชื่นชมว่าเป็นพระเอกนอกจอ จิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่นและมีน้ำใจต่อคนรอบข้าง รู้สึกยังไง?

“สำหรับครอบครัวผมจะถูกสอนมาตลอดว่าให้มีความเมตตาเป็นส่วนใหญ่ มันเลยทำให้เราโอเคกับการให้ในแบบนี้ที่เห็นกัน ก็คือผมมีความสุขที่จะให้ ชอบที่จะให้คนอื่นมีความสุขไปด้วย ก็เลยทำ ๆ ไปทั้งที่เห็นและไม่เห็นคือแค่เราได้ให้ ผมก็รู้สึกดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมารับรู้ แต่ผมมีความสุขจากข้างในก็พอแล้ว”

“คู่จิ้น”
กระแสคู่จิ้นตลอดกาล น้องญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เป็นยังไงบ้าง งงมั้ยตอนแรกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง?

“ผมว่าคงจะเป็นเพราะเล่นละครด้วยกันมั้งครับ พอคนได้ดูละครที่เราเล่นด้วยกันออกไป เรื่องดวงใจอัคนี ตอนซีรีส์สี่หัวใจแห่งขุนเขา ก็อาจจะชื่นชอบว่าแบบดูแล้วสนุกจังเลย น่ารักจังเลยคู่นี้ ดูแล้วมีความสุข มันก็น่าจะเริ่มมาจากตรงนี้ ซึ่งก็ยังมีคนซัพพอร์ตเราให้คู่กันตลอดครับ หรือบางทีก็จะมีทั้งเสียงเล็ก ๆ และเสียงใหญ่ ๆ อย่างน้อยก็ยังมี ก็ดีใจครับที่เขารักในผลงานเราทั้งคู่ คือปลื้มที่คนดูให้การตอบรับงานเราอย่างดีมาก ๆ ดีจนผมกับน้องก็มีความสุขครับ”

เหมือนคนดูจะให้เราคู่กับญาญ่าคนเดียว?

“ก็ประมาณหนึ่งครับ ซึ่งแฟน ๆ ก็อยากให้เราคู่กันตลอด ผมก็เข้าใจความรู้สึกเขานะ อย่างกระแสอะไรต่าง ๆ ก็มีมาที่อาจจะเห็นผมและน้องไปเล่นคู่กับคนอื่นบ้าง แต่ก็ชินแล้วครับ ถามว่ามีเอามาคิดมั้ยเรื่องกระแสที่ไม่ค่อยปลื้มให้เราคู่คนอื่นก็คงคิดตอนนั้น แล้วก็มอง

อะไรหลาย ๆ อย่างที่มันเกิดขึ้นว่าเพราะอะไร ใคร เหตุผลที่เขาต้องการคืออะไร แล้วเราก็ไม่ไปใส่ใจมัน ทำงานของเราออกมาให้ดีที่สุด คือผมอยากให้มองกันที่ผลงานมากกว่า และเปิดใจการทำงานผมและน้องกับคนอื่น ๆ ครับ”

“โสด”
สาวตัวจริงของเรามีหรือยัง และที่เห็นหวานกับญาญ่าตลอดแบบนี้มีสิทธิลุ้นเป็นแฟนนอกจอ ๆ ไหม?

“เอ่อ (หัวเราะ) ที่สงสัยกันก็สงสัยกันต่อไปดีแล้วครับ ถามว่ามีลุ้นเป็นแฟนหรือเปล่า คือผมอยากให้มองที่การทำงานดีกว่า เน้นทำงานครับ ทำงานกันไปก่อน ทำกันไปเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องบอกว่าน้องเป็นน้องสาวที่สนิทที่สุด ตัวผมเองก็ประทับใจเขาที่นิสัย การทำงาน และอะไรหลาย ๆ อย่าง คือจริง ๆ ผมรู้จักกันมา 4 ปีได้แล้ว ก็เลยสนิทกัน ส่วนมุมที่เรางอนกันถามว่ามีมั้ย ถ้าเป็นเรื่องทะเลาะไม่เคยเลย แต่งอน ๆ กันก็มีเพราะเราแกล้งเขามาก (ยิ้ม) เขารำคาญก็เลยมี แต่ถ้าเป็นแกล้งนิด ๆ หน่อย ๆ เขาก็จะงอนเพื่อให้เราพอ แต่ก็มีมุมที่จะแกล้งเรากลับบ้าง ก็ตลกดีครับ แกล้งกันไปเรื่อย ๆ แต่สถานะของผมคือยังโสดครับ”

ถ้าในอนาคตหลายคนลุ้นให้เราเป็นแฟนกันจริง ๆ จะมีโอกาสไหม?

“ก็คงต้องรอดูต่อไปเรื่อย ๆ แหละครับ (หัวเราะ)”

ตัวจริง ณเดชน์ เป็นคนเจ้าชู้หรือเปล่า?

“ในส่วนของผม คือผมเองเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้ากับคนง่ายและเป็นกันเอง และไม่ค่อยมองโลกในแง่ร้าย คือเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมาก มันเลยทำให้ผมโอเคกับหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างค่อนข้างไว ก็คือถามว่ามองคนเป็นไหมก็อาจจะมองคนไม่เป็นก็ได้ เรียกว่าอย่างนี้เลย เพราะนี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แม่เป็นห่วงผม การไม่ทันคน เขาจะห่วงมาก แต่คือเรื่องกรุ้มกริ่มมันก็ไม่มีอะไรนะ เอาจริง ๆ ผมแค่เอ็นเตอร์เทนเขาเท่านั้นเอง แต่ไม่มีอะไรครับ”

สุดท้ายแล้ว ฝากผลงานให้แฟน ๆ ติดตามหน่อย?

“ได้เลยครับ ก็ฝากลมซ่อนรัก (ยิ้ม) ซึ่งผมจะรับบทเป็นคาแรกเตอร์ฝาแฝด แล้วก็ตามรักคืนใจ ที่เป็นละครที่จะดูโตขึ้นมาหน่อย มันเป็นละครรีเมกก็จะมีการไว้หนวดไว้เคราให้เป็นอะไรกันที่โตขึ้นด้วย ก็น่าติดตามมาก อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะครับ”

ไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมแฟนคลับถึงรัก ณเดชน์ มากมายขนาดนี้ และเราเชื่อแน่ว่า หนุ่มคนนี้จะเป็นดาวที่ส่องแสงในท้องฟ้าของวงการบันเทิงไทยไปอีกนานแน่นอน.