Inside Dara
ย้อนเส้นทาง น้ำตาล ชลิตา TOP6 มิสยูนิเวิร์สชนะใจไทยทั้งชาติ!

ลุ้นหนักมากตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ สำหรับกองเชียร์ชาวไทยที่พร้อมใจช่วยกันโหวต ลงทั้งแรงลงทั้งเงินเชียร์ ขยันรีทวีตข้อความเพื่อโหวตกันในทวิตเตอร์แบบสุดๆ ชนิดที่เรียกว่า มีบ้านแจกบ้าน มีรถแจกรถกันไปเลย สุดท้ายก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวัง กรี๊ดดังสนั่นจอเมื่อผลออกมาว่า น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ สาวงามจากประเทศไทยทำได้ดีเยี่ยมทะลุเข้าถึงรอบ 6 คนสุดท้าย เป็นน้ำตาลคนแรกในรอบ 29 ปีที่ทะลุเข้าถึงรอบตอบคำถาม

โดยคำถามคือ ผู้นำในระดับโลกในอดีตหรือปัจจุบันที่คุณชื่อชอบคือใคร? "ท่านนั้นก็คือในหลวงของดิฉันค่ะ ตั้งแต่ดิฉันเกิดมาก็เห็นท่านทำงานหนักตลอด ไม่เคยทรงบ่นแม้แต่น้อย และท่านก็เปรียบเสมือนพ่อของทุกคนของคนไทยค่ะ"

แต่กว่าจะได้มายืนบนเวทีอันทรงเกียรติ ชีวิตของสาวน้ำตาลก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไปซะทุกทาง ซึ่งกว่าที่เธอจะได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ก็มีดราม่าในหมู่แฟนคลับนางงาม อย่างเรื่องที่ กุ้ง กุสุมา ชาวดอน ตัวเต็งของเวทีนี้ไม่ผ่านเข้ารอบ 5 คน จนทำให้หลายคนไม่พอใจอย่างรุนแรง ถึงขนาดมีการนำรูปของน้ำตาลกับกุ้งที่มีดีกรีเป็นนางแบบมาเปรียบเทียบกัน แต่ด้วยความสวยเก๋หน้าคมแบบฉบับคนไทย ในรอบตัดสิน น้ำตาลได้ตอบคำถามแบบเฉียบคมจนเอาชนะใจกรรมการ ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุดไปครองแบบสวยๆ

สำหรับ น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ สาวงามหน้าคมจาก จ.สมุทรปราการ อายุ 21 ปี เจ้าของส่วนสูง 169 เซนติเมตร เป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว มีบิดาชื่อ นายสรนันท์ ส่วนเสน่ห์ อาชีพพนักงานขับรถ ส่วนมารดาชื่อ นางชุติกาญจน์ ส่วนเสน่ห์ อาชีพพนักงานขาย บริษัท คิง เพาเวอร์ มีน้องสาว 1 คน ส่วนด้านการศึกษา น้ำตาล ชลิตา จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

น้ำตาลช่วยที่บ้านทำงานหารายได้ตั้งแต่ ป.4 เพราะครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่แรก ซึ่งในตอนนั้นคุณแม่ทำงานเป็นแม่บ้าน ตนเองก็ไปช่วยด้วยและไม่รู้สึกอายอะไร และเมื่อว่างจากการเรียนในบางครั้งจะหาทำงานพาร์ทไทม์ เช่น เป็นเด็กเสิร์ฟในสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อช่วยครอบครัวและถือเป็นการฝึกตัวเองด้วย

จุดเริ่มต้นของเด็กสาวคนนี้ เริ่มจากผู้จัดการส่วนตัว (ผู้ไม่เคยส่งนางงามประกวดเช่นกัน) ไปเจอ น้ำตาล ตอนที่มาสมัครงานพาร์ทไทม์ช่วงปิดเทอมที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จึงชวนให้เด็กสาวหน้าคมคนนี้มาลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่ใจหนึ่งก็อยากมาแต่อีกใจก็กลัวโดนเทอีก เชื่อหรือไม่ว่า น้ำตาล ชลิตา เคยถูกพี่เลี้ยงนางงามชวนเดินสายประกวดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเธอก็ตัดสินใจตอบตกลง สุดท้ายคนชวนก็เงียบไป

ครั้งนี้ น้ำตาล เลยให้คนชวนไปถามคุณแม่เอง ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือให้ลองไปประกวดดู สุดท้ายดวงคนจะมง! แม้จะเป็นการขึ้นเวทีประกวดนางงามครั้งแรก แต่ น้ำตาล ก็คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มาครองสำเร็จ เท่านั้นไม่พอ ไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือนางงามจักรวาลที่คนไทยเรียกกันติดปาก ชื่อของ น้ำตาล กลายเป็นตัวเต็งในการประกวด แม้จะมีสาวงามสายแข็งหลายๆ ชาติเป็นกระดูกชิ้นโต แต่ น้ำตาล ก็เบียดขึ้นเป็นตัวเต็งของทุกโพลได้เช่นกัน!

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้น้ำตาลได้ก้าวเข้ามายืนในจุดนี้ ตัวเธอเองได้เคยสัมภาษณ์เปิดใจกับไทยรัฐออนไลน์ว่า “มันเหมือนกาลเวลาพิสูจน์คนนะ ตาลแค่ขอเวลาแค่นั้นให้ตาลได้ปรับตัว ได้ลองหลายๆ รอบ ในเมื่อลองครั้งแรกไม่ดี ขอโอกาสอีกครั้งเพื่อลองใหม่ ตาลเชื่อว่าครั้งต่อไปจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราได้ทำบ่อยๆ ทำทุกวันจนมันชินไปเอง ตาลเป็นคนชอบเอาชนะคำคน ใครว่าเรามาเราจะลบคำนี้ อยากลบคำสบประมาทคนให้ได้ ไม่ใช่ว่าตาลแข็งไปนะคะ เพราะเราไม่ตอบโต้ยินดีรับฟังทุกคำคน แล้วขอเอาชนะใจเขาด้วยการกระทำ ตาลไม่พูดแต่ตาลทำให้เห็น เป็นคนชอบพิสูจน์ตัวเอง อยากทำให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ แต่ต้องบอกนะคะว่าคำวิจารณ์เป็นส่วนหนึ่งที่ดี เพราะเป็นแรงผลักดัน กระตุ้นตัวเองว่าเราต้องทำให้ได้ ตาลต้องทำให้ทุกคนเห็นให้ได้ว่าน้ำตาลมีอะไรที่จะสามารถไปสู้กับเขาได้”

และวันนี้สิ่งที่น้ำตาลทำ ก็ได้พิสูจน์ให้คนไทยและคนทั้งโลกเห็นแล้วว่า เธอทำได้ น้ำตาล คือ 6 คนสุดท้ายบนเวทีมิสยูเวิร์สในใจคนไทยทุกคน.