Inside Dara
แฮปปี้ที่สุด “ขวัญ” ยิ้มลืมหุบ “กอล์ฟ” รักแรกที่ไม่เคยลืมขอแต่งงานแล้ว! สินสอดแล้วแต่ผู้ชาย พูดมากไม่ได้

ผ่านอะไรหนักหน่วงมาเยอะ จากรักติดลบจนทะลุร้อย “ขวัญ อุษามณี” มั่นใจ “กอล์ฟ พิชญะ” รักแรกที่ไม่เคยลืม ปลื้มขอแต่งงานแล้ว สินสอดพูดไม่ได้ แต่มั่นใจอีกฝ่ายต้องให้เกียรติ ชมเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ตนได้ทำอะไรหลายๆ อย่างเป็นครั้งแรก ปวดใจบ้านพัง ไม่ให้ผู้รับเหมาเจ้าเดิมมาเหยียบบ้านอีก รอราคาประเมินความเสียหายจาก 3 ช่าง

ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ เลยทีเดียว สำหรับ “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” หลังจากที่ “แม่แอ๊ว” ออกมาเผยว่า “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” เอ่ยปากขอแต่งงานแล้ว เรื่องสินสอดก็แล้วแต่ลูก ล่าสุดได้มีโอกาสเจอขวัญในงานแฟชั่นโชว์เปิด FIN MARKET สยามสแควร์ วัน รับเป็นรักแรก และเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ตนได้ทำอะไรหลายอย่างเป็นครั้งแรก

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่พี่เขาก็เหมือนผู้ใหญ่ที่ก็คุยกันเรื่องอนาคต แต่ไม่ถึงกับไปขอจริงจังค่ะ เรื่องสินสอดที่แม่บอกว่าแล้วแต่เราก็ใช่ค่ะ (หัวเราะ) สินสอดคุณแม่ก็ไม่ได้ระบุหรอกค่ะ แต่ก็คิดว่าพี่กอล์ฟเขาก็น่าจะให้เกียรติขวัญพอ แต่พี่กอล์ฟเขาก็แสดงความเป็นลูกผู้ชาย สุภาพบุรุษว่าให้เกียรติเราค่ะ ว่าคิดถึงวันข้างหน้าที่เราจะลงหลักปักฐานอยู่ด้วยกัน คุณแม่ก็ให้โอกาสด้วยการที่รอวันที่พี่กอล์ฟพร้อม คือเราก็ไม่ได้เร่ง ไม่ได้รีบอะไร เพราะว่าพี่กอล์ฟก็เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างแกร่ง เพราะทำด้วยตัวเอง สร้างด้วยตัวเอง ยังไม่ได้คุยกับพ่อแม่พี่กอล์ฟเป็นทางการค่ะ คือคุยกันในครอบครัว มีแค่พี่กอล์ฟกับแม่ขวัญ”

“คือในอนาคตข้างหน้าเราไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นนะคะ แต่ในปัจจุบันทุกวันนี้ขวัญมั่นใจว่าพี่กอล์ฟเป็นคนที่ดีกับขวัญที่สุด รองจากคุณพ่อขวัญ เรื่องสินสอดผู้หญิงเขาไม่พูดหรอกค่ะ มันเป็นหน้าที่ของครอบครัว เรื่องคุยกันขวัญก็ไม่ทราบค่ะ แต่เหมือนเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จะคุยเรื่องนี้หรือจะไม่คุยเราก็รักผูกพันอยู่ดี แม่ก็ไม่ได้พูดว่าอยากให้แต่งงานเร็วๆ แม่ก็รักพี่กอล์ฟ แต่ไปถามเขาเองดีกว่า เดี๋ยวไม่มีอะไรไปถาม (หัวเราะ)”

ผ่านอะไรมาหนักหน่วงจนติดลบจนทะลุร้อย รับเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ตนได้ทำอะไรหลายๆ อย่างเป็นครั้งแรก

“คือหนูกับพี่กอล์ฟผ่านเหตุการณ์อะไรกันมาแบบหนักหน่วงมาก ตั้งแต่ติดลบจนตอนนี้ทะลุร้อยแล้วค่ะ คือพี่กอล์ฟเป็นผู้ชายคนแรกที่ขวัญได้ทำอะไรหลายๆ อย่างครั้งแรก อย่างขวัญได้พาพี่กอล์ฟไปหาครอบครัวที่เพชรบุรี เป็นครั้งแรกที่ขวัญพาเข้าไปสัมผัสที่บ้าน ครอบครัวขวัญจริงๆ เพราะอันนั้นมันคือที่ส่วนตัวเรา ก็ดีใจที่พี่เขาได้มีโอกาสมาอยู่ตรงนี้ และคนที่อยู่ตรงนี้ก็คือพี่กอล์ฟ เพราะพี่กอล์ฟเป็นคนที่ขวัญไม่เคยลืมตั้งแต่เด็กๆ ส่วนปีนี้มั้ยก็พอแล้ว ขอไปดูบ้านก่อน(หัวเราะ)”

เซ็งบ้านพัง ไม่ให้ผู้รับเหมาเจ้าเดิมมาเหยียบบ้านอีก รอราคาประเมินจาก 3 ช่าง

“ตอนนี้พังค่ะ จากตอนแรกที่เราทราบคือพังแค่ชั้นเดียวใช่มั้ยคะ พอหลังจากก่อนหน้านี้ที่ขวัญลงขอบคุณพี่ๆ วิศวกรทั้งทีมพี่แหวน (ปวริศา เพ็ญชาติ) และทีมวิศวกรของโครงการบลูเลอร์วาร์ด เขาไปดูไปเช็กให้ ก็คือจากชั้น 1 - 3 ก็เสียหาย ตอนนี้ก็อยู่ขั้นที่ประมูลความเสียหาย เพราะเป็นการตีราคาประเมินของ 3 ช่างเพื่อที่จะหาราคากลางและถูกต้องที่สุด เพราะทุกวันนี้ช่างเก่าเขาก็มาติดต่อว่าขอจะเข้ามารับรู้ด้วยเพื่อความโปร่งใส เขาทำบ้านเราขนาดนี้ จิตใจเราคงไม่สามารถเปิดให้เขาเข้ามาเหยียบบ้านเราได้อีกค่ะ”

“คือเราก็ไม่รู้ว่าหลังจากเราตีราคาประเมินไปแล้ว เขาจะทำตามสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า แต่คุณแม่ไม่ได้เป็นคนคุยแล้ว เพราะขวัญรู้สึกว่ามันเจ็บ มันจุก มันหนักหนาเกินกว่าลูกผู้หญิงแล้วค่ะ ก็ให้เป็นหน้าที่ของทนาย ซึ่งขวัญก็ได้ผู้ใหญ่บางท่านยื่นมือเข้ามาช่วยเรา ตอนนี้ยังไม่ได้ซ่อมเลยค่ะ เพราะว่าหนักมาก ต้องรื้อของเก่าออกมาด้วย เพราะของบางอย่างมันผิดสเปก ก็ยังไม่ได้ฟ้องร้องค่ะ ต้องดูพฤติกรรมของฝั่งตรงข้ามด้วยว่าเขายืนยันจะรับผิดชอบบ้านเราหรือเปล่า”

“ตอนแรกเขาก็เลี่ยงๆ ค่ะ เลี่ยงโยนความผิดให้ขวัญ บอกว่าขวัญเป็นคนบอกให้เขาเจาะ คือมันไม่ใช่ คือเราสั่งว่าให้งานมันเดินไปข้างหน้า แต่คุณต้องใช้วิชาความรู้ช่างวิชาชีพทำมาเพื่อให้บ้านเราบรรลุเป้าหมายในจุดที่มันปลอดภัย ถ้าไม่อย่างนั้นขวัญก็ไปสร้างบ้านเอง เจาะบ้านเองแล้วสิ หลังจากนั้นขวัญเห็นว่าเขาคุยแบบนี้ขวัญก็เลยบล็อกไลน์เขาไปเลย เดี๋ยวต่อไปนี้ขวัญก็จะมอบหน้าที่ให้ทนายเป็นคนคุย”

“ทนายก็ให้ช่างของทีมโครงการประเมินความเสียหายมาว่าราคาเท่าไหร่ แล้วเราก็ยื่นราคาไปให้เขา เพราะว่าช่างรับเหมารายนี้เขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นเจ้าเดียวที่ขวัญให้เขามาทำที่บ้านขวัญ เพราะฉะนั้นเขาไม่สามารถโบ้ยไปให้คนอื่นได้”

“ไม่ต้องซ่อมค่ะ ไม่ต้องเข้ามาที่บ้านขวัญแล้ว ถ้าเขาจะแสดงความรับผิดชอบก็โดยการเอาเงินมาให้ช่างคนอื่นทำ เพราะเขาไม่มีเครดิตพอที่จะเข้ามาทำแล้ว เหมือนลองคิดกลับกันว่าเป็นบ้านคนอื่น คุณสามารถเปิดใจมากพอที่จะให้เขาก้าวเข้ามาทำบ้านเราได้อีกหรือเปล่า”

ถึงจะซ่อมแต่ความทรงจำแย่ๆ ก็ยังอยู่

“ตอนนี้ก็ไม่โล่งหรอกค่ะ เพราะบ้านมันคือสถานที่ที่ปลอดภัย ถึงทุกวันนี้ทำให้มันสวยงามขวัญเข้าไปอยู่ ความทรงจำขวัญก็ยังอยู่ มันไม่มีอะไรมาแทนได้ ขวัญก็จะคอยคิดว่าขวัญอยู่ข้างบนแล้วเดี๋ยวฝ้าจะลงไปทับแม่หรือเปล่า ตอนนี้ได้เป็นช่างวิศวกรของโครงการบลูเลอวาร์ดเข้ามาช่วยด้วยค่ะ แล้วก็พี่วิศวกรที่ดูแลการก่อสร้างของพี่แหวนด้วย แล้วก็รุ่นพี่ขวัญที่มาสร้างออฟฟิศด้วย ซึ่งตอนนี้ทุกคนรอกันอยู่”

“ไม่มีความระแวงแล้วค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องเชื่อผู้ใหญ่ เชื่อคนที่เรารู้จัก และขวัญอยากจะแนะนำคนอื่นด้วยนะคะ ว่าสร้างบ้าน ดูแลบ้าน จะเลือกอะไรอย่าเลือกตามภาพพรีเซนเทชั่นที่เขาให้เรา หรือภาพที่เขาสร้างมาให้เรา เพราะสิ่งเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่เขาสร้างมาให้เราดูได้ แต่เราควรจะดูความเป็นมาและระยะเวลาของบริษัทเขาว่าคุณมีมานานมากน้อยแค่ไหน อย่างที่ขวัญเลือกพี่แหวน ซึ่งบริษัทเขามีมาตั้งแต่ขวัญยังไม่เกิด คือเขามีมายาวนาน หรืออย่างรุ่นพี่ขวัญ ขวัญก็รู้ว่าเขาทำอะไรมาแล้วจริงๆ”

“ต้องใช้ถึง 3 ช่างเพราะบ้านพังมาก ทุกคนต้องแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะอยู่ชั้นไหน ทำโซนไหน ตรงไหน เพราะพื้นก็เป็นรอย แต่โครงบ้านยังไม่กระทบ แต่ระบบน้ำชั้น 3 ต้องทุบรื้อใหม่ เพราะมันผิดสเปก”

เผยบล็อกไลน์แต่อีกฝ่ายยังติดต่อทุกช่องทาง

“ไม่ถึงตัวขวัญ เพราะขวัญบล็อกเขาทุกทาง ทั้งๆ ที่แม่บอกเขาไปแล้วนะว่าอย่าคุยกับน้อง เพราะน้องเหนื่อย น้องก็รับไม่ไหว วันนั้นที่ขวัญไปเห็น อารมณ์คนตกใจแล้วไปโกยน้ำจากปูนมา วันรุ่งขึ้นที่ขวัญไปงานพี่แหวนที่ใส่แว่น คือไม่ใช่แฟชั่นนะคะ คือตาบวมปูดมาก”