Inside Dara
กว่า 4 ปี การจากไปของ 'เอ๋' พัชรา แวงวรรณ ฆาตกรรม หรือทนแบกภาระหนักต่อไปไม่ได้ ??

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่า 4 ปีที่แล้ว วันที่ 10 ต.ค. ปี 2555 เกิดข่าวสำคัญขึ้นข่าวหนึ่งในวงการนักร้องเมืองไทย ที่ทำให้หลายคนถึงกับตะลึงและต้องเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของอดีตนักร้องดัง "เอ๋" พัชรา แวงวรรณ" เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองริเวอร์ไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบศพหญิงไทย ทราบชื่อ น.ส.พัชรา แวงวรรณ หรือ น.ส.ผดุงศรี แวงวรรณ ชื่อเล่นว่า “เอ๋” เป็นอดีตนักร้องดังวง “โอเวชั่น”ในลักษณะแขวนคอในโรงจอดรถ ที่บ้านพักซึ่งเช่าอยู่ตามลำพัง

ขณะที่ นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายของเอ๋ พัชรา ถึงกับกล่าวยอมรับในเวลาต่อมาว่า ตกใจและเสียใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวอีก เพราะพี่น้องก็เสียชีวิตทางรถยนต์ไปแล้วถึง 2 คน โดยเฉพาะคุณแม่พอท่านทราบก็ตกใจมาก ทุกวันนี้ "เอ๋" เป็นหลักของครอบครัว เป็นคนกตัญญูมาก สร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่อย่างสุขสบาย

พัชรา แวงวรรณ แขวนคอตายปริศนา เมื่อเดือน ต.ค. 2555 ที่สหรัฐอเมริกา

ตอนแรก ญาติพี่น้องของอดีตนักร้องสาวชื่อดังในยุค 80 ก็ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเองนั้น เพราะก่อนหน้าไม่มีใครระแคะระคายมาก่อนว่า น้องสาวจะมีความทุกข์ใจสิ่งใดจนต้องคิดสั้นถึงกับฆ่าตัวตาย จึงเชื่อว่าจะต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ ถึงขั้นมีการเตรียมหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องผ่านเจ้าหน้าที่ ไปยังสถานกงสุลไทยที่สหรัฐอเมริกา แต่ในที่สุดผลคดีที่ออกมายืนยันจากทาง จนท.ตร.ของสหรัฐฯ ว่า พัชรา แวงวรรณ ฆ่าตัวตายเองไม่ใช่การฆาตกรรม พร้อมทั้งสามารถแสดงพยานหลักฐาน

ขณะที่คำสัมภาษณ์ในขณะนั้นของ นายโกศล แวงวรรณ ผู้เป็นพ่อ "ปกติผมมีลูกชาย 3 คน ลูกสาว 1 คน คือ เอ๋-พัชรา ตอนที่สูญเสียพี่ชายทั้งสองคนไปจากอุบัติเหตุ ก่อนหน้านั้น เอ๋ ก็เป็นคนที่ตั้งสติและปลอบโยนทุกคน จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นคนคิดสั้นถึงกับแก้ปัญหาอะไรไม่ได้และจะมาคิดฆ่าตัวตายแบบนี้ เพราะถ้ามีปัญหาอะไรก็ต้องเล่าให้ฟัง แต่เท่าที่ติดต่อกันมาตลอด เขาไม่เคยบอกเลยว่าชีวิตมีปัญหาอะไร มีแต่บอกว่าทุกอย่างราบรื่นดี” ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ แทบไม่เชื่อว่าข้อมูลล่าสุดที่ได้รับคือความจริง

แต่เมื่อพิจารณาอีกด้านจากคำให้การของ “โซล มิเรอร์” อเมริกันผิวสี วัย 80 ปี ผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เอ๋พักอาศัยอยู่ประจำ เมืองริเวอร์ไซด์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ตายตัดสินใจลาโลก เพราะทนแบกรับภาระต่อไปอีกไม่ไหว จากเดิมที่เป็นเสาหลักของครอบครัว รับสอนหนังสือและดูแลคนชราในอเมริกา ส่งเงินให้ครอบครัวใช้เดือนละ 2-3 หมื่นบาทอย่างสม่ำเสมอ ตลอดเวลากว่า 20 ปี แต่ระยะหลังนี้พัชราตกงานทั้งยังต้องพักการเรียนวิชาพยาบาลเอาไว้ชั่วคราวด้วย

และนั่นก็อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจปิดฉากชีวิตตัวเองก็เป็นได้ ในเมื่อสำหรับเธอในช่วงเวลานั้น อาจเห็นว่ามันมีแต่ความมืดมน ไร้หนทางออก จนหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วก็เป็นได้

นายนฤชา เพ่งผล นักจัดรายการจิ๊กโก๋ยามบ่าย ซึ่งเป็นผู้ที่ผลักดันให้ พัชรา แวงวรรณ เข้าวงการ และนักร้องสาวก็ยกให้เขาเป็นพ่อคนที่สอง ได้กล่าวถึงการเตรียมงานศพของพัชรา ว่า ตอนนี้ตนติดต่อไปยังวัดสายไหม จ.ปทุมธานีแล้ว เพื่อเตรียมงานศพให้กับ เอ๋ พัชรา ส่วนความรู้สึกตอนแรกที่ตนทราบข่าวว่าเขาเสียชีวิตนั้น ตนตกใจมาก เพราะส่วนมากเวลาเขามีปัญหา เขาก็จะโทรมาปรึกษาตนเป็นประจำ และล่าสุดที่เจอกันนั้น เขาโทรมาขอยืมเงินตน 2,000 บาท เพื่อจ่ายค่าไฟ โดยบอกว่าบ้านเอ๋กำลังจะโดนตัดไฟ ตนก็ให้เขา และก็ไม่ได้พบกันอีกเลย จนกระทั่งทราบว่าเขาเสียชีวิต

นายนฤชา กล่าวต่อว่า พอตนทราบข่าวก็โทรไปเช็กที่แม่ของเอ๋อีกทีหนึ่งว่าจริงหรือไม่ ซึ่งพอแม่เอ๋ยืนยันมา ตนก็ค่อนข้างใจหาย ส่วนคุณแม่ก็บอกว่าเงินไปรับศพเอ๋ยังไม่มีเลย เพราะหากรับเป็นกระดูกก็ใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท แต่หากรับเป็นร่างก็จะใช้เงินประมาณ 2-3 แสนบาท โดย คุณวิเชียร อัศว์ศิวะกุล เจ้าของค่ายนิธิทัศน์ฯ บอกว่ายังไงก็ต้องนำศพเอ๋มาเป็นร่าง เพื่อให้แฟนเพลงได้ร่วมกันไว้อาลัย ซึ่งทางค่ายก็จะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย และในวันที่ 15 ตุลาคม พี่ชายของเอ๋ก็จะนำหลักฐานไปขอรับศพของเอ๋ พัชรา ให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็ว

ถึงวันนี้กว่า 4 ปี ก็ยังคงไม่มีใครทราบว่าเหตุผลใดกันแน่ที่ทำให้ "เอ๋ พัชรา แวงวรรณ" ต้องจบชีวิตลง ความลับนี้ก็ยังคงเป็นปมดำมืดอยู่ต่อไป ที่ไม่มีใครรู้ได้ นอกจากเจ้าตัวคนเดียวเท่านั้น ซึ่งถึงตอนนี้ก็คงอยู่ในสัมปรายภพ และก็คงแทบไม่มีประโยชน์แล้ว ถ้าความจริงจะถูกเปิดเผยในตอนนี้...

ผลงาน

พัชรา แวงวรรณ อดีตนักร้องหญิงเจ้าของฉายา "นักร้องหวานใสปนแหบเสน่ห์" เคยเป็นนักร้องของวง "โอเวชั่น" วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นช่วงยุค 1980 มีผลงานในช่วง พ.ศ. 2525-2532 สังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่น

ดิ โอเวชั่น ยุคพัชรา แวงวรรณ อัลบั้มแรกของวงได้ออกวางแผง ปี พ.ศ. 2525 ในชื่อว่า "รักและคิดถึง" ต่อมาปี พ.ศ. 2528 ทางวงก็ได้รับ "ไวยวุฒิ สกุลทรัพย์ไพศาล" พี่ชายแท้ๆ "วิรุฬ สกุลทรัพย์ไพศาล" หรือ "ดำ ฟอร์เอฟเวอร์" ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักร้องนำคนใหม่คู่กับ "เอ๋ พัชรา" โดยวงได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 ในชื่อว่า "รักข้ามขอบฟ้า" มีเพลงดังคือ รักข้ามขอบฟ้า