Inside Dara
"อุ้ม ลักขณา" ไม่เข็ดช้ำรัก พร้อมเริ่มใหม่รอเนื้อคู่โผล

เป็นดาราสาวที่ไม่เคยขาดรัก สำหรับ "อุ้ม"ลักขณา วัธนวงส์ศิริ แต่ล่าสุดเพิ่งขึ้นสเตตัสโสด หลังคบอดีตแฟน "เอก"เอกพล จันทร์ชูวนิชกุล เจ้าของผับดังที่จ.ภูเก็ต มาได้ครบปีพอดิบพอดี

หายจากอาการเศร้าเหงาเพราะรักมาได้สักพัก เจ้าตัวก็ยอมเปลือยหัวใจเล่าเรื่องราว
นิยามความรักของ "อุ้ม-ลักขณา" เป็นอย่างไร

อุ้ม - "รักใครต้องรักให้สุด เจ็บต้องเจ็บให้สุด เป็นคนจริงจัง จริงใจ ทุ่มเท ถ้าตัดสินใจคบใครจะหยุดกับคนนั้น แต่ถ้าไม่มีแฟนยอมรับเจ้าชู้มากเพื่อเลือกคนที่ใช่ที่สุด"

ตั้งแต่อยู่วงการมา มีแฟนมากี่คน

อุ้ม - "หลายคนอยู่นะ ส่วนใหญ่นอกวงการ แฟนในวงการมีแค่คนเดียวคือ ไมค์ กิ่งโพยม แต่ความรักของอุ้มค่อนข้างต่อเนื่อง ไม่ค่อยขาดรัก ตอนเด็กจะรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักไม่ได้ พอมีคนเข้ามาดีด้วยก็จะให้ใจไปง่าย ต่างจากตอนนี้ที่รู้สึกว่าถึงไม่มีใครก็อยู่ได้"

"ทุกครั้งที่มีความรักคาดหวังตลอด หวังให้ไปได้ไกล แต่เหมือนเป็นคนดวงความรักยังไม่ถึงจุดนั้น คือเป็นคนที่เวลาอธิษฐานอะไรจะแรงมาก เมื่อไหร่ไม่สบายใจจะอธิษฐานขอให้สิ่งไม่ดี คนที่ไม่ดีออกไปจากชีวิต หรือให้เขาแสดงสิ่งที่ไม่ดีออกมาเร็วๆ แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ"

ล่าสุดนี่ได้ไปขอมาหรือเปล่าถึงได้จบเร็ว

อุ้ม - "(หัวเราะ) อุ้มขอกับทุกคนที่คบ ทุกครั้งที่ความรักจบไม่ได้โทษเขาฝ่ายเดียว บางทีอุ้มอาจไม่ดีด้วย ก็กลับมาทบทวน"

ความรักครั้งล่าสุดที่เพิ่งจบไปเกิดขึ้นได้ยังไง

อุ้ม - "เอกฟอลโลว์ไอจีอุ้มรูปที่เขาเห็นแล้วประทับใจคือรูปตอนอุ้มร้องไห้ตาแดงๆ เลิกกับเต๋อ เขามองรูปนี้แล้วบอกว่าถ้าเป็นเขาจะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียใจเด็ดขาด แต่เขาก็คิดว่าคงได้แค่ฝันเพราะอุ้มเป็นดารา แล้วโลกมันกลม เพื่อนเอกชื่อเอมเป็นผู้กำกับหนัง "น้ำตาลแดง" ที่อุ้มเล่น เอมกลับไปอยู่ภูเก็ต อุ้มไปเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อน เอกโทร.ไปบอกเอมว่าอุ้มมาภูเก็ตพามาเที่ยวที่ร้านหน่อย ก็เลยนัดกัน"

"เจอเขาครั้งแรกสปาร์กมาก สเป๊กเลย ขาว สูง มีหนวด สัก หุ่นดี เจาะหู ดูแบดบอย แล้วเพิ่งเลิกกับแฟน ก็คุยกันตั้งแต่วันนั้น ใช้เวลาเดือนสองเดือนตกลงเป็นแฟน อาจจะดูเร็ว แต่เขาทำให้อุ้มรู้สึกเชื่อใจ ทุกคนเตือนหมดว่าไปไม่รอดเพราะอุ้มขี้หึงและติดแฟน แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจคบเพราะเขาทำให้อุ้มรู้สึกว่าคำว่าไกลมันไม่ได้ไกลเลย เขาโทร.รายงานตัวตลอดโดยไม่ต้องขอ พูดด้วยคำว่าเสมอต้นเสมอปลายสำคัญมาก เขาจะทำให้ดีที่สุด ได้ยินแบบนี้ทำให้อุ้มรักเขามาก"

คบมาจนตอนไหนถึงเริ่มรู้สึกว่าไม่น่าจะไปกันได้

อุ้ม - "ครึ่งปีแรกยังดีอยู่ แต่พอคบนานขึ้นความเป็นตัวเองเริ่มออก สิ่งที่ทำให้อุ้มรู้สึกที่สุดคือคำพูดของเขาที่ค่อนข้างจุก ประมาณว่าถ้าเขาโสดคงทำอะไรได้มากกว่านี้ คงใช้ความโสดดึง ผู้หญิงเข้าร้านได้มากกว่านี้ อุ้มก็เฮ้ย! แล้วสิ่งที่อุ้มทำไป ไม่ว่าจะช่วยเอ็นเตอร์เทนแขกในร้าน หาศิลปินมาลง ชนแก้วกับแขก กลายเป็นสิ่งไม่มีค่าสำหรับเขา ทำไมถึงคิดว่าโสดแล้วจะดีกว่าการที่มีเรา หรือที่ผ่านมาไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเหรอ แค่พยายามทำให้อุ้มรักหรือเปล่า เมื่อก่อนอยากให้อุ้มตามเพราะรู้สึกว่าอุ้มยังรักเขา แต่ตอนหลังกลายเป็นไม่เชื่อใจ จู้จี้จุกจิก จากนั้นเริ่มทะเลาะกัน ไม่ยอมกัน อุ้มเริ่มเหนื่อยกับวิถีชีวิตที่แตกต่าง"

จุดแตกหักอยู่ตรงไหน

อุ้ม - "วันที่ 21 พ.ค. วันครบรอบหนึ่งปีที่คบกัน มันเริ่มร้าวจวนจะแตก ช่วงก่อนหน้าวันครบรอบมีเหตุการณ์ที่อุ้มบอกกับตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว เขาคงไม่ได้รักเราเท่ากับที่เรารักเขา จริงๆ เขาต้องมากรุงเทพฯ วันที่ 22 พ.ค. เพราะจะบินไปหาดใหญ่ด้วยกัน อุ้มเลยบอกถ้างั้นขึ้นมาก่อนวันหนึ่งมาฉลองครบรอบหนึ่งปีด้วยกัน เขาบอกดูก่อน จนเขาโทร.มาบอกว่ามาไม่ได้ ติดประชุม อุ้มรู้สึกว่าเขาไม่ได้พยายามทำเพื่ออุ้ม แล้วมาเจ็บปวดสุดคือขณะที่เขาบอกว่าขึ้นมาหาอุ้มไม่ได้ แต่ตอนค่ำๆ กลับไปเตะบอลไปเล่นฟิตเนส วันนั้นเลยหมดจริงๆ ทะเลาะกันหนักมาก แล้วเขาบอกเลิกอุ้มในวันครบรอบหนึ่งปี อุ้มช็อก พูดเองนะว่าจบ งั้นอุ้มก็จบ แล้วเขาก็มาง้อ แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้อุ้มตัดสินใจจบจริงๆ เขาพยายามง้ออีก แต่พอไปได้ยินว่าอุ้มไม่ดี มีผู้ชายอื่น จากจบดีๆ กลายเป็นอุ้มนอกใจ ซึ่งไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย"

เสียดายไหมที่ความรักต้องจบลง

อุ้ม - "ไม่เสียดาย เพราะเลือกจำแต่สิ่งดี ตอนนี้มีคนเชียร์ให้กลับมาคบกันใหม่ แต่คนจะว่าอุ้มเยอะว่าใจร้ายไม่ให้อภัยเอก จุดที่อุ้มอยู่ไม่มีใครรู้ว่าอุ้มเจออะไรบ้าง อุ้มไม่ใช่คนรักง่ายหน่ายเร็วหรือไม่มีความอดทน ต้องถึงที่สุดถึงยอมหยุด เขาคือคนที่อุ้มรักมากที่สุดตั้งแต่มีแฟนมา หนึ่งปีที่คบกัน คุยเรื่องแต่งงานตลอดยังบอกเขาว่าให้เวลาอีก 2 ปีต้องมาขอ คิดถึงขั้นถ้าแต่งงานจะทำงานวงการน้อยลง แล้วหาธุรกิจทำกันที่ภูเก็ต"

เสียใจสุดเหตุการณ์ไหน

อุ้ม - "เลิกกันเสียใจอยู่แล้ว แต่รู้สึกได้ว่าเขาเฮิร์ตไม่นาน เพราะมีสาวๆ ส่งดอกไม้มาให้ เขาถ่ายรูปลง ไอจีเขียนว่าใครนะแสดงตัวมาซะดีๆ บอกเลยอุ้มเจ็บมาก ขณะที่เรายังนอนร้องไห้ทุกครั้งที่อยู่คนเดียว(น้ำตาคลอ) ทำไมเขาไม่คิดถึงใจอุ้มบ้าง คงตั้งใจให้อุ้มรู้สึกอะไรบางอย่าง อุ้มก็รู้สึกนะ รู้สึกเจ็บ"

ตอนนี้ตัดเขาขาดหรือยัง

อุ้ม - "ทุกวันนี้แทบไม่ได้คุยกัน มีบ้างที่ไลน์ไปหาถ้ารู้ว่าเขาไม่สบาย ถามว่ายังรักเขาอยู่ไหม รักค่ะ ไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะเลิกใครสักคน ส่วนเรื่อง จะเปิดใจกับคนใหม่คงได้แหละ บทเรียนจากความรักที่จบไปครั้งนี้ทำให้อุ้มแข็งแรงขึ้น รู้จักรักตัวเองมากขึ้น เพราะการรักคนอื่นมากเกินไปทำให้ตัวเองคาดหวัง อุ้มเชื่อว่าไม่มีคู่รักไหนหรอกที่รักแล้วไม่คาดหวังว่าจะได้อะไรกลับมา ให้ความห่วงใยไป ก็อยากได้ความห่วงใยกลับมา"

"อุ้มยังมองความรักเป็นเรื่องสวยงาม และพร้อมจะเริ่มใหม่ ถ้ามีใครสักคนที่ดีเข้ามา เพียงแค่ตอนนี้คู่ที่เป็นเนื้อคู่จริงๆ ของอุ้มอาจจะยังมาไม่ถึงก็ได้ค่ะ"

วงการบันเทิงให้คุณ-รักอาชีพแสดง

ไม่เคยคิดจะได้เข้าวงการบันเทิง ด้วยไม่ใช่คนสวย อีกทั้งไม่มีความมั่นใจในตัวเอง จึงคิดว่าการเข้าวงการเป็นนักแสดงเป็นเรื่องไกลตัว แต่แล้วนักแสดงสาว "อุ้ม-ลักขณา" ก็อยู่วงการบันเทิงมานานถึง 14 ปี

"อุ้มค่อยๆ ไต่ขึ้นมา อุ้มเข้าวงการจากการประกวดซูเปอร์โมเดล ออฟ ไทยแลนด์ ปี 2000 ได้ตำแหน่งชนะเลิศ จากนั้นบินไปประกวด ซูเปอร์โมเดล ออฟ เดอะ เวิลด์ ที่อเมริกา แล้วต้องเลือกระหว่างอยู่เมืองไทยกับอเมริกา อุ้มตัดสินใจอยู่เมืองไทยเพราะยังเด็ก เพิ่ง ม.6 เอง แรกๆ ทำงานเป็นนางแบบก่อน เหนื่อยมาก แคสต์งานหลายที่มาก ด้วยหน้าไทยยังไม่ใช่ เทรนด์จนเริ่มท้อกะจะเลิกแล้วไปเป็นแอร์โฮสเตส แต่ยังไม่ทันสอบแอร์ฯ ก็เข้ามหาวิทยาลัยก่อน ตอนนั้นไปออกรายการ พี่วู้ดดี้(วุฒิธร) พี่บิณฑ์(บรรลือฤทธิ์) เห็น เขาอยากได้นางเอกหน้าไทยๆ มาเล่นหนัง "ตำนานกระสือ" ถือเป็นผลงานชิ้นแรกในวงการบันเทิง"

ชื่อเสียงตอนนั้นเป็นยังไง อุ้มเผยว่า "คนเริ่มรู้จักบ้าง ไม่ได้ตู้มต้าม แต่เป็นที่พูดถึงเพราะในหนังแต่งตัวค่อนข้างเซ็กซี่ แล้วด้วยรูปร่างอุ้มหน้าอกใหญ่มาแต่เด็ก กลายเป็นภาพจำภาพแรกของเราว่าเป็นสาวเซ็กซี่ คนค่อนข้างยึดติดภาพภายนอก ทำให้ที่ผ่านมาอุ้มได้รับงานเซ็กซี่มาตลอด แต่เอาจริงๆ ก็อยากเล่นบทใสๆ บ้าง พอมาลองแล้วไม่ได้ หน้าไม่ให้ ยิ่งเมื่อก่อนอุ้มขี้เหร่จะตาย จมูกก็หักแบนๆ ฟันก็เหยิน"

"ทุกวันนี้ดูดีขึ้นยอมรับว่าศัลยกรรม แต่ทั้งหน้าทำมา 2 อย่าง คือทำจมูกกับจัดฟัน แต่คนชอบเข้าใจว่าอุ้มทำเยอะ เพราะหน้าเปลี่ยนไปเยอะ แล้วคนชอบถามว่าอุ้มประกวดได้รางวัลชนะเลิศมาได้ยังไง โชคดีกรรมการเป็นฝรั่งชอบหน้าแบบนี้ แต่พอเป็นคนไทยจะรู้สึกว่าหน้าแบบอุ้มไม่ได้ เพราะกรรมการคนไทยไม่มีใครเลือกอุ้มเลย (หัวเราะ)"

หลัง "ตำนานกระสือ" ก็มีงานหนังเข้ามาเรื่อยๆ อาทิ อุกกาบาต, เสือภูเขา, มนต์รักลูกทุ่ง, ชุมทางรถไฟผี, โกยเถอะโยม ฯลฯ และมีละครกับช่อง 3 เรื่องแรก "บาปรักทะเลฝัน" ตามด้วย กลิ่นแก้วตำหนักขาว, เทใจรักนักวางแผน, หุบเขากินคน, ปีศาจแสนกล, โรงแรมผี, สะใภ้เจ้าสัว, 7 ประจัญบาน, วนาลี ฯลฯ ถึงทุกวันนี้ประมาณ 20 เรื่อง ส่วนใหญ่รับบทร้าย

"ชีวิตอุ้มในวงการค่อนข้างลำบาก เริ่มมาเปรี้ยงตอนอายุ 27 ปี จากการถ่ายแบบปฏิทินลีโอปี 2010 คอนเซ็ปต์บอดี้เพนต์ออกแนวสปอร์ตๆ ฮือฮามาก เป็นจุดที่ทำให้คนรู้จักอุ้มมากขึ้น พอดีตอนนั้นจัดฟันแล้วหน้าก็เริ่มพอดูได้ แล้วเป็นช่วงมีซิตคอม "นัดกับนัด" ด้วยเลยเหมือนเริ่มชัดเจนในคาแร็กเตอร์ว่าอุ้มไม่ได้แค่เซ็กซี่อย่างเดียว แต่เล่นตลกได้ด้วย"

ส่วนงานล่าสุด เธอกล่าวว่า "อุ้มถ่ายอยู่ 2 เรื่องคือ "หมอผีไซเบอร์" ช่อง 3 และ "สองรัก สองวิญญาณ" ของเอ็กแซ็กท์ หลังๆ เริ่มมีละครต่อเนื่อง โชคดีที่มีผู้ใหญ่เมตตาเยอะ เคยได้ยินผู้ใหญ่บางคนบอกว่าก่อนจะรู้จักอุ้มได้ยินกิตติศัพท์เยอะว่าขี้วีนขี้เหวี่ยง แต่พอได้ร่วมงานกันจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น ทำให้ได้งานต่อเนื่อง นอกจากละครแล้วก็มีหนัง "ทาสรักอสูร" ของพี่หม่ำ(จ๊กมก) ด้วยค่ะ"

14 ปีในวงการมองว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง อุ้มกล่าวว่า "แค่ในระดับหนึ่ง ยังไม่ใช่จุดสูงสุด และไม่ได้คาดฝันว่าต้องขึ้นไปจุดสูงสุด แค่รู้สึกว่าอาชีพในวงการบันเทิงเป็นอาชีพที่อุ้มรักมาก ให้คุณกับอุ้มตลอด เพราะถ้าไม่มีตรงนี้ ก็คงไม่สามารถทำให้ครอบครัวอยู่ได้สบายอย่างทุกวันนี้ค่ะ"

ชีวิตครอบครัว

กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ สาวเซ็กซี่ "อุ้ม" ลักขณา วัธนวงส์ศิริ บอกชีวิตผ่านความยากลำบากไม่มีวันลืม โดยเล่าว่า "ตอนนั้นอายุ 22-23 ปี พ่อไปทางแม่ไปทางเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว อุ้มไม่ได้มีงานเยอะ รถก็โดนยึดจนต้องไปบวชเพื่อตั้งสติ ครอบครัวไม่ได้มีฐานะ เป็นแค่สามัญชนทั่วไป เลิกเรียนยังต้องเข็นน้ำส่งตามบ้าน ช่วยแม่ขายของ เลี้ยงน้อง 2 คน"

"ตอนนั้นที่บ้านมีร้านชำ ช่วงแรกขายดี แต่พอมีห้างใหญ่มาเปิดหน้าหมู่บ้าน ร้านก็ซบเซาและเริ่มเป็นหนี้ สุดท้ายไม่เหลืออะไรต้องปิดไป พ่อแม่ต้องตื่นเช้ามาต้มน้ำเต้าหู้ไปขายที่สวนหลวง อุ้มถึงขั้นร้องไห้ว่าทำไมถึงต้องให้พ่อแม่เหนื่อยขนาดนี้ สัญญากับตัวเองว่าตราบใดที่มีแรงทำงานจะขอเป็นคนทำเอง ตรงนี้อาจจะด้วยความกตัญญูด้วย ที่พอจะถึงจุดตกสุดๆ ก็เหมือนโชคดีมีงานเข้ามา จนผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้"

ที่บ้านเลี้ยงดูมาแบบไหน ดาราสาวกล่าวว่า "จะเลี้ยงเหมือนเพื่อนก็ไม่ใช่ทั้งหมด บางครั้งเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ หัวโบราณและหวงลูกมาก ยิ่งตอนเด็กๆ มีแฟนไม่ได้เลย เริ่มปล่อยบ้างตอนเข้ามหาวิทยาลัย"

"อุ้ม" มีน้องสาว 1 คน และน้องชาย 1 คน สนิทกันเหมือนเพื่อน "น้องสาวชื่อนิวเคลียร์ น้องชายคนเล็กชื่อจูเนียร์ อุ้มเป็นพี่ที่เหมือนเป็นเพื่อน อุ้มกับนิวสนิทกันมาก นอนด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต มาแยกกันตอนปี 1 คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่เคยทะเลาะกัน นิวเจริญรอยตามอุ้มทุกอย่าง ตั้งแต่เรียนโรงเรียนเดียวกัน เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ประกวดนางแบบและเข้าวงการเหมือนกัน อุ้มเหมือนเป็นไอดอลของนิว ส่วนกับน้องชาย อุ้มจะเหมือนเป็นแม่มากกว่า"

"เคยมีคนถามว่าทำไมน้องขาวกว่าสวยกว่า ไม่อิจฉาเหรอ อุ้มก็บอกจะอิจฉาทำไม อุ้มเหมือนแม่ น้องเหมือนพ่อ แต่คนชอบสงสัยว่าเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ไหม เพราะนามสกุลไม่เหมือนกัน คืออุ้มใช้นามสกุลเก่าแม่ แต่นิวใช้นามสกุลพ่อ เป็นความเชื่อเรื่องตัวเลขชื่อ"

คราวนี้จะได้หายข้องใจกันซะที