Inside Dara
ไซด์ไลน์ = ขายตัว เงินสะพัดร้อยล้าน

จากกรณีคลิปฉาวสาวเซ็กซี่ตัวแม่แฉคลิปที่สามีตัวเองเล่นเซ็กซ์กับสาวไซด์ไลน์คนสวย ตบตีร้องห่มร้องไห้ยิ่งกว่าละครคลับฟรายเดย์ของเจ๊ฉอด คลิปนี้ถูกแพร่กระจายทั่วโลกออนไลน์ภายในชั่วพริบตา พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันกระหน่ำว่าใครผิดหรือใครถูก แถมมีคำพ่วงหลังวิพากษ์วิจารณ์หลายคำที่เกิดขึ้น #ทีมเมียหลวง #ทีมเมียน้อย #ทีมเผือก ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะกระแสสังคมกดดันเข้าข้างสาวไซด์ไลน์ว่า น่าสงสารและไม่ควรโดนหนักขนาดนี้ จนกระทั่งคนที่ถ่ายคลิปแฉต้องออกมานั่งแถลงข่าวพร้อมน้ำตาเพื่อขอความเห็นใจว่าสิ่งที่ทำลงไปเพราะอยากให้เข้าใจหัวอกคนที่เป็นเมียแล้วมีคนอื่นมาแย่งสามีตัวเอง

ถ้ามองในมุมของบุ๋ม บุ๋มคิดว่า ถ้าเป็นตัวบุ๋มนะ ถ้าสามีแอบมีกิ๊กและคบกับเราแบบออกหน้าออกตาสังคมทั่วไปรับรู้ว่าเราคือเมีย เป็นบุ๋ม บุ๋มก็คงโกรธ และคงลงไม้ลงมือเอาให้ตาย แต่บุ๋มคงจัดการตัวผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง! เพราะเราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้หรือเปล่าว่าสามีเรามีเราอยู่แล้ว สามีเราไปหลอกเค้าว่าโสดก็ได้นะ ดังนั้นเมื่อเห็นคาตาก็ต้องเตะสามีให้สลบคาหลักฐานอยู่ตรงนั้น ฟื้นแล้วค่อยมาซักฟอกกันอีกที (เอาเข้าจริงก็คงดีแต่ปาก เจอจังๆ ก็คงได้แต่ร้องไห้ล่ะมั้ง เหอะๆ) ส่วนผู้หญิงอีกคนถ้าเรามีวี่แววมาก่อนว่าเป็นคนเดิมที่เคยแอบคุยกันก็คงต้องจัดการรวบ แต่ถ้าถามนะว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหรือรับจ้างมาก็คงจะปล่อยไป

ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ใครผิดใครถูกบ้าง บุ๋มว่ามันก็ผิดกันทุกฝ่าย

1. ผู้ชาย ตัวต้นเหตุ ผิดศีลธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่ให้เกียรติแฟนตัวเอง สมัยนี้ คำว่ากิ๊กมันมีเยอะเกินไปจนกลายเป็นเรื่องที่รับกันได้ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมันคือเรื่องที่ผิดศีลธรรมและทำให้สังคมวุ่นวายมาก ต่อให้เป็นแค่แฟนกันยังไม่แต่งงาน ก็ควรให้เกียรติกันไม่ควรนอกใจ คือถ้ายังไม่พร้อมจะมีใครก็ไม่ควรที่จะทำตัวแบบนี้ ต่อให้อ้างว่าก็แค่ซื้อกินไม่ได้มีกิ๊กซะหน่อย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องถ้ามีแฟนมีเมียแล้ว!

2. ผู้หญิงคนถ่ายคลิป โดยส่วนตัวเห็นใจนะ ถ้าโดนแฟนหักหลังมันก็คงแค้นและเจ็บมาก และเหตุผลที่เธอไม่ยอมตีผู้ชายแต่กลับกลายไปทำร้ายผู้หญิงอีกคนอาจจะเป็นเพราะว่าชีวิตเธอรักผู้ชายคนนี้มาก มากจนเกินไป จนไปทำร้ายคนอื่นเค้าขนาดนี้ เคยมีบางกรณีที่ผู้หญิงไม่กล้าทำร้ายผู้ชายของตัวเองเป็นเพราะว่าชีวิตของเธอยังต้องพึ่งพาผู้ชายคนนี้อยู่ เนื่องจากรวยหรือมีฐานะดีที่ ตัวเองไม่สามารถทิ้งได้ ขืนทำร้ายอะไรมันลงไปเราต่างหากที่จะซวยที่โดนมันทิ้ง ดีไม่ดีจะโดนมันฟ้องกลับเพราะมันมีอิทธิพลมากกว่า เลยอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจไปทำร้ายผู้หญิงอีกคนแทนไม่ให้มายุ่งกับผัวของตัวเอง แต่การถ่ายคลิปประจานคนอื่นและโพสต์ลงในโลกโซเชียลมันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ต่อให้เขาเป็นโจร เป็นสาวไซด์ไลน์ เป็นคนบ้า คุณก็ไม่มีสิทธิ์ลงคลิปที่ทำให้คนอื่นเสียหายได้ เพราะเมื่อคลิปมันแพร่กระจายไปแล้วมันดึงเอากลับมาไม่ได้ และมันเป็นคดีทางอาญา ยอมความไม่ได้ และการลงคลิปที่เป็นภาพหรือวิดีโอลามกอนาจาร โป๊แบบนี้ก็ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คนอื่นๆ จากนี้ไปก็คิดให้ดีก่อนทำนะคะ

และคนที่ผิดอีกคนก็คือ 3. น้องไซด์ไลน์ จริงอยู่คุณอาจจะอ้างว่าฉันก็แค่ไปทำงานรับจ้างขายตัว ไม่ได้ไปแย่งสามีใครสักหน่อย แถมฉันยังโดนทำร้ายโดยการถ่ายคลิปประจาน ซึ่งมันเกินกว่าเหตุ ใช่! ไม่ว่าใครก็ไม่ควรโดนถ่ายคลิปแบบนั้นทั้งนั้น แต่มันผิดที่คนทำอาชีพนี้ ต่อให้คุณอ้างว่าไม่รู้จะทำงานอะไร ไม่มีงานทำ มันคือข้ออ้างที่ถูกต้องแล้วเหรอ? งานมีเยอะแยะให้ทำเพียงแต่คุณไม่ยอมลำบากมากกว่า นอนอ้านอนแบแล้วได้ตังค์มันง่ายกว่าที่จะไปเป็นเด็กเสิร์ฟล้างจานหรือพนักงานขายของ ดังนั้นคำว่าไม่มีงานทำไม่รู้จะทำงานอะไรมันฟังไม่ขึ้นสำหรับคนสู้ชีวิตและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แล้วคำว่า "ไซด์ไลน์" (sideline) หมายถึง คนที่มีงานเสริม นอกเหนือจากงานหลักหรืองานประจำ ดังนั้นคำว่าสาวไซด์ไลน์ จึงหมายความว่าสาวๆ ที่มีงานประจำอยู่แล้วหรือเป็นนักศึกษา แต่กลับมาหางานหาเงินพิเศษโดยการขายตัวแต่ก่อนสาวไซด์ไลน์พวกนี้หาเงินไม่โจ๋งครึ่มขนาดนี้ ยังทำงานแบบหลบๆ ซ่อนๆ แต่สมัยนี้ทำงานกันชัดเจน ใช้สื่อออนไลน์โฆษณา ให้เห็นถึงนอกถึงไหน เห็นถึงสถาบันการศึกษา กลัวลูกค้าไม่เชื่อว่ายังเรียนหนังสืออยู่จริง กลับมาถึงบ้านก็ถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นให้ดูเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย มีระบุถึงขอบเขตการร่วมเพศและราคา เช่น หาค่าขนมค่าห้องค่าเทอมเดือดร้อนมาก บอกสัดส่วนน้ำหนักส่วนสูง ไม่จูบ ไม่สด ไม่ก้น ไม่แตกปาก ไม่ซาดิสต์ เบิ้ลได้ ไม่รับนอกเขตพื้นที่ ไม่คุยเล่น ไม่คุยเรื่องส่วนตัว รับจริงทำจริง ขอคนมาได้จริง

และในหมู่นักศึกษาบางทีก็รู้กันว่าใครรับงานแนวนี้บ้าง และพวกเธอกลับภูมิใจในตัวเองที่ไม่ต้องขอตังค์พ่อแม่ หาเลี้ยงตัวเองส่งเสียตัวเองได้ แถมยังสามารถทำให้ตัวเองเรียนจบ โดยมองว่าทำไปตอนที่ตัวเองยังสาวๆ ดีกว่าให้แฟนมีอะไรด้วยฟรีๆ มีเงินใช้แถมได้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมาหิ้วอวดเพื่อน บางคนมีรถขับ ซึ่งสาวไซด์ไลน์กลุ่มนี้บางคนรับงานพริตตี้ด้วย ทำให้สาวพริตตี้ที่ทำงานจริงจังและไม่ขายตัวเดือดร้อนมาก เพราะโดนเม้าท์ว่าสาวพริตตี้ขายตัวทุกคน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วสาวไซด์ไลน์ก็ไม่ต่างกับคนขายตัว กะหรี่ หรือโสเภณี เพียงแต่หาคำศัพท์ที่เรียกให้มันดูดีมากขึ้นเท่านั้นเอง โดยอ้างว่าตัวเองใช้คำว่าสาวไซด์ไลน์เพราะมีงานมีการศึกษาไม่ได้ขายตัวจริงจัง มันเป็นแค่อาชีพเสริมค่ะเจ๊!

ปัญหาสังคมตรงนี้ เป็นเพราะว่าสังคมเราเสื่อมในเรื่องของศีลธรรม ศีลข้อ 3 ก็ยังห้ามใจกันไม่ได้ แถมยังวัตถุนิยม รักความฟุ้งเฟ้อ รักความสบาย คิดง่ายๆ แค่ว่า มันได้ตังค์ง่ายที่สุดแล้ว สาวไซด์ไลน์เหล่านี้มักจะคิดว่าอนาคตถ้าอยากเลิกทำก็เลิกได้ ถ้าเจอใครที่รักจริงก็เลิกได้ แต่ในความเป็นจริงน้อยคนมากที่จะเลิกได้ ยกเว้นแก่และขี้เหร่เกินจนไม่มีใครต้องการ เธอเหล่านี้ไปลองหางานได้ไม่นานก็ต้องกลับมาทำงานตรงนี้ใหม่เพราะรายได้มันดีกว่าและง่ายกว่าเยอะ มีบางคนไปเจอรักจริงแต่เรื่องแบบนี้สังคมมันแคบ พอคนที่บ้านผู้ชายรู้ซึ่งญาติก็น่าจะเที่ยวเหมือนกัน ก็เลยโป๊ะแตก กลายเป็นว่าต้องเลิกร้างกันไป มีอยู่คู่หนึ่งที่จริงจังถึงขนาดกำลังจะแต่งงานด้วย ผู้ชายซื้อห้องคอนโด ซื้อรถให้แล้ว เธอก็สร้างภาพสวยงามให้ผู้ชายหลงเชื่อว่าตัวเองเป็นคนธรรมะธัมโมเข้าแต่วัด

ที่ไหนได้เป็นสาวไซด์ไลน์ตัวแม่แถมส่งเด็กไปทั่วราชอาณาจักร พอมีคนรู้เห็นฝ่ายชายไม่อยากเชื่อ เลยจะลากผู้หญิงให้ไปพิสูจน์ตัวเองที่ถิ่นเก่านั้น ผลปรากฏว่าผู้หญิงขอเลิกทันทีและหนีหายไปเลย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ความลับไม่มีในโลก" จบข่าว!